Monday, 1 July 2024
แฮมเบอร์เกอร์

แซนด์วิชแห่งเสรีภาพ เมื่อแฮมเบอร์เกอร์ เมนูเด็ดของประเทศสหรัฐฯ เจอข้อหาไม่เป็นอเมริกัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1

ใครๆ ก็รู้จักแฮมเบอร์เกอร์ อาหารยอดนิยมของอเมริกัน แต่น้อยคนจะรู้ว่าครั้งหนึ่งแฮมเบอร์เกอร์เจอข้อหาว่า ‘ไม่เป็นอเมริกัน’ ช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง รัฐบาลอเมริกันพยายามเปลี่ยนชื่อแฮมเบอร์เกอร์เป็น 'แซนด์วิชแห่งเสรีภาพ'

ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โลกถูกฉีกออกเป็นสองฝั่งแล้วยกพวกตีกัน ฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายมหาอำนาจกลางหรือฝ่ายอักษะ มีเยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี, ตุรกี และบัลแกเรีย ส่วนฝ่ายพันธมิตรมีฝรั่งเศส, รัสเซีย, อังกฤษ, เซอร์เบีย, อิตาลี, อเมริกา, จีน, ญี่ปุ่น เป็นหลัก  

ลุงแซมโกรธแค้นเยอรมันอยู่ก่อนแล้ว เพราะเยอรมันเปิดศึกใต้มหาสมุทร ส่งเรือดำน้ำถล่มชาติอื่นอย่างเมามัน หนหนึ่งโจมตีเรือโดยสารลูสิตาเนีย ซึ่งเป็นเรือโดยสารที่ไม่ติดอาวุธของอังกฤษ จมลงใกล้ฝั่งทะเลของไอร์แลนด์ ในเรือมีคนอเมริกันรวมอยู่ด้วยและเสียชีวิต 139 คน ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1915 อเมริกาจึงประท้วงเยอรมนีรัวๆ

ความแค้นฝังหุ่นยังไม่จบง่ายๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนีชวนเม็กซิโกกับญี่ปุ่นให้ร่วมทำสงครามกับอเมริกา โดยเม็กซิโกจะได้รับผลตอบแทนคือรัฐนิวเม็กซิโก, เท็กซัส และแอริโซนาคืนจากอเมริกา จึงทำให้อเมริกาไม่พอใจถึงขั้นหนวดกระดิก  

อเมริกานั้นชำนาญเรื่องการโฆษณาชวนเชื่อมานานแล้ว เลยใช้โอกาสนี้เปลี่ยนชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่มีสำเนียงหรือสุ้มเสียงไปทางเยอรมันให้เป็นอเมริกันให้หมด สุดท้ายแฮมเบอร์เกอร์เลยกลายเป็น 'แซนด์วิชเสรีภาพ'
 

'กินเนสบุ๊ก' บันทึก!! 'The Golden Boy’ แฮมเบอร์เกอร์ราคาแพงที่สุดในโลก ไม่เน้นขายความใหญ่ แต่เน้นใส่ใจในรสชาติ เผย!! ชิ้นแรกขายได้ ทำบุญหมด

(26 มิ.ย. 67) ‘The Golden Boy’ ได้รับการรับรองจากกินเนสส์ฯ ให้เป็น ‘แฮมเบอร์เกอร์ราคาแพงที่สุดในโลก’ ราคาสูงถึงชิ้นละ 5,000 ยูโร

ถ้าพูดคำว่า ‘The Golden Boy’ คนไทยอาจนึกถึงโบราณวัตถุที่เพิ่งกลับคืนสู่แดนมาตุภูมิเมื่อเร็ว ๆ นี้ หรือบางคนอาจแปลว่ากุมารทอง แต่ที่เนเธอร์แลนด์ นี่คือชื่อของเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด (Guinness World Records) ว่าเป็น ‘แฮมเบอร์เกอร์ราคาแพงที่สุดในโลก’

ถามว่าแพงขนาดไหน ขอบอกเลยว่าไม่ใช่เล่น ๆ เพราะแฮมเบอร์เกอร์ The Golden Boy ถูกตั้งราคาไว้ชิ้นละที่ 5,000 ยูโร หรือราว 196,000 บาทเลยทีเดียว

แฮมเบอร์เกอร์ที่แพงที่สุดในโลกนี้อยู่ในเมนูของร้าน ‘The Daltons’ ในหมู่บ้านวูร์ธายเซน (Voorthuizen) เมืองเฮลเดอร์ลันด์ (Gelderland) ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเชฟ ร็อบเบิร์ต ยาน เดอ วีน

ราคาที่สูงเกิดจากส่วนผสมคุณภาพสูงที่ร็อบเบิร์ตนำมาใช้ เขาเกิดแนวคิดนี้ขึ้นมาในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 และคืนหนึ่งขณะกำลังฝึกอบรมผู้จัดการคนใหม่ เขาบังเอิญไปเจอโพสต์บนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับแฮมเบอร์เกอร์ที่แพงที่สุด

ร็อบเบิร์ตมองว่า แฮมเบอร์เกอร์ที่แพงที่สุดตอนนั้นเป็นเพราะขนาดที่ใหญ่เกินไป เขาจึงตัดสินใจท้าทายตัวเอง ด้วยการคิดค้นเบอร์เกอร์ขนาดมาตรฐานที่สามารถสร้างสถิติโลกได้

ร็อบเบิร์ตสร้างสรรค์สูตรตั้งแต่เริ่มต้น โดยตั้งใจที่จะพัฒนาเบอร์เกอร์ที่ไม่เพียงแต่มีราคาแพง แต่ยังอุดมไปด้วยรสชาติ

แฮมเบอร์เกอร์ The Golden Boy ใช้ขนมปังไวน์ที่ทำจากแชมเปญ ดอม เปริญง (Dom Perignon) และปิ้งเล็กน้อยแต่ยังคงความนุ่มอยู่ด้านใน และปิดด้วยทองคำเปลว ส่วนตัวเบอร์เกอร์ทำจากเนื้อวากิวชุ่มฉ่ำ เสริมด้วยปูยักษ์และคาเวียร์ นอกจากนี้ยังมีหัวหอมที่ชุบแชมเปญด้วย

ผู้ที่เคยชิมบอกว่า รสชาติของมันออกมาหวาน เปรี้ยว เค็ม ขม และกลมกล่อมอูมามิ

ร็อบเบิร์ตกล่าวถึงการสร้างเบอร์เกอร์ The Golden Boy ว่า “มีความท้าทายอยู่บ้าง ผมไม่ได้โกหกเกี่ยวกับเรื่องนั้น ความท้าทายสำคัญอย่างแรกคือ เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเบอร์เกอร์ชิ้นนี้จะมีรสชาติสุดยอด”

ร็อบเบิร์ตเสริมว่า “ผมหมายถึงว่า มันง่ายมากที่จะนำส่วนผสมราคาแพง ๆ 2-3 อย่างมาใส่ในเบอร์เกอร์ แต่สำหรับผม การที่เบอร์เกอร์มีรสชาติอร่อยนั้นสำคัญมากเช่นกัน ผมอยากจะเห็นว่าเราจะไปได้ไกลแค่ไหน เราจะทุ่มลงไปได้แค่ไหน และยังคงต้องแน่ใจว่ารสชาติทั้งห้านั้นสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์แบบ”

ร็อบเบิร์ต ยังบอกอีกว่า “ความท้าทายใหญ่ประการที่สองคือ การจัดหาวัตถุดิบ ตัวอย่างเช่น ส่วนผสมบางอย่างในเบอร์เกอร์นี้ไม่มีขายในเนเธอร์แลนด์ แต่ผมได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจากซัพพลายเออร์”

ร็อบเบิร์ตกล่าวว่า เพื่อน ครอบครัว และทีมงานของเขาต่างร่วมมือกันเพื่อพยายามทำเบอร์เกอร์นี้ และกระแสตอบรับของสาธารณชนต่อการเปิดตัวเบอร์เกอร์ที่แพงที่สุดในโลกก็ออกมาดี

เขายังใช้เบอร์เกอร์นี้เพื่อปลุกจิตสำนึกเรื่องความยากจนในเนเธอร์แลนด์อีกด้วย โดยเงินที่ได้จากการขาย The Golden Boy ชิ้นแรกเขานำไปบริจาคให้ธนาคารอาหารในท้องถิ่นทั้งหมด เงินดังกล่าวถูกใช้เพื่อจัดทำแพ็กเกจอาหาร 1,000 ห่อสำหรับครอบครัวหรือผู้ยากไร้ที่ต้องการความช่วยเหลือ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top