Tuesday, 30 April 2024
พิษณุโลก

พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 กระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล วันกองทัพไทย

เมื่อวันที่ 18 ม.ค.67 ที่บริเวณลานทรงพล ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กองทัพภาคที่ 3 จัดพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล โดยมี พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน เนื่องในวันกองทัพไทย ซึ่งเป็นวันที่ระลึกในวาระที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาของพม่า และทรงมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา โดยถือเอาวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย ตามการคำนวณจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ที่ระบุว่า พระองค์กระทำยุทธหัตถี ในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จ.ศ. 954 คำนวณได้ ตรงกับวันที่ 18 มกราคม 2135 

ทั้งนี้ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของอดีตวีรมหากษัตริย์ และเหล่าทหารหาญที่ได้เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตย และแผ่นดินไทย อีกทั้ง ยังเป็นวันที่กำลังพลบรรจุเข้ารับราชการใหม่ ทหารใหม่ทุกนายที่ยังไม่เคยกระทำสัตย์ปฏิญาณ จะได้เปล่งสัจจะวาจาปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลอันศักดิ์สิทธิ์ แสดงถึงความพร้อมเป็นทหารของชาติโดยสมบูรณ์ ที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี และอุดมการณ์อันแน่วแน่

นอกจากนี้ การสวนสนาม ยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง มีระเบียบวินัย และความสง่างาม พร้อมทั้งเป็นการย้ำเตือนให้ทหารทุกคนได้ตระหนักถึงภาระหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และประชาชน

โดยในช่วงเช้าวันเดียวกัน พลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้กระทำพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หน้าโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พลับพลาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้านหลังกองบังคับการกองพันทหารเสนารักษ์ที่ 4 กองพลทหารราบที่ 4 สักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ พิพิธภัณฑ์ทหารกองทัพภาคที่ 3และพิธีวางพานพุ่มและบวงสรวงถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ พระรูปพระสุพรรณกัลยา บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3

พิษณุโลก มทบ.39 ทำพิธีปิดการฝึก (ผลัดที่ 2) ของนักศึกษาวิชาทหารพร้อมฝึกความเป็นผู้นำ และเป็นกำลังสำรองที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 67 เวลา 1030  พล.ต.กฤษณะ ภู่ทอง ผบ.มทบ.39 เป็นประธานใน พิธีปิดการฝึกภาคสนาม ของสถานศึกษาในพื้นที่ จว.พ.ล. และ จว.ส.ท. ผลัดที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2566 มี นศท. เข้ารับการฝึก จำนวน 39 สถานศึกษา รวม นศท. 339 นาย ณ หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.39 อ.เมือง จว.พ.ล.

ในการนี้ ประธานในพิธีฯ ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับ นศท.บังคับบัญชา ที่มีภาวะเป็นผู้นำ มีลักษณะทางทหารดีเด่น เป็นต้นแบบที่ดีของ นศท. และ นศท.มีผลคะแนนการยิงปืนดีเยี่ยม พร้อมทั้งได้มอบประกาศนียบัตรให้กับ ผกท. ที่มีความวิริยะ เสียสละ มากำกับควบคุมดูแล นศท. เป็นประโยชน์ต่อการฝึกภาคสนาม นศท. เป็นอย่างยิ่ง และได้กล่าวให้โอวาทให้กับ นศท. ให้เป็นเยาวชนต้นแบบ เป็นกำลังสำคัญที่พร้อมเติบโตเป็นผู้นำ เป็นผู้ที่มีความเสียสละ มีจิตอาสา พร้อมพัฒนาประเทศและทำเพื่อสังคมส่วนรวมโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปรีชา นุตจรัส รายงานข่าวพิษณุโลก

พิษณุโลก นายก อบจ.พิษณุโลก อุดหนุนงบ 2.5 ล้านบาท จัดการแสดง แสง เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ “เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” พร้อมร่วมแสดงเป็นองค์สมมติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2457 เวลา 19.00 น. นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธีเปิดการแสดง แสง เสียง ละครอิงประวัติศาสตร์ “เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ภายในงาน "แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราชพิษณุโลก" ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 14-20 มกราคม 2567 ณ บริเวณพระราชวังจันทน์ อำเภอเมืองพิษณุโลก โดยมี นางสาวนิภาวรรณ กาญจนพิทักษ์ วัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงาน พร้อมกันนี้ได้มอบเช็คเงินอุดหนุนจำนวน 2.5 ล้านบาท ให้กับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิษณุโลก เพื่อจัดการแสดงละครเทิดพระเกียรติฯ ภายในพิธีเปิดได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เข้าร่วมพิธีและชมการแสดงละครเทิดพระเกียรติฯ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเผยแพร่พระเกียรติภูมิของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้เกรียงไกร ผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยที่ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องชาวไทยและชาวพิษณุโลก และในโอกาสนี้ นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ “เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ในครั้งนี้ โดยรับบทแสดงเป็นองค์สมมติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยการจัดขึ้นเป็นวันที่ 6 พร้อมทั้งได้นำข้าราชการและพนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก “นุ่งโจม ห่มสไบ แต่งไทย ทั้งเมือง” ร่วมชมการแสดงละครฯ โดยได้รับความสนใจจากประชาชนมาร่วมชมการแสดงจำนวนมาก     .ธันย์ชนก ทองเพิ่ม ผู้สื่อข่าวพิษณุโลกรายงานข่าว

‘ชาวพิษณุโลก’ จัด!! ออเดอร์สุดแปลกรับ ‘วันวาเลนไทน์’  ชุด 'บายศรีบูชาผัว-ช่อดอกบัวบูชาเมีย' สื่อถึงความเคารพรัก

(12 ก.พ.67) ผู้สื่อข่าวจังหวัดพิษณุโลกได้รับแจ้งร้านจัดดอกไม้รับออเดอร์สุดแปลกจากลูกค้าต้อนรับวันวาเลนไทน์ที่ร้านดอกไม้ ลาเฟลอร์ เลขที่ 43/11 ถ.บรมไตรโลกนาถ ต.ในเมือง จ.พิษณุโลก โดยมีนางสาวภัทรวิภา สุดเกตุ อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของร้าน

นางสาวภัทรวิภา สุดเกตุ กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ปีนี้ทางร้านได้รับออเดอร์จากลูกค้า โดยลูกค้ามีโจทย์ว่า ให้หาดอกไม้ที่มีคุณค่าที่สุด เพื่อให้สามีและภรรยา ซึ่งสองช่อนี้ที่ทางร้านได้ทำเป็นสองออเดอร์ ออเดอร์แรกเป็นภรรยาสั่งเพื่อมอบให้สามี อีกหนึ่งออเดอร์เป็นของสามีเพื่อจะมอบให้ภรรยา ในวันแห่งความรัก

นายนฤเบส กลิ่นเกษร อายุ 34 ปี ผู้ออกแบบตามโจทย์ที่ได้รับจากลูกค้า กล่าวว่า การทำช่อดอกไม้ครั้งนี้เน้นความแปลก แต่มีคุณค่าในการแสดงออกเพื่อเคารพรัก ช่อดอกไม้บายศรีบูชาผัว เปรียบเทียบเป็นหัวหน้าครอบครัว ที่ทำงานดูแลภรรยาเป็นอย่างดี ภรรยากราบไหว้สามีแล้วจะมีความเจริญก้าวหน้า ส่วนช่อดอกบัวบูชาเมีย ภรรยาเปรียบเสมือนเป็นแม่ทัพ ดูแลครอบครัวให้กำลังใจสามี ทำงานบ้านให้สามี ก็สมควรนำดอกไม้มากราบไหว้ แต่เปลี่ยนจากดอกกุหลาบเป็นดอกบัว

นางสาวภัทรวิภา สุดเกตุ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันวันวาเลนไทน์ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่เน้นมอบดอกกุหลาบ จะเน้นดอกไม้ชนิดอื่น ๆ ที่มีความแปลกใหม่ และสุดเซอร์ไพรส์ที่ให้ผู้รับไม่คาดคิด ซึ่งทางร้านทำตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง โดยแค่มอบโจทย์ทางร้านจะออกแบบให้ไม่ซ้ำใคร

วันวาเลนไทน์ปีนี้ ร้านดอกไม้ ลาเฟลอร์ จำหน่ายช่อดอกกุหลาบเริ่มต้นที่ 100 บาท ขึ้นไปดอกไม้มีทั้งจากในประเทศไทย และสั่งจากต่างประเทศ นอกจากกุหลาบ ยังมีดอกไม้หลากหลายรูปแบบ ทิวลิป ไฮเดรนเยีย ยิปโซ ยิปซี ทานตะวัน และชนิดอี่น ๆ อีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งช่อดอกไม้ที่ร้าน ดอกไม้ ลาเฟลอร์  ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0817121652

พิษณุโลก แม่ทัพภาคที่ 3 ทำพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการฝึกอาชีพเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ สำหรับทหารกองประจำการ

กรมการขนส่งทางบก, กองทัพภาคที่ 3, วิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก และชมรมตรวจสภาพรถพิษณุโลก บันทึกข้อตกลงร่วมมือ ณ ห้องบันเทิงทัพ1 สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในวันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 นาฬิกา โดยมีพลโท ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย นายเสกสม อัครพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก, นายพินิจ บุญโสภา ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างพิษณุโลก, นายเทวรัตน์ วงศ์วาสน์ ประธานชมรมตรวจสภาพรถพิษณุโลก, นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดพิษณุโลก และพลตรี สมบัติ บุญกอแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU โครงการฝึกอาชีพเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ สำหรับทหารกองประจำการ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 จัดทำโครงการฝึกวิชาชีพช่างตรวจสภาพรถยนต์ (ตรอ.) ให้กับทหารกองประจำการในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้ทหารกองประจำการที่เข้าร่วมการฝึกอบรมนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการในอนาคตต่อไป
ปรีชา นุตจรัสรายงานข่าวพิษณุโลก 

ระทึก!! หาม ‘จนท.ดับไฟป่า’ กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ส่งรพ. หลังช่วยดับไฟป่าใน จ.พิษณุโลก นานหลายชั่วโมง

(18 มี.ค. 67) นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) ได้สั่งการให้ ศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่าฯ (War Room สบอ.11) ได้แจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้ป่า ที่บริเวณพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตามที่ได้รับแจ้งพบจุด Hotspot ในพื้นที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จำนวน 2 จุด จึงได้ร่วมกับสถานีควบคุมไฟป่าภูหินร่องกล้า เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ จุดสกัด และจุดเฝ้าระวัง (ภาคประชาชน) เข้าดำเนินการตรวจสอบและควบคุมไฟป่า จุดที่ 1 บริเวณบ้านป่าคาย ม. 2 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ตรวจสอบแล้วเป็นไฟไหม้ติดตอไม้ และกอไผ่ สถานะดับแล้ว และ จุดที่ 2 บ้านใหม่พนมทอง หมู่ที่ 14 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก สถานะสามารถควบคุมไฟได้แล้วบางส่วน โดยไฟป่าดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมา นายสรวิชญ์ สีดารักษ์ เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูหินร่องกล้า ตำแหน่งบุคคลภายนอก (ปฏิบัติงานควบคุมไฟป่า) อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่มีอาการอ่อนแรง หน้าซีด ล้มลง และกล้ามเนื้อเกร็งลักษณะเป็นตะคริวช่วงหน้าท้องลงไปถึงช่วงขา ชุดปฏิบัติงานจึงได้ช่วยกันเร่งนำตัวลงจากเขา และแจ้งให้หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูหินร่องกล้าทราบ และเร่งประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำป้อมยามบ้านนาขาม นำรถกู้ชีพ รพ.วัดโบสถ์ เพื่อรอรับตัว แต่เนื่องจากใช้เวลาเดินเท้าออกมาจากป่าระยะทางทางไกล

หลังจากนั้นได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลวัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์จ.พิษณุโลก เพื่อตรวจอาการ แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นอาการกล้ามเนื้อสลาย หากขาดการรักษาจะทำให้มีอาการโรคฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด และเมื่อเวลา 21.30 น. แพทย์ตรวจพบมีค่าไตผิดปกติ ขณะนี้อาการปลอดภัย แพทย์ลงความเห็นว่าให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ อย่างน้อย 2-3 คืน

ทั้งนี้นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานดูแลอาการเจ็บป่วยของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้หัวหน้าชุดลาดตระเวน ต้องตรวจสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนปฏิบัติงาน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องสลับกันเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เข้าดับไฟป่าทำงานหักโหม บางคนอาจมีอาการอ่อนล้าสะสม โดยขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ล่าสุดอาการของนายสรวิชญ์ สีดารักษ์ อาการปลอดภัยแล้ว

พิษณุโลก-กองทัพภาคที่ 3 นำเยาวชนทัศนศึกษานอกสถานที่ในพื้นทรากรุงเทพมหานคร และกองทัพภาคที่ 4 เพื่อเรียนรู้และสร้างเสริมประสบการณ์ ในช่วงปิดภาคการศึกษาฤดูร้อน

พลตรี สมบัติ บุญกอแก้ว เสนาธิการกองทัพภาคที่ 3/เสนาธิการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย คุณพธู บุญกอแก้ว รองประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับเยาวชนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 พบปะพร้อมให้โอวาทแก่เยาวชนที่ร่วมโครงการทัศนศึกษานอกพื้นที่ ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 ก่อนจะเดินทางไปยังแหล่งเรียนรู้และสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ห้วงวันที่ 26 -29 เมษายน 2567

โครงการทัศนศึกษานอกพื้นที่เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกที่ให้กองทัพภาคที่ 1-4 จัดกิจกรรมนำเยาวชนในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1-4 เดินทางไปทัศนศึกษาห้วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงปิดภาคการศึกษา โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการเป็นเยาวชนที่ศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า (อายุระหว่าง 11-18 ปี) ประกอบด้วย เยาวชนที่เป็นบุตรหลานกำลังพลและได้รับคัดเลือกเป็นมัคคุเทศก์น้อย มีความสามารถในการเป็นอินฟลูเอ็นเซอร์ เยาวชนในโครงการ ทหารพันธุ์ดี “ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย” และเยาวชนที่สนใจเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาในส่วนของกองทัพบก รวมทั้งสิ้น 36 คน 

ทั้งนี้เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพแวดล้อมทางสังคม ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ รวมถึงการดำเนินงานตามศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งให้เยาวชนมีความรักและภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนได้รับทราบภารกิจของทหารในการปกป้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ สำหรับสถานที่ที่จะนำเยาวชนไปทัศนศึกษา โดยมีสถานที่สำคัญดังนี้ พิพิธภัณฑ์ครุฑ จังหวัดสมุทรปราการ,กำแพงอนุสรณ์สถาน ,พิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ กองบัญชาการกองทัพบก , อนุสาวรีย์วีรไทย 2484 (พ่อจ่าดำ) ,ห้องประวัติศาสตร์และหอเกียรติยศกองทัพภาคที่ 4, หมู่บ้านคีรีวง ,วัดถ้ำเขาขุนพนม และวัดเจดีย์(ไอ้ไข่) จังหวัดนครศรีธรรมราช 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top