Tuesday, 21 May 2024
แจ็ค รัสเซล

เหตุไฉน!! นโยบายบางพรรคจากคนรุ่นใหม่ ไม่โดนใจทุกคน "ก็ใหญ่โตมาจากไหน ถึงมองสถาบันกษัตริย์ไทยไม่สำคัญล่ะ"

เด็กรุ่นใหม่ ๆ อายุยี่สิบต้น จนถึงสามสิบกลาง ๆ รวมถึงคนวัยใกล้ ๆ กันที่คิดต่างจากผมบางคน ชอบถามผมว่า เมื่อเห็นว่านโยบายของบางพรรคการเมืองที่มาจากคนรุ่นใหม่ดีถูกใจ ทำไมผมจึงยังไม่เลือกอยู่ดี ถามว่าทำไม? 

ผมมักตอบกลับไปยาว ๆ ว่า… 

การจะอ่านพฤติกรรมของนักการเมืองไทย ต้องอย่าดูแค่ ‘วาทกรรม’ แต่ต้องดู ‘พฤติกรรม’ ดูเจตนาลึก ๆ ที่ผ่าน ๆ มา ถ้าเราไม่ปัญญาเบา หรือมีอคติจนเกินไปก็จะมองออกได้ง่ายมาก ๆ พรรคการเมืองใดก็ตามที่ลึก ๆ กังขาสถาบันในเรื่องต่าง ๆ ไม่รู้สึกผูกพัน มองเป็นส่วนเกิน มองเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ มองไม่เห็นประโยชน์ จนถึงขั้นคิดล้มล้างทำลาย ก็จะแสดงออกถึงความเป็นปฏิปักษ์ให้สังคมเห็นในวิธีต่าง ๆ ส่วนคนที่จะเลือกพรรคการเมืองแบบนี้ ก็ต้องมีเหตุผลหนึ่งเหตุผลใดตรงกับ ‘แนวคิด’ หรือ ‘อุดมคติ’ ของพรรคการเมืองแบบนี้เท่านั้น 

แต่คนไทยจำนวนไม่น้อยที่เลือก บางส่วนก็กลัวคนอื่นจะล่วงรู้ว่าตนเองก็แอบไม่เอาสถาบัน ไม่ได้นึกถึงว่าตนเองเกิด และเติบโตมาบนผืนแผ่นดินไทยนี้ได้อย่างร่มเย็น ผาสุข ส่วนสำคัญก็มาจากสถาบันกษัตริย์ไทย 

คำว่า ‘สถาบันกษัตริย์’ หาใช่พระมหากษัตริย์เพียงพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง แต่คือราก คือแก่น คือความสำคัญอันดับต้นในความเป็นชาติตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ด้วยบรรพบุรุษของกษัตริย์ กับคนไทยผู้หวงแหนแผ่นดิน ร่วมกันสร้างชาติจนเป็นชาติ ทำให้คนรุ่นต่อ ๆ มามีแผ่นดินอาศัย มีเอกราช มีเสรี มีความภูมิใจ ทำให้คนไทยที่คิดดีไม่กล้าคิดเนรคุณ หรือหลงลืมบุญคุณ ‘ชาติกษัตริย์ไทย’ เพราะจะมีความเชื่อคล้าย ๆ กันว่า คนที่คิดร้ายทำลายชาติ คิดเนรคุณแผ่นดินเกิดของตนเอง ย่อมนำเคราะห์ร้าย นำความหายนะมาสู่ชีวิตของตนเองในไม่ช้าก็เร็ว

แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของเหล่าคนรักสถาบันชาติกษัตริย์ไทย แต่ที่ผ่านมาก็มีฉายโชว์ให้เห็นจุดจบของคนคิดล้มล้างทำลายมาโดยตลอด 

ผมเกลียดนักการเมืองน้ำเน่า เกลียดการคอร์รัปชันโกงกินทุกรูปแบบ และฝันอยากได้นักการเมืองรุ่นใหม่ที่คิดดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชนคนไทยโดยแท้จริง แต่ที่เห็นและมีอยู่ยังไม่เฉียดใกล้มาตรฐานของคนไทยที่รักสถาบันจริง ๆ เลยแม้แต่น้อย ผมอายตัวเอง ถ้าต้องได้ชื่อว่าเป็นคนไทยที่สนับสนุนการกัดเซาะ ล้มล้าง ทำลายสถาบันเบื้องสูงของตัวเอง เพราะสำหรับผม สถาบันคือความมั่นคงที่คนไทยต้องปกป้อง..รักษา ไม่ใช่สิ่งที่เสมอเทียมคนปกติแบบเรา ๆ

ผมคิดแบบนี้ เขาคิดแบบนั้น ผมและเขาเราจึงคุยกันไม่รู้เรื่อง 

สเตป!! ธุรกิจเพลงไทย ในจังหวะที่ไม่พ้นเงื้อมมือนักฟอกเงิน ผลงานถี่-มีแต่เพลงไร้คุณภาพ-ไม่ถูกจดจำ-ปิดตัวแยกย้าย

ถ้านับย้อนกลับไปสัก 15-20 ปีก่อน ฉากหลังของ ‘นักธุรกิจสีเทา’ หรือ ‘มาเฟียต่างชาติ’ ที่ซุกตัวทำมาหากินอยู่ในเมืองไทยมานาน มักจะสร้างเงินได้มหาศาลจากการค้ามนุษย์, ยาเสพติด และรถยนต์หรูนำเข้าแบบหนีภาษี โดยมีตำรวจ และนักการเมืองไทยขี้ฉ้อมีเอี่ยวตามเคย และการเปิด “ค่ายเพลงไทย” ในห้วงเวลานั้น ก็หนีไม่พ้นเป็นหนึ่งในวิธีบังหน้าเพื่อจะฟอกเงินให้ขาวใส เพราะด้วยการทำธุรกิจค่ายเพลงไทยในช่วงเวลาขาลง เป็นจังหวะเวลาที่ดูน่าเชื่อถือ และน่ายกย่องในสายตาสังคมที่สุด ประหนึ่งเป็นพ่อพระผู้ใจดี ที่แม้วงการเพลงไทยกำลังถอยหลังลงคลอง ความคึกคักเริ่มจะหดหายไป กลับมีคนรวยที่มีน้ำใจเดินเข้ามาหวังจะปลุกวงการเพลงไม่ให้เงียบสงัด

แต่ ‘ความน่าเชื่อถือขององค์กร’ จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัย ‘คนที่น่าเชื่อถือ’ ในวงการเพลงมาออกหน้านั่งแท่นบริหารงาน คอยดีลทีมงาน ชวนศิลปินนักร้อง ดึงนักดนตรี เข้าสังกัด เพื่อมาช่วยกันสร้างผลงานเพลงที่มาจากการ ‘ถลุงเงินบาป’ แบบไม่อั้นในการผลิต 

เงินหนา ๆ ของผู้ลงทุนในคราบโจร เป็นที่หอมหวานของเหล่านักแต่งเพลงไส้แห้ง และโปรดิวเซอร์ทางดนตรีที่ไม่สนว่าจะได้เงินมาจากคนประเภทไหน รวมศิลปินนักร้องมีชื่อจำนวนหนึ่งที่อยากได้ค่าทำงานแพงลิบเพื่อจะยกระดับตัวเองโดยไม่เคยฉุกคิดว่า ที่เขาจ่ายในราคาสูงเกินจริง มันสมเหตุสมผลหรือไม่? ก็เลยทำให้เกิด ‘ค่ายเพลงจากนักฟอก’ ก่อตัวขึ้นไม่น้อยในสังคมดนตรีไทย เวลาเปิดค่ายจะแถลงข่าวใหญ่โต มีเหล่า ‘คนดังที่คิดน้อย’ แทบจะทุกวงการขึ้นเวทีไปยืนถ่ายรูปช่วยกันฟอกโจรด้วยความชื่นมื่น แต่เมื่อถึงคราวสังคมรู้ถึงกลิ่นที่ผิดปกติ ก็จะแอบปิดตัวไปแบบเงียบ ๆ ในเวลาเพียงปีสองปีเสมอ

ค่ายเพลงจากเงินเทาเหล่านี้ มักจะมีผลงานออกมาถี่ ๆ แต่มักจะเป็นผลงานเพลงที่ไร้คุณภาพ ไม่เป็นที่จดจำ หลังปิดตัวแยกย้ายกันไปไม่นานนักสังคมก็จะลืมทั้งชื่อค่าย และชื่อของศิลปินแต่ละเบอร์ที่เคยออกผลงานมา

แต่ถ้าพูดถึง 5-6 ปีที่ผ่านมาถึงชั่วโมงนี้ ‘กลุ่มทุนเทา’ คือผู้อยู่เบื้องหลัง ‘บ่อนพนันออนไลน์’ เป็นหลัก และแน่นอนยังคงเลี้ยงดูปูเสื่อนายตำรวจใหญ่ ๆ สายโฉด รวมถึงนักการเมืองสายดาร์กบางคน เพื่อการทำมาหารับประทานที่คล่องตัว ส่วนอีกหนึ่งวิธีที่ยังคงใช้ ‘ฟอกตัวตน’ ก็คือการดำเนินธุรกิจเพลงไทยเพื่อใช้เป็นฉากบังหน้าเหมือนเคย เพียงแต่ไม่ใช่วิธีเปิดค่ายเพลงทื่อ ๆ ตรง ๆ เหมือนแต่ก่อน ครั้งนี้หันไปใช้วิธีให้สังคมรู้จักในนาม ‘ผู้ห่วงใยวงการเพลง’ ประกาศจ่ายค่าทำเพลงในอัตราสูง ๆ เพื่อกระตุ้นให้คนทำงานเพลงทุกแขนงตื่นตาตื่นใจ ที่สุดปลาที่ว่ายไปงับเบ็ดธงที่โจรปักหลอกไว้ก็มีแต่คนหน้าตาเดิม ๆ 

ถ้าการเมืองไทยยังไม่ไปถึงไหน วงการเพลงไทยก็..ไม่ต่างกัน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top