Tuesday, 18 February 2025
INFO & TOON

มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง Zhejiang University แหล่งกำเนิดอัจฉริยะ AI แห่ง DeepSeek

ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยที่ปั้นบรรดาอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีระดับโลก หลายคนอาจจะนึกถึง MIT Stanford หรือ Oxford แต่รู้ไหมว่าในเอเชียก็มีมหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่งด้าน AI และเทคโนโลยีไม่แพ้กัน และที่ ๆ เราจะพาไปรู้จักคือ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง Zhejiang University - ZJU หนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับ TOP 3 ของจีน และ อันดับ 9 ของเอเชีย ปี 2025 ตามการจัดอันดับของ Times Higher Education และ Top 50 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก (QS World University Rankings)

มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงก่อตั้งเมื่อปี 1897 ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงมีด้วยกัน 7 วิทยาเขต และเปิดสอนในหลากหลายสาขาวิชา มีนักศึกษาต่างชาติกว่า 6,000 คน จาก 140 ประเทศ เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษมากกว่า 50 หลักสูตร และยังมีทุนการศึกษาสำหรับนักศึกษาต่างชาติ เช่น Chinese Government Scholarship (CSC) ด้วย

ZJU ไม่ใช่แค่มหาวิทยาลัยธรรมดา แต่เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น 'Silicon Valley แห่งประเทศจีน' ที่นี่มีศูนย์วิจัย AI และหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน มีหลักสูตรวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ข้อมูลของที่นี่ถือเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนให้เป็น 'Double First-Class Initiative' หรือโครงการมหาวิทยาลัยระดับโลก เป็นสมาชิกของ C9 League (ซึ่งเทียบเท่ากับ Ivy League ของจีน) รวมทั้งยังมีความร่วมมือมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างมหาวิทยาลัยกับบริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba Huawei Tencent และสตาร์ตอัป AI ชั้นนำเพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลอีกด้วย

ที่สำคัญไปกว่านั้นมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงยังเป็นแหล่งผลิตอัจฉริยะ AI มากมายหลายคนอย่างศิษย์เก่าระดับ Billionaire อย่างติง เหล่ย์ (Ding Lei) ผู้ก่อตั้ง NetEase เฉิน หนิง หยาง (Chen-Ning Yang) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล หลี่ หลันเจี๋ย (Li Lanjuan) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาด COVID-19 เฉิน จงเว่ย (Chen Zhongwei)  นักวิจัยด้านนาโนเทคโนโลยีและเหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ผู้ก่อตั้ง DeepSeek AI ที่กำลังมีประเด็นท้าชนร้อนแรงจนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ OpenAI และ ChatGPT อยู่ในปัจจุบันนี้

เหลียง เหวินเฟิง แห่ง DeepSeek เรียนที่ ZJU เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และระดับปริญญาโทในสาขาวิศวกรรมข้อมูลและสื่อสาร หลังจากสำเร็จการศึกษา เหลียงได้เริ่มต้นอาชีพในวงการการเงิน โดยในปี 2016 เขาร่วมก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ประเภท Quantitative Hedge ชื่อ "High-Flyer" ซึ่งใช้ AI และคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์กลยุทธ์การซื้อขาย และใช้อัลกอริทึมเพื่อคาดการณ์แนวโน้มตลาด เพื่อตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ และด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สะสมมาจากการศึกษาและการทำงานในวงการการเงิน ได้นำเหลียงไปสู่การก่อตั้งบริษัท DeepSeek ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปด้าน AI ที่พัฒนา AI ที่ทรงพลัง โดยใช้ต้นทุนเพียงแค่ 6 ล้านดอลลาร์ และได้รับการยอมรับในระดับสากลในยุคนี้ค่ะ

ส่อง 20 อันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศจีน

จีน กำลังก้าวขึ้นไปเป็นมหาอำนาจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทหาร ด้านเศรษฐกิจ หรือ แม้กระทั่งการศึกษา เพราะต้องยอมรับว่า การศึกษา คือหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้จีน พัฒนาประเทศได้อย่างก้าวกระโดด กระทั่งสามารถขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของชาติมหาอำนาจตะวันตกในปัจจุบัน

สำหรับมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีน มีที่ใดบ้าง และ Liang Wenfeng ผู้คิดค้น DeepSeek เอไอตัวใหม่ที่กำลังเขย่าโลกอยู่ในขณะนี้ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยไหน ไปส่องกันเลย

ไม่ง้อ TikTok โดนแบน? จีนดัน RedNote แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียขึ้นแท่น

​จากประเด็นการแบน TikTok ในสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาจนนำมาถึงการหยุดใช้งานชั่วคราว ผู้ใช้งานจำนวนมากจึงต้องพากันมองหาแอปพลิเคชันทางเลือกใหม่เพื่อมาทดแทน จนทำให้วันที่ 14 มกราคม 2025 RedNote กลายเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดบน App Store ของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก นี่ถือเป็นการข้ามวัฒนธรรมครั้งสำคัญของแพลตฟอร์มที่เคยเป็นแค่ของจีน แต่กำลังกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก

​RedNote (หรือที่รู้จักในชื่อ Xiaohongshu ในประเทศจีน) กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิต และมันไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่มันคือการปฏิวัติวงการ แม้ TikTok จะครองพื้นที่ข่าว แต่ RedNote กลับค่อยๆ สร้างอาณาจักรของตัวเอง โดยผสมผสานเนื้อหาไลฟ์สไตล์ อีคอมเมิร์ซ และเครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบที่สดใหม่และน่าดึงดูด Rednote ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยผู้ร่วมก่อตั้ง Miranda Qu และ Charlwin Mao โดยเริ่มต้นจากแอปเล็กๆ ที่ให้ผู้ใช้งานแชร์คำแนะนำเกี่ยวกับการช็อปปิ้ง แต่ปัจจุบันได้เติบโตเป็นแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่มีผู้ใช้งานกว่า 300 ล้านคนต่อเดือน ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆ RedNote ก็คือส่วนผสมระหว่าง Instagram, Pinterest และ Amazon ที่ทุกโพสต์เหมือนเป็นคำแนะนำพิเศษ และทุกการเลื่อนหน้าจอก็มักจะให้แรงบันดาลใจใหม่ๆ เสมอ Rednote สร้างความแตกต่างด้วยการเชื่อมโยงผู้คนผ่านเนื้อหาที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับแฟชั่นและความงาม ไดอารี่การเดินทาง หรือรีวิวสูตรอาหาร มันเป็นการเล่าเรื่องราวของผู้ใช้งาน การแบ่งปันความคิดเห็นที่จริงใจเกี่ยวกับสินค้า ประสบการณ์ส่วนตัว ความน่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือการผสมผสานระบบอีคอมเมิร์ซเข้าไปในแอป ผู้ใช้งานไม่เพียงแต่เห็นสินค้าที่ชอบ แต่ยังสามารถซื้อได้ทันทีภายในแอป สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่รวดเร็วและน่าพึงพอใจ

​การเติบโตของ RedNote ไม่ได้สะท้อนแค่ในจำนวนผู้ใช้งาน แต่ยังรวมถึงมูลค่าทางการเงินอีกด้วย ณ เดือนกรกฎาคม 2024 บริษัทมีมูลค่าประมาณ 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่สำคัญในวงการโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซ การประเมินมูลค่านี้ยังสะท้อนถึงความสำเร็จของแพลตฟอร์มในการเปลี่ยนเนื้อหาให้เป็นรายได้ ดึงดูดการลงทุนมหาศาลจากยักษ์ใหญ่อย่าง Alibaba และ Tencent

​ส่วน RedNote จะล้ม TikTok ได้หรือไม่ยังคงเป็นคำถามอยู่ค่ะ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ มันไม่ใช่แค่แอปธรรมดา แต่มันคือแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม กำหนดรูปแบบโซเชียลคอมเมิร์ซใหม่ และนำเสนอสิ่งที่แตกต่างในตลาดที่แออัด สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ แบรนด์ และผู้ใช้งานทั่วไป มันคือสนามเด็กเล่นใหม่ที่น่าตื่นเต้นและควรลองสัมผัสประสบการณ์นี้ค่ะ

จัดอันดับมหาวิทยาลัยดีที่สุดในเอเชีย ปี 2025 โดย Times Higher Education

เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ดีที่สุดในเอเชีย จากการจัดอันดับโดย Times Higher Education World University มหาวิทยาลัยจากจีน ยังครองอันดับ 1 ตามด้วยฮ่องกง – สิงคโปร์ – เกาหลีใต้ – ญี่ปุ่น และมีมหาวิทยาลัยใดติดอันดับบ้าง ไปส่องกันเลย

งานไหนรอด งานไหนร่วง? เทรนด์ของโลกแห่งการทำงานในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง 2025

(27 ม.ค. 68) โลกแห่งการทำงานกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในยุคที่เทคโนโลยี เศรษฐกิจ และประชากรศาสตร์เข้ามามีบทบาทสำคัญ จากรายงาน The Future of Jobs 2025 โดย World Economic Forum ได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับตัวของตลาดแรงงานทั่วโลกจากปี 2025 ถึง 2030 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการสร้างงานใหม่ประมาณ 170 ล้านตำแหน่ง และการสูญเสียงาน 92 ล้านตำแหน่ง โดยมี 5 ปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงนี้

1.การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี: เทคโนโลยีใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) และ ระบบอัตโนมัติ (Automation) กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การผลิต การเงิน ไปจนถึงการบริการ รายงานระบุว่า AI เพียงอย่างเดียวจะสร้างงานใหม่กว่า 11 ล้านตำแหน่ง ในขณะที่ทำให้งานเดิมหายไปประมาณ 9 ล้านตำแหน่ง ตัวอย่างงานที่กำลังมาแรง ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Machine Learning, วิศวกรระบบอัตโนมัติ, นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) นอกจากนี้ ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้นในด้านความเชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น ผู้จัดการด้านเทคโนโลยีเชิงจริยธรรม เพื่อจัดการกับผลกระทบทางสังคมและจริยธรรมของ AI

2.การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว: ด้วยเป้าหมายของหลายประเทศในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ พลังงานหมุนเวียน และ การแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาชีพที่มาแรงในกลุ่มนี้ ได้แก่ วิศวกรพลังงานหมุนเวียน, นักออกแบบระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Grid Designer), ผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าและอัตโนมัติ โดยในรายงานยังชี้ให้เห็นว่า "เศรษฐกิจสีเขียว" จะไม่เพียงสร้างงานใหม่ แต่ยังเพิ่มมูลค่าให้กับ GDP โลกในระยะยาว

3.การเปลี่ยนแปลงเชิงประชากรศาสตร์: ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับ ประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น ในประเทศที่มีรายได้สูง และการขยายตัวของประชากรวัยทำงานในประเทศที่มีรายได้ต่ำ ปัจจัยนี้ล้วนแต่ส่งผลโดยตรงต่อความต้องการแรงงานในภาคส่วนทั้งด้านการดูแลสุขภาพ ความต้องการพยาบาล ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และแพทย์เฉพาะทางกำลังเพิ่มขึ้น และด้านการศึกษา โดยครูและผู้ฝึกอบรมในประเทศกำลังพัฒนามีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อเตรียมแรงงานรุ่นใหม่ให้มีทักษะที่ตอบโจทย์ตลาด

4.ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ: ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ และ ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการจ้างงาน โดยรายงานระบุว่า ค่าครองชีพที่สูงขึ้นเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบสูงสุดต่อธุรกิจภายในปี 2030 อุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวสูง ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก ที่ต้องรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แต่ในทางกลับกัน บริษัทที่สามารถปรับตัวและนำกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น เช่น Remote Work และ ระบบแบ่งปันทรัพยากร (Resource Sharing) จะสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนเหล่านี้ได้ดีกว่า

5.การกระจายเศรษฐกิจโลก: ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามการค้าและการเปลี่ยนแปลงของ ห่วงโซ่อุปทานโลก (Global Supply Chain) กำลังบังคับให้ธุรกิจต้องสร้างความยืดหยุ่นในกระบวนการดำเนินงาน อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ การผลิต เพราะโลกกำลังปรับเปลี่ยนไปยังประเทศที่มีต้นทุนต่ำ และโลจิสติกส์และซัพพลายเชน เพื่อให้สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

โดยในรายงานชี้ให้เห็นว่าทักษะแห่งอนาคตที่ตลาดแรงงานต้องการ คือ ทักษะด้านดิจิทัล (Digital Skills) เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล และการเขียนโปรแกรม จะมีความสำคัญเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับ ทักษะที่เน้นมนุษย์ (Human-Centric Skills) เช่น การแก้ปัญหา การคิดเชิงสร้างสรรค์ และการบริหารจัดการความสัมพันธ์

เปิด 6 อันดับ พรรคการเมืองที่ได้เงินอุดหนุนมากที่สุด ปี 2568

(26 ม.ค. 68) กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง เปิด 6 อันดับ พรรคการเมืองที่ได้เงินอุดหนุนมากที่สุด ประจำปี 2568 

กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ได้อนุมัติการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองประจำปี 2568 แก่พรรคการเมืองที่มีสิทธิ์ จำนวน 71 พรรคการเมือง โดยได้โอนเงินจัดสรรให้พรรคการเมืองแล้วจำนวน 68 พรรคการเมือง

1.พรรครวมไทยสร้างชาติ 17,934,107.84 ล้านบาท
1.พรรคเพื่อไทย  เงินอุดหนุน 16,017,804.79  บาท
2.พรรคประชาธิปัตย์ เงินอุดหนุน  14.,769,447.24 บาท
3.พรรคประชาธิปไตยใหม่ 12,146,257.76 บาท
5.พรรคไทยภักดี 5,679,356.58 ล้านบาท
6.พรรคไทยสร้างไทย  4,346,532.10 บาท

สำหรับพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้รับการโอนเงินอุดหนุน เนื่องจากมีหนังสือแจ้งขอเลื่อนการแจ้งรายละเอียดบัญชีเงินฝากของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 พรรคการเมือง รายละเอียดดังนี้

1. พรรคประชาชน (เดิมชื่อ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล) อยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงชื่อบัญชีธนาคาร
2. พรรคการเมืองที่อยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคและผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงิน 
จำนวน 2 พรรคการเมือง ได้แก่พรรคไทยรวมไทย และพรรครักแผ่นดินแม่ (เดิมชื่อ พรรคยุทธศาสตร์ชาติ)

จัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ในปี 2025 โดย time higher education

เปิด Top 10 มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก ในปี 2025 จากการจัดอันดับของ time higher education พบ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดยืนหนึ่ง

ส่วน ‘คนดัง’ ระดับมันสมองของไทย คนไหนเรียนจบสถาบันใดบ้าง ไปส่องกันได้เลย

ส่อง 10 ประเทศที่ผลิตข้าวมากที่สุดในโลก

(23 ม.ค. 68) ข้าว เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่มีความสำคัญกับหลายประเทศ ทั้งในแง่พืชทางเศรษฐกิจและ พืชเพื่อการบริโภค ส่วนไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่ในกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก ไปติดตามกันเลย

20 ประเทศที่บริโภคน้ำมันดิบมากที่สุด 2025

นับตั้งแต่โลกได้รู้จักกับ ‘น้ำมัน’ ซึ่งเป็นพลังงานสำคัญที่ใช้ขับเคลื่อนยานพาหนะที่มีเครื่องยนต์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาความต้องการใช้น้ำมันจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะและต้องยอมรับว่า น้ำมัน มีบทบาทกับวิถีชีวิตคนเราอย่างมาก ซึ่งในแต่ละวันโลกเราบริโภคน้ำมันอย่างมหาศาล 

และประเทศไหนที่บริโภคน้ำมันดิบมากที่สุดในโลก และประเทศไทยอยู่อันดับที่เท่าไหร่ ไปติดตามกันเลย

มหากาพย์ ‘ที่ดินอัลไพน์’ ก่อนกลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์อีกครั้ง!!

ย้อนไทม์ไลน์ที่ดินอัลไพน์ มหากาพย์ที่ยืดเยื้อมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ก่อนที่กำลังจะปิดฉากลง หลังจาก นายชํานาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนาม (วันที่16 มกราคม 2568) เพิกถอนกรรมสิทธิ์ ที่ดินอัลไพน์ 924 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่อำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานี (คลอง5) ที่ได้กลับไปอยู่ในสถานะที่ “ธรณีสงฆ์” ตามเจตนารมณ์ของ ‘คุณยายเนื่อม’

10 ปีตลาดหุ้นไทยทำไมยังย่ำอยู่กับที่? แล้วเราอยู่ตรงไหนในอาเซียน?

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2014-2024) ตลาดหุ้นไทย หรือดัชนี SET Index ดูเหมือนจะ 'ย่ำอยู่กับที่' โดยตลาดเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 1,300-1,800 จุด โดยสิ้นปี 2024 ปิดที่ 1,402 จุด ลดลงจาก 1,416 จุดในสิ้นปี 2023 ซึ่งสะท้อนถึงผลตอบแทนที่ค่อนข้างคงที่และไม่มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม หรืออินโดนีเซีย ที่เติบโตอย่างน่าประทับใจ สถานการณ์นี้เริ่มทำให้นักลงทุนและผู้ติดตามตลาดทุนเริ่มตั้งคำถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นไทย?” และ “เรายังมีโอกาสก้าวหน้าในภูมิภาคนี้อีกหรือไม่?”

เมื่อมองย้อนกลับไป ตลาดหุ้นไทยไม่ได้แสดงถึงการเติบโตที่ชัดเจน โดยผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี (CAGR) แทบจะเท่ากับศูนย์ ในขณะที่ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านในอาเซียนเติบโตในระดับที่น่าประทับใจ อย่างเช่น

ตลาดใหม่, การเติบโตของธนาคารและอสังหาฯ
(ไม่นับรวมลาวที่ตลาดเคลื่อนไหวช้า เมียนมาที่มีปัญหาการเมืองทำให้ตลาดไม่เติบโต และบรูไนที่ไม่มีตลาดหุ้น)​​

เหตุผลที่ตลาดหุ้นไทยไม่โต มาจาก
​1.​โครงสร้างตลาดที่กระจุกตัว โดยหุ้นในดัชนี SET50 มีสัดส่วนกว่า 70% ของมูลค่าตลาดรวม โดยพึ่งพากลุ่มพลังงาน ธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเติบโตช้าและอิ่มตัว
​2.​เศรษฐกิจที่โตต่ำ GDP ไทยเติบโตเฉลี่ยเพียง 2-3% ต่อปี ขณะที่เวียดนามโต 6-7% และไทยเองก็มีหนี้ครัวเรือนสูงเกิน 90% ของ GDP ส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศ
​3.​ความไม่แน่นอนทางการเมือง จากประเด็นความเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่น
​4.​ขาดหุ้นในอุตสาหกรรมใหม่ เพราะไทยเองยังขาดหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหรือธุรกิจนวัตกรรมที่สามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนระยะยาว

และบทเรียนจากตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่เราควรนำเอามาศึกษา คือ 
​1.​เวียดนาม: นับเป็นตลาด The Rising Star เพราะมีการสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) และการเติบโตของอุตสาหกรรมส่งออกช่วยดันตลาดหุ้นเวียดนามให้เติบโตเร็วที่สุดในอาเซียน
​2.​อินโดนีเซีย: มีประชากรคือพลัง จากฐานประชากรกว่า 270 ล้านคนช่วยผลักดันการบริโภคในประเทศและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
​3.​สิงคโปร์: เสถียรภาพคือจุดเด่น เป็นประเทศตลาดหุ้นเน้นหุ้นที่มีเสถียรภาพ เช่น ธนาคารและ REITs ซึ่งดึงดูดนักลงทุนที่มองหาความมั่นคง

ตลาดหุ้นไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอาจดูเหมือน 'นิ่ง' แต่ก็มีทั้งความท้าทายและโอกาสที่รอการปลดล็อก หากสามารถปรับตัวให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งการเพิ่มความหลากหลายของหุ้นในตลาด สนับสนุนธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยี พลังงานสะอาด และธุรกิจสุขภาพ การดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ การลดข้อจำกัดด้านภาษีและนโยบาย พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเมือง การสร้างนโยบายระยะยาวที่ต่อเนื่อง การเร่งดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และผลักดันธุรกิจในประเทศ ก็อาจจะทำให้เราอาจเห็นตลาดหุ้นไทยกลับมาโดดเด่นอีกครั้งในเวทีอาเซียน คำถามสำคัญคือ เราพร้อมจะเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาให้ตลาดหุ้นไทยของเราก้าวหน้าต่อไปหรือยังคะ

เปิด 10 อันดับ เมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ปี 2024

เปิด 10 อันดับ เมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ปี 2024 ตามรายงานของ GROWTH HUB INDEX 2024 By SAVILLS จะมีเมืองไหนบ้าง ไปติดตามกันเลย

10 อันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี ประจำปี 2568

‘Time Out’ จัดอันดับ เมืองที่ดีที่สุดในโลกปี ประจำปี 2568 ‘กรุงเทพฯ’ คว้าอันดับที่ 2 
จากการสำรวจ นักท่องเที่ยวกว่า 20,000 คน ในหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องของคุณภาพ ราคา อาหาร วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต

10 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่กำไรสูงสุดของปี 2024

​ปี 2024 ที่ผ่านมานับเป็นปีที่ธุรกิจทั่วโลกต้องฟาดฟันเพื่อความอยู่รอด ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี แต่ก็ยังมี 10 บริษัทที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นของโลกด้วยกำไรสุดมหาศาลได้ ซึ่งแต่ละบริษัทมีสูตรความสำเร็จของตัวเองที่น่าสนใจและน่าศึกษา โดยทั้ง 10 บริษัทระดับโลกประกอบไปด้วยบริษัทอะไรบ้าง และพวกเขาทำธุรกิจอะไรถึงได้เงินขนาดนี้

​ซึ่งในประเทศไทยในปี 2024 ที่ผ่านมาบริษัทที่ทำกำไรได้สูงสุดได้แก่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) บริษัทพลังงานชั้นนำที่มีธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุมห่วงโซ่พลังงานตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ โดย ปตท.ทำรายได้ไปได้สูงถึง 78,383 ล้านบาทค่ะ

ส่อง 10 อันดับโรงเรียนที่เข้ายากที่สุดในไทย

อย่างที่ทราบกันดีว่า การศึกษาคือรากฐานสำคัญของชีวิต และการได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังคือจุดเริ่มต้นที่ดีและอาจเป็นความฝันของใครหลายคน แต่ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดังกันทุกคน เพราะโรงเรียนในฝันที่คาดหวังไว้นั้น ต่างเต็มไปด้วยคู่แข่งที่มีความคิดเช่นเดียวกัน  กระทั่งกลายเป็นโรงเรียนที่เข้ายากที่สุดในไทย

ส่วนจะมีโรงเรียนไหนติดอันดับบ้างไปติดตามกันเลย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top