Monday, 29 April 2024
ปปส

‘อนุทิน’ กวดขันเข้ม บุกจับผับผิด กม. รับนโยบายเปิดผับถึงตี 4  พบ ‘เปิดเกินเวลา-ใบประกอบการหมดอายุ-ยาเสพติด’ เพียบ!!

(10 ธ.ค. 66) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง,นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, พ.ต.อ.วิชัย ณรงค์ รองผบก.น.4 , พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.โชคขัย, น.ส.สุวรรณา ว่องวาณิช ผอ.ส่วนวิเคราะห์ข่าวเฝ้าระวัง พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดพร้าว, ตำรวจ สน.โชคชัย  สนธิกำลังการเข้าตรวจผับ ‘SONIC’ ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. หลังมีเบาะแสว่า ผับดังกล่าวเปิดโดยไม่ได้รับอนุญาต เปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และมีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ
จากการเข้าตรวจค้นพบเป็นร้านอาคารสูง 1 ชั้น ภายในเป็นห้องโถงที่มีการจัดวางโต๊ะ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นักเที่ยวชายหญิง 220 คน กำลังเต้นรำ-ดื่มกันอย่างสนุกสนาน เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้หยุดการใช้เครื่องเสียง และประกาศขอตรวจบัตรประชาชนและยาเสพติด โดยกลุ่มนักเที่ยวบางรายพยายามหลบหนีออกด้านนอก แต่กำลังของเจ้าหน้าที่ปิดล้อมไว้ทุกด้าน เบื้องต้นตรวจสอบไม่พบใบอนุญาตประกอบสถานบริการ

จากการตรวจบริเวณร้าน พบสารเสพติดบรรจุอยู่ในซองพลาสติก ประเภท ยาอี ยาเค ยาไอซ์ และ Happy water รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพถูกโยนทิ้งเกลื่อนพื้น เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจบัตรประชาชนและตรวจปัสสาวะนักเที่ยวทุกคน

นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การตรวจค้นในครั้งนี้ พบนักท่องเที่ยว 220 คน แบ่งเป็นชาย 100 คน หญิง 120 คน และยังพบอีกว่า สถานประกอบการดังกล่าว ใบอนุญาตประกอบการหมดอายุตั้งแต่ปี พ.ศ 2563 แต่ยังคงลักลอบเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดมาจนถึงปัจจุบัน จากการตรวจค้นภายในร้านยังพบยาเสพติดหลายประเภท เช่น ยาบ้า ยาอี ไอซ์ เคตามีน Happy water เป็นต้น และยังพบอีกว่า ภายในร้านได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ใช้บริการเข้าไปเสพยาเสพติด โดยห้องดังกล่าวจะเป็นห้องแยกอยู่ในห้องน้ำ ส่วนตัวเลขผู้ติดยาเสพติดนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ปิดสถานประกอบเป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่งของ คสช.ที่ 22/2558 โดยหลังจากนี้ จะมอบอำนาจให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดการในเรื่องการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป รวมทั้งจะดำเนินการขยายผลไปหาเจ้าของสถานประกอบการที่แท้จริง 

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า การบุกจับกุมในครั้งนี้ เป็นการตอบรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่น ๆ คำนึงไว้อยู่เสมอว่า จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบการ และปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด

‘มท.1’ บุกจับผับดังย่านอ้อมน้อย พบ ‘เปิดเกินเวลา-มั่วสุมยา’ เพียบ!! พร้อมลุยกำราบอิทธิพลมืด จัดระเบียบสังคมเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

(27 ม.ค. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำทีมกรมการปกครอง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง, นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง, นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย ร่วมกับ สำนักงาน ปปส. ภาค 7 ฝ่ายปกครองจังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน เข้าจับกุมสถานบริการละเมิดกฎหมาย เปิดเกินเวลา ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา หนำซ้ำยังยินยอมให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

นายอนุทิน เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมการปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนว่าในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีสถานบริการชื่อ ‘TAG Pub’ มีการปล่อยปละละเลยให้นักเที่ยวใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ และยังแสดงดนตรีส่งเสียงดังรบกวนชุมชน เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และอวดอ้างว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้การสนับสนุน จึงขอให้กรมการปกครองทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจึงส่งสายลับเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงต่อเนื่อง กระทั่งพบว่าสถานบริการ TAG Pub มีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน

ต่อมา ในคืนวันที่ 26 มกราคม 2567 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 27 มกราคม 2567 ชุดสายลับจึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม เพื่อเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบริการ ‘TAG Pub’ ทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ พบนักเที่ยวจำนวนมากกำลังดื่มด่ำบรรยากาศความสนุกสนานกันอย่างเมามัน เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัว นักเที่ยวต่างแตกตื่น โยนยาเสพติดทิ้งเกลื่อนกลาดเต็มพื้น และพยายามหลบหนี โดยกรูกันดันประตูหลบหนีออกไป แต่เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองก็ได้ควบคุมนักเที่ยวที่เหลือไว้ได้จำนวนหนึ่ง และประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ แล้วจึงให้เจ้าพนักงาน ปปส. ภาค 7 ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของนักเที่ยวทุกราย พบผู้มีสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 77 ราย แยกเป็น ชาย 38 ราย และ หญิง 39 ราย

ทั้งนี้ มีพนักงานของทางร้านรายหนึ่ง เปิดเผยกับสายลับ ว่า “ผับนี้มีแต่คนเล่นยา” ทั้งนี้ทางพนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน และร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้

1.) เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด
2.) ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานบริการ
3.) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย
4.) จัดโปรโมชันส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

อีกทั้งการกระทำของสถานบริการดังกล่าว ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ออกหนังสือคำสั่งพิจารณาปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี

นายอนุทิน เปิดเผยด้วยว่า สถานบริการแห่งนี้เคยเปิดให้บริการในชื่อ ‘NOS Pub’ และถูกชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองจับกุมฐานเปิดผับอัปยาและถูกสั่งปิดสถานที่เป็นเวลา 5 ปี มาแล้วเมื่อปี 2561 มาถึงปัจจุบัน ตัวอาคารเดิมถูกลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วปรับปรุงใหม่ โดยใช้ชื่อร้านว่า ‘TAG Pub’ แต่กระนั้นก็ยังประกอบธุรกิจท้าทายกฎหมายซ้ำอีกครั้ง และจากการสืบสวนทางลับพบเป็นผับที่มีผู้อิทธิพลในพื้นที่หนุนหลังอีกด้วย โดยหลังจากนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จะนำเรื่องส่งต่อไปยังคณะกรรมการปราบปรามผู้มีอิทธิพลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขยายผลและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายอนุทิน ได้เน้นย้ำว่า “การจัดระเบียบสังคม และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เป็นหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย โดยมุ่งเน้นการจัดระเบียบสังคมเพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ประชาชนมีความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งใดที่ขัดกับความมุ่งหมายนี้ ก็คือสิ่งที่เราต้องใช้กลไกของรัฐในการกำจัดให้สิ้นไป”

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชน มีข้อมูลการกระทำผิดกฎหมาย หรือต้องการแจ้งให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top