Friday, 3 May 2024
ธรรมะ

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2567

"ถ้ากตัญญูต่อพ่อแม่ไม่ได้ก็ไปเกิดเป็นลูกแมงป่องซะพ่อแม่เลี้ยงเรามายากลำบากนัก เราฉี่ เราอึใส่ตักพ่อแม่ ท่านยังไม่เคยว่า คอยเช็ดคอยล้างให้"

"แล้วแค่พ่อแม่ตักเตือน จะมีปฏิกิริยาอะไรหนักหนา ไม่ได้นะ ถ้ากตัญญูไม่ได้ก็ไปเกิดเป็น 'ลูกแมงป่อง' ซะ เพราะลูกแมงป่องอะไรกระทบกระทั่งนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้ เอาแต่จะยกหางชูก้าม ขู่ฟ่อ ๆ"

"ลูกอกตัญญูท่านจึงอุปมาเป็นลูกแมงป่อง" ที่มักอวดกิเลสสำแดงพิษภัย แม้กระทั่งกับพ่อแม่ยังอวดตนว่า 'ตนเก่ง ตนสามารถ ตนฉลาด' ที่มักเถียงคำไม่ตกฟาก 'อันเป็นวิสัยของคนพาลสันดานหยาบ' อย่าให้มีอย่างนี้ใช้ไม่ได้นะ"

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม 2567

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องปีชงกับพระราชธรรมนิเทศน์ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยพระพยอม กล่าวว่า เรื่องความเชื่ออะไรบางอย่างในแต่ละยุคสมัยนั้น จะมีขึ้นบ้างลงบ้าง เช่น ชง 25 ชง 50 หรือชง 100 เป็นเรื่องของจิตใจ ใครอยากออกนอกหลักไปเอาโน่นเอานี่มาเสริม เพราะคิดว่าทำไปแล้ว จะทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น ทำแล้วสบายใจ แต่อย่าลืมคำสั่งสอนที่พระพุทธกล่าวไว้ว่า อย่ากล่าวเหตุให้เป็นเรื่องถกเถียงกัน เพราะจะทำให้จิตฟุ้งซ่าน ห่างไกลจากสมาธิและไม่เห็นธรรมที่แจ่มแจ้ง

“เรื่องนี้ต้องค่อยๆ ดูกันไปว่าคนที่ชงไปทำพิธีมาแล้วดีขึ้นจริงหรือไม่ แล้วคนที่เกิดปีเดียวกัน แต่ไม่ไปทำพิธีกรรม เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง แต่สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนให้เชื่อในเรื่องกรรมและความเพียร ให้เชื่อว่าถ้าเราทำกรรมดีเต็มที่แล้วไม่ปล่อยจิตให้เป็นไปตามยถากรรม โดยไม่มีความเพียรที่จะพยายามออกจากกรรม เฉพาะฉะนั้นถ้าเราทำดีให้ถึงที่สุดแล้ว เราจะได้รับผลดีมากกว่าการไปทำพิธีอย่างอื่นแน่นอน แต่อาตมาจะไม่ไปบล็อกใครว่าจะต้องอยู่ในหลัก เพราะปัจจุบันนี้มีคนไม่อยากอยู่ในหลักเยอะ ต้องการค้นหา แสวงหาไปเรื่อยๆ ซึ่งอาตมาเชื่อว่าคนเหล่านี้เมื่อแสวงหาหลักใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ แล้ว เมื่อเขาหาหลักไม่เจอ เดี๋ยวเขาก็จะกลับมาหาหลักตรงนี้เอง”

“ขอให้ยังเชื่อในเรื่องหลักของกรรมของเวรตามหลักของชาวพุทธ เพราะเรื่องเวรเรื่องกรรม ไม่ต้องไปเสียเงินเสียทองทำพิธีอะไรเลย มีแต่จะได้เพิ่ม”

พระพยอม กล่าวว่า ส่วนนิยามเรื่องปีชงนั้น อาตมาไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ เพราะไม่มีเวลาไปศึกษา ไม่รู้ว่าปีชงจะเหมือนกับปีเบญจเพศหรือไม่ แต่ที่รู้แน่ๆ คือ ปีชงแบบนี้จะมีแต่เรื่องเสียเงินเสียทอง สู้ไปชงกาแฟหรือโอวัลตินไม่ได้ ชงแบบนั้นดีกว่าและยังอิ่มด้วย ไม่ต้องมานั่งถกเถียงกัน

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ท่านได้มอบคำสอน หลักคิดดีๆ ให้แก่ชาวพุทธมากมาย หนึ่งในนั้นคือคำสอนเกี่ยวกับเรื่องการรู้จักความคิดของตนเอง โดยท่านกล่าวว่า…

“ถ้าเรารู้จัก ‘ความคิด’ ของเราดีพอ เราจะไม่ด่วนสรุป ไม่รีบตัดสินอะไรง่ายๆ ‘สติ’ จะช่วยทักท้วง ตักเตือนให้ช้าก่อน เพราะประสบการณ์หลายๆ ครั้ง สอนเราว่า…เมื่อด่วนสรุปแล้ว มักจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น

สิ่งที่เราคิดว่าแน่นอนแล้ว แต่ความจริงเป็น ‘ตรงกันข้าม’”

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567

“ทุกข์นี่แหละ!! จะทำให้เราฉลาดขึ้นทำให้เกิดปัญญา
สุขนั่นสิ!! มันจะปิดหูปิดตาเราความสุขสบายทั้งหลาย จะทำให้เราประมาท”

ธรรมะสอนใจ จาก ‘หลวงปู่ชา สุภทฺโท’

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567

การทำงานเพื่อเงินนั้น 
ต้องรอจนกว่าจะได้เงินเสียก่อน จึงจะรู้สึกพอใจ 
ถ้าทำงานเพื่องาน 
พอลงมือทำก็พอใจแล้ว และเป็นสุขทันที 
ส่วนเงินนั้น ก็ไม่ไปไหนเสีย

-พุทธทาสภิกขุ-

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567

อย่าคิดว่าเราเป็นคนสำคัญ
ให้ทำตนเป็นแบบปกติ ‘ธรรมดาๆ’ 
…นี่แหละ ‘ดีที่สุด’

เมื่อเราคิดว่าเราเป็นคนสำคัญแล้ว
เมื่อผู้อื่น ‘ไม่ให้ราคา’ ไม่นับถือ 
ไม่ให้ความสำคัญเราแล้ว

จิตใจเราจะเป็นทุกข์ร้อน
สับสนวุ่นวายไปตามกระแสโลกธรรม

-พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร อรญฺญวาสีภิกขุ-

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567

“ถ้าคิดได้ ให้ช่วยคิด 
ถ้าคิดไม่ได้ ให้ช่วยทำ
ถ้าทำไม่ได้ ให้ความร่วมมือ 
ถ้าร่วมมือไม่ได้ ให้กำลังใจ
แม้ให้กำลังใจไม่ได้ ให้สงบนิ่ง”

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร)

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2567

‘หลวงปู่ชา สุภทฺโท’ พระเกจิชื่อดังที่หลายคนรู้จักและนับถือท่านเป็นอย่างมาก จากคำสอนที่ลึกซึ้ง โดยวันหนึ่งมีคนถามหลวงปู่ว่า ชาติหน้ามีจริงหรือไม่? ซึ่งผู้ถามก็ได้คำตอบที่ทำเอาต้องรีบก้มกราบอย่างไม่ติดใจ ดังนี้...

โยม : ชาติหน้ามีจริงไหมครับ ?
หลวงปู่ชา : ถ้าบอกจะเชื่อไหมล่ะ ?
โยม : เชื่อครับ
หลวงปู่ชา : ถ้าเชื่อคุณก็โง่

คำพูดดังกล่าวของหลวงปู่เล่นเอาคนถามงง ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ซึ่งหลวงปู่ชา ได้อธิบายไว้ว่า…

หลายคนถามอาตมาเรื่องนี้ อาตมาก็ถามเขาอย่างนี้เหมือนกันว่า ถ้าบอกแล้วจะเชื่อไหม ถ้าเชื่อก็โง่ เพราะอะไร? ก็เพราะมันไม่มีหลักฐานพยานอะไรที่จะหยิบมาให้ดูได้ ที่คุณเชื่อเพราะคุณเชื่อตามเขา คนเขาว่าอย่างไร คุณก็เชื่ออย่างนั้น คุณไม่รู้ชัดด้วยปัญญาของคุณเอง คุณก็โง่อยู่ร่ำไป ทีนี้ถ้าอาตมาตอบว่า คนตายแล้วเกิดหรือว่าชาติหน้ามี อันนี้คุณต้องถามต่อไปอีกว่า ถ้ามีพาผมไปดูหน่อยได้ไหม เรื่องมันเป็นอย่างนี้ มันหาที่จบลงไม่ได้ เป็นเหตุให้ทะเลาะทุ่มเถียงกันไปไม่มีที่สิ้นสุด ทีนี้ ถ้าคุณถามว่าชาติหน้ามีไหม อาตมาก็ถามว่า พรุ่งนี้มีไหม ถ้ามีพาไปดูได้ไหม 

อย่างนี้คุณก็พาไปดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้จะมีอยู่ แต่ก็พาไปดูไม่ได้ อย่างนี้เป็นต้น ถ้าวันนี้มี พรุ่งนี้ก็ต้องมี แต่สิ่งนี้มันเป็นของที่จะหยิบยกมาเป็นวัตถุตัวตนให้เห็นไม่ได้

ความจริงแล้ว พระพุทธองค์ท่านไม่ให้เราตามไปดูถึงขนาดนั้น ไม่ต้องสงสัยว่า ชาติหน้ามีหรือไม่มี ไม่ต้องถามว่า คนตายแล้วจะเกิดหรือไม่เกิด อันนั้นมันไม่ใช่ปัญหา มันไม่ใช่หน้าที่ของเรา หน้าที่ของเราคือ เราจะต้องรู้เรื่องราวของตนเองในปัจจุบัน เราต้องรู้ว่า เรามีทุกข์ไหม ถ้าทุกข์ มันทุกข์เพราะอะไร นี้คือสิ่งที่เราต้องรู้ และเป็นหน้าที่โดยตรงที่เราจะต้องรู้ด้วย"

พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เราถือเอาปัจจุบันเป็นเหตุของทุกอย่าง เพราะว่าปัจจุบันเป็นเหตุของอนาคต คือถ้าวันนี้ผ่านไป วันพรุ่งนี้มันก็กลายมาเป็นวันนี้ นี่เรียกว่าอนาคตคือพรุ่งนี้ มันจะมีได้ก็เพราะวันนี้เป็นเหตุ ทีนี้อดีตก็เป็นไปจากปัจจุบัน หมายความว่า ถ้าวันนี้ผ่านไป มันก็กลายเป็นเมื่อวานเสียแล้ว นี่คือเหตุที่มันเกี่ยวเนื่องกันอยู่ 

ฉะนั้น พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้เราพิจารณาเหตุทั้งหลายในปัจจุบัน เท่านี้ก็พอแล้ว ถ้าปัจจุบันเราสร้างเหตุไว้ดี อนาคตมันก็จะดีด้วย อดีตคือวันนี้ที่ผ่านไป มันย่อมดีด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าเราหมดทุกข์ได้ในปัจจุบันนี้แล้ว อนาคตคือชาติหน้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึง

ธรรมะสุดยอด
ธรรมะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือคำพูด

คำสอนธรรมะทั้งหลายนั้น มันเป็นคำสมมุติกันขึ้นมาพูด ตัวธรรมะแท้ ๆ นั้นอยู่เหนือคำพูด ผู้มีปัญญารู้เห็นธรรมะ ท่านไม่ต้องการอะไร ไม่เอาอะไรอีกแล้ว เพราะถ้าจะเอาความสุข ความสุขมันก็ดับ ถ้าจะเอาความทุกข์ ความทุกข์มันก็ดับ จะเอาวัตถุสมบัติข้าวของอะไรต่าง ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นมันก็จะดับเหมือนกัน

แม้นแต่ร่างกายที่คนหวงแหนกันนี้ เกิดขึ้นแล้ว ที่สุดแล้ว มันก็ดับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top