Tuesday, 3 December 2024
WESTERN

ประจวบคีรีขันธ์ - ผวจ.ประจวบฯยันเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดพอเพียง หลังยอดติดเชื้อพุ่งทะลุครึ่งพัน

วันที่ 16 เมษายน นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปรับฟังสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.หัวหิน และตรวจสถานที่รองรับผู้ป่วยโควิดหลังพบคนติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมี นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผอ.รพ.หัวหิน พาเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลสนามภายในโรงเรียนพาณิชยการหัวหิน และที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักตัวผู้ป่วยโควิด

นายพัลลภ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ใน จ.ประจวบฯ ขณะนี้ยังคงพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 98 ราย ทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้อในการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 1- 15 เมษายน 64 รวม 525 ราย ที่ อ.หัวหิน มากสุดจำนวน 385 ราย ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเป็นวัยหนุ่มสาว ซึ่งทางจังหวัดได้เข้มงวดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดด้วยการออกประกาศคำสั่งจังหวัดให้ปิดสถานที่เสี่ยง 13 ประเภทกิจการ/กิจกรรม เป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ในช่วงสิ้นสุดเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนใน จ.ประจวบฯที่กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อได้ ดังนั้นจึงสั่งการให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นในทุกอำเภอในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ วางแนวทางเฝ้าระวังคัดกรองประชาชนในหมู่บ้านชุมชนซึ่งเดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง หากผลการตรวจปรากฏว่ามีไข้สูงตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอพื้นที่ทราบ เพื่อเข้าคัดกรอง สอบสวนโรคและพาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ขณะที่การสั่งล็อกดาวน์จังหวัดหรือไม่ ต้องรอฟังคำสั่งจากหน่วยงานส่วนกลาง

“ขณะนี้โรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดได้มีการเพิ่มจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เต็มศักยภาพของแต่ละโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดได้พิจารณาสถานที่เพื่อจัดทำโรงพยาบาลสนามและประสานผู้ประกอบการโรงแรมหลายแห่งเพื่อขอใช้เป็นสถานที่กักกันผู้ป่วยโควิด-19 เบื้องต้นมีสถานที่รองรับได้อีก 5 แห่งใน 3 อำเภอ คือ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี และ อ.เมือง มีจำนวนเตียงเพิ่มขึ้น 456 เตียง ทำให้ขณะนี้ภาพรวมมีเตียงที่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิดได้มากกว่า 1,000 เตียง โดยผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลสนามหรือโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักกันจะเป็นผู้ที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อยและต้องอยู่จนครบ 14 วันนับตั้งแต่วันที่ทราบผลตรวจเป็นบวก ในช่วง 3 - 4 วันที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อดูเหมือนมาก ผู้ที่มาตรวจหาเชื้อมีถึง 6,500 คน เหตุผลที่มีจำนวนมากเพราะว่าเราต้องการที่จะตรวจเชิงรุก เราได้มีการประกาศไปยังผู้ที่มีความเสี่ยง รู้ว่าตัวเองเสี่ยง เช่น ไปสถานบันเทิง ตอนแรกจากที่เราตรวจพบครั้งแรกพบว่าเขาไปสถานบันเทิงมายาผับ แต่หลังจากที่เราพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม มีการสอบสวนโรคแล้วพบว่าบางท่านก็ไม่ได้ไปแค่ที่แห่งเดียว เพราะฉะนั้นตอนนี้เราประกาศให้เกือบทุกสถานบันเทิงใน จ.ประจวบฯที่ได้ไปเที่ยวมา เพราะว่าบางครั้งผู้ที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงไม่ได้ไปเที่ยวที่เดียว วันนี้เที่ยวที่นี่ อีกวันไปเที่ยวที่อื่น เพราะฉะนั้นตอนนี้ตัวเลขจะมาก ตรงนี้ก็จะทำให้เราสามารถค้นหาผู้ที่มีเชื้อได้รวดเร็ว และก็มีดีอยู่อย่างหนึ่งที่ว่าเชื้อตอนนี้เท่าที่พบยังไม่มีผู้ที่มีอาการหนักเลย ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอาการด้วยซ้ำ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นลักษณะของการพบการติดเชื้อในช่วงนี้ ก็ให้ความมั่นใจว่าเรายังควบคุมสถานการณ์ได้ รวมทั้งเรื่องของโรงพยาบาลสนามต่างๆ เราได้มีการเตรียมพร้อมไว้เรียบร้อยแล้ว” นายพัลลภ กล่าว

ด้าน นพ.นิรันดร์ กล่าวว่าขณะนี้โรงพยาบาลหัวหินมีความพร้อมทุกด้าน รวมทั้งเตียงรองรับผู้ป่วยโควิดมีความเพียงพอกว่า 400 เตียง ส่วนกรณีมีผู้ป่วยโควิดบางรายหลังทราบผลแล้วและทาง รพ.สั่งให้กักตัวที่บ้านก่อน เนื่องจากต้องรอขั้นตอนความพร้อมด้านเอ็กซเรย์และใช้เวลาซึ่งเจ้าหน้าที่ทำต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนเนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก ต้องแยกผู้ป่วยชาย-หญิง รวมทั้งความพร้อมของสถานที่จะเข้ากักตัวว่าผู้ป่วยคนไหนเหมาะสมที่จะพักที่ไหน ขณะนี้ทาง รพ.ทยอยเรียกผู้ป่วยเข้ารักษาตัวแล้ว คนไหนไม่มีรถทาง รพ.ก็จะไปรับให้ คนไหนสะดวกก็มาเองได้ โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลสนาม ภายในโรงเรียนพาณิชยการหัวหิน 3 ชั้น กว่า 120 เตียงพร้อมรับผู้ป่วยแล้ว ล่าสุดผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดรักษาตัวที่ รพ.หัวหินหายสามารถกลับบ้านได้แล้ว 29 ราย และวันพรุ่งนี้น่าจะประมาณอีก 40 รายกลับบ้านได้ ต้องขออภัยในความล่าช้าเพราะมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมาก


ภาพ/ข่าว นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ - “หัวหิน” สร้างโรงพยาบาลสนามรับมือผู้ป่วยโควิด-19

วันที่ 12 เมษายน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมแล้วจำนวน 141 รายยอดรวมถึงวันที่ 11 เมษายน เป็นเพศหญิง 90 ราย เพศชาย 50 ราย เป็นการระบาดจากการร่วมดื่มกินและชมคอนเสริ์ตโจอี้บอย ที่มายาผับหัวหิน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 64 โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ ไม่มีอาการรุนแรง ไม่แสดงอาการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหัวหิน 114 ราย แบ่งที่โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน 1 ราย  โรงพยาบาลปราณบุรี 5 ราย โรงพยาบาลค่ายธนะรัชต์ 2 ราย โรงพยาบาลสามร้อยยอด 3 ราย โรงพยาบาลกุยบุรี 2 ราย โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ 10 ราย โรงพยาบาลบางสะพาน 4 ราย และพบว่ามีผู้ป่วยอายุน้อยที่สุด 2 ขวบ อายุมากสุด 82 ปี ซึ่งมีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยที่เดินทางไปเที่ยวมายาผับ ขณะที่ผู้ติดเชื้อทั้งหมดมีอายุเฉลี่ย 30 ปี นอกจากนั้นยังมีผู้ป่วยจากสถานบันเทิงมายาผับกระจายไปยัง จ.เพชรบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.ชุมพรและ จ.กระบี่

นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่าวันนี้พร้อมด้วย นายเจนวิท ผลิศักดิ์ ผช.สาธารณสุข อ.หัวหิน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข กลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อเทศบาลเมืองหัวหิน ลงพื้นที่ดูความเรียบร้อยและมาตรการการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลหัวหิน และสถานที่ต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองไม่ว่าจะเป็นบริเวณชายหาดหัวหิน ศูนย์การค้าต่าง ๆ บริเวณท่าเรือเฟอร์รี่หัวหิน-พัทยา ทุกที่มีมาตรการเรียบร้อยดีไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ การดูแลรักษาความสะอาด แต่จะมีปัญหาเรื่องคนมาท่องเที่ยวน้อยลงอาจจะเป็นเพราะว่าข่าวที่ออกไปว่าคนที่เข้าในจังหวัดประจวบฯ ต้องกักตัว 14 วัน และออกจาก จ.ประจวบฯ ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งข่าวตรงนี้ก็ไม่ค่อยถูกต้อง ซึ่งเจ้าที่สาธารณสุขบอกว่าถ้ามาจากกรุงเทพฯที่เป็นพื้นที่เสี่ยงจะต้องกักตัว 14 วัน ไม่ใช่ทุกคนที่มาจะต้องกักตัว

สำหรับที่โรงพยาบาลหัวหินได้มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจให้กับหมอและพยาบาลที่ทำหน้าที่ตรวจหาเชื้อ ซึ่งมีผู้มาใช้บริการจำนวนมาก สืบเนื่องจากมีการติดเชื้อโควิด-19 ที่สถานบันเทิงในอำเภอหัวหิน ทำให้หลายคนเกิดความไม่สบายใจจึงเดินทางมาตรวจกันเป็นจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลหัวหินได้สร้างโรงพยาบาลสนามขึ้นที่โรงพยาบาลหัวหิน 5 ต.ทับใต้ และในโรงเรียนพาณิชยการหัวหินซึ่งอยู่ติดกันเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก ซึ่งก็ยังมีบางอย่างที่มีปัญหาเช่นเรื่องการส่งอาหารไปยังชั้นต่าง ๆ ของตึก จำนวนเจ้าหน้าที่มีน้อยกว่าจะเดินขึ้นแต่ละตึก ทางเราจะประสานงานกับเทศบาลเพื่อให้งานช่างมาดูการทำรอกส่งอาหารเพื่อความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่ แล้วก็เรื่องของห้องน้ำอาจต้องสร้างห้องน้ำชั่วคราวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้อาบน้ำฆ่าเชื้อก่อนจะออกจากสถานที่จะได้ไม่นำเชื้อออกไปติดเพื่อนร่วมงานหรือคนในครอบครัว


ภาพ/ข่าว นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ - จ่อปรับ “มายาผับ หัวหิน” ต้นตอจัดคอนเสิร์ต แพร่เชื้อโควิด-19 ร่วม 100 คน

เมื่อวันที่ 12 เมษายน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าจากกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 87 ราย ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน และแพร่กระจายเชื้อโควิดอีกหลายอำเภอทั้งใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยผู้ป่วยร้อยละ 90 เชื่อมโยงกับการระบาดกลุ่มใหญ่จากสถานบันเทิง “มายาผับ” ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ล่าสุดผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการพบประชาชนกลุ่มสี่ยงอีก 387 ราย ยืนยันว่ายังมีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นคาดว่าถึง 100 คน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการ แต่ปัญหาเกิดจากจากการสัมผัสผู้ใกล้ชิดที่เดินทางไปดื่มกินในงานคอนเสิร์ต “โจอี้บอย” เมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม 64

สำหรับมายาผับ ขณะนี้นิติกร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้รวบรวบพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว และจากการพูดคุยยอมรับว่ามีข้อบกพร่องในการประกอบธุรกิจ ฐานฝ่าผืนข้อปฏิบัติตามมาตรฐานการควบคุมโรคตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ 2558 จะมีการปรับในการกระทำความผิดครั้งแรก 6,000 บาท ซึ่งอาจะมองว่าค่าปรับเป็นเงินไม่มาก แต่ขณะนี้ต้องยอมรับว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ตกเป็นจำเลยของสังคมที่ทำให้มีปัญหาโรคระบาดส่งผลกระทบหลายด้าน

ขณะที่นายนครินทร์ คีรีเพชร ทนายความชื่อดัง อ.หัวหิน กล่าวว่า กรณีมีผู้ประกอบการในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวหรือประชาชนในพื้นที่ อ.หัวหิน ที่ได้รับความเสียหายจากการระบาดของโควิด-19 ภายหลังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก โดยมีต้นตอจากผับหรือสถานบันเทิง หากควบรวมหลักฐานที่พบว่าหน่วยงานรัฐบกพร่องละเลยไม่ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ สามารถไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจหน้าที่กำกับดูแล พ.ร.บ.สถานบริการ ปล่อยให้สถานบันเทิงเปิดเกินจากเวลาที่กำหนดก็ถือว่าเข้าข่ายมีความผิด รวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่บังคับใช้ตามกฎหมาย และเจ้าพนักงานท้องถิ่นในเทศบาลเมืองหัวหิน ฐานะกรรมการควบคุมโรคติดต่อในท้องที่ที่ไม่ยึดถือหรือปฏิบัติตามแนวทางหรือมาตรการในการป้องกันโรคระบาดร้ายแรง


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เพชรบุรี - DSI ลงพื้นที่ แก่งกระจาน บุกอายัดที่ดิน เครือข่ายอดีตผู้บริหารสหกรณ์สโมสรรถไฟ พร้อมพรรคพวกในพื้นที่ เพชรบุรี

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา ได้สอบสวนขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการพิสูจน์การได้มาของทรัพย์สิน (ที่ดิน) โดยการเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินกับทรัพย์สิน

ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเครือข่ายอดีตผู้บริหาร สหกรณ์สโมสรรถไฟ ที่ได้นำเงินจากการทุจริตออกจากบัญชีสหกรณ์สโมสรรถไฟ และนำเงินที่ได้จากการทุจริตไปเปลี่ยนสภาพแห่งตัวทรัพย์ เพื่อซุกซ่อน ปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินหรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา หรือได้มา ครอบครองหรือใช้ทรัพย์สินโดยรู้ในขณะที่ได้มา อันเป็นเหตุในการเข้าทำการตรวจยึด/อายัดทรัพย์สินข้างต้น

ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564  เวลา 10.30 น. พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พันตำรวจโท สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  ในฐานะรองอธิบดีที่กำกับดูแล พันตำรวจโท จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ

นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา และนายพงษ์ธวัช อ่วมสำอางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการฟอกเงินทางอาญา 3 พร้อมคณะ ตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี สาขาท่ายาง และนายประกอบ เผ่าพงศ์ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ร่วมกันอายัดที่ดิน

พร้อมสิ่งปลูกสร้างหลายพื้นที่ ประกอบด้วย (1) ที่ดินเขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 แปลง  (2) อาคารชุดฮอลส์มาร์ค แจ้งวัฒนะ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จำนวน 7 ห้อง (3) ที่ดินโครงการพฤกษ์พิมาน 3 ตำบลนาวุ้ง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 23 แปลง และ (4) พื้นที่อำเภอแก่นกระจาน จังหวัดเพชรบุรี จำนวน 49 แปลง รวมทรัพย์สินที่ทำการอายัด 85 แปลง มูลค่าประมาณ 85,601,690 บาท โดยในการอายัดครั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของกลุ่มบุคคล จึงมีเหตุให้เชื่อได้ว่านำเงินที่ได้จากสหกรณ์ฯไปซื้อที่ดิน ตามที่ได้อายัดไว้ข้างต้น

การดำเนินการครั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาล และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเร่งดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่อง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสามารถนำเงินชดใช้คืนสหกรณ์สโมสรรถไฟ และสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการในทุกมิติ โดยร่วมกับสำนักงาน ปปง. เพื่อทำการการยึด/อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด

เพื่อขอให้พนักงานอัยการมีคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคืน หรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย ตลอดจนสมาชิกสหกรณ์จำนวนกว่า 6,000 ราย และสหกรณ์พันธมิตรอีก 15 แห่ง โดยจะดำเนินการเชิงบูรณาการร่วมกับ สำนักงาน ปปง. ควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ส่งผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 อย่างเด็ดขาด ต่อไป

เพชรบุรี – เกษตรกรขอจังหวัดผ่อนปรน ให้มีงานประกวดวัวลาน ไก่ชน ในพื้นที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังถูกสั่งระงับเพราะพิษโควิด-19 มานานกว่า 4 เดือน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 เมษายน นายธรรมนูญ บุญส่ง กำนันตำบลบ้านกุ่ม อ.เมืองเพชรบุรี นายสาธิต บัวมณี กำนันตำบลหนองโสน อ.เมืองเพชรบุรี และนายปรัชญา สุขารมย์ กำนันตำบลบ้านแหลม อ.บ้านแหลม พร้อมชาวบ้านผู้เลี้ยงวัวลาน วัวพันธุ์ไทยพื้นบ้าน และไก่ชน กว่า 20 คน เดินทางมาที่ ศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี (หลังเก่า) ยื่นหนังสือร้องเรียนความเดือดร้อนของชาวบ้าน ถึงนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี โดยมีนายธนภัทร ณ ระนอง นายอำเภอเมืองเพชรบุรีเป็นผู้รับหนังสือ

นายธรรมนูญ เปิดเผยว่า วัวลาน วัวเทียมเกวียนวัว ประกวดไก่ชน เป็นประเพณีพื้นบ้านเก่าแก่ของคนจังหวัดเพชรบุรีที่สืบทอดสืบสานกันมายาวนานเป็นสนามแสดง และตลาดการซื้อขายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของเกษตรกรทำให้ซาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นในการดำรงชีพเลี้ยงครอบครัวและชำระหนี้สินที่ผ่านมาในช่วงเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอก 2จังหวัดเพชรบุรี ได้มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโดยมีคำสั่งให้ งดงานประกวดวัวพันธุ์ไทยพื้นบ้าน ซ้อมวัวลาน ไก่ชน และยังห้ามมิให้ทำกิจกรรมอื่นอีกหลายอย่างเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวเลี้ยงไก่ชนได้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดต่อเนื่องมาโดยตลอด ตนและผู้นำชุมชนหลายพื้นที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในตำบลและพื้นที่ตำบลใกล้เคียง ว่าขณะนี้ชาวบ้านที่ เลี้ยงวัวลาน วัวพันธุ์ไทยพื้นบ้าน และไก่ชน ได้รับความเดือดร้อนในการประกอบอาชีพ เนื่องจากจังหวัดเพชรบุรีมีคำสั่งห้ามมิให้จัดงานประกวดวัวพันธุ์ไทยพื้นบ้านซ้อมวัวลานไก่ชนเนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด19เป็นเวลานานกว่า4เดือนทำให้ไม่มีพื้นที่แสดงวัวและไก่จึงทำการค้าขายวัวและไก่ยากมาก

ปัจจุบันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถควบคุมได้จึงขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีช่วยดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรคนเลี้ยงวัวลาน วัวพันธุ์ไทยพื้นบ้านและไก่ชนโดยการผ่อนปรนมาตรการป้องกันโดย อนุญาตให้เกษตรกรได้ซ้อมวัวลาน ไก่ชน ภายในตำบลหมู่บ้านและผ่อนปรนให้เกษตรกรได้จัดงานประกวดวัวพันธุ์ไทยพื้นบ้านได้ภายในตำบลหมู่บ้าน เพื่อเปิดโอกาสในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการซื้อขายของกลุ่มผู้เลี้ยงวัวลานวัวพันธุ์ไทยพื้นบ้านและไก่ชนทั้งนี้ชาวบ้านพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขป้องกันควบคุมโรคในสถานการณ์โควิด -19 ในทุกขั้นตอน

เบื้องต้นนายธนภัทรได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไว้ และรับจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคระดับอำเภอเพื่อพิจารณาในการจัดกิจกรรมการประกวดวัวสวยงาม และเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดนำเสนอเรื่องการจัดวัวลานและไก่ชน ไปยังส่วนกลางเพื่อพิจารณาต่อไป

เพชรบูรณ์ เกษตรอำเภอวังโป่ง จัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานที่ อาคารคัดแยกมะขามหวาน วิสาหกิจชุมชนไม้ผลตำบลซับเปิบ หมู่ที่ 2 ตำบลซับเปิบ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์  นายนาวิน สังฆมาตร นายอำเภอวังโป่ง เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field  Day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่  โดยมี นางชรินรัตน์ ตีทอง เกษตรอำเภอวังโป่ง  กล่าวรายงาน หัวหน้าส่วนราชการอำเภอวังโป่ง นายกองค์การบริหาร ส่วนตำบลซับเปิบ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านตำบลซับเปิบ สำนักงานตรวจบัญชีและสหกรณ์  ชลประทานจังหวัดเพชรบูรณ์ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สถานีพัฒนาที่ดินเพชรบูรณ์ เข้าร่วม และสาธารณสุขอำเภอวังโป่ง ได้มีการคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคโควิด-19

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกรทั่วประเทศ จึงได้มีนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมของเกษตรกรที่จะเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูกาลผลิตใหม่ และได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นแกนหลักในการจัดงาน โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) จำนวน 882 ศูนย์ หรือศูนย์เครือข่ายในพื้นที่เป็นสถานที่จัดงาน เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ ช่วยในการลดต้นทุนการผลิต  การเพิ่มผลผลิต และการพัฒนาคุณภาพผลผลิต เป็นการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนในอาชีพ ให้เกษตรกรทุกท่านที่มาร่วมงาน  ให้ความสนใจเรียนรู้จากฐานเรียนรู้และองค์ความรู้จากเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการเกษตรสาขาต่าง ๆ ตลอดจนข่าวสารที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มาให้บริการข้อมูลข่าวสาร  เพื่อนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรายอื่นได้ทราบ เพื่อพัฒนาการเกษตรของอำเภอวังโป่งต่อไป

กิจกรรมวันนี้มีบุคคลเป้าหมายเข้าร่วมงานเป็นเกษตรกรที่อยู่ ในพื้นที่อำเภอวังโป่ง จำนวน  130  ราย โดยแบ่งเกษตรกรเข้าฐานเรียนรู้ กลุ่มละ 25 ราย โดยใช้เวลาเรียนรู้ฐานละ 30 นาที หมุนเวียนการเรียนรู้ จนครบทุก 4 ฐาน แล้วจึงสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกัน โดยมี ฐานเรียนรู้ที่ 1 การผลิตและแปรรูปมะขามหวานคุณภาพ  ,ฐานที่ 2 การผลิตสารชีวภัณฑ์ สอนวิธีการขยายเชื้อราบิวเวอร์เรีย ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ทางการเกษตรใช้ควบคุมแมลงศัตรพืชเช่นเพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ มวนเขียว ด้วงแรด ด้วงหนวดยาว ฯลฯ ,ฐานที่ 3 การเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ (หนูนา) ให้ความรู้เกี่ยวกับระบบการเลี้ยงหนูแบบแยกคลอด การเตรียมบ่อเลี้ยง และวิธีการเลี้ยงหนูขุน ,ฐานที่ 4 การผลิตข้าวคุณภาพดี ให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี

ด้าน นางชรินรัตน์ ตีทอง เกษตรอำเภอวังโป่ง  กล่าวว่า ในวันนี้เราได้ให้พี่น้องเกษตรกรจำนวน 100 กว่ารายมาแลกเปลี่ยนความรู้ กับพี่น้องเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จด้านการเกษตรแล้ว  ซึ่งหวังว่างานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field  Day) เพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ในครั้งนี้น่าจะมีส่วนที่ดีที่พี่น้องเกษตรกรได้มาพบปะกัน สิ่งสำคัญที่สุดเกษตรกรอยู่ในพื้นที่เดียวกันซึ่งเขาจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อกันได้เป็นอย่างดี


ภาพ/ข่าว  เดชา  มลามาตย์ / มนสิชา  คล้ายแก้ว

ศรชล.ร่วม หน่วยงานทางทะเล ปล่อยลูกหอยลาย 5 ล้านตัว รักษาความสมดุลทางธรรมชาติสัตว์น้ำ

น.อ.ธัญญ์นิธิ แก้วเวียงเดชณรัฐ  รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จว.ประ จวบคีรีขันธ์ (รอง ผอ.ศรชล.จว. ประจวบคีรีขันธ์) ว่าที่ น.อ.ไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ หน.ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ศคท.จว.ประจวบคีรีขันธ์) นายอติชาติ ชัยศรี นายกสมาคมประมงปราณบุรี นายนุกูล วัฒนากร ปลัดอำเภอปราณบุรี และหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ ศูนย์รับแจ้งเรือเข้าออกปราณบุรี ตำรวจน้ำปราณบุรี และประมงปราณบุรี ร่วมปล่อยลูกหอยลาย จำนวน 5,000,000 ตัว โดยได้รับการสนับสนุนลูกหอยลาย จากศูนย์วิจัยประมงคลองวาฬ ประจวบคีรีขันธ์

มีวัตถุประสงค์เพื่อ ปล่อยลูกหอยลายจำนวน 5,000,000 ตัว ลงสู่ท้องทะเล เพื่อรักษาความสมดุลย์ทางธรรมชาติของสัตว์น้ำ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และชายฝั่งในพื้นที่ อ่าวปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ซึ่งเกิดขึ้นจาก ความร่วมมือของ ศรชล.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมงอำเภอปราณบุรี สมาคมประมง และผู้ประกอบการประมงปราณบุรี และศูนย์วิจัยประมงคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์


ภาพ/ข่าว : นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

ตม.จว.ตาก ไล่หนุ่มใหญ่ขนคนจีน ซิ่งกระบะหนีชนรถตำรวจยับ จับอีกนายจ้างชาวไทยแอบซุกเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองไว้ใช้แรงงานพร้อมบุตร 16 ชีวิต

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.ยศภณ จรรยาสถิต รอง ผบก.อก.สตม., พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 , พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.ตม.จว.ตาก และ พ.ต.ท.สุชาติ เพ็ญภู่ รอง ผกก.ตม.จว.ตาก ร่วมแถลงข่าว ดังนี้

1.) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจสอบพบนายพิทยาการฯ  ขับรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทตั้น สีดำ ทะเบียน เชียงใหม่ ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง เจ้าหน้าจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบ แต่นายพิทยาการฯ ได้ขับรถหลบหนีและเฉี่ยวชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ขับขี่ได้หยุดรถและวิ่งหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถไล่ติดตามจับกุมได้ และตรวจสอบภายในรถพบคนต่างด้าวสัญชาติจีน หลบหนีเข้าเมือง จำนวน 5 ราย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงจับกุมตัว นำส่ง สภ.แม่ท้อ เพื่อดำเนินคดี

โดยกล่าวหา นายพิทยาการฯ ว่า “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พ้นจากการจับกุม” และ “ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่และขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน” และกล่าวหาคนต่างด้าวสัญชาติจีน จำนวน 5 ราย ว่า “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

2.) เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ตชด.346 ได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงบริเวณถนนหน้าสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 1 หมู่ 2 บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จว.ตาก พบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 10 ราย พร้อมบุตรผู้ติดตามอีก จำนวน 6 ราย รวมทั้งสิ้น 16 ราย จึงทำการจับกุมตัว จากการซักถามคนต่างด้าวดังกล่าวให้การสอดคล้องกันว่าได้ลักลอบหลบหนีเข้ามารับจ้างทำงานกับพ่อเลี้ยงชื่อ “เสาร์” ต่อมาแรงงานชาวเมียนมาอยากกลับบ้านที่เมียนมา เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันเดียวกัน พ่อเลี้ยงเสาร์จึงมาพวกตนขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อสีเขียว มาส่งบริเวณที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามอย่างต่อเนื่องจนพบ นายอินเสาร์ฯ พร้อมรถที่ใช้ขนแรงงานต่างด้าวดังกล่าว ที่บริเวณบ้านแม่จะเรา ม.6 อ.แม่ระมาด จว.ตาก จึงได้เชิญตัวมาที่ ตม.จว.ตาก ซึ่งคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาดังกล่าวได้ชี้ยืนยันว่าเป็นพ่อเลี้ยงเสาร์จริง  เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัว นำส่ง สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี

โดยกล่าวหา นายอินเสาร์ฯ ว่า “ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม” และ “ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดตากที่ 724/2564 เรื่อง มาตรการป้องกันควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เฉพาะพื้นที่อำเภอแม่สอด และกล่าวหาคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 10 ราย ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำ

ความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จะขอบพระคุณอย่างสูง

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เด้งรับนโยบายปราบปรามอบายมุขแหล่งมั่วสุมเสี่ยงโควิด-19 กวาดพนันออนไลน์ 6 เว็บไซต์ รวบผู้ต้องหา รวม 41 คน

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม 5 , พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5 , พ.ต.อ.ยศภณ จรรยาสถิต รอง ผบก.อก.สตม., พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 , พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.ตม.จว.ตาก และ พ.ต.ท.สุชาติ เพ็ญภู่ รอง ผกก.ตม.จว.ตาก ร่วมแถลงข่าว ดังนี้

1.) เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอดเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จว.ตาก ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องหา จำนวน 2 คน คือ นายชินกฤต และนายวันเฉลิม อยู่บริเวณบ้านหลังดังกล่าวและรับว่าได้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันประเภทเกมสล็อตจริง ผ่านเว็บไซต์ “wallet.etnallslot.com” โดยผู้ต้องหาทั้งสองทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมระบบ ดูแลบริหารจัดการการเงิน โดยใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือสนทนาระหว่างพนักงาน และสรุปยอดเงินที่ทำได้ ในกลุ่มไลน์ใช้ชื่อว่า “etnallslot (Service)”  จากนั้นได้ทำการขยายผล

และนายชินกฤต รับว่ายังมีแหล่งมั่วสุมทำการโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันอีกจุดหนึ่งคือบ้านบริเวณ หมู่ 5 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จว.ตาก จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาอีก 1 คน คือนายนำศักดิ์ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน จึงได้ทำการตรวจค้นพบผู้ต้องหาเป็นกลุ่มคนไทย อีก 29 คน กำลังจัดให้มีเล่นพนันออนไลน์ประเภทเกมสล็อต ผ่านเว็บไซต์ อีกจำนวน 4 เว็บไซต์ โดยรับว่าทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลลูกค้า เติมเงิน ถอนเงิน ตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้า และชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าเล่นได้ผ่านระบบออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น Line และ Facebook  จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 32 คน นำส่ง สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี

ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันฯ” และ “ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ที่กระทำการใดอันเป็นยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”

2.) เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดแม่สอด เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งภายใน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จว.ตาก  ผลการตรวจค้นพบผู้ต้องหา จำนวน 4 คน คือนายพิชนะ พร้อมพวกรวม 4 คน พร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และสมุดบัญชีเงินฝาก ซึ่งใช้ทำธุรกรรมโอน รับโอนเงิน เกี่ยวกับพนันออนไลน์ และรับว่าได้ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันประเภทเกมสล็อตจริง ผ่านเว็บไซต์ ZODIAC888.com จากนั้นได้ทำการขยายผล

และนายพิชนะฯ รับว่ายังมีแหล่งมั่วสุมทำการโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันอีกจุดหนึ่งคือบ้านหลังหนึ่งใน หมู่ 10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จว.ตาก จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาอีก 5 คน โดยรับว่าทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลลูกค้า เติมเงิน ถอนเงิน ตอบคำถามและข้อสงสัยของลูกค้า และชักชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าเล่นได้ผ่านระบบออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น Line จึงจุบกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน รวมของกลางทั้งสิ้น 47 รายการ นำส่ง สภ.แม่สอด เพื่อดำเนินคดี ในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันฯ” และ “ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ที่กระทำการใดอันเป็นยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”

โดย 1 ในผู้ต้องหาจำนวนดังกล่าว คือ นายมนัสชัย หรือแก้ว กล่าวหาว่า “ร่วมกันจัดให้มีเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันฯ” และ “ร่วมกันชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ที่กระทำการใดอันเป็นยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548” และ “มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (เคตามีน 1.36 กรัม) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ของกลางยาเคตามีน น้ำหนัก 1.36 กรัม

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th ขอบพระคุณอย่างสูง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top