Sunday, 19 May 2024
ตำรวจไทย

ตำรวจภูธรภาค 5 จัดไหว้ครูมวยไทยยิ่งใหญ่ พร้อมยกระดับมวยไทยให้เป็น Soft Power

เมื่อวันที่ (7 เม.ย. 66) ที่ ลานประตูท่าแพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับบัญชา ตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานพิธีไหว้ครูมวยไทย ตำรวจภูธรภาค 5 โดยมี ร้อยโทสมบัติ บัญชาเมฆ (บัวขาว) และครูมวยค่ายบัญชาเมฆ ร่วมพิธีไหว้ครูมวยไทยดังกล่าว 

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า โครงการ ‘มวยไทย ตำรวจไทย มรดกไทย ตำรวจภูธรภาค 5’ ประจำปี 2566 จัดขึ้นตามโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้มีแนวคิดยกระดับมวยไทยให้เป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย โดยมีแนวคิดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมวยไทยในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศและระดับสากลทั่วโลก และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการให้ได้ผลอย่างจริงจังในทุกตำรวจภูธรภาค

‘ตร.สืบสวน’ ซ้อนแผนรวบ ‘ตั้มฟองเบียร์’ หนุ่มมีรสนิยมใคร่เด็ก ลวง ด.ญ.อายุต่ำกว่า 15 ปี 3 ราย มีเพศสัมพันธ์-ถ่ายคลิปอนาจาร

(12 เม.ย. 66) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.สส. 4 บก.สส.บช.น., พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ, ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น, ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา, ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ, จ.ส.ต.เอกวุฒิ เชื้อโชติ, ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) จับกุม นายศรัณย์ หรือฉายา ‘ตั้มฟองเบียร์’ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดศรีษะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.228/2566 ลงวันที่ 27 มี.ค. 66

ข้อหา “ปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา” โดยชุดจับกุมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” จับกุมได้ที่ ริมถนนในซอยเอกชัย 64/5 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน จังหวัดกรุงเทพเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบนครบาล ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กเพจ สืบสวนนครบาล IDMB โดยผู้เสียหายแจ้งว่า ลูกสาววัย 11 ปี นักเรียนชั้นป.6 ถูกคนร้ายซึ่งมีศักดิ์เป็น ‘อดีตน้าเขย’ พาตัวหนีออกไปจากบ้านกว่า 11 วัน และกระทำชำเราจำนวนหลายครั้ง ซึ่งตนแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม

ปัจจุบันออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว แต่ยังลอยนวล เกรงว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย แล้วอาจจะถ่ายคลิปโป๊เก็บไว้ จากตรวจสอบแล้วคือ นายศรัณย์ อายุ 30 ปี ชาว อ.พยุห์ จ.ศรีษะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.228/2566 ลงวันที่ 27 มี.ค.66 โดยผู้เสียหายขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามจับกุมตัวโดยเร็ว เพราะครอบครัวของผู้เสียหายไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ ต้องอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวว่า คนร้ายจะมาพาตัวลูกสาวไปอีก

หลังรับแจ้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมได้ตรวจสอบประวัติของ น.ส.ศรัณย์ พบประวัติเคยต้องโทษกว่า 4 คดี 1.) พ.ศ. 2553 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล” 2.) พ.ศ. 2555 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “ใช้สารระเหย” 3.) พ.ศ. 2558 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง” และ 4.) พ.ศ. 2558 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย”

พล.ต.ต.ธีรเดช จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) ลงพื้นที่โดยเริ่มจากการเข้าไปพบปะพูดคุยกับครอบครัวของเหยื่อ จนทราบข้อมูลว่าหลังจากที่ครอบครัวของเหยื่อพากันไปแจ้งความ นายศรัณย์หลบหนีไปไม่สามารถติดตามตัวได้ จนกระทั่ง ตนลงมาควบคุมการปฏิบัติด้วยตนเองและเปิดแผนปฏิบัติการสุดคลาสสิค คือการใช้ ‘นางนกต่อ’ ติดต่อไปหา นายศรัณย์จนกระทั่งสามารถตกลงนัดหมายได้

กระทั่งเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 66 เวลา 18.40 น. เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายศรัณย์เดินทางมา ณ จุดนัดหมาย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่แล้ว ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบสวนนครบาลเข้าจับกุมตัว นายศรัณย์ตามหมายจับ โดยจับกุมขณะกำลังนั่งรอเด็กนกต่ออยู่ริมถนน ในซอยเอกชัย 64/5 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ

จากการสอบสวนนายศรัณย์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเหยื่ออายุ 11 ปี กระทั่งมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่อเดือน ม.ค.66 บนรถที่ตนใช้ทำงาน และหลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์กันอีกหลายครั้ง

กระทั่งทางบ้านของเหยื่อจับได้และมาติดตาม ตนจึงพาเหยื่อ 11 ปี รายนี้หลบหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลากว่า 11 วัน และสุดท้ายเหยื่อก็ขอกลับบ้าน ตนก็ได้ปล่อยไป และยังยอมรับอีกว่านอกจากเหยื่อรายนี้ยังมี เด็กหญิงวัย 15 ปี อีกคนหนึ่ง ซึ่งตนคบหากันเป็นแฟนและเคยมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันมาแล้ว

โดยตั้งใจจะคบเป็นภรรยาทั้ง 2 คน และในอดีตตนเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งตอนนั้นตนมีความสัมพันธ์กับเด็กหญิงอายุ 14 ปี ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบว่าตนชอบเด็กเพราะอะไร และยอมรับว่าเคยถ่ายคลิประหว่างการมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อรายอายุ 15 ปี ไว้ในโทรศัพท์ แต่ไม่ได้ไปเผยแพร่ที่ไหน”

ชุดสืบสวนขยายผลการจับกุมจนพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ นายศรัณย์คือคลิปโป๊ ซึ่งเป็นการบันทึกภาพระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อจริง และยังมีภาพลักษณะวาบหวิวของเหยื่ออีกด้วย จึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฏหมาย

ตำรวจไทย คว้ารางวัลความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติเป็นปีแรก จากสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังปราบทุนจีนเทา คอลเซ็นเตอร์ และทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยมี 46 ชาติร่วมแสดงจุดยืน ขณะที่รัฐมนตรีตรีจีนให้คำมั่น นทท.จีนไปไทยทะลุ 10 ล้านคนแน่ หลังไทยเปิดฟรีวีซ่า

หลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ มาอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของทุนจีนสีเทาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไปจนถึง ปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวได้เห็นประเทศไทยเพียงด้านเดียว มายาวนาน รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของจีน ได้ประกาศมอบรางวัลเหรียญสดุดี The Gold Great Wall Commemorative Award (เหรียญทองกำแพงเมืองจีนสดุดีตำรวจชั้นสูงสุด)หรือรางวัลความร่วมมืออันดียิ่งในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการมอบรางวัลนี้ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

นอกจากมอบรางวัลการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติแล้ว รัฐบาลจีน ยังได้แสวงหาความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติกับนานาประเทศโดยมี กลุ่มประเทศมากกว่า 46 ประเทศสนใจเข้าร่วม ประชุมความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ที่เมืองเหลียนหยุนก่าง มณฑลเจียงซู สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายหวังเฉี่ยว หง รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคำมั่นคงของจีนเป็นประธาน

และจากการพูดคุยแบบทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน กับ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มาประชุมในครั้งนี้ ได้มีการพูดคุยถึงแนวทางในการดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยระบุว่าขณะนี้รัฐบาลไทยเปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และจะ ใช้เทคโนโลยีในการติดตามดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะตามหัวเมืองสำคัญในโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน ซึ่งปัจจุบันได้นำร่องในหลายเมืองแล้ว

เสียง
พล ต อ สุรเชษฐ์ หักพาล
รอง ผบ ตร

ขณะที่รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนเปิดเผยว่า ไทยยังคงเป็นประเทศปลายทางที่คนจีน อยากเดินทางไปท่องเที่ยวโดยที่ผ่านมามีคนจีนไปเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 12,000,000 คนแต่หลังจากสถานการณ์โควิดทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงแต่เชื่อมั่นว่ามาตรการที่จะทำร่วมกันจากนี้จะทำให้คนจีนมีความมั่นใจและเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยมากกว่า 10,000,000 คนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้น่าจะเริ่มต้นในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวจีน โดย กลุ่มจังหวัดที่ชาวจีนอยากแวะไปเยือนอย่างเป็นทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะกระบี่ ภูเก็ต และพังงา

เสียง 
ฉู่ กานลู่
รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ จีน

นอกจากนี้ยัง เปิดเผยด้วยว่าจะส่งหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีไปทำงานร่วมกับประเทศไทยในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลังจาก พบเบาะแสว่ามีกลุ่มคนจีนไปแอบฟังคอลเซ็นเตอร์ตามตะเข็บชายแดนระหว่างประเทศไทยกับลาว  เมียนมาร์ และกัมพูชา พร้อมทั้งระบุว่าที่ผ่านมาได้ส่งทีมงานเข้าไปกวาดล้างรอบแรกแล้วในพื้นที่ของชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์ จึงได้ผู้ต้องหาชาวจีนกลับมานับ 100 คน 

'นทท.ต่างชาติ' ขอบคุณทั้งน้ำตาหลังได้กล้องคืน ลั่น!! "ตำรวจไทย คือ ตำรวจที่ดีที่สุดในโลก"

(16 ต.ค. 66) "กล้อง ผมซื้อใหม่ได้ แต่รูปภาพพวกนี้ ผมจะหาได้จากที่ไหนอีก" นักท่องเที่ยวชาวสเปนกล่าวทั้งน้ำตา หลังได้รับ E-Mail จากสืบดอนเมืองให้มารับกระเป๋ากล้อง และเมื่อเปิดกระเป๋าเพื่อตรวจสอบของมีค่าด้านใน ปรากฏว่าสิ่งของภายในอยู่ครบหมด ไม่มีหายเลยสักชิ้น ทั้งกล้องและเมมโมรี่การ์ดและอื่น ๆ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล 

โดยคลิปดังกล่าวนี้กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน หลังจากผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งที่ชื่อว่า @vikkipatara หรือ หมวดไวกิ้ง ได้แชร์คลิปนักท่องเที่ยวชายชาวสเปนรายหนึ่งที่ได้กระเป๋ากล้องคืนหลังทำหายไป โดยทางนักท่องเที่ยวชายรายนี้ดีใจมากที่เมมโมรี่การ์ดของเขายังอยู่ เพราะเขารู้สึกว่าต่อให้กล้องจะหายไป เขายังสามารถเก็บเงินซื้อได้ใหม่ แต่หากเมมโมรี่การ์ดในกล้องที่บันทึกภาพความสวยงามของเมืองไทยนั้นหายไป เขาคงเสียใจเป็นอย่างมาก

เขากล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจดอนเมืองทั้งน้ำตา พร้อมกับบอกอีกว่าเมื่อเขากลับสเปน เขาจะไปบอกกับชาวสเปนทุกคนว่า ‘ตำรวจไทย’ ดีขนาดไหน สำหรับใครที่จะมาเที่ยวเมืองไทย จะได้รู้สึกปลอดภัย และย้ำอีกว่า "พวกคุณคือตำรวจที่ดีที่สุดในโลก" งานนี้เล่นเอาคุณตำรวจในคลิปถึงกับซึ้งจนน้ำตาไหลเลยทีเดียว

'บิ๊กต่อ' ยัน!! ไม่เห็นด้วยนำตำรวจจีนเข้ามาดูแล นทท.จีนในไทย ย้ำ!! ตร.ไม่เคยนำเสนอรัฐบาล เชื่อเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร

(13 พ.ย.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือร่วมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และคณะ ถึงประเด็นเล็งนำตำรวจจีนมาร่วมลาดตระเวน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ว่า…

แนวคิดดังกล่าวไม่มีทางเกิดขึ้น และได้รับการยืนยันแล้วว่าทุกฝ่ายไม่เห็นด้วยกับการนำตำรวจจีนเข้ามาในราชอาณาจักร เพราะมีผลกระทบในหลายมิติ หากเริ่มต้นนำตำรวจจีนเข้ามาในประเทศไทยในวันนี้ อนาคตก็จะต้องให้ตำรวจจากชาติอื่นๆ เข้ามาด้วย และตำรวจไทยก็จะไม่มีบทบาทหน้าที่อย่างเหมาะสม

ดังนั้นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องช่วยกันพัฒนาศักยภาพของตำรวจไทยให้เข้มแข็งมากขึ้น เพื่อให้สามารถดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวได้ แต่กระแสข่าวที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร ดังนั้นเพื่อให้เกิดความชัดเจน คณะกรรมาธิการจัดทำหนังสือขอให้รัฐบาลชี้แจงประเด็นดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกฝ่ายในการปฏิบัติ

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยสอดคล้องกันว่า ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการนำตำรวจจีนเข้ามาดูแลนักท่องเที่ยวจีนในไทย เพราะเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย และตำรวจไทยมีศักยภาพในการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวเพียงพอ แต่กรณีที่เกิดขึ้นในอิตาลีนั้น เชื่อว่าเกิดจากปัญหาด้านการสื่อสารทางภาษา จึงมีการนำตำรวจจีนมาช่วย แต่สำหรับประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาดังกล่าว ยืนยันว่าแนวคิดดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของประเทศ

พร้อมยืนยันว่า แนวคิดดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้เป็นผู้เสนอ หรือร้องขอไปยังรัฐบาล เชื่อว่าเป็นความเข้าใจผิดในการสื่อสาร โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยมีการพูดคุยกันในประเด็นการจัดตั้งศูนย์ประสานงานกับทางการจีน เพราะเมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับจีน ก็จำเป็นที่จะต้องมีการประสานข้อมูลคนร้ายและข้อมูลคดีกัน และที่ผ่านมามีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดผู้ประสานงาน ซึ่งมักจะเป็นตำรวจจีนที่ดูแลสถานทูตจีนประจำประเทศไทย อาจทำให้เกิดความสับสนขึ้น

‘ตำรวจไทย’ โอด!! ปม ‘ยกเลิกครูเวร’ จะให้ไปเฝ้าโรงเรียนแทน ลั่น!! ใช้ไปทำโน่นนี่ที่ไม่ใช่หน้าที่ ควรจ่ายเบี้ยเลี้ยงที่เหมาะสมด้วย

(25 ม.ค. 67) จากกรณี ครูถูกทำร้ายร่างกาย ขณะอยู่เฝ้าเวรโรงเรียนในวันหยุด ที่ จ.เชียงราย จนทำให้เกิดการเรียกร้องให้ยกเลิกการอยู่เวรของครูทั่วประเทศ ผ่านแฮชแท็ก ‘ยกเลิกครูเวรกี่โมง’ จนมีมติ ครม.ยกเลิกการอยู่เวรของครูในโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศ มีผลทันที 23 ม.ค. 67 นั้น

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กภาพโปรไฟล์สวมเครื่องแบบ ตร. รายหนึ่ง โพสต์ข้อความในกลุ่มที่มีไว้เพื่อสื่อสารกับเพื่อนๆ ในวงการตำรวจ ว่า

“ล่าสุดจะให้ตำรวจไปเฝ้าโรงเรียนแทนครูแล้ว ถ้ามีคำสั่งลงมาก็ต้องไปแหละ แต่ก็อยากให้มองอีกมุมหนึ่ง ตำรวจชั้นประทวนไม่ค่อยมีเวลากับเงินหรอก เอาเวลางานไปทำนั้นนู่นนี่ที่ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ ก็ควรจะให้เบี้ยเลี้ยงที่เหมาะสมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย”

โดยภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีสมาชิกในกลุ่มเข้าไปแสดงความคิดเห็น ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เช่น…

- ทุกภารกิจ ได้ดีก็แต่คนสั่ง ทั้งเงินทั้งงาน
- เหนื่อยกับความคิดนายว่ะ
- ทำไมไม่จัดสรรกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ไม่ดีกว่าหรือ ส่องมันให้ทุกซอกทุกมุมในรร. ให้ผอ. ควบคุมตรวจตรากล้อง มีไรผิดปกติก็แจ้งตำรวจพื้นที่ได้หนิครับ จะโยนหน้าที่ของตัวเองให้เพื่อนทำไม ดูตำรวจทำทุกหน้าที่เกินเวลา โอทีไม่เคยได้ แต่ไม่บ่นสักคำ
- เขาหวังดีค่ะ อยากให้ครูได้ผัวตำรวจ 555
- แบบนี้ต้องเพิ่มเงินเดือนให้เขาแล้วใช้กันมั่วไปหมด
- มันก็ยังดีกว่าไปยืนข้างคูน้ำ รอบๆ กำแพงสูงๆ ทั้งที่ก็มีทหารกองเป็นเบืออยู่แล้วป่ะ…ร้านทอง , ธนาคาร, สหกรณ์ฯ ก็นั่งมาแล้ว เพิ่มโรงเรียนอีกที่จะเป็นไรไป กำลังพลไม่พอ ก็เปิดรับเข้ามาอีก ดีซะอีกจะได้จับตาดูเยาวชนแบบใกล้ชิด ดีไม่ดี ตกเย็นชวนเด็กเตะตะกร้อเดิมพัน ได้ตังค์ได้ออกกำลังกายด้วย 5555555


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top