Sunday, 20 April 2025
โคลอมเบีย

'อาร์เจนตินา' ต่อเวลาเฉือนชนะ 'โคลอมเบีย' 1-0 คว้าแชมป์โคปา 2024 แม้ 'เมสซี่' เล่นไม่จบเกม

(15 ก.ค. 67) รายงานข่าวระบุว่า ฟุตบอลโคปา อเมริกา 2024 รอบชิงชนะเลิศ อาร์เจนตินา แชมป์เก่า จะพบกับ โคลอมเบีย ซึ่งเกมนี้เตะกันที่ สังเวียน ฮาร์ดร็อค สเตเดี้ยม รัฐฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา โดยคู่นี้เคยพบกันล่าสุดในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก และหนนี้เป็นทีม 'ฟ้าขาว' เปิดบ้านชนะ 1-0 จากประตูชัยของ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

สำหรับเกมนี้ ได้มีการเลื่อนแข่งขันออกไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากเหตุความวุ่นวายเมื่อแฟนบอลบางส่วนไม่มีตั๋วเข้าสนามไม่ได้ จนเกิดความโกลาหลฝ่าประตูกันเข้ามา จากนั้นเกมกลับมาแข่งขันตามเดิม

ฟากทัพฟ้าขาว ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือแชมป์โลก 2022 ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บส่งผู้เล่นชุดเดิมลงสนาม นำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีม เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตู, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อังเคล ดิ มาเรีย และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ 

ส่วน โคลอมเบีย ของ เนสตอร์ ลอเรนโซ่ บอสใหญ่ ไม่มี ดาเนียล มูนญอซ ที่โดนใบแดงนัดที่แล้ว จัดทัพส่ง ฮาเมส โรดริเกซ กัปตันทีมทัพ พร้อมด้วย ดาวินซอน ซานเชซ, เจฟเฟอร์สัน เลร์ม่า, หลุยส์ ดิอาซ และ จอน กอร์โดบา

เริ่มครึ่งแรก โคลอมเบีย สร้างโอกาสได้ดีกว่า แต่แนวรับของอาร์เจนตินายังคงเหนียวแน่น ส่งผลให้เกมยังคงไม่มีสกอร์จนถึงครึ่งแรก 0-0 

กลับมาครึ่งหลังนาที 58 อาร์เจนตินา มีลุ้นจาก ดิ มาเรีย ได้บอลด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ แล้วตัดบอลเข้ามาก่อนยิงไปที่มุมไกล คามิโล วาร์กัส เซฟไว้ได้ 

นาที 64 เมสซี่ ปะทะกับนักเตะโคลอมเบีย ได้บาดเจ็บแต่กลับมาลงสนามเพื่อเล่นต่อ แต่ว่าผ่านมาแค่ 2 นาที กัปตันทีมชาวอาร์เจนตินา เล่นต่อไม่ไหวเดินกะเผลกออกจากสนามด้วยน้ำตา โดยส่ง นิโก้ กอนซาเลซ ลงมาแทน 

จากนั้นทั้งสองทีมไม่มีฝั่งไหนทำสกอร์ได้จบ 90 นาที เสมอ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ จากนั้นนาที 112 เลาตาโร่ มาร์ติเนซ จบสกอร์อย่างเฉียบขาดที่มุมไกล กลายเป็นประตูชัยให้ อาร์เจนตินา เฉือนชนะ โคลอมเบีย 1-0 คว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2024 มาครองได้สำเร็จ และเป็นแชมป์สมัยที่ 16

สำหรับการคว้าแชมป์ในหนนี้ของ อาร์เจนตินา ส่งผลให้ทัพฟ้าขาวสามารถ ซิวแชมป์ระดับเมเจอร์ได้ 3 รายการติดต่อกัน ได้แก่ Copa America 2021 / World Cup 2022 และ 2024 กับ Copa America

สั่งขึ้นภาษีโคลอมเบีย 25% หลังไม่รับเครื่องบินเนรเทศผู้ลี้ภัยที่สหรัฐส่งกลับ

(27 ม.ค. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศมาตรการตอบโต้โคลอมเบียอย่างรุนแรง หลังจากโคลอมเบียปฏิเสธไม่ให้เครื่องบินทหารสหรัฐ 2 ลำ ซึ่งขนผู้อพยพที่ถูกเนรเทศตามนโยบายเข้มงวดของรัฐบาลชุดใหม่ ลงจอดในโคลอมเบีย  

ทรัมป์โพสต์ผ่าน Truth Social ว่าการกระทำของนายกุสตาโว เปโตร ประธานาธิบดีโคลอมเบีย ที่ปฏิเสธเที่ยวบินดังกล่าว ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ พร้อมสั่งให้รัฐมนตรีพาณิชย์ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากโคลอมเบีย 25% โดยระบุว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น  

สหรัฐเตรียมเพิ่มกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากโคลอมเบียเป็น 50% ภายในหนึ่งสัปดาห์ ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลอมเบียเดินทางเข้าสหรัฐ และเพิกถอนวีซ่า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและธนาคาร พร้อมเสริมความเข้มงวดในการตรวจสอบชายแดน  

ทรัมป์ย้ำว่า สหรัฐจะไม่ยอมให้โคลอมเบียละเมิดข้อผูกพันทางกฎหมายในการรับผู้อพยพกลับประเทศ ขณะเดียวกัน เขายังโพสต์ภาพของตัวเองพร้อมข้อความ FAFO ซึ่งสื่อถึงการตอบโต้ที่รุนแรง  

นายเปโตรแสดงความไม่พอใจต่อการกระทำของสหรัฐ โดยระบุว่าผู้อพยพไม่ควรถูกปฏิบัติเหมือนอาชญากร และโคลอมเบียพร้อมต้อนรับพลเมืองที่ถูกเนรเทศกลับบ้านบนเครื่องบินพลเรือน  

เปโตรยังเน้นว่า แม้จะมีชาวอเมริกัน 15,660 คนที่พำนักอย่างผิดกฎหมายในโคลอมเบีย แต่โคลอมเบียจะไม่ใช้วิธีการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนแบบเดียวกัน  

โคลอมเบียซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของสหรัฐในลาตินอเมริกา ตอบโต้โดยขู่ว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ 50% เช่นกัน  

โคลอมเบียเป็นประเทศลาตินอเมริกาลำดับที่สองที่ปฏิเสธเครื่องบินทหารสหรัฐ ต่อจากเม็กซิโก แต่ทรัมป์ไม่ได้ใช้มาตรการตอบโต้ที่รุนแรงกับเม็กซิโก  

ในปี 2023 การค้าระหว่างสหรัฐและโคลอมเบียมีมูลค่า 33,800 ล้านดอลลาร์ โดยโคลอมเบียได้ดุลการค้า 1,600 ล้านดอลลาร์ สินค้าหลักที่สหรัฐนำเข้าจากโคลอมเบียได้แก่ น้ำมันดิบ ทองคำ กาแฟ และดอกกุหลาบ  

รัฐบาลของทรัมป์ยังคงเผชิญแรงกดดันจากประเทศในลาตินอเมริกาเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้อพยพ ซึ่งบางกรณีถูกมองว่าละเมิดศักดิ์ศรีและสิทธิมนุษยชน  

การใช้เครื่องบินทหารขนส่งผู้อพยพถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการย้ายถิ่นฐานของทรัมป์ ซึ่งเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันแรกที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดี

ผู้นำโคลอมเบียถอย ยอมรับผู้อพยพกลับ หลังทรัมป์ขู่ลงดาบคว่ำบาตร-ขึ้นภาษี

(27 ม.ค. 68) ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมว่า โคลอมเบียได้ตกลงรับผู้อพยพที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาโดยผิดกฎหมายกลับประเทศโดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ โดยข้อตกลงนี้ยังระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่เรียกเก็บภาษี 25% จากโคลอมเบีย ตราบใดที่รัฐบาลโคลอมเบียปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว

คาโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า "รัฐบาลโคลอมเบียได้ยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการรับผู้อพยพที่ถูกส่งกลับจากสหรัฐอย่างไม่จำกัด ไม่ว่าจะเดินทางด้วยเครื่องบินพาณิชย์หรือเครื่องบินทหาร โดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือความล่าช้า"

เลวิตต์เสริมว่า มาตรการภาษีและการคว่ำบาตรต่าง ๆ ที่เคยเตรียมไว้จะถูกระงับไว้ก่อน ตราบใดที่โคลอมเบียยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรด้านวีซ่าต่อเจ้าหน้าที่โคลอมเบีย รวมถึงการตรวจสอบศุลกากรที่เข้มงวดต่อสินค้าจากโคลอมเบีย จะยังคงมีผลจนกว่าการส่งตัวผู้ถูกเนรเทศชุดแรกสำเร็จ และเครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางกลับถึงสหรัฐ

การบรรลุข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ของโคลอมเบีย มีการตอบโต้ทางการทูตเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวก่อนหน้านี้ โดยก่อนหน้านี้ นายเปโตร ได้สั่งระงับการลงจอดของเครื่องบินทหารสหรัฐ 2 ลำ ที่มีแผนขนส่งผู้อพยพชาวโคลอมเบียกลับประเทศ ซึ่งนำไปสู่คำขู่จากทรัมป์ว่าจะเพิ่มภาษีศุลกากร หากโคลอมเบียไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top