Saturday, 18 May 2024
ทองคำ

'ซาอุฯ' ขุดพบเหมืองทองคำใหม่ ยาวนับ 100 กิโลเมตร คุณภาพเกรดพรีเมี่ยม ตีมูลค่าเกือบ 1,800 ล้านล้านบาท

อู้ฟู่ทั้งน้ำมันดิบและทองคำ หลัง 'ซาอุฯ' ขุดเจอเหมืองทองคำใหม่ยาวนับ 100 กิโลเมตรในประเทศ ตีมูลค่าเกือบ 1,800 ล้านล้านบาท คาดเป็นศูนย์กลางทองคำใหม่ในตะวันออกกลาง หนุนดึงดูดต่างชาติมาลงทุนทางตรงในอุตสาหกรรมเหมืองของซาอุฯ

(11 ม.ค.67) BTimes รายงานว่า ทาง 'ซาอุดี อาระเบียน ไมน์นิ่ง' ซึ่งเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมขุดเหมืองแร่และโลหะธรรมชาติในประเทศซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยว่า ได้ขุดค้นพบเหมืองแร่ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ในภูมิภาคมักกะห์ในประเทศซาอุดีอาระเบีย 

โดยจุดที่ขุดค้นเจอทองคำมีลักษณะเป็นเหมืองทองคำแนวนาวทอดตัวเป็นระยะความยาว 100 กิโลเมตรทางตอนใต้ของเหมืองทองคำมาน ซูราห์-มาสซาราห์ ในเมืองมาอาเดน 

เจ้าหน้าที่สำรวจและขุดเจาะ เปิดเผยว่า ตัวอย่างแร่ทองคำที่สุ่มเก็บจาก 2 จุดในแนวเหมืองทองคำ ซึ่งอยู่ลึกลงไปถึง 400 เมตร และอยู่ติดกับมันซูราห์ มัสซาราห์ ตรวจพบว่า เป็นแหล่งสะสมทองคำคุณภาพระดับสูง วัดได้ 10.4 กรัมต่อตัน และ 20.6 กรัมต่อตัน ทำให้มูลค่ายิ่งมากขึ้น ที่สำคัญ ขั้นตอนการสกัดแร่ทองคำจะง่ายขึ้นกว่าปกติ 

(ภูมิภาคมันซูราห์ มัสซาราห์ ในประเทศซาอุดีอาระเบียเป็นแหล่งที่มีทองคำมากเกือบ 7 ล้านออนซ์นับถึงสิ้นปี 2023 และมีกำลังการผลิตทองคำถึงปีละ 250,000 ออนซ์)

การขุดค้นพบในครั้งนี้ ทำให้เหมืองทองคำในบริเวณดังกล่าวมีทองคำสะสมรวมมากกว่า 200 ตัน ตีมูลค่ามากถึง 50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 1,750 ล้านล้านบาท 

ขณะที่ในปี 2020 เหมืองทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียที่มีชื่อว่า 'ซูคอย ลอก' มีทองคำสะสมราว 40 ล้านออนซ์ และเหมืองทองคำในประเทศแอฟริกาใต้ที่มีชื่อว่า 'เซาท์ ดีพ' มีทองคำสะสมราว 32.8 ล้านออนซ์ อย่างไรก็ตาม ในด้านการผลิตทองคำ กลับพบว่าเหมืองทองคำเนวาด้าในสหรัฐอเมริกาเป็นรายใหญ่ที่สุดด้วยกำลังการผลิตสูงถึงปีละ 3.3 ล้านออนซ์ คิดเป็น 3% ของกำลังการผลิตทองคำทั่วโลก 

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้เคยประกาศนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคใหม่ โดยหวังที่จะลดน้ำหนักการพึ่งพาส่งออกน้ำมันดิบ ในฐานะเป็นประเทศที่ผลิตและส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลกมาเป็นเวลานาน ทำให้มองหาช่องทางที่จะผลักดันภาคเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยว การบริการ และการเงิน รวมไปถึงการขุดเหมือง ที่จะดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ซึ่งการค้นพบทองคำในครั้งนี้ อาจช่วยให้ซาอุดีอาระเบีย ลดการนำเข้าโลหะมีค่าได้ 

ทั้งนี้ ในปี 2021 ซาอุดีอาระเบียนำเข้าทองคำมูลค่า 36,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.28 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นสินค้านำเข้ามากเป็นอันดับ 4 รองจากปิโตรเลียมกลั่น อุปกรณ์กระจายเสียง และ ยานพาหนะ

ผอ.ศูนย์วิจัยทอง ชี้ ทองขาขึ้นเต็มตัว ทุบสถิตินิวไฮไม่มีหยุด ลุ้นแตะ 38,000 บาท

(2 มี.ค. 67) นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 600 บาท ภายใน 2 วันทำการ โดยล่าสุดทองคำแท่งราคารับซื้ออยู่ที่ 35,100.00 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 35,200.00 บาทต่อบาททองคำ ทองรูปพรรณราคารับซื้ออยู่ที่ 34,473.84 บาทต่อบาททองคำ ขายออก 35,700.00 บาทต่อบาททองคำ ทำให้ราคาที่ปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรงขณะนี้ ถือว่าทองคำกลับมาเป็นขาขึ้นแล้ว ซึ่งความจริงวกกลับมาเป็นขึ้นตั้งแต่ช่วงราคาแตะ 34,400 บาทต่อบาททองคำแล้ว ขณะนี้ถือเป็นการทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หรือออลไทม์ไฮ โดยเป้าหมายราคาในระยะยาวช่วง 1-2 ปีนี้ ที่ระดับราคา 38,000 บาทต่อบาททองคำ ถือว่ามีความเป็นไปได้ ส่วนในช่วงสั้นๆ นี้ คาดว่าราคาจะปรับขึ้นไปที่ 36,000 บาทต่อบาททองคำได้

“ทองคำกลับหัวเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัวแล้ว ทำลายสถิติสูงสุดที่เคยขี้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้อานิสงส์จากการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ที่ออกมาน้อยกว่าคาดไว้ ประมาณ 2% กว่า ซึ่งถือเป็นระดับที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องการควบคุมให้อยู่ระดับประมาณนี้อยู่แล้ว จึงเป็นความหวังให้เฟดถึงเวลาปรับลดดอกเบี้ยลงแล้ว บวกกับเงินบาทอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ถึงแม้ช่วงวันที่ผ่านมาจะแข็งค่าขึ้นบ้าง เพราะมีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) เข้ามา แต่ก็ยังอ่อนค่าอยู่ ถือเป็นแรงสนับสนุนราคาทองคำได้อย่างต่อเนื่อง” นายพิบูลย์ฤทธิ์ กล่าว

นายพิบูลย์ฤทธิ์ กล่าวว่า ราคาทองคำสปอต อยู่ประมาณ 2,080 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ คาดว่าจะวิ่งขึ้นไปที่เดิมระดับ 2,140 เหรียญสหรัฐต่อบาททองคำ ซึ่งหากปรับขึ้นไปแล้ว จะมีแรงซื้อเข้ามาจากกลุ่มซื้อเทคนิคเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ราคาทองคำจะยิ่งถูกดันสูงขึ้นไปอีก ไม่แตกต่างจากทองคำไทย ที่นักลงทุนมีความเก่งมาก สะท้อนจากตอนนี้ที่แม้มีการปรับขึ้นกว่า 600 บาทต่อบาททองคำแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นแรงขายออกมากนัก โดยในช่วงต่อจากนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณลบของราคาทองคำเข้ามาด้วย เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนอยู่หลายเรื่อง โดยเฉพาะความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ สงครามต่างๆ ภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทองคำจึงถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความต้องการสูง เป็นหลุมหลบภัยชั้นดี และหากเฟดประกาศลดดอกเบี้ยลงแล้ว จะถือว่าของแสลงของทองคำหมดลง ปัจจัยลบที่มีผลกระทบหนักสุดจะหายไป เป็นผลบวกต่อราคาทองคำในระยะถัดไปด้วย

ส่อง 10 ชาติเอเชีย ที่มี 'ทองคำ' สำรองมากที่สุด ประจำปี 2024

ในขณะที่ทองคำโลกราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สถานะการคลังของประเทศไทยก็ใช่ย่อย เพราะมีทองตุนไว้ มากกว่า 200 ตัน เพื่อเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ
 

คาด!! ราคาทองอาจพุ่งขึ้นต่อไปในระยะยาวจนถึงปีหน้า  เหตุเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย 'ในภาวะสงคราม-เงินดอลฯ แข็งค่า'

(11 เม.ย. 67) จากบทสัมภาษณ์กับนายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก ในรายการ Business Tomorrow ได้เผยว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง โดยจะเป็นคลื่นของราคาทองขึ้นลูกที่ 5 

นพ.กฤชรัตน์ กล่าวว่า การขึ้นของราคาทองในคลื่นลูกที่ 5 นี้ จะพุ่งขึ้นสูงได้ไกลและขึ้นได้ในระยะยาวโดยมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปได้ถึงปีหน้า โดยนพ.กฤชรัตน์กล่าวว่า ในระยะ 3-4 ปีก่อน แม้ราคาจะยังคงแกว่งขึ้นลงตามรูปแบบกราฟตามรายเดือนแล้ว ราคาทองในปีนี้กำลังอยู่ในวัฎจักรของตลาดขาขึ้นอย่างเต็มตัว นพ.กฤชรัตน์ยังกล่าวว่า ราคาทองคำกำลังขึ้นในรูปแบบ 'Cup and Handle' ซึ่งเป็นกราฟขาขึ้นที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถไว้วางใจได้เป็นอย่างมาก

สำหรับเหตุผลของตลาดขาขึ้นของราคาทองคำมาจาก 2 ปัจจัย...

1. สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นเกินระดับของ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไวกว่าการคาดการณ์ที่มองว่าราคาทองจะพุ่งขึ้นในช่วงหลังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดลดดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว ทำให้ทองคำที่มองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหรือ Safe Haven 

2. เงินดอลลาร์ที่ยังแข็งอยู่ทำให้นานาประเทศกังวลการเก็บพันธบัตรสหรัฐไว้ โดยในช่วงสงคราม ยังกังวลเรื่องการที่ทุนอาจถูกสหรัฐฯ ยึดได้ในกรณีที่มีปัญหาต่อกัน จึงมองไปที่การซื้อทองคำเข้ามาถือ ธนาคารกลางทั่วโลกเลือกที่จะซื้อทองคำมาถือไว้แทน 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top