Friday, 9 June 2023
CRIMES

‘ปคม.’ รวบ 2 ดาวทวิตเตอร์ ล่อลวงเด็ก ป.6 ถ่ายคลิปลามก พร้อมนำไปขายในโซเชียล เจ้าตัวสารภาพ ทำมานานแล้ว

(7 มี.ค. 66) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการให้ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรพล เลิศวิริยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายลักษณ์คะณา หรือ ‘ซ้อโฟ’ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี และ ‘นายเก๋’ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี

ในข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 จับกุมได้ที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า มีบัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ ‘ซ้อ อโฟ’ ซึ่งเป็นบัญชีทวิตเตอร์ของหญิงสาวประเภทสอง มีผู้ติดตามมากกว่า 2.6 แสนยูสเซอร์ ภายในพบมีการลงภาพวิดีโอและข้อความเนื้อหาลามกอนาจาร การร่วมเพศกับเด็กผู้ชายเป็นจำนวนมาก พร้อมข้อความเชิญชวนรับชมคลิปวิดีโอแบบเต็มได้ที่ทวิตเตอร์แอคล็อก (ทวิตเตอร์แบบส่วนตัว) ชื่อทวิตเตอร์ ‘ซ้อ อ โฟ แอคล็อก’ ซึ่งผู้สนใจจะต้องเสียเงิน จำนวน 300 บาท เพื่อเข้าดู

นอกจากนี้ ยังพบบัญชีทวิตเตอร์ชื่อ ‘NINJANIN’ เป็นบัญชีทวิตเตอร์ของหญิงสาวประเภทสองเช่นกัน ซึ่งเป็นชื่อของนายเนตรนภา มีผู้ติดตามมากกว่า 1 แสนยูสเซอร์ มีการลงภาพวิดีโอและข้อความเนื้อหาลามกอนาจารเช่นเดียวกัน พร้อมข้อความเชิญชวนว่า หากใครสนใจชมคลิปวิดีโอเพิ่มเติม จะต้องเสียเงินจำนวน 399 บาท เพื่อรับชมคลิปวีดีโอแบบเต็มได้ที่กลุ่มไลน์ลับชื่อกลุ่มว่า ‘VIP Group N’kay @นินจานิน’

เจ้าหน้าที่จึงแฝงตัวขอเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มทั้งสอง พบว่ามีคลิปลามกอนาจารที่ผู้ต้องหาทั้งสองร่วมกันกระทำอนาจารและมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายวัยประถม จำนวน 4 คน และเมื่อมีการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลของเด็กชายทั้ง 4 คน ก่อนมีการเชิญตัวเยาวชนทั้ง 4 คน เข้าสู่กระบวนการสอบสวน และส่งไปเยียวยาทางร่างกายและจิตใจด้วย

ไม่เข็ด!! ‘ตม.ปทุมฯ’ รวบ 3 คนไทย ช่วย ‘ชาวจีน’ ลักลอบเข้าเมือง 1 ใน 3 สารภาพ เพิ่งถูกจับข้อหาเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว

(6 มี.ค. 66) ตามนโยบายของ ผบ.ตร., ผบช.สตม.และ ผบก.ตม.3 ในการกวาดล้างอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคนต่างด้าว โดยเฉพาะในความผิดและผู้ช่วยเหลือสนับสนุนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จังหวัดปทุมธานี สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปราม ตม.จังหวัดปทุมธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.และ สภ.คลองหลวง ร่วมตรวจสอบคนต่างด้าวสัญชาติจีน 1 ราย พร้อมด้วยคนไทย ซึ่งให้การช่วยเหลือให้คนต่างด้าวดังกล่าว ซึ่งเข้าเมืองมาผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

ผู้ถูกจับรับว่า ได้เดินทางมาจากพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำคนต่างด้าวไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับค่าจ้าง 20,000 บาท โดยใช้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์เป็นยานพาหนะ และรถยนต์เก๋งเป็นรถนำทาง ซึ่งมีการให้สัญญานระหว่างรถทั้งสองคันตลอดการเดินทาง เพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ แต่ต่อมาเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแจ้งพฤติการณ์ต้องสงสัยรถคันดังกล่าว จึงได้ติดตามอย่างกระชั้นชิด และเข้าตรวจค้นยานพาหนะทั้งสองคัน พบการกระทำความผิด จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับคาด่าน!! ทหารพรานปัตตานี จับยาไอซ์ล็อตใหญ่ ยึดของกลาง 939 กก. มูลค่ากว่า 2 พันล้าน

พ.อ.ภาคภูมิ  จันทรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44  ได้มอบหมายให้ กองร้อยหน่วยขึ้นตรงของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ดำเนินการตั้งจุดตรวจ / จุดสกัด ตามแผนเชิงรุกของหน่วย (ห้วงเวลากลางคืน) เพื่อเป็นการแสดงกำลังในการตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย, การขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย, การขนย้ายสารเสพติดทุกประเภท และตรวจสอบบุคคลภายนอกที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่  

จากการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว กำลังพลชุดปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจเตราะปลิง ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้ทำการตรวจพบยานพาหนะต้องสงสัย และพบอาการมีพิรุธของผู้ขับขี่ จำนวน 1 คัน ซึ่งกำลังจะขับผ่านด่านตรวจเตราะปลิงฯ กำลังพลในชุดฯ ซึ่งประกอบไปด้วย อาสาสมัครทหารพราน มูฮัมหมัดอีลฮัม  หามะ และ อาสาสมัครทหารพราน อารีย์ หมะเต๊ะ จึงได้ทำการส่งสัญญาณให้ยานพาหนะคันดังกล่าวหยุด เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งในการตรวจสอบ พบเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภท รถกระบะ 4 ประตูสีขาว ยี่ห้อ Ford Ranger เลขทะเบียนรถ 5 กย 7214 กรุงเทพมหานคร ได้ซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 78 กระสอบ น้ำหนัก 939 กิโลกรัม จัดเรียงอยู่ภายในท้ายกระบะรถคันดังกล่าว

โจรใต้ลอบวางระเบิดขบวนรถ รองแม่ทัพภาค 4 ทหารเสียชีวิต 2 เจ็บ 1 ‘พ.ต.ไพศาล’ รอดหวุดหวิด

(4 มี.ค. 66) ‘คุณวาสนา นาน่วม’ ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และโพสต์ทูเดย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

บึ้ม! ขบวนรถ รองแม่ทัพภาค 4 ‘พลตรีไพศาล หนูสังข์’ รอดหวุดหวิด หน่วย EOD พลีชีพ 2 หลังนำทีมเข้าตรวจสอบเหตุยิงฐาน ฉก.ทพ. 4906 บ้านไออาร์แซ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส คาดเป็นแผนก่อเหตุ และลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบวางระเบิด ดักใต้ถนนลากสายกดชนวนรถ EOD ติดเครื่อง Jammer โดนระเบิด ถือเป็นเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ ‘พลเอก Zulgifli’ ผู้อำนวยความสะดวก การพูดคุยสันติสุขฯ ของรัฐบาลมาเลเซีย เพิ่งเสร็จสิ้นการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

มีรายงานว่า เมื่อช่วง บ่าย 15.10 น. วันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดเหตุวางระเบิดในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ขบวนรถของพลตรีไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 ที่เดินทางออกจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังยิงฐานปฎิบัติการ ฉก.ทพ. 4906 บ้านไออาร์แซ ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่เกิดเหตถ ตั้งแต่เช้า 2 มีนาคม 2566

จากแรงระเบิดทำให้รถนำขบวนที่เป็นชุด EOD ฉก.อโณทัย ได้รับความเสียหาย ทหารหน่วย EOD บาดเจ็บ 3 นาย และพบว่า 2 นาย เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ถอนลึกถึงราก!! ‘บิ๊กเด่น’ ลุยหน้า! กวาดล้าง ‘ซัว มาเฟียฯ’ ออกหมายจับ - ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1.4 พันล้าน

(3 มี.ค.66) ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ดำเนินการตรวจสอบคดี พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว อดีตข้าราชการตำรวจ หลังจากมีประเด็นกรณีเป็นเจ้าของเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป จำนวน 55 บริษัท มีพฤติการณ์ในการสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในสังกัดตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ดำเนินการตรวจสอบประเด็นดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวนพบว่า สารวัตรซัว และบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเครือข่ายการพนันออนไลน์ เบื้องต้นเชื่อว่า มีบริษัทกว่า 30 บริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ปที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทผลิตเกมส์, ผลิตโปรแกรม, พัฒนาซอฟแวร์, จัดการบัญชี, จดทะเบียนพาณิชย์, จัดการเงิน, แลกเปลี่ยนเงิน และทำการตลาด

นอกจากนี้ ยังพบว่า เมื่อปี พ.ศ.2555 ได้มีภาพซึ่งปรากฎข้อความที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ติดอยู่บริเวณหน้าบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป จากข้อมูลดังกล่าวจึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า สารวัตรซัว น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ มาตั้งเเต่ปี พ.ศ.2555  เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยจากการสืบสวนพบมูลคดีที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ของสารวัตรซัวเป็นจำนวนหลายคดี ซึ่งอยู่ระหว่างทำการสืบสวน
 

เร่งตามล่าผู้ก่อเหตุ!! เกิดเหตุบุกยิง หน้าวิทยาลัยเอกชน เมืองหนองบัวลำภู หญิงเคราะห์ร้ายเจ็บสาหัส คาดเหตุมาจากการหึงหวง

บุกยิงครู หน้าวิทยาลัยเอกชน เจ็บสาหัส ตร.เร่งล่าตัวมือปืน เผยเพิ่งมาทำงานได้วันเดียว

เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. วันที่ 1 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดเหตุยิงกันขึ้นภายในวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ที่กำลังดำเนินการก่อสร้าง (วิทยาลัยเทคโนโลยีเอเชียอินเตอร์) ริมถนนรอบเมืองหนองบัวลำภู คนละฝั่งกับศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู

ซึ่งขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงเวลาพักเที่ยง คนงานที่มาทำการติดประตูทาสีอาคารเรียนได้หยุดพักไปรับประทานอาหารอยู่ด้านใน และเห็นผู้หญิงคนถูกยิง เดินเหมือนกับคุยโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ประมาณ 3-4  นัด ก็เห็นผู้หญิงล้มลง คนงานระบุด้วยว่าเห็นคนที่ก่อเหตุใส่หมวกกันน็อคทั้งใบปิดคลุมใบหน้า ใส่เสื้อสีเขียว แต่เมื่อหลังเกิดเหตุแล้ว ได้วิ่งมาดูคนถูกยิง ก็เห็นล้มลงแล้ว ส่วนคนก่อเหตุไม่รู้ว่าไปทางไหน ไม่เห็นรถยนต์ ไม่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ วิ่งออกไป จึงได้รีบโทรแจ้งให้ เจ้าหน้าที่มารับเอาตัวคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลหนองบัวลำภู และเห็นว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัส ตอนนี้นำตัวส่งโรงพยาบาลอุดรธานี

สอบถามจาก นายพัชรินทร์ นันท์ทอง อยู่ที่บ้านโนนสูงใหม่วังทอง ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ช่างที่มาติดประตูอาคารเรียนของวิทยาลัยที่เตรียมจะเปิดเรียน เล่าว่า ทราบว่าน้องเขาก็เพิ่งจะมาทำงานวันนี้วันแรก และยังไม่ได้เปิดเรียน ส่วนตอนเกิดเหตุตนเองและช่างก็ไปรับประทานอาหารเที่ยง น้องที่ถูกยิงเดินถือโทรศัพท์มาด้านหน้าวิทยาลัย แล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ประมาณ 3-4 นัด มองมาไกลๆ ก็เห็นคนยิงใส่หมวกกันน็อคปิดปกคลุมใบหน้า ใส่เสื้อสีเขียว แต่พอก่อเหตุแล้วก็ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุไปทางไหนเลย ไม่เห็นรถยนต์ ไม่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ ของคนร้ายที่ก่อเหตุ

‘สืบสวนนครบาล’ บุกรวบ ‘โก้ ราชเทวี’ ผู้ต้องหาแสบ หลอกเงินสาวผ่านแอปฯหาคู่

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกัณรวิชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือโก้ อายุ 31 ปี ซึ่งผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมหลอกลวงทรัพย์สินจากผู้เสียหายหลายราย ผ่านทางแอพพลิเคชันหาคู่และสื่อออนไลน์ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่า นายกัณรวิชญ์ ได้มีหมายจับในคดีฉ้อโกงและย้ายไปอยู่คอนโดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่     

ล่าสุด วันที่ 28 ก.พ. 66 พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ พ.ต.ท.ภัทร บุญอารักษ์ และเจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. จับกุมนายกัณรวิชญ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือโก้ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 37/2566 ลง 2 ก.พ.66 โดยกล่าวหาว่า ฉ้อโกง หลบหนีศาลไม่มาตามกำหนดนัด จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณคอนโดแห่งหนึ่ง ถ.ศิริมังคลาจารย์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 เวลาประมาณ 16.00 น.

‘ตร.’ เปิดปฏิบัติการ ‘อินทรชิตแผลงศร’ รวบกลุ่มบิ๊กค้ายา พร้อมทรัพย์สินกว่าร้อยล้าน

(28 ก.พ. 66) ตำรวจเปิดปฏิบัติการ ‘อินทรชิตแผลงศร’ ขยายผลปิดล้อมจับกุม 3 เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ 20 จุด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ป.ป.ส. และ นายนิโคลัส เจ.วิลส์ หัวหน้าสำนักงาน DEA กรุงเทพมหานคร ร่วมกันแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุม 3 เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ เมื่อปี 2565 ได้แก่

เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 จับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 7,000,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด พร้อมยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลออกหมายจับและจับกุมกลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 3 ราย ยึดทรัพย์สินอีก 35 ล้านบาท

เบื้องต้นสามารถออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย 4 คน คือ กลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 2 ราย เข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคเหนือ 5 จุด และออกหมายจับกลุ่มรับยาเสพติด ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง 2 ราย เข้าทำการตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคกลาง 2 จุด

เครือข่ายรถบรรทุกโลจิสติกส์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 พนักงานของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ 1 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จ.ลำปาง หลังนำยาเสพติดซุกซ่อนปะปนไปกับพัสดุอื่น ๆ ก่อนจะลำเลียงไปส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนใน และขยายผลจับกุมผู้รับยาเสพติดปลายทางได้ทันที 1 ราย ในปฏิบัติการครั้งนี้ขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่าย 3 ราย คือ ผู้สั่งการ 1 ราย และผู้ที่นำยาเสพติดมาส่งให้ผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 2 ราย เข้าทำการตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคเหนือ จำนวน 7 จุด จังหวัดลำปาง ต่อเนื่อง จังหวัดอยุธยา

สืบนครบาล รวบแซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ 11 หมายจับ COMEBACK ก่อเหตุซ้ำซากไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก หลังจากที่สืบสวนนครบาล IDMB ได้มีการเผยแพร่การจับกุมตัว น.ส.อรอุมา (สงวนนามสกุล) หรือ 'แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์' ในช่วงปลายปี 65 ที่ผ่านมา ต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' เข้ามาอีกจำนวนมาก โดย น.ส.อรอุมา หรือ แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ ได้ประกันตัว แล้วหลบหนี ไปทำอาชีพหลอกขายของแบรนด์เนมออนไลน์ผ่านกลุ่มโอเพ่นแชท 'เดอะ แซนดี้ แบรนด์ 2' กลับมาคงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก แอบอ้างขายกระเป๋าแบรนด์เนมนำเข้าจากต่างประเทศราคาถูก รับผ่อนของ รับพรีออเดอร์รุ่นที่หายากมากที่ไม่มีการผลิตแล้ว มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท แซนดี้อ้างขายกระเป๋าแบรนด์เนมมาเป็นเวลานาน 9 ปี แต่มามีปัญหาในช่วงโควิด การนำเข้าจากต่างประเทศมีความล่าช้า เป็นเหตุให้ผู้สั่งซื้อไม่พอใจ ต้องการเงินคืน แต่ตนขอหักค่ามัดจำ ซึ่งผู้สั่งซื้อไม่ยินยอม

ต่อมาวันที่ 27 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 07.25 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอปส.ตร.  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ พ.ต.ต.นิทัสน์ มีทอง และเจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.อรอุมา หรือ แซนดี้ กระเป๋าหลุยส์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ 16 ซอยกรุงเทพนนท์ 3 แยก 4/7 ตำบลบางเขน อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีที่ 56/2566 ลง 15 ก.พ.66 โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงและโดยทุจจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สน.เทียนทะเล

จากการตรวจสอบยังพบหมายจับในระบบอีกจำนวน 10 หมาย ประกอบด้วย
1.) หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 712/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สภ.เมืองภูเก็ต
2.) หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 474/2565 ลงวันที่ 9 ธ.ค.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” ท้องที่ สภ.โพธิ์แก้ว
3.) หมายจับศาลอาญา ที่ 2857/2565 ลงวันที่ 16 ธ.ค. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สน.บางเขน
4.) หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 495/2565 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สภ.เมืองนครปฐม
5.) หมายจับศาลจังหวัดจันทบุรี ที่ จ.315/2565 ลงวันที่ 26 ธ.ค. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สภ.โป่งน้ำร้อน
6.) หมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 34/2566 ลงวันที่ 6 ม.ค. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สภ.โพธิ์แก้ว
7.) หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.10/2566 ลงวันที่ 6 ม.ค. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สน.บางชัน
8.) หมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.59/2566 ลงวันที่ 23 ม.ค. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สภ.เมืองพัทยา
9.) หมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 40/2566 ลงวันที่ 3 ก.พ. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สภ.กระทุ่มแบน
10.) หมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.70/2566 ลงวันที่ 8 ก.พ. 66 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ' ท้องที่ สน.บวรมงคล

จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ หน้าร้านซัก อบ รีด ถนนพ่อขุนทะเล ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี

ปส. ร่วมกับจว.พระนครศรีอยุธยา บุกค้น 8 จุด ในจว.พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี จับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ ตามยึดทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท

(28 ก.พ. 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำหมายค้นของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าบุกค้นบ้านนายชัยวัตร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังมีความเชื่อมโยงกับแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง ไอซ์เกือบ 300 กิโลกรัม เมื่อปลายปี 2565

ในเวลา 10.00 น พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบวงศ์สุข ผช.ผบ.ตร/รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3, นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมแถลงข่าวการจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้ายาเสพติดรายใหญ่ 3 เครือข่าย ตั้งแต่ เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา คือ

1.) เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 จับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 7,000,000 เม็ด ในพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด พร้อมยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท
2.) เครือข่ายรถบรรทุกโลจิสติกส์ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 พนักงานของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ 1 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จว.ลำปาง และ 3. จว.ลำปาง ต่อเนื่อง อยุธยา
3.) เครือข่ายหนองตาโล่ เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2565 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมกลุ่มลำเลียงยาเสพติด 3 รายพร้อมไอซ์ 279 กิโลกรัม ในพื้นที่ จว.พัทลุง ก่อนจะขยายผลออกหมายจับเครือข่ายเพิ่ม 2 ราย คือ ผู้สั่งการ และผู้ทำหน้าที่ส่งมอบยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้ต้องหา และตรวจคันจับกุมและยึดทรัพย์สินในพื้นที่ภาคกลางอีก 6 จุดซึ่งในระหว่างวันที่ 20 - 28 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 สามารถขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คดีข้างตัน จำนวน 9 หมาย พร้อมเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจคันพื้นที่เพื่อจับกุมบุคคลตามหมายจับ 20 จุด ในพื้นที่จังหวัดเซียงใหม่, เขียงราย, ตาก, สระบุรี และ พระนครศรีอยุธยาเบื้องต้น สามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 4 ราย และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดเพื่อนำมาตรวจสอบหลายรายการ อาทิ เงินสด, รถยนต์, รถตู้, รถแทรกเตอร์, รถประจำทาง,รถจักรยานยนต์, ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และโฉนดที่ดิน รวม 60 รายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท

ออกหมายจับ ‘บิ๊ก’ น้องชาย ‘เบนซ์ เดม่อน’ พร้อมพวกรวม 7 คน เอี่ยว ‘มาเก๊า 888’

(27 ก.พ. 66) พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ นำหลักฐานขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับนายกิตติพงษ์ ขจรบุญถาวร หรือ ‘บิ๊ก’ น้องชายคนที่ 3 ของ ‘เบนซ์ เดม่อน’ ในพี่น้องตระกูล 4 บ. ในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน”

นอกจากนายกิตติพงษ์แล้ว ศาลยังอนุมัติหมายจับอีก 6 คน ได้แก่ นายวัลลภ อายุ 61 ปี, น.ส.ภูลดา อายุ 32 ปี, นายณัฐกร อายุ 31 ปี, น.ส.ศิริลักษณ์ อายุ 25 ปี, นายสมสิทธิ์ อายุ 30 ปี และ น.ส.ธนัฎฐา อายุ 39 ปี ในข้อหาเดียวกัน เนื่องจากชุดสืบสวน พบหลักฐานว่า ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’ โดยนายณัฐกร ทำหน้าที่ดูแลเต็นท์รถหรู อู่รถหรูให้ ‘เบนซ์ เดม่อน’ ส่วน น.ส.ภูลดา ซึ่งเป็นแฟนของนายบิ๊ก พบว่าเคยผ่านเวทีประกวดเป็นดัชชี่เกิร์ลด้วย

‘กู้ภัย-ตร.น้ำ’ ใช้โดรนใต้น้ำ ค้นหาร่าง ‘น้องต่อ’ ชี้!! ไม่ง่าย!! เหตุ ‘คลองมีกิ่งไม้-ตัวเงินตัวทองเพียบ’

(27 ก.พ. 66) ที่คลองท่อ ภายในหมู่บ้าน ในพื้นที่ ตำบลหินมูล อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม นายสมภพ สอนดอนไพร นครปฐม 54 ทีมกู้ภัยของมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ได้ปรับแผนค้นหาร่วมกับทางตำรวจน้ำ เพื่อค้นหาร่างของ น้องต่อ วัย 8 เดือน หลังจากที่ น.ส.นิ่ม ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนโยนลูกลงน้ำ หลังจากที่ลูกเสียชีวิตแล้ว

นายสมภพ กล่าวว่า แผนการทำงานวันนี้คือ ใช้เชือกวางตามไลน์ซ้ายขวาหน้าหลัง มีนักประดาน้ำ 4 คน และถังอากาศ ดำลงไปใต้ผิวน้ำเพื่อคลำหา แล้วขึ้นมาทีละเซต เพื่อประเมินสภาพร่างกาย โดยให้ตำรวจน้ำปิดทั้งหัวท้ายส่วนกู้ภัยจะอยู่ตรงกลาง ระยะทางในการค้นหาประมาณ 3-4 เมตร ส่วนพิกัดในการดำน้ำนั้น เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่า น.ส.นิ่ม โยนลูกทิ้งจุดใด แต่เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนใต้น้ำของกำนันแม้น มาร่วมค้นหา ตอนนี้กิ่งไม้ใต้น้ำถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการค้นหา

'แม่นิ่ม' เล่านาที 'น้องต่อ' ตกพื้นก่อนแน่นิ่ง เหตุกลัวความผิด จึงนำไปโยนทิ้งแม่น้ำ

(27 ก.พ.66) ความคืบหน้าคดี ‘น้องต่อ’ อายุ 8 เดือนที่หายตัวไปอย่างปริศนาตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. จนถึงตอนนี้ยังไร้วี่แวว ภายหลังตำรวจ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม นำตัวนายพุดและนายแจ้ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยนายพุด ถูกแจ้งข้อหาเป็นธุระจัดหาให้กระทำการค้าประเวณี โดยได้พา น.ส.นิ่ม ภรรยา ไปขายบริการให้กับเพื่อนพ่อ ส่วนนายแจ้ โดนแจ้ง 2 ข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และพรากผู้เยาว์นั้น

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า นางสาวนิ่ม ซึ่งเป็นแม่ของน้องต่อ ยอมสารภาพแล้วว่า เป็นคนนำลูกไปทิ้งลงแม่น้ำ

โดยผลการเข้าเครื่องจับเท็จ ก็พบว่านางสาวนิ่มให้การเท็จทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ สอดคล้องกับผลตรวจสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลตำรวจ ที่ยืนยันว่าไม่ได้มีการป่วยทางจิตแต่อย่างใด ดังนั้นผลการตรวจโดยเครื่องจับเท็จก็สามารถยืนยันได้ว่า สามารถนำมาประกอบสำนวนได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งขยายผลดำเนินคดีกับเครือข่ายค้ามนุษย์ หลอกหญิงไทยไปค้าประเวณีที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 คุณปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา หญิงสาว 3 ราย ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา ที่ได้ประสานทหารไทย ทหารเมียนมา สถานทูตไทย เเละตำรวจไทยช่วยเหลือกลับมาได้เมื่อวันที่ 27 พ.ย.65 ที่ผ่านมา เข้าพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต เพื่อขอให้มีการขยายผลติดตามจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ดังกล่าวมาดำเนินคดี นั้น จากกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ดำเนินการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับเครือข่ายค้ามนุษย์ข้ามชาติดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด

จากการสืบสวนของชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. ทราบว่า ผู้เสียหายทั้ง 3 รายได้รับการชักชวนจาก น.ส.ศิลาณีฯ หรือ แนน ให้ไปทำงานให้บริการนั่งดื่มกับลูกค้าที่เมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา โดยกล่าวอ้างว่า ใช้เวลาทำงานไม่นาน มีรายได้สูง และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เมื่อตกลงรายละเอียดกันได้แล้ว น.ส.ศิลาณีฯ ได้พากลุ่มผู้เสียหายไปพักที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี พร้อมกับ นายสมเกียรติฯ แฟนหนุ่ม เพื่อรอนำไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเดินทางต่อไปยังสนามบินเชียงใหม่ จากนั้นจะมี นายชัชวีร์ฯ รอรับกลุ่มผู้เสียหายพาไปพักคอยอยู่ที่หมู่บ้านอรุโณทัย พื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จำนวน 1 คืน เพื่อรอเดินทางข้ามไปยังประเทศเมียนมาในช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะมี นายจายหารฯ ขับขี่รถยนต์บรรทุกผลแตงโมมารับกลุ่มผู้เสียหายเพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มคนชาวเขา ซึ่งประกอบด้วย นายซ่าฯ, นางโหย่ง และ น.ส.อะเหลมะ บริเวณริมชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เพื่อเดินข้ามช่องทางธรรมชาติเข้าไปยังประเทศเมียนมา 

หลังจากนั้นจะมีกลุ่มชาวเมียนมา และอินเดีย รับช่วงต่อเพื่อพากลุ่มผู้เสียหายไปส่งที่ร้านคาราโอเกะภายในเมืองล๊อกกิ่ง ประเทศเมียนมา ซึ่งมี น.ส.พิชญ์สินีฯ ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลร้านและคนที่มาทำงาน แต่เมื่อผู้เสียหายไปถึงกลับถูกบังคับให้ไปค้าประเวณีแก่ลูกค้าในร้านดังกล่าว โดยระหว่างที่อยู่ภายในร้านจะมีกลุ่มชายติดอาวุธเฝ้าอยู่โดยตลอด ซึ่งผู้เสียหายทราบภายหลังว่า น.ส.ศิลาณีฯ จะได้ค่านายหน้าในการพากลุ่มผู้เสียหายมาทำงานดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายทราบดังนั้นแล้วจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณา ตำรวจและทหารไทย จนสามารถหลบหนีกลับมายังประเทศไทยได้โดยปลอดภัย

ต่อมา พนักงานสอบสวน สภ.พานทอง ภ.จว.ชลบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติต่อ ศาลจังหวัดชลบุรีเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ จำนวน 8 ราย ดังนี้

1. น.ส.ศิลาณีฯ ทำหน้าที่ ชักชวนกลุ่มผู้เสียหายให้ไปทำงานที่ประเทศเมียนมา และเป็นผู้ติดต่อประสานงานบุคคลต่างๆ เพื่อให้กลุ่มผู้เสียหายสามารถเดินทางไปทำงานที่ประเทศเมียนมาได้
2. น.ส.พิชญ์สินีฯ ทำหน้าที่รับกลุ่มผู้เสียหายไปทำงานที่ร้านที่ประเทศเมียนมา (หลบหนี)
3. นายสมเกียรติฯ ทำหน้าที่ พากลุ่มผู้เสียหายไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ
4. นายชัชวีร์ฯ ทำหน้าที่ รับกลุ่มผู้เสียหายจากสนามบินเชียงใหม่ไปส่งที่ห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
5. นายจายหาร สัญชาติเมียนมา ทำหน้าที่รับกลุ่มผู้เสียหาย จากห้องพักในหมู่บ้านอรุโณทัย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ไปส่งที่จุดข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมา ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
6. นายซ่า ทำหน้าที่พากลุ่มผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา
7. นางโหย่ง ทำหน้าที่พากลุ่มผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา
8. น.ส.อะเหลมะ มีหน้าที่พากลุ่มผู้เสียหายลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมา (หลบหนี)

‘ปปง.’ ยึดเพนต์เฮาส์หรู ‘สามีหยาดทิพย์’ หลังตรวจพบรับซื้อทรัพย์สินจาก ‘อภิรักษ์ โกฎธิ’

สืบเนื่องจากกรณีการใช้เว็บไซต์ www.forex-3D.com เป็นช่องทางในการหลอกลวงโฆษณาชักชวนประชาชนทั่วไป ให้นำเงินไปลงทุนซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ (Forex) โดยเสนอผลตอบแทนสูงถึง 60 - 80% ของเงินผลกำไรที่ได้จากการเทรด Forex อันเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งมีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก และกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มีการตรวจค้น ยึด และอายัดทรัพย์สินจากคดีแชร์ Forex-3D หรือที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจำนวนหลายรายการ อาทิ เพนต์เฮาส์หรู ภายในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหาร Forex-3D ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยเพนต์เฮาส์หรูดังกล่าว เป็นหนึ่งในบัญชีทรัพย์สินที่ดีเอสไอได้ประสานส่งมอบกับสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการในคดีแพ่งมาอย่างต่อเนื่อง

จากประเด็นที่เกิดขึ้น ปีที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่า ‘นายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ’ สามีนักแสดงสาว ‘หยาดทิพย์ ราชปาล’ อาจเกี่ยวข้องนั้น เนื่องจาก หยาดทิพย์ มีความสนิทสนมกับ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดี อย่างไรก็ตาม หยาดทิพย์ ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว โดยยืนยันว่า สามีไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับคดี FOREX-3D พร้อมทั้งยังระบุว่า คอนโดฯ นั้นซื้อมาอย่างถูกต้อง มีหลักฐานครบถ้วนและซื้อแบบขายฝากผ่านนายหน้ามาก่อนที่นายอภิรักษ์จะถูกดำเนินคดี

วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ภายในสำนักงานคณะกรรมการ ปปง.ว่าภายหลังจากที่ดีเอสไอได้ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดจากฐานคดีแชร์ Forex-3D มาให้ทางปปง. ดำเนินคดีทางแพ่งต่อนั้น ซึ่งรายการทรัพย์สิน เพนต์เฮาส์ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิทของนายรามา รัศมีรามา ทาง ปปง. ได้ดำเนินการยึด อายัดไว้เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าได้มีการแจ้งข้อหาฟอกเงินแก่นายรามา หรือไม่นั้น ผู้สื่อข่าวได้รับคำตอบว่า ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างขั้นตอนของศาล โดยเนื้อหารายละเอียดภายในสำนวน ทาง ปปง. ขอละเว้นการเปิดเผย เพราะอาจจะกระทบกับการสืบสวนสอบสวนทางคดีของเจ้าหน้าที่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top