Monday, 9 June 2025
โอซาก้า

เชียงใหม่-ทชม. Kick off เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ประเดิมเที่ยวบินแรก 'เชียงใหม่-โอซาก้า'

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ Kick off เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ประเดิมเที่ยวบินแรก 'เชียงใหม่-โอซาก้า' รองรับนักท่องเที่ยวตามนโยบาย Quick-Win กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล โดยการจัดเที่ยวบินหลังเที่ยงคืน จะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นหลักสำคัญ        

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน Kick off ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยมีนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) นาวาอากาศโท รณกร เฉลิมแสนยากร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ผู้บริหารระดับสูงของ ทอท. รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้แทนส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน 

ตลอดจนผู้ประกอบการธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง โดยเที่ยวบินแรกที่ทำการบินหลังเวลาเที่ยงคืน เพื่อเป็นการประกาศให้บริการ 24 ชั่วโมงของท่าอากาศยานเชียงใหม่ คือ สายการบินไทยเวียตเจ็ท เที่ยวบินที่ VZ 822 เส้นทาง เชียงใหม่-โอซาก้า กำหนดออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ เวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 (คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2566) เดินทางถึงท่าอากาศยานคันไซ (โอซาก้า) เวลา 07.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) 

โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ คณะผู้บริหารของ ทอท.และผู้ร่วมกิจกรรม ได้ร่วมกันแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมือง การประดับตกแต่งบรรยากาศความเป็นล้านนา ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และยังได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ประดับตกแต่งไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้โดยสารที่มาใช้บริการท่าอากาศยานเชียงใหม่ด้วย

ญี่ปุ่นเริ่มสร้าง MGM Osaka ‘รีสอร์ตคาสิโนแห่งแรก’ บนเกาะเทียมยูเมะชิมะ มูลค่า 1.27 ล้านล้านเยน หวังปั้นโอซาก้าเป็นฮับท่องเที่ยว-บันเทิงระดับเอเชีย

(7 พ.ค. 68) เมื่อเดือนเมษายน 2025 ญี่ปุ่นได้เริ่มต้นการก่อสร้าง 'MGM Osaka' รีสอร์ตครบวงจรแห่งแรกของประเทศ บนเกาะเทียมยูเมะชิมะ เมืองโอซาก้า โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง MGM Resorts International จากสหรัฐฯ และ Orix Corporation จากญี่ปุ่น มูลค่ารวมกว่า 1.27 ล้านล้านเยน (ราว 311,500 ล้านบาท)

MGM Osaka ได้รับอนุมัติภายใต้กฎหมาย IR ปี 2018 ซึ่งอนุญาตให้สร้างรีสอร์ตคาสิโนแบบถูกกฎหมายได้สูงสุด 3 แห่งทั่วประเทศ โดย MGM Osaka เป็นโครงการแรกที่ผ่านการอนุมัติอย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวสำคัญของญี่ปุ่นในการเปิดตลาดคาสิโน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคคันไซ

โครงการประกอบด้วยคาสิโน โรงแรม 3 แห่งกว่า 2,500 ห้อง ศูนย์ประชุม พื้นที่แสดงสินค้า โรงละคร ร้านอาหาร และค้าปลีก โดยคาดว่าจะสร้างรายได้จากการเล่นเกมราว 5.9 พันล้านดอลลาร์ต่อปี และสร้างงานนับหมื่นตำแหน่ง ทั้งทางตรงและทางอ้อม

แม้จะมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง แต่โครงการต้องเผชิญกับเสียงคัดค้านจากประชาชนบางกลุ่มที่กังวลเรื่องปัญหาการพนัน การฟอกเงิน และผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรม โครงการจึงมีการจำกัดการเข้าคาสิโนของคนญี่ปุ่น และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพื่อควบคุมความเสี่ยง

ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการกระตุ้นการพัฒนาเมืองอย่างชัดเจน เช่น การเปิดสถานีรถไฟใต้ดินใหม่ในต้นปี 2025 และการขยายสายรถไฟเชื่อมเกาะยูเมะชิมะ ขณะเดียวกัน การก่อสร้างจะถูกปรับแผนช่วงงาน Expo 2025 ซึ่งจัดบนเกาะเดียวกัน เพื่อลดผลกระทบต่อผู้เข้าร่วมงาน

MGM Osaka จึงไม่เพียงเป็นโครงการคาสิโนแห่งแรกของญี่ปุ่น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านเชิงนโยบาย มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงและการบริการอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบการจัดสมดุลระหว่างโอกาสทางเศรษฐกิจและความรับผิดชอบต่อสังคม

ชาวจีนแห่ตั้งรกรากที่โอซาก้า หวังชีวิตใหม่ในดินแดนอาทิตย์อุทัย หลังถูกบีบด้วยหนีภาษีทรัมป์–เศรษฐกิจชะลอ–ระบบการศึกษากดดัน

(8 พ.ค. 68) เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับภาวะชะลอตัวยืดเยื้อ โดยได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ในยุคทรัมป์ ทำให้เกิดกระแสการอพยพของชาวจีนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมืองโอซาก้าในญี่ปุ่นที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม

คำแสลง 'จุน' ที่ใช้กันในจีนซึ่งแปลว่า 'หลบหนีออกนอกประเทศ' สะท้อนความรู้สึกของชนชั้นกลางและผู้มีฐานะที่ต้องการหลีกหนีจากความกดดันทางเศรษฐกิจ สังคม และระบบการศึกษา โดยเฉพาะหลังมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดในช่วงโควิด-19

ญี่ปุ่นกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะมีความใกล้ชิดกับจีน ค่าครองชีพต่ำ ค่าเงินเยนอ่อน และระบบการศึกษาที่ผ่อนคลายกว่าจีนอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ระบบสวัสดิการของญี่ปุ่นก็น่าเชื่อถือมากกว่า ทำให้ผู้อพยพรู้สึกมั่นใจในการตั้งรกรากระยะยาว

รายงานระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับประถมในจีนอาจสูงถึง 12 ล้านเยนต่อปี (ราว 2.7 ล้านบาท) ขณะที่ในญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาก ส่งผลให้หลายครอบครัวจีนมองว่าการย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของลูก

ตัวอย่างเช่น ครอบครัวหนึ่งที่ย้ายมาโอซาก้า ลูกสาวคนโตสามารถปรับตัวกับชีวิตในโรงเรียนญี่ปุ่นได้ดี และรู้สึกว่ามีเวลาสำหรับกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น ผู้ปกครองกล่าวว่า “ในจีนต้องใช้ความพยายาม 100% เพื่อเข้า ม.ดัง แต่ที่ญี่ปุ่น ลูกผมอาจใช้แค่ 70% แล้วใช้ที่เหลือพัฒนาทักษะชีวิต”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top