Sunday, 16 June 2024
ไวโอลิน

‘นักดนตรีระดับโลก’ บรรเลงเพลง กลาง สน.ทองหล่อ หลังได้รับ ‘ไวโอลิน’ มูลค่า 18 ล้านบาท ที่ลืมไว้บนแท็กซี่คืน

(1 ก.ย. 66) สถานีวิทยุ จส.100 รายงานว่า ได้รับการประสานจาก สน.ทองหล่อ ให้ตามหาแท็กซี่ ที่รับชาวจีน เมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค. 66 เวลา 23.10 น.จากร้านอาหารปักกิ่ง ซอยสุขุมวิท 26 ไปลงที่สุขุมวิท 31 เนื่องจาก ‘ชาวจีน’ เป็นนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงระดับโลก ลืมกระเป๋ากล่องสีครีม ข้างในมีไวโอลินสีน้ำตาล-เหลือง 1 ตัว

จ.ส.ต.เกรียงไกร กรไธสง ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ให้ข้อมูลว่า คนขับรถแท็กซี่ ชื่อ ‘คุณอุเทน เด่นขุนทด’ เนื่องจาก ผู้โดยสารชาวจีนโอนค่าโดยสารไปให้ ตำรวจ ช่วยตรวจสอบกล้องวงจปิดจุดที่ขึ้นลงแล้ว กล้องมองไม่เห็นทะเบียนรถ และไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ ผู้โดยสารชาวจีน คือ ‘คุณเซว เหว่ย’ (Xuē Wěi) นักไวโอลินชาวจีนที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ในที่สุด สถานีวิทยุ จส.100 สามารถติดต่อคนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าวได้ คือ คุณอุเทน ขับรถแท็กซี่ สีชมพู ทห-2874 กทม.และได้ประสานส่งมอบกล่องไวโอลินให้กับคุณซุน ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณเซว เหว่ย เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.66) ที่สน.ทองหล่อ

ขณะที่ คุณซุน ขอขอบคุณคนไทยมีน้ำใจจริงๆ เนื่องจาก ไวโอลิน มีความพิเศษ เป็นสมบัติที่ล้ำค่า มีคุณค่าทางจิตใจ เหมือนเป็นอาวุธของคุณเซว เหว่ย และอยากได้คืนมาก มีอายุ 200 กว่าปี มูลค่า 18 ล้านบาท เมื่อรู้ว่าลืมไว้บนรถแท็กซี่ คุณเซว เหว่ย มีความกังวลมาก ไม่ได้ทานข้าว และเมื่อรู้ว่า ติดต่อคุณอุเทน คนขับรถได้แล้วและได้รับของคืน รู้สึกดีใจมาก คุณเซว เหว่ย เดินทางไป-กลับ 3 ประเทศเป็นประจำ ไทย-อังกฤษ-จีน ครั้งนี้ก็มาอยู่ไทยนานพอสมควร หลังจากนี้ก็จะเดินทางกลับประเทศจีน

ในส่วนตัวคุณซุน ติดตามฟังสถานีวิทยุ จส.100 มาตลอด เพราะจะได้ทราบข้อมูลข่าวสารการจราจรในช่วงเช้า-เย็น

ขณะที่ คุณอุเทน เล่าว่า เมื่อรู้ว่า ผู้โดยสารลืมของไว้ในรถ ก็ขับรถวนกลับไปรอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะติดต่อใคร จึงนำไวโอลินไว้ที่กระโปรงท้ายก่อน และบอกเจ้าของอู่ให้ทราบไว้ จากนั้นก็พักผ่อน เมื่อตื่นขึ้นมาเห็นสายโทรศัพท์ของสถานีวิทยุ จส.100 จึงได้โทรกลับและประสานงานกัน นำไวโอลินส่งมอบคืนให้คุณเซว เหว่ย และได้รับ Gift voucher เป็นสินน้ำใจด้วย

เมืองผู้ดี เปิดประมูลนาฬิกาทองคำ ที่จมไปพร้อมกับ ‘ไททานิก’ เผย ‘เจ้าของนาฬิกา’ ส่งภรรยาที่กำลังท้องลงเรือชูชีพ ก่อนตัวเองจะไม่รอด

(28 เม.ย. 67) Henry Aldridge & Son ประมูลสิ่งของที่เหลือรอดจากเรือไททานิก โดยในครั้งนี้มีนาฬิกาพกทองคำของผู้โดยสารที่ร่ำรวยที่สุด ประมูลจบที่ 41.6 ล้านบาท

เมื่อวานนี้ (วันที่ 27 เม.ย.) บริษัท Henry Aldridge & Son ได้จัดการประมูล ‘สิ่งของที่เหลือรอดจากเรือไททานิก’ อีกครั้ง โดยรอบนี้มีไฮไลต์เด็ดที่นักสะสมรอคอย นั่นคือ ‘นาฬิกาพกทองคำ’ ของ จอห์น จาคอบ แอสเตอร์ ผู้โดยสารที่ร่ำรวยที่สุดบนเรือไททานิก

บริษัทตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 150,000 ปอนด์ (ราว 7 ล้านบาท) แต่ท้ายที่สุดราคาพุ่งขึ้นไปถึง 6 เท่า จบที่ 900,000 ปอนด์ (เกือบ 41.6 ล้านบาท) และเมื่อรวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว มีมูลค่ารวมสูงถึง 1.175 ล้านปอนด์ (ราว 54.9 ล้านล้านบาท) 

มูลค่าดังกล่าวทำให้ แอนดรูว์ อัลดริดจ์ เจ้าของบริษัทประมูล ระบุว่า นี่เป็นราคาประมูลสิ่งของจากเรือไททานิกที่ ทำลายสถิติโลก

สำหรับ จอห์น จาคอบ แอสเตอร์ เป็นนักธุรกิจผู้ร่ำรวยวัย 47 ปี เขาเสียชีวิตหลังจากที่ส่งภรรยา แมดเดอลีน ขึ้นเรือชูชีพสำเร็จ ส่วนตัวเองจมไปพร้อมกับเรือ และนาฬิกาดังกล่าวถูกพบพร้อมกับร่างของเขา

เดวิด เบดดาร์ด ประธานสมาคมไททานิคแห่งอังกฤษ กล่าวว่า “ไม่เหมือนกับนาฬิกาหลายเรือนจากเรือไททานิกซึ่งหยุดเดินไปในค่ำคืนแห่งโชคชะตา นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการบูรณะและสวมโดยวินเซนต์ ลูกชายของแอสเตอร์”

เขาเสริมว่า “นาฬิกาเรือนนี้อยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา ขณะที่เขาส่งภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ลงเรือชูชีพ ส่วนตัวเองก้าวถอยหลังโดยรู้ตัวว่าจะไม่รอด มันถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง”

ก่อนหน้านี้เคยมีของจากไททานิกที่ถูกประมูลไปในราคา 900,000 ปอนด์เช่นกัน นั่นคือไวโอลินที่นักดนตรีคนหนึ่งบนเรือเล่นขณะที่เรือกำลังจม โดยถูกประมูลไปเมื่อปี 2013 บวกภาษีและค่าธรรมเนียมจะอยู๋ที่ 1.1 ล้านปอนด์ ทำให้มูลค่ารวมของการปะมูลครั้งล่าสุดแซงหน้าไป

ในการประมูลครั้งนี้ยังมีกล่องใส่ไวโอลินของไวโอลินตัวข้างต้น ถูกประมูลไปด้วยราคา 290,000 ปอนด์ (366,000 ปอนด์เมื่อบวกภาษีและค่าธรรมเนียม)

ไวโอลินและกล่องใส่เป็นของ วอลเลซ ฮาร์ตลีย์ มีเรื่องเล่าว่า ขณะที่เรือกำลังจม เขาและวงยังคงเล่นดนตรีเพื่อทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสงบในขณะที่ภัยพิบัติกำลังคืบคลานรอบตัวพวกเขา

ฮาร์ตลีย์จมไปพร้อมกับเรือเช่นเดียวกับผู้โดยสารส่วนใหญ่ โดยไม่ได้นำไวโอลินใส่ลงไปในกล่อง

เบดดาร์ดบอกว่า “กระเป๋าใบนี้รอดมาได้ในสภาพค่อนข้างดี แม้ว่าจะมีความเสียหายจากน้ำก็ตาม”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top