Sunday, 5 May 2024
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

‘คลัง’ ยัน ‘บัตรสวัสดิฯ’ รอบใหม่ ไปต่อ!! แม้ยุบสภา ย้ำ!! หากยืนยันตัวตนสำเร็จ เริ่มใช้สิทธิ 1 เม.ย. ตามเดิม

จากกรณีที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 นั้น กระทรวงการคลังขอยืนยันว่า ไม่มีผลต่อการดำเนินงานในโครงการเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 หรือ บัตรคนจนรอบใหม่ โดยทุกกระบวนการ ทั้งการยืนยันตัวตน การใช้สิทธิรอบใหม่ และการยื่นอุทธรณ์กรณีไม่ผ่านสิทธิ ยังเป็นไปตามที่ประกาศไว้

สำหรับ การยืนยันตัวตนของผู้ได้รับสิทธิ เดินทางไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา ได้ทุกวันจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 สาขาทั่วไปตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. และสาขาในห้างสรรพสินค้าตั้งแต่เวลา 11.00-16.00 น.

ส่วนช่วงระยะเวลามีทั้งหมด 5 รอบ คือ

รอบที่ 1 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 1-26 มีนาคม 2566 จะได้เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 เมษายน 2566
รอบที่ 2 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 มีนาคม-26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 พฤษภาคม 2566
รอบที่ 3 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 เมษายน-26 พฤษภาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 มิถุนายน 2566
รอบที่ 4 ยืนยันตัวตนระหว่างวันที่ 27 พฤษภาคม-26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 กรกฎาคม 2566
รอบที่ 5 ยืนยันตัวต้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป และเริ่มใช้สิทธิวันที่ 1 สิงหาคม 2566

โดยผู้ที่ยืนยันรอบ 2-4 จะได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจาก “ร้านธงฟ้า” เท่านั้น) สำหรับผู้ที่ยืนยันตัวตนรอบที่ 5 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้

ขณะที่ ผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ สามารถขออุทธรณ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-1 พฤษภาคม 2566 (62 วัน) โดยดำเนินการผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ขออุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น.ของทุกวัน

หรือขออุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธ.ก.ส. สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

‘ก.คลัง’ เล็งดึง BRT-สองแถวรับจ้าง-เรือโดยสารสาธารณะ ร่วมโครงการ ‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ให้บริการแก่ผู้มีสิทธิ

‘คลัง’ กางยอดยืนยันตัวตนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 แล้ว 11.38 ล้านราย ส่วนยอดยื่นอุทธรณ์พุ่ง 1.12 ล้านราย พร้อมแจงลุยศึกษาประเภทระบบขนส่งเล็งดึงรถเอกชนร่วมขสมก.-BRT-สองแถวรับจ้าง-เรือโดยสารสาธารณะ เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิ

(22 มี.ค.66) นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการยืนยันตัวตนของผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ณ วันที่ 21 มี.ค. 2566 เวลา 13.00 น. ว่า มีผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จ 11,383,700 ราย คิดเป็น 77.99% ของจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 14,596,820 ราย โดยมีจำนวนผู้ยื่นอุทธรณ์ผลการพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ ทั้งสิ้น 1,122,950 ราย

สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยันตัวตนสำเร็จ ภายในวันที่ 26 มี.ค. 2566 จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 ตามกำหนดการที่กำหนดไว้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะได้รับสวัสดิการ ดังนี้ 

1. วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 05.00 - 23.00 น. ของทุกวัน 

2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคน ต่อ 3 เดือน โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่เวลา 05.00 - 23.00 น. ของทุกวัน

3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง ได้แก่ รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.), รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.), รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS-รถไฟฟ้ามหานคร (MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด และรถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ โดยผู้มีสิทธิสามารถใช้บริการระบบขนส่งดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2566 ตั้งแต่เวลา 00.30 น. เป็นต้นไป

“คลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิ ได้แก่ รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (BRT) รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน รถสองแถวรับจ้างและเรือโดยสารสาธารณะ ซึ่งจะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป” นายพรชัย กล่าว

‘ราชกิจจาฯ’ ประกาศให้ ‘ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ ทายาทขอรับได้ภายใน 6 เดือนหลังจากเสียชีวิต มีผลบังคับใช้ทันที

ราชกิจจาฯ ประกาศให้ ‘ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ ทายาทได้ 3,000 บาท จาก พม.ไม่ว่าจะเสียชีวิตจากสาเหตุอะไรได้ทุกคนที่เป็นคนไทย ขอรับภายใน 6 เดือนหลังจากเสียชีวิต

(28 ก.ค. 66) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะได้รับ ‘ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ ต้องเข้าหลักเกณฑ์ ดังนี้
1.) อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
2.) สัญชาติไทย
3.) ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

แต่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือยังไม่ได้ลงทะเบียน ให้ผู้อํานวยการเขต หรือนายอําเภอ หรือกํานัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกเทศมนตรี หรือนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หรือนายกเมืองพัทยา หรือประธานชุมชน เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง ตามแบบที่อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุกําหนด

'ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ ในประกาศนี้รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใด ๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดําเนินการในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์

การยื่นคําขอเพื่อขอ ‘ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ ให้ผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการศพตามประเพณีรายนั้นยื่นคําขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือภูมิลําเนาในขณะถึงแก่ความตาย ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคําขอที่สํานักงานเขต

ส่วนจังหวัดอื่นให้ยื่นคําขอที่สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือที่ว่าการอําเภอ หรือสํานักงานเทศบาล หรือที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบล หรือศาลาว่าการเมืองพัทยา แบบคําขอรับการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณี ให้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุกําหนด

ผู้ยื่นคําขอ ‘ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ ต้องยื่นคําขอภายในกําหนด 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตรพร้อมเอกสาร ดังต่อไปนี้

1.) ใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ
2.) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุ หรือหนังสือรับรองตามข้อ 5 (3)
3.) บัตรประจําตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและเลขประจําตัวประชาชนของผู้ยื่นคําขอ กรณีการจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคม วัด มัสยิด โบสถ์ ให้แนบหนังสือแสดงการจดทะเบียน หรืออนุญาตให้สร้าง จัดตั้ง หรือดําเนินงานมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์ด้วย
4.) สมุดบัญชีหรือเลขที่บัญชีธนาคารของผู้ยื่นคําขอ เว้นแต่ประสงค์จะขอรับเงินสดให้ดําเนินการตามระเบียบของทางราชการ
5.) หนังสือรับรองเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศพตามประเพณี ซึ่งออกโดยบุคคล ตามข้อ 5 (3) หรือหัวหน้าหน่วยงานตามข้อ 5 วรรคสอง สําหรับกรณีผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ ทั้งนี้ ผู้ยื่นคําขอและผู้รับรองต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกัน แบบหนังสือรับรองให้เป็นไปตามที่อธิบดี กรมกิจการผู้สูงอายุกําหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือน ต.ค. 2564 - พ.ค. 2565 มีผู้ขอรับ ‘ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป’ จำนวน 93,127 ราย เป็นเงิน 279.38 ล้านบาท

‘บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ’ ใช้ซื้อตั๋ว ‘นครชัยแอร์’ ได้ทุกเที่ยวทุกเส้น ใช้สิทธิ์ได้ตามวงเงิน เฉพาะหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วเท่านั้น

(2 ต.ค.66) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถซื้อตั๋วโดยสารนครชัยแอร์ได้ทุกเส้นทาง ใช้สิทธิ์ได้ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วนครชัยแอร์ เท่านั้น  สามารถใช้ได้ตามวงเงินที่กรมบัญชีกลางกำหนดจำนวน 750 บาท ในแต่ละเดือน

ไทม์ไลน์เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนเดือนตุลาคม 2566

>> วันที่ 1 ตุลาคม 2566
วงเงินซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค ได้คนละ 300 บาทต่อเดือน
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือนประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) และนครชัยแอร์
วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อ 3 เดือน

>> วันที่ 20 ตุลาคม 2566
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาท โดยจะต้องเป็นผู้พิการที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวผู้พิการ และได้รับสิทธิสวัสดิการรอบใหม่ โดยต้องยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรก่อน จึงจะได้รับสิทธิ แบ่งจ่าย ดังนี้
เงินผู้พิการ 800 บาท : โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเหมือนเดิม ทุกวันที่ 10 ของเดือน.


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top