Thursday, 9 May 2024
อีอีซีไทม์

ชลบุรี - สัตหีบ เปิดศูนย์ CI แยกกักตัวผู้ป่วยโควิด-19 หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น

เมื่อเวลา 10.00 น วันที่ 31 ส.ค.64 นายกิตติพงษ์ กิตติคุณ นายอำเภอสัตหีบ เป็นประธานเปิดศูนย์พักคอยและแยกกักตัวสำหรับคนในชุมชน (Community Isolation :CI) ณ ศูนย์การเรียนรู้เทศบาลตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

หลังพบการแพร่ระบาดในพื้นที่อำเภอสัตหีบ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวัน ล่าสุดเมื่อ 30 ส.ค.64 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย ยอดสะสม 1,780 ราย กำลังรักษา 411 ราย หายป่วย 1,350 ราย เสียชีวิต 19 ราย และผู้ติดเชื้อในเขตเทศบาลตำบลบางเสร่ เมื่อ 30 ส.ค.64 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 รายยอดสะสม 132 ราย รักษาหาย 95 ราย อยู่ระหว่างรักษาในโรงพยาบาล36 ราย เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล ในการรับดูแลผู้ป่วย จึงมีความจำเป็นในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับแยกกักตัวคนในชุมชน (CI) เพื่อดูแลผู้ป่วย กรณีที่ผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 และแพทย์ผู้ดูแลรักษาของหน่วยบริการพิจารณาแล้ว เห็นสมควรให้ผู้ป่วยได้กลับมาดูแลรักษาในศูนย์พักคอยและแยกกักตัว สำหรับคนในชุมชนจนครบกำหนด ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

โดยมี นายชัยวัฒน์ อินอนงค์ นายกเทศมนตรีตำบลบางเสร่ พร้อมคณะผู้บริหาร ผู้แทน สส.ชลบุรี เขต 8 ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สาธารณสุขอำเภอสัตหีบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางเสร่ ร่วมในพิธีเปิดโครงการและนำนายอำเภอสัตหีบ เข้าเยี่ยมชมศูนย์พักคอยและแยกกักตัว สำหรับคนในชุมชน ในครั้งนี้ จำนวน 15 เตียง แบ่งเป็นผู้ป่วยหญิง 8 เตียง ผู้ป่วยชาย 7 เตียง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน

นายกิตติพงษ์ กิตติคุณ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่าโครงการจัดตั้งศูนย์พักคอยและแยกกักตัวสำหรับคนในชุมชน (Community Isolation) มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพี่น้องประชาชนชาวบางเสร่ เพื่อให้ชุมชนปลอดโรคและปลอดภัยจากโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ด้วยการได้รับการป้องกัน เฝ้าระวัง ดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาล ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ผ่านภาวะเฉียบพลันหรือวิกฤต และมีอาการดีขึ้นคงที่ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และเพื่อให้ประชาชนผู้ติดเชื้อ ได้รับการคัดแยกอาการและรักษาดูแลตามแนวทางการปฏิบัติ ด้านสาธารณสุข ในการป้องกันแพร่ระบาดและติดเชื้อโควิด-19

และขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณะสุขอย่างเคร่งครัด ด้วยการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ลดกิจกรรมต่าง ๆ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือ เช็คอุณหภูมิร่างกาย ไม่มั่วสุมรวมกลุ่มดื่มสุรา ซึ่งเราจะผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 นี้ ไปให้ได้ ด้วยการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ ในทุกภาคส่วนขอให้พี่น้องประชาชน สบายใจได้


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ชลบุรี - ‘นายกปลื้ม’ มั่นใจ คนพัทยาฉีดวัคซีนครบ 70 % ทันตุลาคมนี้ หลังรับชิโนฟาร์ม 60,000 โดส ระดมแพทย์ฉีดให้ประชาชนวันละ 2,000 คน หวังสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ก่อนเตรียมเปิดเมืองท่องเที่ยว

วันนี้ (31 ส.ค.) ที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย คณะผู้บริหารเมืองพัทยา ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ที่แพทย์ พยาบาล และประชาชนที่เดินทางมาเข้ารับวัคซีนซิโนฟาร์มเมืองพัทยาเข็ม 1 ในวันแรกจำนวน 2,000 คน ซึ่งเป็นวัคซีนซิโนฟาร์มที่เมืองพัทยาได้ตั้งงบประมาณไว้เพื่อทำการจัดซื้อจากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ฯ จำนวน 100,000 โดส เพื่อนำมาฉีดให้กับประชาชนเมืองพัทยาหวังเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยปัจจุบันเมืองพัทยาได้รับการอนุมัติวัคซีนซิโนฟาร์มจากสถาบันราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในล็อตแรกจำนวน 60,000 โดส

นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่าสำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มของเมืองพัทยาวันแรกที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา สามารถดำเนินการได้วันละ 2,000 คน ซึ่งพบว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากที่ทางโรงพยาบาลได้นำประสบการณ์ปัญหาอุปสรรคในการให้บริการจัดฉีดวัคซีนที่ผ่านมาปรับแก้เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และไม่แออัดเหมือนที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่จะมีการนัดหมายเวลากับประชาชนที่จะการเข้ารับวัคซีนด้วยการส่ง SMS เพื่อไม่ให้มารอรับบริการเป็นเวลานาน ทั้งนี้คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ในการจัดฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มครบทั้ง 30,000 คน

นายสนธยา กล่าวอีกว่านอกจากวัคซีนที่ภาครัฐจัดสรรมาให้ทั้งในส่วนของซีโนแวค แอสตร้าวีเนก้า รวมทั้งวัคซีนชิโนฟาร์มที่เมืองพัทยาตั้งงบประมาณจัดซื้อมานั้น ถือว่ามีปริมาณเพียงพอต่อจำนวนประชากรในพื้นที่เกือบทั้งหมด และหากดำเนินการฉีดวัคซีนครบตามเป้าหมายก็คาดว่าจะสามารถให้วัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ได้จำนวนที่กำหนดหรือ 70 % หลังจากที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 40%  จึงคาดว่าจะสามารถมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยด้านการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ภายในเดือนตุลาคมนี้ หรืออย่างช้าสุดก็ภายในเดือนมกราคม 2565 ซึ่งหลังจากนั้นก็จะได้เร่งตามแผนการเปิดเมืองท่องเที่ยวหรือแผน Pattaya Move On  ที่จะเปิดการรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว  อนันต์ สุขวัฒนะ / เอกชัย สุขวัฒนะ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทยา จ.ชลบุรี

ชลบุรี - กองเรือยุทธการร่วมกับอำเภอสัตหีบ รวมพลังสามัคคีจัดกิจกรรม “มีแล้วแบ่งปัน” ร่วมเติมเครื่องอุปโภคบริโภคใส่ตู้ มอบให้กับประชาชนชาวสัตหีบ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19

วันที่ 30 ส.ค.64 พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในการจัดกิจกรรม “มีแล้วแบ่งปัน” ร่วมกับ นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอสัตหีบ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาในกองบัญชาการ กองเรือยุทธการ , ผู้บริหารอำเภอสัตหีบ และชมรมภริยากองเรือยุทธการ นำของอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นเติมใส่ตู้ “มีแล้วแบ่งปัน” เพื่อส่งมอบพลังใจให้กับประชาชนชาวสัตหีบที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ณ หน้าที่ว่าการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี

จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างหนัก ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้างทั่วประเทศ โดยเฉพาะโดยเฉพาะรายได้ครัวเรือนที่ลดลงเป็นระยะเวลานาน ในการนี้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการได้มีดำริให้จัดตั้งตู้ “มีแล้วแบ่งปัน” ขึ้น เป็นหนึ่งในโครงการให้ความช่วยเหลือ โดยร่วมกับอำเภอสัตหีบ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.64 พร้อมกับเชิญชวนให้หน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ และส่วนต่าง ๆ ของอำเภอสัตหีบ ร่วมกันนำสิ่งของอุปโภคบริโภคตามขีดความสามารถที่มี เติมใส่ตู้อย่างต่อเนื่อง เป็นการแสดงออกซึ่งความห่วงใย  พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นการส่งผ่านธารน้ำใจของของการให้  การแบ่งปัน ทั้งนี้กองเรือยุทธการ และอำเภอสัตหีบ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องจนกว่าวิกฤตนี้จะคลี่คลาย สอดคล้องกับนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือที่มุ่งให้กองทัพเรือได้ร่วมพลังสามัคคีพลังราชนาวี เป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์อันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ชลบุรี - กฟผ.มอบเสื้อชูชีพ 200 ตัว เงิน 50,000 บาท สนับสนุนอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1

ทัพเรือภาคที่ 1 รับมอบเสื้อชูชีพ จำนวน 200 ตัว พร้อมเงินจำนวน 50,000 บาท จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อสนับสนุนให้แก่ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 ในพื้นที่ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันที่ 30 สิงหาคม 2564 พลเรือโท โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 มอบหมายให้ พลเรือตรี อภิชัย สมพลกรัง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย นาวาเอก วิวัฒน์  ขวัญสูงเนิน ผู้อำนวยการกองข่าวทัพเรือภาคที่ 1 เป็นผู้แทนรับมอบเสื้อชูชีพ จำนวน 200 ตัว พร้อมรับมอบเงินจำนวน 50,000 บาท จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดย นางสุภาวิณี นาควิเชตร หัวหน้าหมวดประชาสัมพันธ์ (มปส.-ปส.) โครงการปรับปรุงและขยายระบบส่งไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน  (อค.-ปส.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้แทนส่งมอบ ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การรับมอบเสื้อชูชีพ พร้อมด้วยเงินในครั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้มอบให้ทัพเรือภาคที่ 1 เพื่อสนับสนุนให้แก่ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 ตามโครงการสร้างสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติเทิดพระเกียรติ ระยะที่ 3 ซึ่งอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เป็นหนึ่งในพื้นที่ของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเสื้อชูชีพ จำนวน 200 ตัว ที่ได้รับมอบในครั้งนี้ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 จะนำใช้ไปทดแทนเสื้อชูชีพที่เก่าและเสื่อมสภาพเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำแก่ประชาชนทั้งในระหว่างการเดินทาง และการเยี่ยมชมอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 อีกทั้งจะนำเงินจำนวน 50,000 บาท ไปปรับปรุงโครงสร้างสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติเทิดพระเกียรติ และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมใต้ทะเล ณ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 ตามเจตนารมณ์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ต่อไป


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ระยอง - ตำรวจทางหลวงระยอง แจกฟ้าทะลายโจร พร้อมเปิดโครงการเปลี่ยนไฟท้ายจักรยานยนต์ให้ประชาชนฟรี

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 30 ส.ค. 64 ที่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 3 (ระยอง)  ริมถนนสุขุมวิท ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง พ.ต.ท ศราวุฒิ ทองใหญ่ สว.สทร.3 กก.3 บก.ทล.(ระยอง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้นำพันธุ์ต้นฟ้าทะลายโจร แจกจ่ายให้กับชาวบ้านและผู้ที่ต้องการนำไปปลูก เพื่อไว้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยมีประชาชนมารับแจกต้นฟ้าทลายโจรจำนวนมาก โดยบอกว่า ต้องการหาไปปลูกเพื่อใช้เป็นยา ตามที่มีการรับรองว่าสามารถต้านโควิด-19 ได้

พ.ต.ท.ศราวุฒิ กล่าวว่า สำหรับโครงการแจกต้นฟ้าทะลายโจรมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ทุกครัวเรือนปลูกต้นฟ้าทะลายโจร เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ในทางยาในการรักษาโรคต่างๆ โดยจะมีการเพาะต้นกล้าไว้แจกโดยผู้ใดสนใจก็สามารถติดต่อขอรับต้นกล้าได้ที่สถานีตำรวจทางหลวง3 กองกำกับการ 3 (ระยอง) ในวันและเวลาราชการ

นอกจากนี้ตำรวจทางหลวงระยอง ยังมีโครงการเปลี่ยนไฟท้ายรถจักรยานยนต์ฟรี เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากท่านใดต้อวการเปลี่ยนไฟท้ายรถจักรยานยนต์ สามารถนำรถเข้าไปติดต่อขอเปลี่ยนไฟท้ายได้ที่สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการทางหลวง 3(ทางหลวงสวนสน) ในวันเวลาราชการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ฟรีทั้งหลอดไฟและเปลี่ยนให้ ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเหลือผู้ใช้รถจักรยานยนต์และยังช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  วฐิต กลางนอก / ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน

ระยอง - ‘หลวงพ่อรวย’ ประเดิม ฉีดวัคซีนโควิด-19 ชิโนฟาร์ม เข็มแรกของเทศบาลเมืองมาบตาพุด เพื่อความเป็นสิริมงคล ‘นายก ถวิล’ อำนวยความสะดวก ต้อนรับประชาชนพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 เทศบาลเมืองมาบตาพุดได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 วันแรก ตัวเลือกชิโนฟาร์ม ที่ได้รับจัดสรรมาจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อพี่น้องประชาชนชาวมาบตาพุด 

โดยได้รับเกียรติจาก พระครูสุขุมธรรมธาดา (หลวงพ่อรวย  อคฺคสาโร) เจ้าอาวาสวัดมาบตาพุด ฉีดเป็นลำดับแรก เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ประชาชนชาวมาบตาพุด

สำหรับ บรรยากาศในวันแรก ช่วงเช้านี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ นายถวิล โพธิบัวทอง นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้ร่วมให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชนที่มารับบริการ ณ สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง


ภาพ/ข่าว  ทม.มาบตาพุด / ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน

ชลบุรี - ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการมอบต้นกล้าผักสวนครัวจาก “สวนผักรักษ์สุข” ให้กำลังพล เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์เริ่มต้นตามแนวทางศาสตร์พระราชาสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

วันที่ 24 ส.ค. 64 พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธานในพิธีมอบต้นกล้าผักสวนครัวจากผลผลิตของ “สวนผักรักษ์สุข” ให้กับ น.อ.กฤษฎา จิระไตรพร ผู้บังคับการกองสนับสนุน กองเรือยุทธการ เพื่อนำไปมอบให้กับกำลังพลกองเรือยุทธการ โดยมีคุณสุนันท์  สมานรักษ์ ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชากองเรือยุทธการ ร่วมในพิธี ณ สวนผักรักษ์สุข บ้านพักนายทหารผู้ใหญ่กองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

กองเรือยุทธการได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพลของกองเรือยุทธการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากนโยบายผู้บัญชาการกองเรือยุทธการประจำปี งบประมาณ 2564 กำหนดให้มีการส่งเสริม สนับสนุนหน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ และ ครอบครัว ปลูกผักสวนครัว โดยได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ หรือ “ศาสตร์พระราชา” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนารถบพิตร รัชกาลที่ ๙ มาเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่กำลังพลกองเรือยุทธการ และได้มีแนวทางปฏิบัติ ให้หน่วยขึ้นตรงกองเรือยุทธการ พิจารณาใช้พื้นที่บริเวณรอบอาคารกองบัญชาการของหน่วยปลูกผักสวนครัว ประกอบกับใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางจัดการต่อผลผลิตเพื่อใช้เป็นอาหารในครัวเรือน ซึ่งจะส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัว

ในการนี้ชมรมภริยากองเรือยุทธการ ได้น้อมนำหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ พัฒนาพื้นที่โดยนำ “โคก หนอง นา โมเดล” เป็นแนวทางในการปรับปรุงพื้นที่ว่างบริเวณบ้านพักนายทหารผู้ใหญ่ กองเรือยุทธการ จัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ “สวนผักรักสุข” ตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2564 ปัจจุบัน พืช ผัก ผลผลิตเจริญงอกงาม สามารถจำหน่าย ทำให้เกิดรายได้ และนำมาแจกจ่ายให้แก่กำลังพลของกองเรือยุทธการได้อีกด้วย

การมอบต้นกล้าผักสวนครัวที่ปลูกใน “สวนผักรักษ์สุข” จำนวนกว่า 800 ต้น ประกอบด้วยฟ้าทะลายโจร , มะเขือ , พริก และโหระพา เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ครอบครัวที่มีความตั้งใจในการดำเนินกิจกรรมแต่ขาดปัจจัยการผลิต ได้มีปัจจัยต้นทุนของการผลิตเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้กำลังพลและครอบครัวของกองเรือยุทธการ สามารถเริ่มต้นปลูกผักสวนครัว ในพื้นที่บริเวณบ้านพักตนเอง เพื่อใช้เป็นอาหารในครัวเรือน ส่งผลให้ประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้อย่างดี เป็นจุดเริ่มต้นของการน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้อย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลสู่การพึ่งพาตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก

ชลบุรี - ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ รับมอบเงินจากการจำหน่ายเสื้อที่ระลึก ‘เรือของพ่อ เรือ ต.91’ จากชมรมภริยา กองเรือยุทธการ เพื่อใช้ในการบำรุงรักษาอุทยานประวัติศาสตร์ฯ สัญลักษณ์สำคัญของเมืองสัตหีบ

วันที่ 24 ส.ค. 64 พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พร้อมด้วยคณะกรรมการกองทุนอุทยานประวัติศาสตร์ เรือของพ่อ เรือ ต.91 รับมอบเงินจากการจำหน่ายเสื้อที่ระลึก เรือของพ่อ เรือ ต.91 จากคุณสุนันท์ สมานรักษ์ ประธานชมรมภริยากองเรือยุทธการ เป็นจำนวนเงิน 300,091 บาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลบำรุงรักษา และดำเนินโครงการอุทยานประวัติศาสตร์ฯ ณ สนามหน้าสโมสรสัญญาบัตรกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

การจัดทำเสื้อที่ระลึกฯ โดยชมรมภริยากองเรือยุทธการ มีที่มาจากการที่เรือ ต.91 เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งพระเมตตาและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงมีต่อกองทัพเรือ และกองเรือยุทธการ ที่ได้ทรงพระราชทานพระราชดำรัส และทรงให้คำแนะนำแก่กองทัพเรือ จนกระทั่งกองทัพเรือได้จัดสร้างเรือ ต.91 ขึ้นเอง สามารถใช้ในราชการเป็นเวลาถึง 51 ปี จึงได้ออกแบบเสื้อที่ระลึกให้บ่งบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของเรือ ต.91 ที่เข้าถึงได้ง่าย โดยได้ทำการจำหน่ายตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2563 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ให้ความสนใจ เช่น กองเรือต่าง ๆ , กำลังพลในกองทัพเรือ และประชาชนทั่วไป ที่ได้ให้การสนับสนุนร่วมกันซื้อเสื้อที่ระลึก ทำให้มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น 300,091 บาท ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการมอบรายได้ให้แก่คณะกรรมการกองทุนอุทยานประวัติศาสตร์เรือของพ่อ เรือ ต.91 เพื่อนำเข้ากองทุนฯ และนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการตั้งกองทุนต่อไป

ปัจจุบันอุทยานประวัติศาสตร์ เรือของพ่อ เรือ ต.91 ตั้งอยู่กลางอ่าวดงตาล หน้าสโมสรสัญญาบัตรกองเรือยุทธการ ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองสัตหีบ ที่ประชาชนทั่วไปให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างการรับรู้ถึงความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของการสร้างอุทยานให้กำลังพลกองเรือยุทธการ และประชาชนทั่วไปร่วมรำลึกสืบไป


ภาพ/ข่าว  กองกิจการพลเรือน กองเรือยุทธการ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี

ชลบุรี - รัฐมนตรีแรงงาน ตรวจเยี่ยมผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เกาะสีชัง พร้อมแจกถุงยังชีพผู้สูงอายุ มอบเงิน 5 แสน ศูนย์เรียนรู้ธนาคารทะเลเกาะสีชัง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 สิงหาคม ที่ศาลาอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลเกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงแรงงานได้เดินทางตรวจเยี่ยมการรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 โดยมีการนำรถโมบายมาให้บริการ นอกจากนี้ยังได้พบปะผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งได้มอบถุงยังชีพ โดยมีนายธวัชชัย ศรีทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมชาวเกาะสีชังให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทน บริษัท คิงส์ แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด และผลิตภัณฑ์ตราฮีโร่ มอบเงิน 500,000 บาท ให้กับศูนย์เรียนรู้ธนาคารทะเลเกาะสีชัง โดยชุมชนเพื่อชุมชนยั่งยืน เพื่อช่วยในการอนุรักษ์สัตว์ทะเลและพืชทะเล

หลังจากนั้นนายสุชาติกล่าวว่า การเดินทางมาเกาะสีชังในครั้งนี้ เนื่องมาจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้มีความห่วงใยประชาชน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สร้างความลำบากในการดำรงชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่สีแดงจัด 29 จังหวัด รวมทั้ง จ.ชลบุรี จึงได้เปิดให้มีการประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อให้สิทธิพื้นฐานกับประชาชนที่ทำงานอิสระ

 

สำหรับ ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ให้ความห่วงใยผู้ประกอบอาชีพอิสระ สำหรับเกาะสีชังประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน และอาชีพดูแลนักท่องเที่ยวสกายแลป การเดินทางมาเกาะสีชังเพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งวันที่ 24 สิงหาคมจะหมดเขตแล้ว โดยเฉพาะอาชีพประมงจะลำบากมาก เพราะนักท่องเที่ยวไม่มาเกาะสีชัง ชาวประมงก็ขายอาหารทะเลไม่ได้ ซึ่งเป็นวงจรเศรษฐกิจบนเกาะสีชัง

ส่วนกรณีที่จะเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุชาติกล่าวว่า "จากการที่ทำงานทุกวันสามารถตอบคำถามได้ ไม่กังวลใจแต่อย่างใด เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราทำอะไร ถือว่าเป็นสีสันทางการเมือง เป็นเรื่องความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย ที่ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบฝ่ายบริหาร ชาวบ้านที่ดูอยู่ทางบ้านจะรู้ว่าใครทำงาน ใครไม่ทำงาน"

กรณี ที่มีการลงในโลกโซเซียลเกี่ยวกับการท้าชกระหว่างรัฐมนตรีเฮ้งกับนายมงคลกิตติ์ หรือเต้ สุขสินธารานนท์ นั้น นายสุชาติกล่าวว่า ตนเองกับเต้นั้นรู้จักกัน จากการที่เต้ออกมาท้านายกรัฐมนตรีชกกันนั้น ผมมองว่าเป็นการก้าวร้าว เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำประเทศ ตนเองก็ต้องออกมาพูดว่าสิ่งที่ออกมาทำนั้นไม่ถูกต้อง จึงได้บอกเต้ไปว่ากำลังนั้นไม่ได้มีไว้แก้ปัญหา ในเรื่องกีฬานั้นไม่เป็นไร ตนพร้อมในเรื่องกีฬา


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ระยอง - เหล่ากาชาดจังหวัดระยอง สนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง และถ่านหุงต้ม ช่วยเหลือวัดที่มีการรับฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางธัมมิกา เอี่ยมแสง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง คณะกรรมการ และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ได้ร่วมถวายเงิน จำนวน 12,000 บาท ให้กับพระครูโสภิตปัญญากร เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ และถวายถ่านหุงต้ม จำนวน 200 กระสอบปุ๋ย ให้กับพระโบราณพิทักษ์ เจ้าอาวาสวัดลุ่ม อ.เมืองระยอง เพื่อสนับสนุนในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง และถ่านหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาเผาศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

นางธัมมิกา เอี่ยมแสง นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดระยอง มีความห่วงใยวัดต่างๆ ในพื้นที่ที่มีการรับฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 จึงได้ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา บริษัท ห้างร้านต่างๆ ได้บริจาคเงินสนับสนุนวัดทั้ง 2 แห่ง เพื่อไปจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง และถ่านหุงต้มที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ด้วย 

นอกจากนี้ทางเหล่ากาชาดจังหวัดระยอง ยังได้มอบชุด PPE ป้องกันเชื้อโรค เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ชุดกาวน์กันน้ำและถุงมือยางให้กับอาสาสมัครกู้ภัย และสัปเหร่อแก่วัดต่าง ๆ ใน อ.แกลง และ อ.เขาชะเมา รวม 5 วัด ประกอบด้วย วัดถ้ำเขาโบสถ์ วัดสามแยกน้ำเป็น อ.เขาชะเมา วัดบ้านนา วัดเจริญสุข วัดหนองน้ำขุ่น อ.แกลง ทั้งนี้เพื่อใช้สำหรับการฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  วฐิต กลางนอก / ธีรวัฒน์ อินธิพันธ์ รายงาน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top