Friday, 3 May 2024
WEEKEND NEWS

"การช่วยผู้อื่น หรือการนึกถึงผู้อื่น เป็นโอสถเยียวยาความทุกข์ ที่เกิดจากความเศร้าโศก หรือความทุกข์อย่างอื่นได้มากมาย"

"การช่วยผู้อื่น หรือการนึกถึงผู้อื่น เป็นโอสถเยียวยาความทุกข์ ที่เกิดจากความเศร้าโศก หรือความทุกข์อย่างอื่นได้มากมาย"

- พระไพศาล วิสาโล -

สวนนงนุชพัทยาดำเนินการตามโครงการ “พัทยา มูฟออน” ส่งท้ายปีเก่า เปิดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและช้างแสนรู้

สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี นำโดย นายกัมพล  ตันสัจจา  ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้เปิดโรงละครสกาลา ส่งท้ายปีเก่า พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ จากเดิมซื้อบัตรผ่านประตู 1 คน ฟรี 1 คน ในราคา 300 บาท เพียงเพิ่มอีก 100 บาท จะได้เข้าชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและช้างแสนรู้ ได้ทั้ง  2 ท่าน




ตามมาตรการผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมของจังหวัดชลบุรี ให้สามารถเปิดโรงมหรสพได้ทางสวนนงนุชพัทยา จึงเปิดให้บริการโรงละครสกาลาสวนนงนุชพัทยา ระหว่าง วันจันทร์-ศุกร์ วันละ 1 รอบ ในเวลา 13.30 น. ส่วนในวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพิ่มเป็นวันละ 2 รอบ ในเวลา 10.30 น. และ 13.30 น. กิจกรรมดังกล่าวเพื่อเป็นการรณรงค์การท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย ส่วนการท่องเที่ยวชมโซนต่างๆ ที่เป็น UNSEEN ของสวนนงนุชพัทยา อาทิ สวนลอยฟ้า,สวนกระถาง,สวนตะบองเพชร,หุบเขาไดโนเสาร์ และเนิร์สเซอรี่พันธุ์ไม้ต่างๆ ภายในสวนนงนุชพัทยานั้น ยังสามารถเที่ยวชมได้ตามปกติ



เกษตรฯ เดินหน้า "5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย" วางหมุดหมายแผน 5 ปีพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนแม่น้ำโขงรองรับการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศ ดึงทุกภาคีร่วมขับเคลื่อน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบูรณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อภาคการเกษตรจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของแม่น้ำโขง เปิดเผยถึงผลการประชุมผ่านระบบ ZOOM ในวันนี้ (28 พ.ย.) โดยมีนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวง นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง นายทินกร อ่อนประทุม คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตร นางอ้อมบุญ ทิพย์สุนา ประธานสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน ศ.ดร.ทวนทอง จุฑาเกตุ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นายกฤษฎา บุญชัย จากสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนองค์กร ตัวแทนเกษตรกรจากทุกจังหวัดริมฝั่งแม่น้ำโขง ในประเด็นความก้าวหน้าของการทำงานโดยคณะอนุกรรมการฯในพื้นที่ และแผนพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน พ.ศ. 2566 - 2570 พร้อมพิจารณาการตั้งของบประมาณในปี 2566 ตามโครงการพัฒนาด้านการประมงในพื้นที่แม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านของประชาชนต่อผลกระทบของแม่โขงที่เปลี่ยนแปลงไป

คิดแต่เรื่องดีๆ พูดกันแต่เรื่องดีๆ ทำแต่เรื่องดีๆ ไปสู่สถานที่ดีๆ สมาคมกับคนดีมีปัญญา

คิดแต่เรื่องดีๆ พูดกันแต่เรื่องดีๆ

ทำแต่เรื่องดีๆ ไปสู่สถานที่ดีๆ

สมาคมกับคนดีมีปัญญา

- คำสอน หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ -
 

Red Cross Fun(D) Fair x Sharing Show งานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดประจำปี 2564 ในรูปแบบ The Musical Show เปิดประสบการณ์สนุก สร้างสุขทุกมิติ

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 พร้อมด้วย นายขรรค์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้สภากาชาดไทย รองประธานกรรมการฯ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแผนกประชาสัมพันธ์งานกาชาดประจำปี 2564 นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กรรมการและเลขานุการฯ จัดงานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดประจำปี 2564 ในรูปแบบ The Musical Show “Red Cross Fun(D) Fair x Sharing Show” ขึ้นเป็นครั้งแรก ร่วมด้วยคณะกรรมการแผนกต่าง ๆ อาทิ หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สมาคม มูลนิธิ อาสาสมัคร ผู้เข้าประกวดขวัญใจงานกาชาด คณะกุลบุตร-กุลธิดากาชาด และสื่อมวลชนทุกแขนง รวมถึงสื่อมวลชนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด ร่วมชมพร้อมกันผ่านระบบ ZOOM Meeting และทางเว็บไซต์ www.งานกาชาด.com, www.redcrossfair.com   

โดยงานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดในปีนี้จะนำผู้ชมทุกท่านทะลุผ่านมิติเข้าสู่ดินแดนแห่งการผจญภัย ในโลกที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการให้และการแบ่งปัน ในรูปแบบ The Musical Show ผจญภัยไปพร้อมกับ AVATAR เสมือนจริง สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย เชิญชวนท่านชอปเพลินกับสินค้ามากมาย พิชิตรางวัลแบบ non stop และการเปิดตัวผู้เข้าประกวดขวัญใจงานกาชาดประจำปี 2564 จากหน่วยงานต่างๆ และกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ ที่จะพาทุกท่านได้เปิดประสบการณ์สนุก สร้างสุขทุกมิติไปพร้อมกัน นำแสดงโดย อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ และนักแสดงรับเชิญจากขวัญใจงานกาชาดประจำปี 2562-2563 คณะกุลบุตร-กุลธิดากาชาด ร่วมด้วยนักแสดงกิตติมศักดิ์ นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย 

นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 กล่าวถึงการจัดงานกาชาดในรูปแบบออนไลน์ปีนี้ว่า “งานกาชาด เป็นมหกรรมรื่นเริงการกุศลที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานเกือบศตวรรษ มีการปรับเปลี่ยนพัฒนากิจกรรมและรูปแบบตามยุคสมัยแบบไม่เคยหยุดนิ่ง ซึ่งปีนี้คณะกรรมการจัดงานทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจสานต่อกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นร้านโครงการส่วนพระองค์ หน่วยงานจากภาครัฐ กลุ่มพลังงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน สมาคม มูลนิธิ ห้างร้านต่างๆ อาสาสมัคร และสื่อมวลชนที่ร่วมกันสร้างสรรค์งานกาชาดให้เป็นมหกรรมการกุศลคู่คนไทยมาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน งานกาชาดปีนี้พัฒนาให้เข้าถึงง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงกิจกรรมความสนุกสนานต่างๆ ที่รอคอยให้ทุกท่านได้เข้าไปเยี่ยมชม สั่งซื้อสินค้า ร่วมสนุกลุ้นรับรางวัล ซื้อสลากกาชาด ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ชมการประกวดขวัญใจงานกาชาด และร่วมเป็นผู้ให้กับสภากาชาดไทยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ตกทุกข์ได้ยากในด้านต่างๆ ต่อไป”

นางจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 เผยถึงการจัดงานเปิดตัวแพลตฟอร์มในรูปแบบ The Musical Show และกิจกรรมพิเศษในงานกาชาดว่า “การจัดงานกาชาดในแต่ละปีมีความท้าทายที่แตกต่างกันไป งานกาชาดที่จัดมาเกือบหนึ่งร้อยปีจะทำอย่างไรให้คณะกรรมการแผนกต่างๆ หน่วยงานที่ร่วมออกร้านและผู้ชมงานยังตื่นเต้น ยังรอคอย และสนุกไปกับงานในแต่ละปี จึงเป็นโจทย์ยากที่ทีมงานต้องช่วยกันคิดให้มีความแปลกใหม่ โดดเด่น แตกต่าง และเข้าถึงง่ายตามยุคสมัยและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป ปีนี้งานเปิดตัวแพลตฟอร์มในรูปแบบ The Musical Show เรียงร้อยเรื่องราวกิจกรรมในงานกาชาดออนไลน์ให้เข้าถึงง่ายขึ้น ด้วยการแต่งเป็นบทเพลง เนื้อร้องทำนอง เติมบทพูดใส่สีสันต่างๆ ให้ผู้ชมที่รอคอยเที่ยวชมงานได้สัมผัสบรรยากาศและเห็นภาพจินตนาการเป็นรูปธรรมมากขึ้น และสร้างการมีส่วนร่วมด้วยการเชิญให้คณะกรรมการทุกแผนก สื่อมวลชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับงานเปิดตัวแพลตฟอร์มงานกาชาดผ่านระบบ ZOOM Meeting เพื่อปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด”

โดยการจัดงานกาชาดประจำปี 2564 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ประสบการณ์สนุก สร้างสุขทุกมิติ #Fun(D) Fair x Sharing” ระหว่างวันที่ 14 – 27 ธันวาคม 2564 รวม 14 วัน 24 ชั่วโมง สามารถเข้าชมงานได้ทั้งสองช่องทางที่ www.งานกาชาด.com และ​www.redcrossfair.com มีการพัฒนารูปแบบและกิจกรรมภายในงานให้มีความหลากหลายสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความชื่นชอบของผู้เที่ยวชมงานทุกวัยมากยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนการเข้าแพลตฟอร์มโดยไม่ต้อง log in เข้าระบบ กรอกข้อมูลเพียงครั้งเดียวเมื่อถึงขั้นตอนชำระสินค้าหรือการบริจาคเงิน โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ เมื่อเข้าแพลตฟอร์มแล้วจะพบกับหน้า Lite Version : ช้อปเพลินเดินทีหลัง สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าโดยเฉพาะ และหน้า Full Version : ชมให้ครบจบที่ช้อปปิ้ง สำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวชมงาน ร่วมกิจกรรม เล่นเกม ลุ้นรับของรางวัลและซื้อสินค้า 

สำหรับสีสันกิจกรรมงานกาชาดประจำปี 2564 ในรูปแบบออนไลน์ ประกอบด้วย... 

•การแปลงโฉม AVATAR ก่อนเข้างาน โซนสวนสนุก ออกแบบให้เสมือนจริงยิ่งขึ้น 

• บ้านผีสิงแบบ interaction ชวนหลอนทะลุมิติ   

• ชิงช้าสวรรค์ทิพย์ชมวิว 360 องศา 

• ฉายหนังกลางแปลง 14 วัน 14 เรื่อง 

• เขย่าเซียมซีลุ้นคำทำนาย

• การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ร้านโครงการส่วนพระองค์ อาทิ ผ้าไทย กระเป๋า เครื่องจักสาน อาหาร ผักดองวังสระปทุม ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และสินค้าจากร้านค้าหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมชื่นชม

• การออกแบบประกวดร้านงานกาชาด จากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ พลังงาน สถาบันการศึกษา สมาคม มูลนิธิ 

• ช้อปร้านค้าเอกชนแบรนด์ดังมากมาย และร้านจากเหล่ากาชาดจังหวัด คัดสรรสินค้าดีประจำจังหวัดมาจำหน่ายในโซนสภากาชาดไทย รวมทั้งสิ้นกว่า 200 ร้าน 

• การประกวดขวัญใจงานกาชาด ชวนโหวตดอกไม้เฟ้นหาทูตแห่งการให้ 

• พยากรณ์ดวงชะตาออนไลน์ หลากหลายศาสตร์จากโหรดังมากประสบการณ์ จาก 3 สมาคม 

• ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรม โขนละคร การแสดงดนตรีจากศิลปิน นักแสดงจากหลากหลายสังกัด หรือจะเลือก... 

• สั่งอาหารมื้อพิเศษกับเครื่องดื่มโอวัลติน x KOI พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะในงานกาชาด จัดส่งรวดเร็วกับพันธมิตรขนส่งระดับประเทศ นอกจากนั้นยังมี

• Virtual exhibition แหล่งเรียนรู้จากหน่วยงานต่างๆ และสถานเสาวภาสภากาชาดไทย เปิดสวนงูให้ชมถึงหน้าจอ การบริจาคดวงตา อวัยวะ ร่างกายกับสภากาชาดไทย จองคิวบริจาคโลหิต ผ่านระบบออนไลน์ 

• อุดหนุนเสื้อและสินค้าที่ระลึกงานกาชาดประจำปี 2564 

• สลากกาชาดจากหน่วยงานต่าง ๆ และลุ้นรางวัลใหญ่พร้อมกันในวันที่ 27 ธันวาคม 2564 และ

• กิจกรรมที่เป็นอัตลักษณ์ของงานกาชาด ในรูปแบบเกมออนไลน์ อย่างสอยดาว ปาเป้า เกมเศรษฐีตอบคำถามชิงรางวัล จับคู่ลุ้นรางวัล 

• ค้นหาผู้พิชิตภารกิจ e-Passport คว้ารถยนต์จากการเข้าชมแพลตฟอร์ม และร่วมบริจาคสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้ประสบภัยพิบัติตามภารกิจของสภากาชาดไทย 

นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ส่งกำลังใจให้ "คริสโตเฟอร์" คนพิการ ผู้ทำความดี สู้ชีวิต!!

ณ อาคาร ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมคนพิการเอเชียและแปซิฟิก (APCD) แขวงราชวิถี เขตทุ่งพญาไท กทม. ภายในพื้นที่บ้านราชวิถี "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย ได้ไปกับ "คริส เบญจกุล" หรือ "คริสโตเฟอร์" อดีต นักแสดงหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจากการช่วยเหลือผู้อื่นที่กำลังประสบอุบัติเหตุ จนตนเองต้องบาดเจ็บสาหัสกลายเป็น "คนร่างพิการไม่สมบูรณ์" เมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่ "คริสโตฟอร์" ก็ไม่เคยย่อท้อต่อชะตาชีวิตของตนเอง ลุกขึ้นต่อสู้กับการใช้ชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ ถึงแม้จะมีร่างกายพิการ แต่ก็ยังไม่ทิ้งการทำความดีได้ทำงานเชิงสังคมรณรงค์ความตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยบนท้องถนน และยังได้ฝฝึกอบรมพัฒนาอาชีพ และเป็นกำลังใจ แบบอย่างการสู้ชีวิต ให้กับน้อง ๆ "เด็กพิการ" ที่เข้ามาฝึกอบรมการทำเบเกอรี่ ที่ "60 Plus By Yamazaki" ณ APCD แห่งนี้

โดย "นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย" ได้สอบถามถึงการสร้างอาชีพเสริม คือทำ "น้ำส้ม" ขายที่มีพี่น้องประชาชนพอทราบข่าวก็มาร่วมให้กำลังใจ และให้การสนับสนุนซื้อน้ำส้มของคุณ "คริสโตเฟอร์" เป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในช่วงแรกและมีหนี้สินจากการลงทุนประกอบอาชีพ จึงได้ตัดสินใจเอาเงินก้อนสุดท้ายไปลงทุน แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ 

เลยตัดสินใจไปนั่งขายตรงฟุตบาทแถว "สวนหลวง ร.9" พอพี่ ๆ เทศกิจมา ผมกับแฟนก็ช่วยกันยกหนี ผมก็จะนั่งและตะโกนนำส้นสด ๆใหม่ 100% ครับไม่มีน้ำเชื่อมไม่มีสารกันเสียครับ 7 ขวด 100 บาท แต่ก็ดีที่พี่เทศกิจห้ามขายขอบคุณครับ (ผมตะโกนดัง ๆ) แล้วก็ขนของขึ้นรถแล้วก็ขับหนีไปซ่อนสักพักหนึ่ง ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ก็ขับรถมาดูแล้วขายต่อ บางคนอาจจะมองว่าเป็นอุปสรรคก็แล้วแต่ใครจะมองแต่สำหรับผมมองโลกในแง่ดีเป็นเรื่องสนุกดีสร้างเสียงหัวเราะให้ชีวิตตนเองได้ครับ 

สำหรับตอนนี้ผมไปขายที่ "ตลาดอยู่สอาด" ซอยศรีนครินทร์ 53 เลยซีคอน / ตลาดรถไฟ หรือท่านใดสนใจที่จะให้การสนับสนุนสามารถติดต่อออนไลน์ทาง facebook "happy and Healthy" และเบอร์โทรศัพท์ 062 232 9456 ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมจิตอาสาพระราชทาน จัดกิจกรรม “1910 ด้วยใจ” ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

ทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมจิตอาสาพระราชทาน จัดกิจกรรม “1910 ด้วยใจ” ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

21 พฤศจิกายน 2564 เวลา 08.30 น. ทัพเรือภาคที่ 1 มอบหมายให้ นาวาเอก วีระชัย บุญมาก ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน ทัพเรือภาคที่ 1 จัดกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ ร่วมกับ จิตอาสาพระราชทาน 904 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และเทศบาลนครแหลมฉบัง โดยมี นายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโช นายอำเภอบางละมุง เป็นประธานในการจัดกิจกรรม “1910 ด้วยใจ” ครั้งที่ 3 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ณ วัดสุทรีย์บุญญาราม (หนองมะนาว) ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ร่วมบริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤติโรคระบาดส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัย ให้ผู้ป่วยได้ผ่าตัด

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน โรงพยาบาลทั่วประเทศขาดเลือด หมอนัดผ่าตัดเต็มรูปแบบ ต้องการโลหิตจำนวนมาก ส่งผลกระทบโลหิตคงคลังไม่พอจ่าย

รศ.พญ.ดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลประกาศคลายล็อก ยกเลิกเคอร์ฟิว และเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 อนุญาตให้หน่วยงานหลายแห่ง รวมถึงโรงพยาบาลเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยได้ตามปกติ ทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ เพิ่มเคสนัดผ่าตัดจาก 25% เป็น 50% ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการเบิกขอใช้โลหิตสูงกว่า 6,500 ยูนิตต่อวัน แต่สามารถจ่ายเลือดได้เพียง 43% เท่านั้น

ปัจจุบัน มีปริมาณโลหิตบริจาคทั่วประเทศเฉลี่ย วันละ 2,800 ยูนิต ส่งผลให้โรงพยาบาลทุกแห่งขาดเลือดไม่มีโลหิตเพียงพอในการรักษาและผ่าตัดผู้ป่วย และยังต้องใช้โลหิตกับผู้ป่วยที่มีภาวะสูญเสียโลหิตเฉียบพลัน และผู้ป่วยโรคเลือดที่ต้องใช้โลหิตเป็นประจำ

1. แพทย์ไม่มีโลหิตเพียงพอที่ใช้ในการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดที่ต้องใช้โลหิตจำนวนมาก และเร่งด่วน อาทิ ผู้ป่วยที่เกิดภาวะสูญเสียโลหิตเฉียบพลัน อุบัติเหตุ ตกเลือดหลังคลอดบุตร และเลือดออก ในทางเดินอาหาร ฯลฯ การรักษาผู้ป่วยกรณีดังกล่าว ต้องมีโลหิตสำรองไว้ระหว่างการผ่าตัด 2-3 ยูนิต ในกรณีที่มีอาการรุนแรง 5-10 ยูนิต ต้องขอเบิกโลหิตสำรองให้เพียงพอ ถ้าโลหิตไม่เพียงพอต้องเลื่อนการผ่าตัดอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงชีวิตได้

2. ผู้ป่วยที่ชะลอการผ่าตัดในช่วงที่ผ่านมา กลับมารักษาตามที่โรงพยาบาลนัดหมาย อาทิ โรคข้อเข่าเสื่อม​ โรคกระดูก โรคหัวใจ ชนิดไม่รุนแรง ซึ่งทำให้ผู้ป่วยขาดโอกาสในการรักษาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้คุณภาพชีวิตลดลง 

3. ผู้ป่วยโรคเลือด ที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษาเป็นประจำ อาทิ โรคธาลัสซีเมีย โรคโลหิตจาง และโรคเกล็ดเลือดต่ำ ในรายที่เป็นชนิดรุนแรงต้องได้รับโลหิตในการรักษาเป็นประจำสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละ 1-2 ยูนิต หากไม่ได้รับโลหิตผู้ป่วยจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ในรายที่โลหิตจางรุนแรงอาจทำให้หัวใจทำงานหนักจนหัวใจล้มเหลวได้ จึงต้องได้รับโลหิตในการรักษาอย่างทันท่วงที

“ปชป.” พอใจผลโพลเครือข่ายองค์กรครูล่าสุด​ ”จุรินทร์” ขึ้นแท่นเบอร์​ 2​ ชิงนายกรัฐมนตรี เชื่อ!! ยังไม่มีการยุบสภาช่วงนี้ เผย!! ประชาธิปัตย์เดินหน้าปฏิรูปต่อเนื่องตั้งคณะทำงาน​ 8​ ชุด เร่งพัฒนานโยบายพรรคตอบโจทย์การเมืองเชิงสร้างสรรค์

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผยวันนี้​ (21พ.ย.) ว่า
พรรคประชาธิปัตย์พอใจต่อผลโพลล่าสุดของสถาบันวิจัยและพัฒนาสังคม เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทยล่าสุดที่ปรากฎว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับความนิยมเป็นอันดับ2ของผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีรองจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพร้อมนำผลการสำรวจความคิดเห็นในประเด็นเรื่องมุมมองของประชาชนเกี่ยวกับนโยบายและผู้นำพรรคเป็นข้อมูลประกอบการพัฒนานโยบายพรรคต่อไป

ทั้งนี้เมื่อวันที่​ 18​ พ.ย.ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานใหม่​ 8​ คณะ​ เพื่อจัดทำร่างนโยบายของพรรคในมิติต่างๆเพื่อตอบโจทย์การเมืองเชิงสร้างสรรค์ซึ่งเป็นแนวทางการขับเคลื่อนการปฏิรูปพรรคอย่างต่อเนื่อง

ต่อคำถามที่ว่าขณะนี้มีการเคลื่อนไหวอย่างคึกคักของทุกพรรคการเมืองจะเป็นสัญญานการเตรียมพร้อมรับมือการยุบสภาในเร็วๆนี้หรือไม่ 

นายอลงกรณ์กล่าวว่า คงไม่ใช่สัญญาณเตรียมรับมือการยุบสภาและในมุมมองของตนไม่คิดว่าจะมีการยุบสภาในช่วงนี้ สำหรับการเคลื่อนไหวของพรรคต่างๆ​ ในระหว่างนี้เป็นเพราะแต่ละพรรคต้องจัดการประชุมใหญ่ประจำปีตามกฎหมายพรรคการเมืองและที่มาจัดประชุมกระจุกตัวกันในช่วงเดือนนี้เนื่องจากมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด19​ ทำให้ก่อนหน้านี้แต่ละพรรคตัองเลื่อนการประชุมมาเรื่อยๆจนรัฐบาลคลายล็อคจึงสามารถจัดประชุมได้เลยมาจัดตรงกันในช่วงนี้พอดีซึ่งเป็นการประชุมตามปกติ อาจมีวาระพิเศษเพิ่มเติมคือกรณีรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขใหม่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับระบบพรรคการเมืองและระบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบใหม่

ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กำลังเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับผู้สมัครส.ส.ให้สอดคล้องกับการเลือกตั้งระบบใหม่

ทั้งนี้เมื่อวันที่​ 18 พ.ย.​ สถาบันวิจัยและพัฒนาสังคม เครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูแห่งประเทศไทยได้แถลงผลการสำรวจความคิดเห็น

โดยวิธีการสุ่มจากประชากรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป กำหนดจำนวนกลุ่มตัวอย่างเป้าหมายตามพื้นที่ ภาคอีสาน จำนวน 400 คน ภาคเหนือ จำนวน 300 คน ภาคกลาง จำนวน 300 คน ภาคใต้ จำนวน 300 คน  กรุงเทพมหานคร จำนวน 200 คน รวมกลุ่มตัวอย่างเป้าหมายทั้งสิ้น 1,500 คน โดย กำหนดสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างเป้าหมายตามสาขาวิชาชีพ เกษตรกร 30% ครู อาจารย์ นักวิชาการ 25% นักเรียน นักศึกษา เยาวชน 10% ข้าราชการ 10%  นักธุรกิจ/ผู้ประกอบการ  10% ค้าขาย​ / ลูกจ้าง​ ​/ กรรมกร 10% นักการเมือง / ผู้นำชุมชน / จิตอาสา 5% ซึ่งการสำรวจความคิดเห็นและวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative) การสนทนากลุ่ม (Focus Group) ค่าความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ( P-Value = 0.05) รูปแบบการสำรวจวิจัย ใช้ 1) การสำรวจวิจัยภาคสนาม เป็นการสัมภาษณ์โดยตรงแบบตัวต่อตัว โดยใช้ผู้ช่วยนักวิจัยแจกแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ภาคละ 20 คน รวม 100 คน 2) การสำรวจวิจัยแบบเปิด โดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ผ่าน google form 3) การสอบถามและสัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ ระบบซูม (zoom) และระบบไลน์
ผลการวิจัย 5 ประเด็น พบว่า...

พอใจต่อการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 97.14%

ฝ่ายฝ่ายค้านและม็อบปฏิรูปสถาบัน ไม่อาจล้มรัฐบาล 78.4%

ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธ เผาทำลาย หยาบคาย จาบจ้วงสถาบัน ละเมิด กม.ใช้ข้อมูลเท็จ และสร้างความเดือดร้อน 96.32%   

การที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ “ถือว่าเป็นการล้มล้างเปลี่ยนการปกครอง” เห็นด้วยหรือไม่เพียงใด 93.36%

และยังมีผลว่า การที่พรรคเพื่อไทยแต่งตั้งบุตรสาวอดีตนายกฯทักษิณเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค มีอิทธิพลต่อการครอบงำพรรคหรือไม่เพียงใด

เห็นด้วย 90.44% การเสนอแก้ไขหรือยกเลิก มาตรา 112 และ 116 ของเพื่อไทย+ก้าวไกล ไม่เห็นด้วย 93.74%

เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรตั้งพรรคการเมืองใหม่ที่มีนักการเมืองคุณภาพและนโยบายที่เกิดจากการร่วมคิดของประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่ 90.6% เห็นด้วย รวมถึงเสนอให้ส.ส.พรรคพลังประชารัฐควรย้ายตามไป 91.9%
และยังเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัย 73.74%

ด้าน ความพึงพอใจต่อผลงานของรัฐบาลด้านต่างๆ เรื่องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิทเกิน 70% จนสามารถเปิดประเทศได้เป็นอันดับต้นๆของโลก 75.34% ตามด้วย โครงการคนละครึ่ง เราชนะ ปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เยียวยาประชาชนทุกกลุ่ม 91.38%

ในด้านเศรษฐกิจ เรื่อง อีอีซี, ทางด่วนเชื่อมต่างจังหวัด รถไฟฟ้าในกทม.และปริมณฑล, สถานีรถไฟกลางบางซื่อที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน ,รถไฟความเร็วสูงเชื่อมอาเซียน /สร้างถนน 4 เลนทั่วประเทศ /สร้างรถไฟรางคู่ 4 ภูมิภาค, โครงการโคกหนองนา​ / ลดค่าเทอมนักเรียนนักศึกษา/การสร้างงานให้บัณฑิตใหม่ ก็ยังให้ผลบวกสูง

ส่วนนโยบายที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ คือ ลดราคาน้ำมัน การส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และการประกันรายได้ผลผลิตการเกษตร รวมถึง  การลดดอกเบี้ยหนี้สินเกษตรให้เหลือร้อยละ 3 ปรับโครงสร้างหนี้ระยะยาว /สร้างตลาดเกษตรชุมชน ลดดอกเบี้ยหนี้สินครู / หนี้ ก.ย.ศ. จัดตั้งธนาคารสหกรณ์ครูไทย และปฏิรูปการศึกษาโดยให้ครูและประชาชนมีส่วนร่วม ทำโครงการผันน้ำจากแม่น้ำโขง พัฒนาแหล่งน้ำทั่วประเทศ ตั้งกระทรวงน้ำ การขุดคลองไทย แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันและปราบปราม ยาเสพติด

ผลโพลยังสำรวจ การคาดว่าผู้ใดจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป 1) พล.เอกประยุทธ์ จันทร์โอชา 40.16%  
2) นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์  15.60 % 
3) นายอนุทิน ชาญวีระกุล 11.22%  
4) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 9.83%  
5) นายชลน่าน ศรีแก้ว  9.70% 
6) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  7.2% 
7) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 6.28%

ญาติแรงงาน ไต้หวัน ขอบคุณนายก ที่สั่งการ ก.แรงงาน ดูแลสิทธิประโยชน์เป็นอย่างดี

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยที่เสียชีวิตและบาดเจ็บบริเวณไซต์งานก่อสร้างในนครนิวไทเป ที่ไต้หวันว่า ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แสดงความเสียใจและห่วงใยแรงงานไทยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศถือเป็นวีรบุรุษและตัวแทนของประเทศไทยที่มีความเสียสละออกไปทำงานในต่างแดนเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวและนำรายได้เข้าประเทศ จึงได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานดูแลช่วยเหลือในเรื่องสิทธิประโยชน์ทุกอย่างแก่ทายาทแรงงานไทยที่เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้เร็วที่สุด โดยสิทธิประโยชน์เบื้องต้นของนายจักริน พวงเกต แรงงานไทยที่เสียชีวิต มีดังนี้




1) เงินค่าทำศพ 5 เดือนของค่าจ้างที่แจ้งเอาประกัน ประมาณ 120,000 เหรียญไต้หวัน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 141,393 บาท

2) เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นนายจักรินเดินทางมาทำงานที่ไต้หวันเมื่อปี 2549 จึงมีสิทธิ์รับเงินจำนวน 40 เท่าของค่าจ้างที่เอาประกัน เป็นเงินประมาณ 960,000 เหรียญไต้หวัน (ประมาณ 1,132,800 บาท)

3) เงินเยียวยาจากกองแรงงาน นครนิวไทเป 100,000 เหรียญไต้หวัน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 117,830 บาท

4) เงินค่าจ้างเดือนสุดท้ายของการทำงาน เป็นเงิน 30,000 เหรียญไต้หวัน ประมาณ 35,400 บาท

5) เงินชดเชยเยียวยาจากนายจ้าง ซึ่ง สนร. ไทเป จะเจรจาเรียกร้องเงินเยียวยาจากนายจ้างเพื่อชดเชยให้ทายาทได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่

6) เงินสงเคราะห์จากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีเสียชีวิต จำนวน 40,000 บาท ขณะนี้รวมยอดเงินที่ได้รับสำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิต 1,467,423 บาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top