Saturday, 18 May 2024
จุรินทร์_ลักษณวิศิษฏ์

‘จุรินทร์’ สับงบประมาณ 67 ล่าช้า มีเวลาใช้เพียง 5 เดือน แถมลอก ‘ลุงตู่’ มาปรับ แต่กลับกระตุ้น ศก.ได้แค่ 70%

(3 ม.ค. 67) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลุกขึ้นกล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ในวงเงิน 3.48ล้านล้านบาท วาระแรก เป็นวันแรกตอนหนึ่ง ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 แม้จะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เรียนว่าเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลเสนอแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ก็ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออก หรือไม่ก็ยุบสภาฯ ซึ่งก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่มีหน้าที่ต้องไประดม สส. รัฐบาลมาลงคะแนนเสียงให้ได้ และเชื่อว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาวาระแรกได้ เพราะรัฐบาลมีเสียง สส. ในสภาฯ แบบเด็ดขาด ถึง 314 เสียง ถ้าไม่ผ่านตนคิดว่านายกรัฐมนตรี ต้องเลิกใส่ถุงเท้าสีแดงและพิจารณาตัวเองได้แล้ว

“ยืนยันว่าฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบทั้งตัวงบประมาณฯ ถ่วงดุล สอบถามและแสดงความเห็น และผู้ใช้งบประมาณฯ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวคำแถลงมาทุกอย่างดีหมด ซึ่งงบประมาณฉบับนี้ ถือเป็นงบประมาณฉบับแรกของรัฐบาลชุดนี้ เกิดจากการเอางบฯ ปี 66 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ มารื้อทำใหม่หมด ส่งผลให้ปฏิทินงบปีนี้ล่าช้าไปกว่า 9 เดือน เพราะมันแต่ใช้เวลาไปตั้งรัฐบาล เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหลายเดือน แต่หลัง ครม.มีมติให้รื้องบประมาณดังกล่าว ก็ใช้เวลาอีกหลายเดือนเช่นเดียวกันกว่าจะกลับเข้าสู่สภาฯ ได้ ทำให้พ.ร.บ.งบปี 67 นี้ ต้องไปบังคับใช้ประมาณเดือน พ.ค. จึงส่งผลให้ พ.ร.บ.งบฯ ฉบับนี้ เป็นงบฯ ฉบับเป็ดง่อย” นายจุรินทร์ กล่าว

ทั้งนี้ เพราะงบประมาณทั้งสิ้น 3.48 ล้านล้านบาท รัฐบาลมีเวลาใช้เงินแค่ 5 เดือน จากปกติ 12 เดือน เท่ากับว่ามีเวลาใช้เงินแค่ 40 เปอร์เซ็นต์ และที่สำคัญคือ ประสิทธิภาพของการใช้เงิน เรื่องของใช้เงินงบลงทุนที่เป็นหัวใจสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่มีเวลาใช้เพียง 5 เดือน สุดท้ายก็จะเป็นงบเป็ดง่อยไม่สามารถนำไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้เต็มร้อยตามที่พูดไว้

นายจุรินทร์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มีรัฐมนตรีจำนวน 34 คน แต่โลกลืมไปแล้วจำนวนกี่คน สองมือรวมกันนิ้วยังมีไม่พอให้นับ โดยนายกรัฐมนตรีพยายามตีปี๊บบอกว่า เศรษฐกิจกำลังวิกฤตต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจแบบขนาดใหญ่ แต่ขณะเดียวกันงบประมาณแผ่นดิน ที่มีผลต่อ GDP ถึงร้อยละ 18 กลายเป็นเป็ดง่อย แล้วจะไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายได้อย่างไร ยืนยันว่า งบประมาณที่นายกรัฐมนตรีไปสั่งรื้อนั้น ไม่มีอะไรเข้ามาใหม่ เป็นงบที่เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาดำเนินการ และยังมีอีกหลายเรื่องที่แย่กว่าเดิม โดนแบ่งเป็น 4 ประเด็น คือ…

1. งบฉบับนี้ยังขาดดุลเหมือนเดิม และจะขาดดุลต่อไปจนครบอายุรัฐบาลนี้คือ 4 ปีเต็ม

2. งบประมาณของรัฐบาลชุดนี้เพิ่มขึ้น แต่งบการลงทุนน้อยลงกว่าเดิม แต่กลับเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำแทนคิดเป็น 44 เปอร์เซ็นต์

3. งบประมาณกลาง ซึ่งพอไปดูเนื้อใยแล้ว เป็นงบสำหรับกรณีฉุกเฉิน ที่เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีโดยตรง กลับเพิ่มขึ้น ซึ่งทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็เคยต่อว่ารัฐบาลที่ผ่านมา แต่กลับทำเสียเอง “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”

4. งบประมาณฉบับนี้เป็นงบประมาณคิดใหญ่ ทำเป็น แต่กลับมาเป็นคิดกู้ ทำกู้ ซึ่งสิ่งรัฐบาลที่แล้วทำไว้ คือกู้ 5.93 แสนล้าน แต่รัฐบาลนี้นำไปรื้อ กลายเป็นกู้เพิ่มขึ้นเป็น 6.93 แสน กู้เพิ่มขึ้นแสนล้านบาท ทั้งที่พวกท่านเคยวิจารณ์รัฐบาลที่แล้วว่าเป็น ‘นักกู้แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา’ แต่ตนคิดว่ารัฐบาลนี้กลายเป็น ‘นักกู้ถุงเท้าสีชมพู’

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของงบประมาณกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมเช่นกัน ตนสนับสนุน ถ้าจะนำเงินไปยกระดับควบคุมผู้ต้องขัง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และหลักสิทธิมนุษยชน โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ โดยมีสถานที่เป็นเรือนจำ และทัณฑสถาน ครอบคลุมผู้ต้องขัง 2.8 แสนคนทั่วประเทศ ถ้ารัฐบาลดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์

“ผมมีคำถามว่ารัฐบาลในฐานะผู้ใช้งบประมาณ ได้บริหารโครงการตามวัตถุประสงค์ โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง 2.8 แสนคนหรือไม่ เพราะมีข้อสงสัยเกิดขึ้นในสังคมว่าทำไมรัฐบาลนี้จึงปล่อยให้นักโทษบางคนเข้าคุกทิพย์มาแล้วกว่า 120 วัน แต่ยังไม่เคยติดคุกจริงแม้แต่วันเดียว” นายจุรินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงนายจุรินทร์ทันที โดยฟ้องต่อประธานฯ ว่า เป็นการอภิปรายนอกประเด็น “ผมไม่คิดว่านายจุรินทร์ อดีตรัฐมนตรี จะลุกขึ้นอภิปรายงบประมาณ เพราะท่านล้มเหลวมาตลอด อภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายก็ได้คะแนนน้อยกว่าคนอื่นเขา นี่ก็ลากออกไปนอกประเด็นใช้สไตล์เก่า ๆ ผมไม่เห็นด้วยที่จะนำเรื่องข้างนอกเข้ามาสู่สภาฯ ผมรู้ว่าคนที่นายจุรินทร์ กำลังพูดถึงคือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถูกกลั่นแกล้งไปอยู่เมืองนอก 17 ปี แต่ต้องเข้าใจว่า ทุกครั้งที่ขออนุญาต มีใบรับรองจากอธิบดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายครูมานิตย์ กล่าว

จากนั้น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ผู้อภิปรายยังคงอภิปรายอยู่ในประเด็น แต่ขอให้นายจุรินทร์หลีกเลี่ยงไม่ระบุชื่อบุคคลภายนอก ในขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคปชป. ได้ลุกขึ้นประท้วงนายครูมานิตย์ โดยกล่าวว่า ตนขอประท้วงและขอให้นายครูมานิตย์ถอนคำพูด ที่ระบุว่า นายจุรินทร์ล้มเหลว เพราะพูดเป็นเท็จในสภาฯ นี้ ถือเป็นการกล่าวหาเสียดสีอย่างร้ายแรง สภาฯ แห่งนี้ทรงเกียรติ คำพูดที่ออกมาต้องมีเหตุผล มีข้อเท็จจริง

ประธานสภาฯ จึงกล่าวว่า เป็นการพูดแสดงความคิดเห็น ไม่ได้ผิดข้อบังคับ แต่นายชัยชนะ ยังขอให้ถอนคำพูดที่กล่าวหาว่าล้มเหลว ต้องบอกว่าล้มเหลวตรงไหน หากไม่ถอนก็ขอให้บันทึกไว้เป็นหลักฐานเพื่อสภาฯ จะได้มีบรรทัดฐาน ถ้าบอกว่าล้มเหลว ก็ถือรัฐบาลนี้ก็ล้มเหลวเช่นกัน แต่ประธานสภาฯ วินิจฉัยว่า ไม่ได้ผิดข้อบังคับ และขอให้นายจุรินทร์ อภิปรายต่อจนจบ ซึ่งนายจุรินทร์ ยืนยันว่า ตนเคารพกติกาเสมอ ขอให้สบายใจ

‘จุรินทร์’ ถามรัฐ หากเศรษฐกิจวิกฤตจริง “ทำไมไม่เดินหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ตสักที”

(6 ก.พ. 67) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลดาหน้าออกมายืนยันว่าเศรษฐกิจกำลังวิกฤตและจำเป็นจะต้องเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องเห็นตาม ปปช. ว่า…

“ถ้ารัฐบาลเห็นว่าเศรษฐกิจวิกฤตจริง แล้วจะมัวเงื้อง่า ซื้อเวลาอยู่ทำไม และถ้าเศรษฐกิจกำลังวิกฤติจริง ยิ่งรอช้าเศรษฐกิจจะไม่ยิ่งวิกฤตหนักเข้าไปอีกหรือ ยิ่งรัฐบาลบอกว่าไม่จำเป็นต้องทำตามความเห็น ปปช. เสมอไป แล้วทำไมไม่ทำเสียที เพราะประชาชนรออยู่ ทำเหมือนส่อออกอาการปากกล้าขาสั่น”

'จุรินทร์ ซัด!! 'เศรษฐา' มีผลงานเดียว สร้าง 'นักโทษเทวดา' หยัน!! อาสาเป็นเซลส์แมน ปิดการขายได้บ้างหรือยัง

‘จุรินทร์’ จัดให้! ซัด ‘เศรษฐา’ มีผลงานเดียวสร้าง'นักโทษเทวดา' เย้ยขยันบินต่างประเทศไปทำตลาดหรือตลก วันๆ ทำแต่อีเวนต์ ถามอาสาเป็นเซลส์แมน ปิดการขายได้บ้างหรือยัง อัดคนในรัฐบาลโป๊ะแตก ปมทูมอร์โรว์แลนด์ เตือนพฤติกรรม ‘ได้คืบเอาศอกลามได้ศอกจะเอาวา’ ระวังพังเหมือนอดีต 

(3 เม.ย. 67) ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ตามที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และคณะจำนวน 98 คน เป็นผู้เสนอ

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ก่อนเสนอญัตติฯม.152 รัฐบาลสร้างกระแสจะอภิปรายทำไมยังไม่ใช่งบสักบาท ถือว่าตีหน้าซื่อกลางแดดชัด ๆ เพราะแม้งบยังไม่บังคับใช้แต่สามารถใช้งบไปพลางก่อนได้ระหว่าง1 ต.ค. 2566 - 31 เม.ย. 2567 ใช้งบประจำและงบลงทุนไปถึง 43.79% ของงบปี 2567 ที่บอกไม่ใช้งบสักบาทถือเป็นการแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกประชาชนชัด ๆ 

คำถามคือทำไมใช้เงินไปมากขนาดนี้แต่ยังสอบตก คำตอบคือรัฐบาลมัวแต่ใช้การตลาดนำการบริหาร วัน ๆ มีแต่อีเวนต์ เช้า สาย เที่ยง เย็น ดึก ๆ ยังอีเวนต์ จนคนไทยสำลักอีเวนต์ 6 เดือน นายกฯ อยู่เมืองนอก 52 วัน มีคนถามบินไปทำการตลาดหรือทำการตลก เพราะอยู่เมืองไทยบอกเศรษฐกิจวิกฤติ แต่ไปเชิญต่างประเทศ มหาเศรษฐีที่ไหนจะมาลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจวิกฤติ ถ้ามาเพราะไม่เชื่อนายกฯ แต่เชื่อในระบบเศรษฐกิจของไทย 

ที่นายกฯ ที่อาสาเป็นเซลส์แมนประเทศ ถามว่าปิดการขายได้บ้างหรือยัง หรือมีแต่สัญญาจะซื้อจะขายดอกไม้กับสายลม ที่เห็นชัดคือเรื่อง ทูมอร์โรว์แลนด์ คนในรัฐบาลโพสต์ผ่านเว็บทางการของรัฐบาลว่า ทูมอร์โรว์แลนด์ จะมาจัดงานที่เมืองไทยในปี 2569 และอาจจัดต่อเนื่อง 10 ปี ปรากฏว่า โฆษกของเขาแถลงชัดเจนยังไม่ยืนยันมาจัดที่ไทยและยังมีอะไรต้องพิจารณาอีกมาก ที่พูดก็อยากให้สำเร็จ แต่สิ่งที่อยากบอกคือ คนไทยอยากได้ของจริงมากกว่าการตลาด อะไรยังไม่ใช่ไม่ต้องตีปี๊ปก็ได้มันเสียเหลี่ยม

“คนไทยไม่ได้กินแกลบ พูดอะไรไม่จริง ก็จับได้ คนไทยอยากให้นายกฯ บินเหมือนเหยี่ยวมากกว่าแมลงวัน ที่บินทั้งวันแต่ไม่ได้อะไรนอกจากสร้างภาพบินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เหยี่ยวบินไม่พลาดเป้า เพราะเหยี่ยวไม่ทำการตลาด” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ตราบใดที่รัฐบาลก้าวไม่พ้นคนชอบอวดบารมี รัฐบาลจะมีปัญหาทางการเมืองตลอดไป และอยากไปโทษคนอื่นว่าก้าวไม่พ้นคน ๆ นี้เสียที คนแรกที่ก้าวไม่พ้นคือนายกฯ เพราะวันแรกที่เกิดเหตุการณ์นายกฯ ถึงขั้นลงทุนนั่งรถประจำตำแหน่งไปสโลซบถึงบ้าน แถมบอกว่ายินดีให้รัฐมนตรีไปเยี่ยมได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหานายกฯ หลายคน นี้คือปัญหาใหญ่ทางการเมืองที่รัฐบาลกำลังเผชิญ มันสะท้อนความไม่เชื่อมั่น ทำให้คนเข้าใจว่านายกฯ ไม่ได้มีแค่นายกฯ นิด ยังมีนายกฯ ใหญ่ และนายกฯ เล็ก ทำให้เกิดปัญหาการบริหาร และปัญหารัฐบาลเต็มไปด้วยรัฐมนตรีไร้ประสิทธิภาพ มีทั้งโลกลืม ผิดฝาผิดตัว ต่างตอบแทน ทำการเฉพาะกิจ และรัฐมนตรีที่โลกเซ็ง ไม่ลืมแต่เซ็ง 

คนหนึ่งคือรมว.คลัง จ้องแต่แยกเขี้ยวใส่ผู้ว่าแบงก์ชาติ แต่งานในหน้าที่ทำได้ไม่เข้าเป้า รายได้ 4 เดือนต่ำกว่าเป้า ฝากนายกฯ ปรับครม.เที่ยวนี้ช่วยดูแลรมต.ที่โลกเซ็งด้วย ปัญหาดิจิทัลวอลเล็ต คนไทยหลายคนเลิกเชื่อเบื่อทวง แต่ที่บอกว่าจะทำงบปี 2568 ขาดดุล 1.5 แสนล้าน แปลว่าไม่มีอะไรใหม่ยังกู้มาแจกเหมือนเดิมเปลี่ยนแต่วิธีการ

ส่วนที่บอกราคายางดีขึ้นนั้น ขอแสดงความยินดีรัฐบาล เข้ามาไม่กี่วันบุญหล่นทับถุงเท้าบวม แต่ที่ยางขึ้นไม่ใช่ปราบยางเถื่อนอย่างเดียว แต่มีสาเหตุอื่นอีก อาทิ ผลผลิตยางในตลาดน้อย ยุโรปออกระเบียบห้ามนำเข้ายางในพื้นที่ทำลายป่าในปลายปี 2567 ที่สำคัญตอนนี้ยางในประเทศไทยอยู่นอกฤดู ก็อยากให้รัฐบาลเตรียมการรับมือดูแลราคายางด้วย 

นายจุรินทร์ อภิปรายอีกว่า ปัญหาใหญ่ที่สุด ที่รัฐบาลต้องแก้ เพราะสร้างความเสื่อมให้รัฐบาล เซาะกร่อนบ่อนทำลายรัฐบาลมากที่สุด คือการสร้างยุติธรรมสองมาตรฐาน เป็นผลงานชิ้นเดียวที่รัฐบาลทำได้เร็วที่สุด เป็นคำตอบว่ารัฐบาลนี้เพื่อใคร นั่นคือการสร้างนักโทษพันธ์ุใหม่ ที่แม้แต่เทวดาต้องยอมให้ใช้ชื่อ คุกทิพย์ ปลอกคอทิพย์ เลี้ยงหลานทิพย์ สำนึกทิพย์ จนถึงได้คืบเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา ซึ่งเกิดขึ้นไม่ได้ถ้านายกฯ รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่รู้เห็นเป็นใจ 

เชื่อว่าคนไทยเข้าใจเรื่องบุญคุณต้องทดแทน แต่ต้องไปตอบแทนกันเองส่วนตัว ไม่ใช่เอาบ้านเมืองไปตอบแทน คนหนึ่งได้อำนาจ อีกคนได้อภิสิทธิ์จากการใช้อำนาจ อาจยุติธรรมกับคนสองคนแต่ไม่ยุติธรรมกับประเทศ ว่าแต่การที่นายกฯ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ใครคือผู้บังคับใช้กฎหมาย นายกฯ ตั้งใจอยู่ 4 ปีถ้าอยู่เพื่อทำความดีไม่มีใครว่า แต่ถ้าอยู่เพื่อทำความชั่วร้ายให้แผ่นดินปีเดียวก็ไม่ควรอยู่ ตนไม่มีอคติกับนายกฯ เป็นแค่คนไทยคนหนึ่งที่มีหน้าที่มาพูดแทนคนรับความยุติธรรมที่น้ำตาตกในต้องทนอยู่กับบาปที่รัฐบาลนี้ก่อขึ้น

“ผมขอตั้งคำถามว่า นายกฯ มีนโยบายนำคุกทิพย์โมเดลที่ทำลายหลักนิติธรรมยับเยินมาใช้ซ้ำสองหรือไม่ คำถามที่สองคือ ระเบียบใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมจะออกเรื่องการกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิคุมขังนอกเรือนจำ ขอถามว่าระเบียบดังกล่าวรวมคดีทุจริต คดี 157 ได้ด้วยหรือไม่ และรวมหรือไม่ ถ้าให้นักโทษ 157 ติดคุกที่บ้านได้ เท่ากับรัฐบาลส่งเสริมการทุจริตมุมกลับ ระบบนิติธรรมจะเกิดวิกฤติอีกครั้ง เพราะเกิดจากนักโทษเทวดาตัวใหม่ คำถามที่สามเรื่องนิรโทษกรรม ขอถามนายกฯ ในฐานะผู้คุมเสียงข้างมาก และนั่งหัวโต๊ะในคณะรัฐมนตรี เพราะนิรโทษกรรมเป็นดาบสองคมใช่หรือไม่ ถ้าผิดทางสร้างความแตกแยกครั้งใหม่ ขอถามว่ารัฐบาลนี้มีนโยบายที่จะนิรโทษ คดีทุจริตและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ด้วยหรือไม่ ที่ถามเพื่อส่งสัญญาณเตือนนายกฯ และพวกพ้องว่าอย่าได้คืบเอาศอก เพราะในอดีตเคยมีคนพังเพราะไม่รู้จักพอมาแล้ว เพราะวันนี้มีคนร้ององค์กรต่าง ๆ เรื่องนักโทษเทวดาทั้งหมด 24 เรื่อง ผมพูดเพื่อเตือนนายกฯ และรัฐบาล ว่าสิ่งที่นายกฯ และพวกทำกับหลักนิติธรรมประเทศไว้จะเป็นระเบิดเวลาระเบิดใส่ตัวเองในอนาคต ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลให้ทุกท่านดวงตาเห็นธรรมด้วย” นายจุรินทร์ กล่าว

‘จุรินทร์’ อัด!! ‘นายกฯ’ หลังเปรียบฝ่ายค้านเป็นแมลงหวี่ ซัด!! ทำตัวเป็นรัฐบาลเทวดา ไม่สนใจเสียงของประชาชน

(4 เม.ย. 67) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ในวันแรก ว่า ตนว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ดีทุกพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล และพรรคไทยสร้างไทย ตนถือว่าตั้งใจทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายคาดหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะอภิปรายเรื่องกระบวนการยุติธรรมและนักโทษเทวดามากกว่านี้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้จะมีการอภิปรายอีกวัน ต้องรอฟังว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า คิดว่าฟอร์มของพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ มี สส.ใหม่หลายคนที่อภิปราย ตนถือว่าทำหน้าที่ได้ดี

เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปรียบฝ่ายค้านบางพรรคเป็นแมลงหวี่ บางวันเป็นฝ่ายค้าน บางวันขอร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า ความจริงเรื่องแมลงหวี่มันสะท้อนจิตใต้สำนึกรัฐบาลเทวดาเหมือนกันว่ารำคาญเสียงประชาชน คิดว่าถ้าตนเป็นนายกฯ จะไม่เทียบกับแมลงหวี่ มันไม่ได้บวก มันเข้าตัวรัฐบาล 

เมื่อถามย้ำว่า สิ่งที่นายกฯ พูดเข้าตัวเองใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ใช่ เพราะแปลว่ารำคาญเสียงสะท้อนและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล อันนี้ประชาธิปไตยเทวดา ไม่ใช่ประชาธิปไตยตัวจริง 

เมื่อถามว่า นายเศรษฐายังเหน็บฝ่ายค้านว่าอย่าเป็นฝ่ายค้านที่ทำให้โลกงง หลังมีกระแสข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อสักครู่มีคนให้สัมภาษณ์แล้วไม่ใช่หรือว่าเสียงพอแล้ว ก็จะเป็นรัฐบาลเท่านี้ จำคำพูดของตัวเองไว้ด้วย 

เมื่อถามอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เสียสมาธิกับกระแสข่าวร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า สำหรับตนการทำหน้าที่ในสภามันเป็นคำตอบอยู่แล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนวันนี้หากมีการทาบทามพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลจะไม่ร่วมใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของตนเป็นคำตอบอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร นายกฯ ต้องจำคำพูดตัวเองไว้ด้วยในสิ่งที่พูดไป 

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการวางยาอะไรหรือไม่ ที่มีการปล่อยข่าวจะเข้าร่วมรัฐบาลก่อนการอภิปราย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่สิ่งที่นายกฯ พูดมันเผยให้เห็นตัวไอ้โม่งว่ามันมาจากไหน อย่างไร

เมื่อถามว่า ทำไมถึงต้องย้ำให้นายกฯ จำคำพูดตัวเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ก็ธรรมดา พูดอะไรไปก็ต้องจำ 

ต่อข้อถามว่า เพราะวันหนึ่งอาจจำเป็นต้องใช้เสียงของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขออธิบายต่อ ตนก็ทำหน้าที่ของตน มีหน้าที่อะไรก็ทำเต็มที่ ตนถือหลักอันนี้ 

‘จุรินทร์’ ซัด!! ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไม่ต่างจาก ‘จำนำข้าว’ รัฐบาลใช้วิธี ‘กู้ ธกส. มาแจก’ เสี่ยงสร้างหนี้ซ้ำรอยเดิม

(11 เม.ย. 67) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแหล่งเงินดิจิทัล วอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ที่มาจาก 3 ทางคือ งบเหลือจ่ายปี 67 ปี 68 และ เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ตามมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ ว่า…

กรณีการใช้เงินจาก ธกส. โดยให้ ธกส. สำรองจ่ายไปก่อน แล้วรัฐบาลค่อยใช้คืนทีหลัง ตามมาตรา 28 ก็คือการ ‘กู้ ธกส.มาแจก’ นั่นเอง ก็อบปี้วิธีการของโครงการจำนำข้าวมาทั้งดุ้น พูดง่าย ๆ คือมาจาก DNA เดียวกัน เพราะจำนำข้าวก็คือให้ ธกส. สำรองเงินไปรับจำนำข้าวจากชาวนาก่อน แล้วรัฐบาลค่อยใช้คืนทีหลัง ซึ่งขาดทุนตั้งแต่นับหนึ่งเพราะราคาข้าวในตลาดตันละไม่ถึงหมื่นบาท แต่ให้ไปรับจำนำตันละหมื่นห้าพันบาท ทุก ๆ ตันจึงขาดทุนสะสมไปเรื่อย ๆ จนทำให้ขาดทุนรวมไป 6-700,000 ล้าน และจนวันนี้ยังใช้หนี้ไม่หมด ยังเหลือหนี้ค้าง ธกส. อยู่อีก 200,000 กว่าล้านบาท   

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า กรณีดิจิทัล วอลเล็ต ที่จะให้ ธกส. สำรองแจกไปก่อน จึงมาจาก DNA เดียวกัน โดยรัฐบาลจะต้องมีภาระหนี้ กับเฉพาะ ธกส. เพิ่มอีกตามที่ รัฐบาลแถลง 172,300 ล้านบาท รวมกับหนี้เก่าจำนำข้าว อีก 200,000 กว่าล้านบาท จะทำให้รัฐบาลเป็นหนี้ ธกส. เฉพาะ 2 โครงการ ทั้งที่ยังคงค้างอยู่และจะสร้างใหม่ รวมประมาณ 4 แสนล้านบาท ซึ่งจนวันนี้ รัฐบาลก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีแผนชำระหนี้เฉพาะหนี้ ธกส. ที่จะกู้มาแจกในโครงการดิจิทัล วอลเล็ต อย่างไร และยังอาจมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาอีกว่าแม้เงิน ธกส. สามารถเอามาดูแลเกษตรกรได้ แต่ถ้าถึงขั้นจะเอามาแจกตามโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ด้วยวัตถุประสงค์กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการบริโภค สามารถทำได้หรือไม่ ต้องดูให้รอบคอบ อย่าไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย 

“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำเพราะหาเสียงไว้และต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย” นายจุรินทร์กล่าว 

‘จุรินทร์’ ชี้ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เหมือนย้อนกลับไปที่เดิม หลังรัฐบาล ยื้อ ย้ำ!! ประเทศชาติต้องได้ประโยชน์ ไม่ใช่คุ้มค่า แค่พรรคการเมือง

(27 เม.ย. 67) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะทันไตรมาส 4 อย่างรัฐบาลประกาศหรือไม่ว่า ในฐานะคนที่ติดตามเรื่องนี้คนหนึ่งอย่างใกล้ชิด ตนคิดว่าสถานการณ์ ณ วันนี้ มันย้อนกลับไปที่เดิม คือย้อนกลับไปในจุดที่เหมือนที่ประกาศว่าจะออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งสุดท้ายก็อาจจะไม่ได้เป็นไปตามนั้น เที่ยวนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ยังคลุมเครือ แม้ว่าจะมีมติครม.ออกมาก็ตาม แต่มติครม.ดังกล่าวเป็นมติที่เห็นชอบในหลักการ ซึ่งไม่มีอะไรใหม่ เพราะการแถลงนโยบายรัฐบาลก็พูดอยู่แล้ว ดังนั้นครม.ก็ต้องเห็นชอบตามนโยบาย แต่รายละเอียดที่จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตรงนั้นคือหัวใจสำคัญ ซึ่งจนถึงขณะนี้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องโดยตรงก็ยังทำไม่เสร็จ ยังจะมีการนัดประชุมในรายละเอียดอีกว่าแหล่งเงิน วิธีการ และรายละเอียดอื่น ๆ จะทำอย่างไร ซึ่งแค่หลักการครม.ที่อยู่ด้วยกัน ให้เกียรติกันก็ต้องเห็นชอบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องของรายละเอียดจะต้องติดตาม

“ผมเรียนว่ายังคลุมเครือ เพราะผู้ที่มีความรู้ เชี่ยวชาญตัวจริงทางด้านการเงิน การคลัง และด้านกฎหมายของประเทศมีไม่น้อยที่เดียวที่ออกมาให้ความเห็นว่ามีหมิ่นเหม่ในเรื่องของข้อกฎหมาย ซึ่งตรงนี้ถ้ารัฐบาลจะทำให้เกิดความชัดเจนกว่านี้ก็ทำได้ โดยส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาให้วินิจฉัยก็จบไป แต่ผมไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องยื้อเวลาในการที่จะส่งกฤษฎีกาไปอีก ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเหมือนกับเดินไปบนเส้นด้าย เพราะความชัดเจนเรื่องข้อกฎหมายยังถกเถียงกันอยู่และคนที่มาเถียงกฎหมายก็ไม่ใช่ว่าคนไม่รู้เรื่อง ซึ่งเป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญทั้งการเงิน การคลัง และกฎหมายที่ออกมาท้วงติง ดังนั้นรัฐบาลก็ต้องรับฟังและทำความจริงให้เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นก็จะคลุมเครืออยู่อย่างนี้ ประชาชนก็รอความหวัง ด้วยความหวังในลักษณะที่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจะจริงหรือไม่จริง เพราะไม่ได้แปลว่าเมื่อครม.มีมติแล้วจะเป็นไปตามนั้น” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ที่ตนพูดต้องการให้รัฐบาลทำ แต่ตนไม่วิเคราะห์ว่าดีหรือเสียอย่างไร แต่เป็นหน้าที่พรรคการเมืองที่ต้องรับผิดชอบ เมื่อหาเสียงและได้คะแนนเสียงจากประชาชนมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบจากเสียงที่ได้มา ต้องทำ แต่ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่คุ้มค่าแค่พรรคการเมือง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top