Friday, 10 May 2024
ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ

'ธนาธร' เชื่อ!! 'พิธา' เข้มแข็ง พรรคไร้ห่วงปัญหาหัวหน้าคนใหม่ วอน!! ด้อมโฟกัส 'ประชาธิปไตย' เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรื่องบุคคล

เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.66) ที่ร้าน Sol Bar อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยภายหลัง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อให้ที่ประชุมพรรคเลือกหัวพรรคคนใหม่เพื่อดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน โดยนายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่าคุณพิธาเข้มแข็ง ตนให้กำลังใจคุณพิธา

เมื่อถามว่ามองคุณสมบัติหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่ต้องเป็นอย่างไร? นายธนาธร กล่าวว่า ตนเชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีบุคลากรที่มีคุณภาพเยอะแยะ ใครเป็นหัวหน้าพรรค ก็จะทำพรรคก้าวไกลตามแนวทางที่สืบสานกันมา ตั้งแต่อนาคตใหม่-ก้าวไกล อย่างมั่นคง

"เรื่องบุคลากรที่จะดำรงตำแหน่ง ผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะพรรคก้าวไกลมีคนที่มีคุณภาพเยอะแยะไปหมดเลย" นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่าผู้สนับสนุนหลายคนรู้สึกเสียขวัญ ที่นายพิธา ต้องลาออก นายธนาธร ตอบว่า อย่าเสียกำลังใจ เดินหน้าด้วยกันต่อไป 'อนาคตใหม่-ก้าวไกล' จะเป็นยังไงต่อ 'ไม่สำคัญ' ขอให้เรายึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย แล้วร่วมผลักดัน สร้างประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยต่อไป

"ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง เรื่องนี้ใหญ่กว่าเรื่องบุคคล เป็นเรื่องของอนาคตของประเทศไทย เรื่องนี้ใหญ่กว่าคน ใหญ่กว่าพรรคไปแล้ว เป็นเรื่องวาระที่จำเป็นของประเทศไทยที่จะต้องผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย" นายธนาธร กล่าว

พิธีกรท็อปนิวส์โล่ง!! ไม่ต้องทำงานจ่ายคดีแพ่ง 3 ล้านบาท หลัง 'ธนาธร' ฟ้องปิดปาก ประเด็นอยากเป็นมากกว่านายกฯ

(6 ต.ค.66) เฟซบุ๊ก ‘ต๊อบ วุฒินันท์ นาฮิม’ ของนายวุฒินันท์ นาฮิม ผู้ประกาศข่าวสำนักข่าวท็อปนิวส์ โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ระบุว่า…

"วันนี้ผมและท่านอาจารย์เสรีไปศาลอาญา เพื่อรับฟังคำพิพากษาของศาล ก่อนไปก็มีคนถามพวกเราว่าเป็นกังวลอะไรไหม ผมได้แต่ยิ้มอย่างมั่นอกมั่นใจ ส่วนท่านอาจารย์ตอบว่า ไม่ได้กังวลอะไร เพราะว่าตอนมีการสืบพยาน เราก็ตั้งข้อสังเกตว่าทางฝ่ายเขาพูดอะไร ทางฝ่ายเราพูดอะไร เราคิดว่าหลักฐานของเราแน่นกว่า

พอไปถึงที่ศาล สิ่งแรกที่ทำเพื่อความสบายใจก็คือ ไปกินอาหารร้านโปรดที่โรงอาหาร บังเอิญไปเจอคุณสิระ เจนจาคะ ซึ่งโดน พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส ฟ้อง

สงสารท่านอาจารย์ขึ้นบันไดศาล หัวใจเต้นเป็นจังหวะแดนซ์ขึ้นไปถึง 100 กว่า ให้ อ.เสรี ยืนพักแล้วไปต่อถึงห้องพิจารณาคดี

พอเข้าไปนั่งรอได้สักพักท่านผู้พิพากษาจึงขึ้นนั่งบัลลังก์พร้อมกัน ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 7 นาที ผลการตัดสินแบ่งเป็นสองส่วน

1. ศาลท่านพรรณนาว่าโจทก์ฟ้องเราว่ากระไร ข้อความส่วนใหญ่หาว่าเราหมิ่นประมาทเขาทำให้เขาเป็นที่เกลียดชังเสียชื่อเสียง

2. ท่านผู้พิพากษาพิจารณาลงความเห็นว่า ผมและอาจารย์เสรีนำข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์และออฟไลน์มาวิเคราะห์วิพากษ์กันด้วยใจสุจริต ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ซึ่งตรงนี้ศาลพินิจพิเคราะห์แล้วก็บอกว่าสิ่งที่เราทำนั้น ประชาชนทั้งหลายที่จงรักภักดีจะมีความห่วงใย เคลือบแคลงพฤติกรรมของเขาที่ผ่านมา

ดังนั้นจึงถือว่าเราเป็นสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์คนซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นหัวหน้าพรรค แล้วตอนนี้ก็เป็นหัวหน้ากลุ่ม หัวหน้าคณะ เป็นการกระทำโดยสุจริต ศาลจึงยกฟ้อง

ผมและอาจารย์มองตรงกันว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยเรายังเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ตลอดไป เพราะว่าเป็นการพินิจพิเคราะห์กันด้วยข้อเท็จจริงมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ครับ ขอใช้พื้นที่นี้สื่อสารไปยังทุกท่าน ขอบพระคุณ อ.บอย ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ และน้องวาเลนไทน์ อดีตโปรดิวเซอร์รายการเปิดเนตร และเรื่องลับมาก มาเป็นพยานให้เรา กราบขอบพระคุณทุกกำลังใจ

หวังว่าคงไม่ต้องทำงานใช้หนี้หาเงิน 3 ล้านไปจ่ายคดีแพ่งแล้ว"

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ศาลอาญาพิพากษายกฟ้อง ในกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และนายวุฒินันท์ นาฮิม ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นฯ จากกรณีที่ทั้งสองได้ร่วมพูดคุยกัน ในรายการ ‘เปิดเนตร’ หัวข้อ เป้าประสงค์ชัด ‘ธนาธร อยากเป็นมากกว่านายกฯ’ เผยแพร่ทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันยูทูบ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2564

โดยศาลเห็นว่า นายธนาธร โจทก์ได้แสดงออกซึ่งพฤติกรรมให้ปรากฏต่อสาธารณะ โดยเคยให้สัมภาษณ์ทางสื่อต่าง ๆ ร่วมเสวนา และยังโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ในทำนองว่า การให้สถาบันกษัตริย์อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยจะต้องมีการปฏิรูปสถาบันฯ เพื่อให้อยู่เหนือการเมือง อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ อำนาจบทบาทของสถาบันฯ ต้องสอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย ปฏิรูปเพื่อให้สถาบันดำรงอยู่คู่สังคมประชาธิปไตย และโจทก์เคยเสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นอกจากนี้ เมื่อโจทก์ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี สภาผู้แทนราษฎร โจทก์เคยอภิปรายเกี่ยวกับงบประมาณในหน่วยงานส่วนพระองค์

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของโจทก์ที่แสดงออกผ่านทางตัวโจทก์สื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ดังกล่าว ย่อมก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย และทำให้ประชาชนคิดไปได้ว่า เหตุใดโจทก์ ซึ่งเคยเป็น สส.และเป็นบุคคลสาธารณะถึงต้องการปฏิรูปสถาบันฯ อันเป็นสถาบันสูงสุดของประเทศ ซึ่งเมื่อพิจารณาเกี่ยวกับการพูดคุยในรายการของจำเลยทั้งสอง เป็นเพียงการนำข้อมูลของโจทก์ที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์ การอภิปรายของโจทก์ในที่ต่าง ๆ และหนังสือของโจทก์ มาวิเคราะห์การกระทำ ซึ่งมีลักษณะส่อไปในทางที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันกษัตริย์ เพื่อให้ประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันทราบถึงข้อมูลและพฤติกรรมของโจทก์

จึงนับว่าการกระทำของจำเลยเป็นแต่เพียงการจัดรายการในฐานะสื่อมวลชนและประชาชนคนหนึ่งวิเคราะห์ข้อมูลไปตามเนื้อข่าวที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ เป็นการแสดงความคิดเห็นเพื่อสื่อสารถึงการกระทำของโจทก์ไปยังประชาชนที่เคารพสถาบันฯ เท่านั้น ถ้อยคำและข้อความที่จำเลยทั้งสองหมิ่นประมาทโจทก์ จึงเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็น หรือข้อความโดยสุจริตติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยซึ่งบุคคลหรือ ประชาชนย่อมกระทำได้ จำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 (3) พิพากษายกฟ้อง

‘อนุสรณ์’ โต้ ‘ธนาธร’ ปมเสนอ 5 ด้านพัฒนาประเทศ ชี้!! เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่รัฐบาลทำอยู่แล้ว

(18 พ.ย.66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุหากมี 5 แสนล้านบาท จะนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน สร้างรถเมล์ไฟฟ้า น้ำประปาดื่มได้ การจัดการขยะ ว่า ตนเห็นต่างจากนายธนาธร เพราะสิ่งที่นายธนาธรพูด เป็นโครงการที่เป็นระเบียบปฏิบัติประจำของรัฐบาลอยู่แล้ว หลายเรื่องก็มีความก้าวหน้าไปมาก หากจะนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานก็จะถูกใช้ผ่านบริษัทหรือกลุ่มทุนขนาดใหญ่ กว่าจะส่งต่อถึงมือประชาชนต้องใช้เวลานาน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล เป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่กระเป๋าเงินของประชาชนโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เงินจะสะพัด หมุนไปในหลายภาคส่วนหลายๆ รอบ ประชาชนจะมีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอยทันที การค้าการขายจะดีขึ้น เศรษฐกิจโดยรวมจะโต ประเทศไทยไม่ได้มีเงินมาก

หากนำไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ไปทำสวัสดิการแห่งรัฐก่อน เม็ดเงินนั้นจะไม่เกิดการหมุนเวียน เงินในกระเป๋าประชาชนไม่มี เศรษฐกิจก็ไม่โต เราจึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอัดฉีดเม็ดเงินให้ประชาชนมีเงินในกระเป๋าก่อน เพราะเป็นปัญหาเร่งด่วน จากนั้นเมื่อเศรษฐกิจโต รัฐบาลก็พร้อมจะยกระดับในการดูแลสวัสดิการประชาชนให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน

“รัฐบาลเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนจากวิกฤตที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ วิธีคิด วิธีทำแบบเดิมๆ จึงไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ ดิจิทัลวอลเล็ต คือ หนึ่งในนโยบายเรือธงที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่” นายอนุสรณ์ กล่าว

‘จิรายุ’ ซัด!! ‘ธนาธร’ พูดเหมือนแกล้งไม่รู้ ปม 5 ด้านพัฒนาประเทศ ‘รัฐบาลพท.’ ทำอยู่แล้ว

(19 พ.ย.66) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่ออกมาเสนอแนวคิดการใช้เงิน 5 แสนล้านบาท โดยเอาไปทำรถเมล์ไฟฟ้า ทำน้ำประปาดื่มได้ เอาไปให้การแพทย์ และเอาไปทำระบบจัดการขยะนั้น ฟังแล้วแปลกใจ เพราะนายธนาธรพูดเหมือนแกล้งไม่รู้ ไม่คิดว่าจะมีแนวคิดย้อนยุค ส่งประเทศกลับไปเป็นแบบรัฐราชการเหมือนในอดีตอีกหรือไม่ เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี จะมีส่วนที่เป็นงบสำหรับนโยบายต่างๆ อย่างนี้อยู่แล้ว และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เร่งดำเนินการเป็นวาระเร่งด่วนอยู่แล้ว เพียงแค่ 2 เดือนเศษของรัฐบาลก็มีความคืบหน้าอย่างมากมายหลายโครงการ

นายจิรายุ กล่าวว่า วันนี้เครดิตความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ดีขึ้นอย่างมากอันจะนำมาซึ่งการลงทุนในด้านต่างๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาคึกคักมากขึ้น การพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและสวัสดิการของประชาชนสามารถดำเนินการได้ทันที เป็นการทำงานของรัฐบาลที่ผลักดันให้เกิดการเจริญเติบโตของประเทศและการลงทุนในด้านต่างๆ ได้

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ในทางทฤษฎี ในภาวะเศรษฐกิจซบเซามาหลายปี จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องให้ประชาชนได้มีการจับจ่ายใช้สอยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ในประเทศจะมีเงินสะพัด การค้าขายดีขึ้น และจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นในทันที สิ่งที่ตามมาก็จะเกิดการลงทุนในด้านต่างๆ ซึ่งการที่นายธนาธรพูดเช่นนั้นตนเชื่อว่ารู้อยู่แล้วว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เมื่อประสบความสำเร็จก็จะเป็นผลงานของพรรคเพื่อไทยนานเท่านาน เหมือนที่คนไทยชอบพูดว่าพรรคเพื่อไทยมาบริหารเศรษฐกิจก็จะดีทุกครั้งไป ซึ่งอาจกระทบความนิยมของพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ตนมั่นใจว่าจากประสบการณ์ของพรรคเพื่อไทยในอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเครื่องรับประกันได้ว่าจะสามารถนำพาประเทศไทยกลับมาสู่ยุคโชติช่วงชัชวาลได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

'ดร.นิว' ถาม!! 'ธนาธร' 1 ธันวาบอกลาเครื่องแบบ แต่ผ่านมา 3 ปี ลูกๆ คุณบอกลาเครื่องแบบหรือยัง

(2 ธ.ค.66) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า "ครบรอบ 3 ปีแล้วนะครับ วันนี้คุณธนาธรให้ลูกๆ ของตัวเองใส่ชุดปกติไปโรงเรียนแล้วหรือยัง? ลูกๆ ของคุณธนาธรบอกลาเครื่องแบบที่เป็นวัฒนธรรมแห่งการกดขี่แล้วหรือยัง? อย่าบอกนะว่าคุณธนาธรเก่งแต่ยุลูกชาวบ้าน? ลูกตัวเองเป็นเทวดาหรืออย่างไร? ทำไมเหลื่อมล้ำไม่เท่าเทียม? ไหนว่าคนเท่ากัน?"

ทั้งนี้เมื่อ 1 ธ.ค.2564 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า "ชื่นชมในความกล้าหาญของนักเรียนที่ใส่ชุดปกติไปโรงเรียน

ทุกคนในวันนี้ วัฒนธรรมแห่งการกดขี่กำลังถูกทำลายในทุกที่ช่วยกันห้ามไม่ให้มีใครถูกดำเนินคดี/ถูกไล่ออก หรือถูกลงโทษ เพียงเพราะยืนหยัดต่อสู้ระบอบอำนาจนิยม #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ"

'ธนาธร' ชิ่งทัพนักข่าว!! หลังรู้ผลศาลรัฐธรรมนูญ กรณี ‘พิธา-ก้าวไกล’ แก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง

(31 ม.ค. 67) ความคืบหน้าศาลรัฐธรรมนูญมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกลเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ และสั่งการให้ผู้ถูกร้องทั้งสองเลิกการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความโดยวิธีอื่นเพื่อให้มีการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อีกทั้งไม่ให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางเข้ารับฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีใช้นโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 หาเสียงของพรรคก้าวไกล ร่วมกับ สส.ของพรรคก้าวไกล ที่ห้องวอร์รูมของพรรคก้าวไกล ชั้น 6 ห้อง 607 

โดยนายธนาธร กล่าวสั้นๆ ก่อนเข้าห้องวอร์รูมว่า “ผมยังไม่รู้ ขอไปหาเพื่อนนิดนึง ผมยังไม่ได้ฟังคำวินิจฉัย เพิ่งประชุมเสร็จ จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นใดๆ ได้”

เมื่อถามถึงแนวโน้มอาจจะไม่ดีเหมือนที่ประเมินไว้ใช่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้า

ต่อมาในช่วงที่นายธนาธรกำลังเดินเข้าห้องวอร์รูมของพรรคก้าวไกล ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนายธนาธรได้หลบหน้าผู้สื่อข่าว พร้อมเดินออกจากห้องประชุมผ่านไปทางทางหนีไฟ

'ปภส.' ยื่นผู้ตรวจฯ วินิจฉัยปม 'ธนาธร' ถูกตัดสิทธิ์การเมือง แต่ยังโผล่นั่ง 'กมธ.' เปรียบ 'ปารีณา' ถูกตัดสิทธิ์ ยังไม่สามารถเข้ามาทำงานการเมืองได้เลย

(2 ก.พ.67) กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) นำโดยนายทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มฯ ใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 213 เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินผ่านนายเอกพจน์ ถิรวณิชย์ ผู้อำนวยการส่วนตรวจสอบและปฏิบัติการเร่งด่วนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปอยู่หน่วยงานอื่นที่เหมาะสมนั้นเป็นการกระทำที่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5/2563 ลงวันที่ 21 ก.พ.63 หรือไม่

นายทรงชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ.63 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 72 วรรคหนึ่ง (3) และวรรคสอง ประกอบมาตรา 72 เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ 2 ม.ค. 62 หรือ 11 เม.ย.62 ซึ่งเป็นวันที่มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคเป็นเวลา 10 ปี โดยนายธนาธรเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรคที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่กลับพบว่าเมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายปฏิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมได้พิจารณาญัตติของนางสาวเบญจาแสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนหน้าที่การให้บริการไฟฟ้า ที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการของกองทัพไปอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง รวมถึงการถ่ายโอนธุรกิจต่างๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาล ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทาประธานสภา ก็แจ้งว่าดูแล้วสมาชิกทุกคนเห็นตรงกันให้ตั้งกรรมาธิการจึงเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดดังกล่าวมีจำนวน 25 คน โดยกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล มีนายธนาธรมาเป็นกรรมาธิการด้วยมีระยะเวลาการพิจารณา 90วัน และนายธนาธรได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการนัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งตนเห็นว่าเมื่อนายธนาธรถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครแล้วก็ไม่ควรที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวในทางการเมืองอีก

"ผมจึงต้องใช้ช่องทางของผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการที่เขากระทำการเลี่ยงบาลีอย่างนี้มันถูกต้องหรือไม่เมื่อเทียบกับคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองคนอื่นๆ อย่างเช่น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ เขาก็ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาทำงานในทางการเมืองได้เลย แล้วทำไมนายธนาธรจึงทำได้หรือเพราะเป็นนักการเมือง และถ้าเป็นผมซึ่งเป็นประชาชนถ้าถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจะสามารถทำอย่างนั้นได้บ้างหรือไม่ จึงอยากให้ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดินและศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องนี้ให้ชัดเจน" นายทรงชัย กล่าว

'ธนาธร' ไม่สะเทือน หาก ‘ก้าวไกล’ ถูกปิดฉาก รอโกยคะแนนเห็นใจ ปิดปาก 'แม้ว' กลับเชียงใหม่

เมื่อไม่นานมานี้ ที่ร้านพริ้มเพลิน จังหวัดปทุมธานี ในการสัมมนาของกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะวิทยากร ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ว่า สส.พรรคก้าวไกล มีวิจารณญาณ โดยตนเองคิดว่านายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล พิจารณาและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน มีข้อมูลเพียงพอที่จะอภิปรายเพื่อเสนอแนะให้รัฐบาลแก้ไขในด้านต่างๆ

เมื่อถามว่ามั่นใจในพรรคก้าวไกลหรือไม่ ว่าข้อมูลอภิปรายจะแน่นพอในการตรวจสอบรัฐบาล นายธนาธร กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดสภาชุด 2566 มา ตนเองเห็นแต่คุณภาพของ สส. พรรคก้าวไกล เทียบพรรคอนาคตใหม่ ปี 2562 กับก้าวไกล ปี 2566 สส.มีคุณภาพกว่าเยอะมาก อยากเชิญชวนให้ประชาชนติดตามการประชุมสภา เพื่อดูว่า สส. ที่เลือกมาแต่ละคนทำผลงานมากน้อยเท่าไหร่ หากฟังทุกสิ่งที่ สส.ก้าวไกล เสนอต่อรัฐบาล หน่วยงานราชการในด้านต่างๆ ตนเองเชื่อว่าจะเห็นความมุ่งมั่นทำงานที่หนักหน่วง มีคุณภาพ “ดังนั้น ผมไว้เนื้อเชื่อใจ สส.ชุดนี้ครับ”

เมื่อถามว่ามองว่าในการอภิปรายควรมีประเด็นใดบ้าง นายธนาธร กล่าวว่า ตนเองไม่รู้เลยว่าจะอภิปรายอะไรบ้าง แต่เชื่อว่า นายชัยธวัช พิจารณาถี่ถ้วน ไม่ใช่แค่ประเด็นเกมการเมือง แต่เน้นคุณภาพ

เมื่อถามว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเริ่มพิจารณาการยุบพรรคก้าวไกลสัปดาห์นี้ มองเรื่องนี้อย่างไรในฐานะที่พรรคอนาคตใหม่ก็เคยถูกยุบ นายธนาธร ระบุว่า การยุบพรรคไม่ทำให้พรรคก้าวไกลหนักใจ เพราะพรรคก้าวไกลและพรรคอนาคตใหม่ผ่านการยุบพรรคมาแล้ว เชื่อว่าผู้สนับสนุนเข้าใจและพร้อมจะเดินทางต่อ การยุบพรรคจะทำให้คนเห็นอกเห็นใจถึงความไม่เป็นธรรม ความไม่ถูกต้องที่ดำรงอยู่ในประเทศ

เมื่อถามว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือไม่ นายธนาธร หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า แล้วแต่ประชาชน แต่คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล มุ่งมั่นทำงานทุกวันให้ดีที่สุด เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าพวกเราตั้งใจจริงที่จะเปลี่ยนประเทศให้ประเทศไทยดีกว่านี้ ให้ประชาชนเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี

ส่วนประเด็นเรื่อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไป จ.เชียงใหม่ มองว่าเป็นสองมาตรฐานหรือไม่ นายธนาธร พูดทันทีว่า “โห ผมไม่มีความเห็นคิดในเรื่องนี้” เคยตอบไปแล้ว การบังคับใช้กฎหมายต้องเสมอภาค มีนักโทษคดีการเมืองเป็นพันคน เข้าใจว่ามีหลายสิบคนที่ยังอยู่ในคุก พวกเขาไม่ใช่เป็นคนที่ลักขโมยหรือฆ่าข่มขืนใคร พวกเขาเป็นนักโทษทางความคิด การพูดคิดอ่านเขียนไม่ควรเป็นอาชญากร

เมื่อถามว่า มีประชาชนไปรอต้อนรับ นายทักษิณ จะเป็นเป้าให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองหรือไม่ นายธนาธร กล่าวสั้นๆ ว่า “ขอให้ไปถามพรรคเพื่อไทยดีกว่า”

'ธนาธร' ซื้อบ้าน 'นายปรีดี พนมยงค์' ที่เคยใช้อาศัยขณะลี้ภัยฝรั่งเศส หวังให้ผู้คนได้ 'จดจำ-รำลึก' ประวัติศาสตร์การปกครอง 24 มิ.ย. 2475

เมื่อวานนี้ (1 เม.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยในรายการNEWSROOM ทางยูทูบ Thairath Online Originals เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 เมษายน 2567 ระบุว่าตนและภรรยาได้ซื้อบ้านของนายปรีดี พนมยงค์ ที่ฝรั่งเศส เรียบร้อยแล้ว

“เราอยากให้คนรำลึก อยากให้คนจำประวัติศาสตร์ 2475 เวลาเราไปอเมริกาคนจะเชิดชู 4th of July Independence Day ส่วนฝรั่งเศสเชิดชู คุกบัสตีย์ (Bastille Day) วันที่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ ที่เชิดชูสิทธิเสรีภาพ อิสรภาพของประชาชน แต่วันที่ 24 มิถุนา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นวันชาติที่ถูกหลงลืมไป ประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ 24 มิถุนา ก็หายไป เราต้องบอกว่า เราต้องต่อสู้กับเรื่องพวกนี้ เพื่อให้คนตระหนัก ให้คนระลึกถึงความสำคัญของคนที่ต่อสู้ผลักดันสิทธิเสรีภาพให้กับประชาชนไทยมาก่อนหน้าเรา”

“เมื่อปีที่แล้ว ทางชาวเวียดนามเจ้าของบ้าน มีความประสงค์อยากจะขาย เพราะคุณยายที่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มานานได้เสียชีวิต เราเลยคิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะเก็บบ้านนี้ไว้ เพื่อให้เป็นประวัติศาสตร์ เพื่อจะให้มีการพูดถึงอาจารย์ปรีดี ที่ต่อสู้ทางการเมืองจนต้องลี้ภัยไปใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วก็เสียชีวิตในบ้านหลังนี้”

หลังจากนั้น นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ (x) ระบุว่า นายธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ ได้ซื้อบ้านของนายปรีดี พนมยงค์ ที่ประเทศฝรั่งเศส ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ 24 มิถุนายน 2475 โดยระบุข้อความดังนี้
ธนาธร ได้ซื้อบ้านหลังที่ อ.ปรีดี พนมยงค์ เคยไปอาศัยลี้ภัยและเสียชีวิตที่นั่น ตั้งอยู่ที่เมืองอองโตนี ประเทศฝรั่งเศส ไว้เรียบร้อยแล้ว

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้คนได้จดจำรำลึกถึงประวัติศาสตร์ช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสำคัญจัดเป็นวันชาติไทย

แต่ในปัจจุบันนี้ ปวศ.ที่เกี่ยวข้องกับวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 ได้มีความพยายามถูกทำให้ลบเลือนและสูญหายไป

โดยจะมีการจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย.นี้ ที่ประเทศฝรั่งเศส

'ดร.นิว' ชำแหละ!! 'ธนาธร' ชี้นำการเลือก สว. ชุดใหม่ ทำให้นึกถึงหัวหน้าปรสิตใน Parasyte: The Grey

(24 เม.ย.67) นายศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ 'ดร.นิว' นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุว่า...

เห็นนายธนาธรชี้นำการเลือก สว. ชุดใหม่ ทำให้นึกถึงหัวหน้าปรสิตใน Parasyte: The Grey ที่กระเสือกกระสนดิ้นรนให้ได้มาซึ่งอำนาจโดยการครอบงำองค์กรมนุษย์ วาทกรรม สว. ประชาชน ที่กล่าวอ้าง ความจริงเป็นขบวนการชี้นำการสมัครเพื่อฮั้วโหวตแบบพวกมากลากไป หวังนำไปสู่การผลิต สว. ธนาธร ใช่หรือไม่?


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top