Monday, 21 April 2025
แม่พิมพ์ของชาติ

ยกย่อง!! ครูไอซ์ แม่พิมพ์ผู้พิการทางสายตา แต่สามารถเบิกทางสว่างให้แก่เยาวชนไทย

ไม่นานมานี้ เพจ 'บิ๊กแดงแฟนเพจ' ได้โพสต์ข้อความระบุว่า...

"แสงเรืองๆ ที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทย 🇹🇭 คือแม่พิมพ์อันน้อยใหญ่ โอ้ครูไทย ในแดนแหลมทอง"

"คุณครูไอซ์ ดำเกิง มุ่งธัญญา" ๑ ในคุณครู ผู้น่ายกย่องด้วยหัวใจ ❤️

"แม้จะพิการทางสายตา ครูผู้ยอมรับแต่ไม่เคยยอมจำนน" เส้นทางชีวิตของครูไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ดวงตาที่มืดมิด ทำให้ต้องอดทน วิริยะ อุตสาหะ มากกว่าคนธรรมดาหลายเท่า เรื่องราวของครูไอซ์ เป็นกำลังใจให้กับผู้คนมากมาย✌️

ครูไอซ์ฝ่าฟันอุปสรรคมา จนจบคุรุศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ ๑ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังเป็น ๑ ใน ๘ คนไทยได้ทุน Fulbright ไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกา (Master of tesol) ที่ Portland State University (PSU) เป็นเวลา ๒ ปี

ครูไอซ์เป็นคุณครูที่สอนวิชาภาษาอังกฤษ ที่เด็ก ๆ ชอบเรียนด้วยเป็นอย่างมาก ... #เป็นครูผู้สร้างเเรงบันดาลใจ ให้กับใครอีกหลายคน... 

ในชีวิตของใครคนหนึ่งที่มีใจอยากเป็น ‘ครู’ อาจไม่ง่ายด้วยความไม่สมบูรณ์พร้อมทางร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิการทางสายตา ทำให้ต้องฝ่าฟันเพื่อเอาชนะทัศนคติ และความเชื่อที่ว่าคนตาบอดทำอะไรได้มากน้อยเพียงใด และจะเป็นครูสอนคนตาดีได้อย่างไร

16 มกราคม ของทุกปี เป็น ‘วันครูแห่งชาติ’ น้อมรำลึกพระคุณ ‘แม่พิมพ์ของชาติ’

วันที่ 16 มกราคม ของทุกปี กำหนดให้เป็น ‘วันครูแห่งชาติ’ รำลึกถึงพระคุณครูบาอาจารย์ ผู้ที่ได้ชื่อว่า แม่พิมพ์ของชาติ

'วันครู' ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2500 หลังจากพระราชบัญญัติครูประกาศใช้ 12 ปี โดยสถานที่จัดงานวันครั้งแรกเกิดขึ้นในจังหวัดพระนคร และธนบุรี ที่กรีฑาสถานแห่งชาติ

จุดเริ่มต้นของการมีวันครู มาจากการเรียกร้องของครูจำนวนมาก ซึ่งความเห็นของครูที่แสดงออกมาทั้งพยายามที่จะชี้ให้เห็นความสำคัญของครูและอาชีพครู ในฐานะที่เป็นผู้เสียสละประกอบคุณงามความดี เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นอันมาก จึงควรที่จะมีวันแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของครู เปิดโอกาสให้ครูทั้งหลายได้พักผ่อนบำเพ็ญกุศลและตลอดจนดำรงกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อประโยชน์ของครูและการศึกษาของชาติตามสมควร

จากความต้องการและการเรียกร้องของครูดังกล่าว จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ได้นำเสนอในที่ประชุมผู้แทนคณะครูทั่วประเทศในคราวประชุมวิสามัญของคุรุสภา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2499 ที่ประชุมสามัญของคุรุสภามีมติเห็นชอบและให้เสนอคณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาพิจารณา เพื่อกำหนดให้มีวันครูขึ้น

‘ครูใหม่’ ได้บรรจุที่โรงเรียนในชุมชนไร้แผ่นดิน-น้ำประปาไม่มี แต่จะสู้ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นครู เพื่อนักเรียน 28 ชีวิต

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้งาน TikTok บัญชี kongphop_q แชร์เรื่องราวของคุณครูบรรจุใหม่ท่านนึง ที่ได้เล่าเรื่องราวการบรรจุครูครั้งแรกของตัวเอง ซึ่งขอบอกเลยว่า การมาบรรจุและสอนที่นี่เป็นอะไรที่มีความท้าทายมากๆ เรียกว่าเป็นคุณครูที่มี ‘จิตวิญญาณเต็มเปี่ยม’ ถึงเส้นทางจะดูไม่เรียบหรู ออกแนวจะต้องมีความลำบากในการใช้ชีวิต แต่คุณครูก็พร้อมที่จะสู้ไปพร้อมกับเด็กนักเรียนเลยทีเดียว

โดยคุณครูได้บรรยายคลิปเพิ่มเติมว่า “เมื่อเราได้บรรจุเป็นครูโรงเรียนกลางน้ำ นี่มันคิดถึงวิทยาชัดๆ”

ซึ่งในคลิปคุณครูได้เล่าว่า ได้บรรจุที่โรงเรียนวัดบางชัน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่บนชุมชนไร้แผ่นดิน ซึ่งคุณครูหาที่ติดต่อทางโรงเรียนไม่ได้ ไม่มีข้อมูลพื้นฐานบนโลกออนไลน์เลยด้วย โดยคุณครูได้ทำการติดต่อที่พักโฮมสเตย์ในพื้นที่ และขอข้อมูลติดต่อผู้ใหญ่บ้าน และก็ได้รู้ว่า ที่นั่นไม่มีน้ำประปา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวย มีเรือขายน้ำจืด ที่พักเสียค่าน้ำและค่าไฟเอง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สละสิทธิ์ โดยคุณครูคิดว่าถ้าสละสิทธิ์แล้วเด็กนักเรียนที่นั่นจะมีครูสอนมั้ย เพราะเด็กที่นั่นมีนักเรียนเพียงแค่ 28 คน มีครูอยู่ 4 คน

หลังจากที่คลิปของคุณครูได้ถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นคลิปไวรัลที่มียอดเข้าชมมากกว่า 3.1 ล้านครั้ง ยอดไลก์มากว่า 326,000 ครั้ง และยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับคุณครูกันอย่างล้นหลาม เช่น

“เชื่อว่าครูที่มีแพชชั่นในการสอนมีเยอะมาก แต่สิ่งที่ขาดคือการสนับสนุนด้านศึกษาทั้งฝ่ายผู้เรียนและผู้สอนจากรัฐบาล”
“ขอให้เป็นที่รักของเด็กๆและผู้ปกครองนะ”
“จันทบุรียินดีต้อนรับค่ะ ถึงจะลำบากหน่อย แต่คนที่นี่น่ารักนะคะ”

‘หนูน้อย ป.1’ รีบหอบหนังสือมาอ่านให้คุณครูฟัง หลังรู้ข่าวว่าครูจะย้ายไปสอนที่อื่น ทำครูสาวน้ำตาซึม

สุดซึ้ง!! หนูน้อย ป.1 รีบหอบหนังสือมาอ่านให้ครูฟัง ก่อนครูจะย้ายไปสอนที่อื่น ทำคุณครูน้ำตาซึม ชาวเน็ตแสดงความคิดเห็น “นี่คือผลลัพธ์ของครูครับ”

เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 66 ไวรัลคนดู 1.9 แสนครั้ง ผู้ใช้ Tiktok ชื่อ @w.landaaaaaaaaaaa ได้โพสต์คลิปเรื่องราวทำเอาคุณครูและชาวเน็ตน้ำตาซึม หลังจากที่หนูน้อยชั้น ป.1 เมื่อรู้ว่าคุณครูจะย้ายไปสอนที่โรงเรียนอื่น ได้รีบหอบหนังสือมาอ่านให้คุณครูฟัง โดยรายละเอียดระบุว่า…

“อยากอ่านหนังสือให้คุณครูฟังก่อนคุณครูจะไปอยู่ที่อื่น #มันคือความรู้สึก #ครูประถมศึกษา #ผมอยากอ่านหนังสือให้คุณครูฟังทุกวัน,คุณครูหญิงจะไปบรรจุโรงเรียนอื่นน้องเด็กป.1 อยากอ่านหนังสือให้คุณครูฟังก่อน”

หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปมีชาวเน็ตเข้าชมคลิปแล้วกว่า 1.9 แสนครั้ง พร้อมแสดงความคิดเห็นระบุว่า “ตั้งแต่ดูมา คลิปนี้ทัชใจสุด อะไรจะดีไปมากกว่า ทำให้ครูดูว่าที่ผ่านมา ครูทำได้ดีแค่ไหนและนี่คือผลลัพธ์ ของครูครับ,เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากเลยค่ะ แสดงว่าเด็กๆ รักครูมากเลยค่ะ ขนาดครูจะไป รร. อื่นแล้ว ยังมาอ่านหนังสือให้ฟัง, ครูคือความหวังและเป็นพลังให้เด็กๆหลายต่อหลายคน คุณก็เคยผ่านความรู้สึกนี้มา, แล้ววันหนึ่งมันจะกลายเป็นความทรงจำที่ดีที่สุด”

‘ส.บ.ม.ท.’ จี้!! ‘ศธ.-กพฐ.’ เร่งแก้ปัญหาขาดครู หลังคืนอัตราเกษียณฯ แนะ พื้นที่ไหนขาดแคลนให้เปิดสอบทันที โดยไม่ต้องรอกำหนดการ

(9 ต.ค.66) นายณรินทร์ ชำนาญดู ผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนานุเคราะห์ ในฐานะนายกสมาคมผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งประเทศไทย (ส.บ.ม.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงเรียนต่างๆ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนครูอย่างหนัก เนื่องจากมีผู้เกษียณอายุราชการกว่า 15,000 อัตรา ซึ่งแม้จะได้รับการคืนอัตราเกษียณมาทั้งหมดแต่กลับไม่มีครูที่พร้อมสำหรับการบรรจุทดแทนอัตราว่าง โดยที่ผ่านมาจะเรียกบรรจุจากบัญชีการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. (ว14) แต่การสอบเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้สอบผ่านน้อย เช่นเดียวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ (ว16) ซึ่งยังมีอัตราว่างเหลืออยู่อีกกว่า 1,200 อัตรา ทำให้เกิดปัญหาเพราะแม้จะมีอัตราและตำแหน่ง แต่ก็ไม่สามารถเรียกบรรจุแต่งตั้งได้ เพราะมีผู้ที่สอบขึ้นบัญชีไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงอยากให้ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) คนใหม่ เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว

“ปัญหาขาดแคลนครูถือเป็นเรื่องสำคัญที่อยากให้รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ในฐานะที่กำกับดูแล สพฐ. และว่าที่ร้อยตรีธนุ เร่งหาทางแก้ไข หากเป็นไปได้อยากเสนอให้กระจายอำนาจลงไปให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สามารถจัดสอบครูผู้ช่วย ว14 และ ว16 ได้มากกว่าปีละ 1 ครั้ง เช่น หากเขตพื้นที่ใดขาดแคลนครู ก็สามารถเปิดสอบได้ทันที โดยไม่ต้องรอปฏิทินสอบจาก สพฐ. คิดว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนครูได้อย่างแน่นอน ส่วนข้อกังวลเรื่องการทุจริตนั้น หาก สพฐ.มีมาตรการลงโทษที่รุนแรง ก็เชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าที่จะทำการทุจริต หรือหากมีก็เป็นจำนวนที่น้อยมาก” นายณรินทร์กล่าว

นายณรินทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังขอเร่งรัดให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เร่งตรวจผลงานของผู้ที่ยื่นขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์เดิม ว17 ซึ่งยื่นไปตั้งแต่ปี 2564 และยังค้างอยู่กว่า 600 คน และตอนนี้บางคนเกษียณไปแล้วทำให้เสียสิทธิ เพราะไม่สามารถที่จะปรับปรุงผลงานได้ ดังนั้นจึงขอให้ ก.ค.ศ.มีกรอบเวลาการพิจารณาที่ชัดเจน ทั้งนี้ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ ก.ค.ศ.พิจารณาผลงานล่าช้าเป็นเพราะเหตุใด หากเพราะคณะกรรมการประเมินไม่เพียงพอก็อยากให้เพิ่มคณะกรรมการ เช่นเดียวกับหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือเกณฑ์ PA (ว 9/2564) ซึ่งมีความล่าช้าในช่วงแรก แต่เมื่อเพิ่มคณะกรรมการประเมินแล้ว ก็ทำให้สามารถพิจารณาได้เร็วขึ้น

‘ครูสาว’ เห็นกระเป๋า ‘นร.’ จะขาด เด็กบอกจะทนใช้จนถึง ม.2 ครูเลยซื้อให้ใหม่ ทำเอา นร.ดีใจ กลั้นยิ้มไม่อยู่ สัญญาตั้งใจเรียน

(2 พ.ย. 66) กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังอมยิ้มอย่างอบอุ่นหัวใจกับคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ในโลกโซเชียล หลังคุณครูท่านหนึ่งแอบสังเกตเห็นนักเรียนสะพายกระเป๋าที่มีลักษณะใกล้ขาด ไม่ยอมซื้อใหม่เพราะคิดว่ายังใช้งานได้ แต่คุณครูทนไม่ไหว ขอซื้อให้แทน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่อุดรธานี โดยผู้ใช้ติ๊กต็อก nong_janji4 หรือ ‘ครูน้อง’ ลงคลิปวิดีโอ ระบุว่า “ฉันแพ้อะไรแบบนี้มาก ไปเยี่ยมบ้านบางคนมีชุด นร.ชุดเดียวนี่ก็ไปซื้อมาให้ มันก็คือความสุขของเรานะ”

พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเปิดเทอมได้ 2 – 3 วัน ขณะกำลังยืนเวรหน้าโรงเรียนเหลือบไปเห็นสายกระเป๋านักเรียนจึงเข้าแอพฯ เลือกซื้อกระเป๋าให้นักเรียนทันที

กระเป๋ามาถึง ครูน้องจึงเรียกน้องนักเรียนมาคุยด้วย สอบถามเรื่องครอบครัวซึ่งนักเรียนคนดังกล่าวอยู่กับพ่อและย่า แต่พ่อติดยา บางวันเมายามาก็ขี่รถมาตามหาลูกที่โรงเรียน ซึ่งเด็กก็แอบไปหลบกับคุณครู ปัจจุบัน นักเรียนเผยว่าพ่อโดนจับแล้วเลยอยู่กับย่าแค่ 2 คน

นักเรียนคนดังกล่าว เรียนดี เขียนตัวหนังสือสวย ส่งงานตลอด เมื่อถามถึงว่าทำไมกระเป๋าขาดจัง น้องตอบกลับมาว่า อีกเทอมหรือม.2 ค่อยซื้อใหม่มันใช้ได้อยู่ ซึ่งกระเป๋าดังกล่าวซื้อมาตั้งแต่ป.6 ต่อมาวิดีโอแสดงภาพนักเรียนสัญญากับคุณครูว่าจะเข้าเรียนตรงเวลา

และเมื่อลองแกะกล่องพัสดุ น้องก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณคุณครูถึง 2 รอบพร้อมระบุว่า ดีใจมาก นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็มีผู้คนเข้ามารับชมวิดีโอถึง 2.3 ล้านวิว รวมถึงมีคนใจดีมากมายติดต่อเข้ามาเพื่อจะขอส่งของให้เด็ก ๆ นักเรียน

16 มกราคม 'วันครู' รำลึกบริบทแห่งอาชีพแสนพิเศษ แม้เลิกเป็นนักเรียน ก็ยังขอเคารพและเรียก 'ครู' ตลอดไป

(16 ม.ค.67) วันครู มีขึ้นครั้งแรกในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 จากการที่ราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ.2488 ประกาศพระราชบัญญัติครูขึ้น ซึ่งได้ให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการโดยเรียกว่า ‘คุรุสภา’ ซึ่งให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นในเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไป เพื่อที่ทางกระทรวงศึกษาธิการจะสามารถจัดสวัสดิการให้แก่ครูให้ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร พร้อมเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมความรู้และความสามัคคีของครูอีกด้วย

มาในปี พ.ศ.2499 ที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมครูในฐานะประธานกรรมการอำนวยการคุรุสภากิตติมศักดิ์ ว่าตนมีความเห็นว่าควรมีสักวันหนึ่งที่ลูกศิษย์จะได้แสดงความเคารพสักการะต่อครูในฐานะผู้มีพระคุณ เป็นที่มาให้เกิดการพิจารณาและมีมติเห็นควร ให้มี ‘วันครู’ ขึ้น นำไปสู่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2499 ให้วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีเป็น ‘วันครู’ โดยเลือกวันที่ได้มีประกาศพระราชบัญญัติครู ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2488 หลังจากนั้นกระทรวงศึกษาธิการก็ได้มีการสั่งการให้นักเรียนและครูหยุดในวันดังกล่าว 

งานวันครูจึงได้ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรีฑาสถานแห่งชาติ ในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2500 เป็นวันที่ศิษย์ทั้งหลายได้มาร่วมระลึกนึกถึงคุณครูที่สะสมสั่งสอนตัวเองและเป็นแม่พิมพ์ในการใช้ความรู้ประกอบสัมมาชีพเรื่อยมานั่นเอง

ในปีนี้วันครูเวียนมาครบอีก 1 ครั้ง ก็ต้องขอบคุณครูที่มอบความรู้และประสบการณ์ให้กับเรา ทำให้เราก้าวผ่านความยากลำบากในบางเรื่องมาได้ ขอบคุณครูทุกท่าน เชื่อว่า ครู คืออาชีพพิเศษ เพราะต่อให้ครูไม่ได้เป็นครูแล้วนักเรียนก็ยังเคารพและเรียนครูว่า ‘ครู’ ตลอดไป 

ใจฟู!! ‘ครูสาว’ คอยส่งจังหวะให้ ‘นักเรียนหูหนวก’ รำโปงลาง โซเชียลแห่ชมในความรัก-ความพยายาม-มุ่งมั่นทำเพื่อเด็กๆ

(21 ม.ค. 67) เรียกเสียงชื่นชมสนั่นโซเชียล เมื่อติ๊กต็อก ‘@teacher_hope’ โพสต์คลิปใจฟู หลังได้เห็นครูสาวรายหนึ่งจากโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดชัยภูมิ กำลังทำท่ารำให้สัญลักษณ์และส่งจังหวะ แก่นักเรียนผู้บกพร่องทางการได้ยินของตน ที่กำลังแสดงรำโปงลางอยู่บนเวที

โดยในคลิปมีข้อความว่า “ใจฟูมาก เห็นถึงความพยายามอดทนของคุณครู และน้องๆ นักเรียนมากครับ”

พร้อมเล่าความประทับใจผ่านแคปชันอีกว่า “#เทรนด์วันนี้ พอได้เห็นการแสดงชุดนี้แล้วใจฟูมาก นี่น้องที่รำไม่ได้ยินเสียงดนตรี ยังทำได้ขนาดนี้ มันไม่ใช่แค่ความสวยงามบนเวที แต่มันยังมีความสวยงามที่ด้านล่างเวทีอีกด้วย คุณครูน่ารักมากครับ มันแสดงให้เห็นถึง ความพยายามความอดทนเป็นอย่างมาก มันเห็นถึงความสุข ความรัก ที่คุณครูคอยส่งสัญลักษณ์และจังหวะต่างๆ ให้น้องๆ ที่แสดงบนเวที น้องก็จะคอยสังเกตคุณครูอยู่ตลอดการแสดง ขอชื่นชมมากๆ ครับ”

หลังคลิปเผยแพร่มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์ชมอย่างล้นหลาม อาทิ
- “สุดยอดขนาดคนปกติก็ต้องซ้อมนาน แต่น้องเป็นผู้บกพร่องทางการได้ยิน แต่กลับรำได้เข้าจังหวะขนาดนี้ ครุ/ครู ผู้เสียสละ”
- “ไม่บอกจะไม่รู้เลยว่าคือการแสดงของน้องๆที่บกพร่องทางการได้ยิน น้องๆ เก่งมากค่ะ คุณครูผู้สอนก็น่ารักและเก่งมากๆ เลย ชื่นชมนะคะ”
- “ขอชื่นชมคุณครูและน้องๆ ค่ะ”
- “ตอนแรกนึกว่าวงโปงลางนางรำโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง จนพิธีกรพูดว่าเป็นโรงเรียนโสตศึกษา โอ้โหเก่งมากเลย”
- “ครูการศึกษาพิเศษ ทำได้ทุกอย่างจริงๆ”
- “ดูแล้วน้ำตาไหลเลย แง… ชื่นชมมากๆ ทั้งคุณครูและคนแสดง ต้องใช้ความอดทนและความพยายามมากๆ”

ครูสาวตามนักเรียนตัวแสบกลับ หลังแอบหนีเรียนไปจีบสาวรุ่นพี่ ลั่น!! มีความรักไม่ว่า แต่อย่าทิ้งการเรียน ชาวเน็ตแห่ชื่นชม

เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 67) เกิดคลิปไวรัลในโลกโซเชียล ครูสาวเดินไปตามนักเรียนตัวแสบ แอบหนีเรียนไปจีบสาวรุ่นพี่ ถึงขั้นต้องจูงมือกลับ พร้อมติเตียน มีความรักไม่ว่า แต่ต้องเข้าเรียนด้วย

เหตุการณ์น่าชื่นชมนี้ เกิดที่โรงเรียนหนองแค (สรกิจพิยา) โดยครูสาวในคลิป ชื่อ น.ส.ปรียาพร โพธิธินทร์ เป็น ครูชำนาญการพิเศษ ได้ทำการสอนอยู่ที่ห้องเรียน แต่ไร้วี่แววของลูกศิษย์ตัวแสบ ด้านเพื่อนในห้องบอก ‘เพื่อนคนนี้โดดเรียนมาแล้วหลายวิชา’ พอได้ฟังดังนั้น ครูจึงตัดสินใจไปตามให้กลับมาเรียน โดยได้ให้นักเรียนอีกคนบันทึกภาพเหตุการณ์เก็บไว้ 

หลังจากเดินตามหาลูกศิษย์ตัวแสบจนไปพบว่ากำลังนั่งจีบสาวอยู่ ครูก็รีบเดินไปถาม ว่าทำไมถึงไม่เข้าเรียน แถมยังติติงรุ่นพี่แฟนสาวของนักเรียนคนนี้อีกด้วยว่า ‘ทำไมไม่บอกให้น้องไปเข้าเรียน จะไม่มีแฟนไม่ว่า แต่เวลาเรียนต้องเข้าเรียน’ สุดท้ายต้องดึงมือเด็กนักเรียนชายให้กลับไปเรียน พอถึงห้อง เพื่อนๆ พากันเฮ ที่คุณครูทำสำเร็จ 

ด้านคุณครูเผย ทำไปเพราะหวังดี พร้อมยกตัวอย่างคู่รักวัยเรียนคู่อื่นให้เห็นว่า คบกันก็พากันเรียนได้ ไม่ใช่ว่ามีความรักแล้วต้องเสียการเรียน จะมีความรักไม่ว่า ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องไม่ทิ้งการเรียน อยากให้นึกถึงพ่อแม่ที่ส่งเรียน และอนาคตของตัวเองมาก ๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top