จะเริ่มได้ยัง!! ‘โรม’ บี้ถาม ‘ผบ.ตร.ปราบยา’ เมื่อไรแจ้งข้อหา ‘ส.ว.อุปกิต’ ลั่น!! ไม่อยากเห็นคนผิดลอยนวล ฝาก ‘ผบ.ตร.’ ดูความคืบหน้า
‘โรม’ ถามดัง ๆ ผบ.ตำรวจปราบยา หายหน้าไปไหน เมื่อไรจะนำตัว ‘ส.ว.ทรงเอ’ มาแจ้งข้อหา ฝาก ผบ.ตร. ติดตามการทำงานผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย
(10 มี.ค. 66) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามตัว อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา มาดำเนินคดีกรณีมีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’ ว่า หลังจากตนยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อแจ้งเบาะแสสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านมาแล้ว 10 วัน ยังไม่เห็นความคืบหน้าอะไรทั้งนั้น ง่ายที่สุดคือการเอาตัว ส.ว.อุปกิต มาแจ้งข้อหาเพื่อที่จะฟ้องคดีต่อไป ซึ่งตั้งแต่ 1 มีนาคมเป็นต้นมา หมดสมัยประชุมรัฐสภาแล้ว ส.ว. ไม่มีความคุ้มกันใด ๆ ที่จะไม่ถูกหมายเรียกหรือหมายจับได้อีก
รังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องย้อนไปตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2565 ในตอนนั้นตำรวจสืบนครบาล (บก.สส. บช.น.) ที่จับทุนมินลัตและขยายผลมาถึง ส.ว.อุปกิต ได้เคยขอหมายจับต่อศาลแล้ว ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับให้ แต่กลับมาถอนการอนุมัติในบ่ายวันเดียวกัน แล้วให้ตำรวจไปออกหมายเรียกก่อน อ้างว่าเพราะเป็นบุคคลสำคัญ ทั้งนี้ การออกหมายเรียกนั้น ตำรวจทำเองได้ แต่ในกรณีนี้ หน่วยงานที่มีอำนาจออกหมายเรียกนั้นไม่ใช่ตำรวจสืบนครบาล แต่เป็นอำนาจของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคม 2565 เป็นช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาอยู่ ถ้า บช.ปส. มีการออกหมายเรียก ส.ว.อุปกิต มารับทราบข้อกล่าวหาให้ทันก่อนสภาเปิด ก็อาจยังเดินหน้าคดีต่อไปได้ หรือถ้าออกหมายเรียกแล้วไม่มาใน 15 วัน ก็ยังไปขอหมายจับกับศาลอีกรอบได้ แต่การขอหมายเรียกจาก บช.ปส. ก็ไม่เคยเกิดขึ้น ทั้งในช่วงนั้นและดูเหมือนในช่วงนี้ด้วย ในขณะที่คดีทุนมินลัตอยู่ในชั้นศาล แต่ ส.ว.อุปกิต กลับยังไม่ถูกแจ้งข้อหาเสียที ทำให้เดินหน้าคดีต่อไม่ได้
