Wednesday, 23 April 2025
เอกมัย

‘The Cassete’ ร้านฟรุ้งฟริ้ง โทนชมพูหวานแหวว เน้นแนวดนตรีสดย้อนยุค รับรองร้องตามได้ทุกฮุคแน่นอน

The Cassette Music Bar เอกมัย ร้านนี้อยู่บริเวณเวิ้งโบราณ เอกมัยซอย 10 เข้าซอยไปนิดเดียวก็จะเห็นร้านสีชมพูแล้ว ที่นี่เป็นอีกหนึ่งแหล่งแฮงก์เอาท์สุดฮิตสำหรับใครหลายคน ร้านนี้เก๋มาก มาพร้อมคอนเซ็ปต์ เทปคาสเซ็ทที่อยากชวนทุกคนไปย้อนวัยกับเหล่าเพลงฮิตเก่า ๆ ในยุค 90’s

ร้านนี้โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่เริ่มจากด้านหน้ากับมุมที่ทุกคนต้องหยุดถ่ายรูป ด้วยเทปคาสเซ็ตต์ขนาดยักษ์สีชมพู รวมไปถึงเทปเก่าที่เรียงรายอยู่บนผนังกว่า 1,200 ชิ้น ส่วนด้านในร้านจะเน้นการตกแต่งด้วยไม้และเหล็ก พร้อมเสริมด้วยต้นไม้สีเขียว เพื่อเพิ่มความสบายตาและสดชื่น นอกจากร้านจะเป็นสีชมพูแล้ว เจ้าของร้านยังเลือกใช้ความชอบของตัวเองมาเป็นพร็อพในการแต่งร้าน แจกันเล็กๆ ที่วางอยู่ทุกโต๊ะ จะมีดอกกุหลาบสีชมพู เป็นกิมมิคเล็กๆ ให้เราได้ใช้เป็นพร็อพถ่ายรูป 

เมนูที่น่าสนใจของร้านนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย เริ่มจาก  ข้อไก่แซ่บ (160 บาท) เมนูฮิตของทางร้านที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับข้อไก่ทอดกรอบแบบเดิม ๆ ด้วยการปรุงรสให้เผ็ดแซ่บ ถัดมาที่เมนูเส้นอย่าง สปาเก็ตตี้หอยแมลงภู่อบโฮการ์เด้น (280 บาท) เส้นสปาเก็ตตี้นุ่ม ๆ ที่ผัดคลุกเคล้ากับเครื่อง หอยแมลงภู่ และใช้โฮการ์เด้นแทนไวน์ขาว ต่อด้วยเมนู สเต๊กหมูพอร์คชอปแอปเปิ้ลซินนาม่อน (340 บาท) สเต๊กหมูพอร์คชอปที่ถูกนำไปกริลล์จนสุกกำลังดี ก่อนนำไปอบพร้อมซอสแอปเปิ้ลชินนาม่อนจนเข้าเนื้อ หวานฉ่ำ ปิดท้ายกันที่เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่ไม่ควรพลาดอย่าง Pink Burger (320 บาท) แป้งเบอร์เกอร์สีชมพูสุดคิวท์ ที่สอดไส้ด้านในด้วยเนื้อ และชีสเยิ้ม ๆ พร้อมผักที่ราดด้วยซอสสูตรของทางร้าน 

เมนูเครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการ ขอแนะนำ เบียร์ลิ้นจี่กุหลาบ (150 บาท) เบียร์สดที่มาพร้อมกลิ่นหอม ๆ ของกุหลาบ และลิ้นจี่ ดื่มง่าย เหมาะสำหรับสาว ๆ  

ร้านนี้เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 17.00-01.00 น. คนแน่นมาก ถ้าจะไปแนะนำให้จองโต๊ะก่อน โดยสามารถติดต่อได้ที่โทร.061-654-6666

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘นิกกี้ พิ้ม’ แฉ!! ร้านปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์เจ้าประจำตรงเอกมัย คิดค่าเปิดเตาเพิ่ม-เมนูไม่ตรงปก-แกล้งลืมเสิร์ฟอาหาร

เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.66) ‘นิกกี้ พิ้ม’ นักร้อง นายแบบ และนักแสดงหนุ่ม ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘Nicky Pimpz’ เกี่ยวกับพฤติกรรมร้านปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ตรงเอกมัย ว่า…

พฤติกรรมร้านปิ้งย่างบุฟเฟ่ต์ตรงเอกมัยที่มีโลโก้รูปลิง มีเวิ้งที่จอดรถ ข้างบนเป็นร้านชาบูน่าเกลียดมาก เป็นร้านประจำที่ไปกินกับครอบครัว ผมถือว่าผมเป็นลูกค้าประจำ บางครั้งไปกินใช้เงินเป็นหมื่นทุกครั้ง ไปไม่ต่ำกว่า 3-5,000 บาท วันนี้ถูกร้านวางยาหลายจุดเหตุเพราะไปถามว่าทำไมถึงคิดค่าเปิดเตาเพิ่ม ทั้งๆ ที่เราไปกัน 4 คน รวมเด็กด้วย 2 คนเป็น 6 คน ในโต๊ะเดียวกันมีอยู่ 2 เตา แต่มาคิดตังค์เราเพิ่ม ผมก็งงเพราะทุกครั้งไปไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เลยถามแบบสุภาพว่าทำไมถึงคิดค่าเปิดเตา เขาตอบแบบงูๆ ปลาๆ ว่าถ้านั่งโต๊ะนี้เป็นโต๊ะ 8 คน ถ้า 4 คนต้องคิดค่าเปิดเตา ผมไปไม่เป็นเลยทั้งๆ ที่มีลูกมาอีก 2 เป็น 6 คน

หลังจากนั้นผมก็สั่งอาหารตามปกติ เขาก็เริ่มเอาเนื้อที่ไม่เหมือนในเมนูเป็นคุณภาพชั้นต่ำเอาออกมาให้แล้วถ่วงเวลามาก ส่วนอาหารที่เป็นพวกหอยก็ไม่เอาออกมาให้ทำเป็นแกล้งลืมยื้อเวลาสุดๆ ถ่านก็ใส่มาน้อยเพื่อไม่ให้เผาไหม้ ที่น่าตกใจไปกว่านั้นเนื้อที่เอาออกมาเป็นเนื้อที่เปรี้ยวเหมือนเสียแล้ว Cutting ก็ไม่ใช่แบบเดิม บอกได้เลยว่าเป็นเนื้อคนละเกรดจากในเมนู ถามว่าทำไมผมรู้เพราะว่าผมเป็นลูกค้าประจำ ผมมากินที่นี่บ่อยมากรู้เลยว่าเนื้อที่เอามาไม่ใช่เนื้อที่กินอยู่ประจำ แถมสภาพเนื้อแตกต่างกันอย่างฟ้าดิน ผมยอมกินไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเริ่มไม่ไหวเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่มาบริการดูแล ทั้งๆ ที่ร้านก็ไม่ค่อยมีคน จนสุดท้ายผมเรียกพนักงานมาต่อว่าและพูดความรู้สึกกับเขา เขารีบยกมือขอโทษแล้วเอาเนื้อไปเปลี่ยนเป็นเนื้อที่ปกติ แบบที่กินประจำและเก็บทุกอย่างบนโต๊ะไปหมดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วให้ข้ออ้างว่าอาจจะเป็นที่ห้องครัวข้างบนส่งผิดมาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พอเริ่มบ่นและ Complain ก็เริ่มเอาหอยที่สั่งทั้งหมดออกมา แสดงว่าไม่ได้ลืม แค่ไม่อยากบริการแต่แรก บอกได้เลยว่าน่าเกลียดสุดๆ ใครอยู่ตรงนั้นจะเข้าใจความรู้สึก

ผมพาเพื่อนฝรั่งมากินเพราะเขาชอบที่นี่ทุกครั้งที่มาเมืองไทยผมจะพาเข้ามากินที่นี่เพราะเขาเป็นคน Request ขนาดเพื่อนฝรั่งครอบครัวเขายังรู้เลยว่าผิดปกติและถูกวางยาอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาในการยื้ออาหารหรืออาหารที่คุณภาพต่ำออกมาแบบตั้งใจ ดังนั้นครั้งนี้ผมอยากจะเขียนเพื่อแสดงความรู้สึกในฐานะลูกค้าชั้นดีที่ไม่เคยมีปัญหามาก่อนว่าถ้าทำธุรกิจแบบนี้ อย่าทำเลย เพราะเราเป็นผู้บริโภคเราไม่รู้ว่าอาหารที่คุณเอามาให้เรากินจะกระทบกระเทือนต่อสุขภาพของเราหรือเปล่า

หลังจากที่ร้านรู้ตัวว่าทางลูกค้าไหวตัวทันและไม่พอใจก็เริ่มส่งพนักงานผู้จัดการมาขอโทษขอโพย ทำเป็นตีบทละครน่าเศร้า แต่บอกตรงๆ นะผมไม่กล้ากินหรอกเพราะผมไม่รู้ว่าเขาจะถุยน้ำลายใส่อาหารผมที่ออกมาใหม่หรือเปล่า ด้วยซ้ำไป ผมพาลูกเล็กมากินที่นี่บอกตรงๆ ว่าไม่กล้ากินอีกแล้ว แล้วจะบอกคนในครอบครัวและเพื่อนผมทุกคนว่าให้เลิกอุดหนุนที่นี่เพราะว่าการบริการและการวางยาให้ลูกค้าน่าเกลียดมาก

ถามว่าเจ้าของไม่น่าจะรู้เรื่องก็เป็นไปไม่ได้เพราะเนื้อที่อยู่ในร้านไม่ใช่คุณภาพเดียวกัน ดังนั้นคงมีการเตรียมพนักงานมาเรียบร้อย

บอกตรงๆ นะไม่ใช่ราคาถูกร้านอาหารนี้ ควรจะปรับปรุงและไม่ทำอย่างนี้กับลูกค้าเพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่อยู่แถวเอกมัยเป็นลูกค้าชั้นดีทั้งหมด ฝากไว้ให้คิด

‘เจ้าของแบรนด์สกินแคร์’ อัดคลิปแฉ!! พฤติกรรม ‘แท็กซี่ย่านเอกมัย’ หลังโดนราคาเหมา 400 บาท ทั้งที่ไปไม่ไกล คนขับตะคอกใส่ ‘ที่นี่ไม่มีมิเตอร์’

(25 ส.ค.67) ผู้ใช้ TikTok ‘jha_eves’ หรือ คุณจ๋า เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวเกือบ 3 นาที หลังโดนแท็กซี่ตะคอกใส่หน้าบอกที่นี่ไม่มีมิเตอร์ โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า …

ประชาชนทั้งประเทศรู้ แต่ผู้ใหญ่ไม่เคยรู้!! เหมือนไปที่ไหนก็ไม่ใช่ที่สำหรับคนไทยแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปบอกตรงๆประชาชนเดือดร้อนค่ะ!! ยังไงรบกวนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องช่วยออกมาให้คำตอบคนไทยด้วยกันด้วยนะคะ

โดยเจ้าตัวได้บอกว่า มีโอกาสมาเที่ยวเอกมัยไม่ได้มาหลายปีแล้ว สิ่งที่ทำให้ตนตกใจคือมีคนไทยน้อยมากประมาณ 20% คนต่างชาติ 80% ก็ไปเที่ยวปกติ และออกมาโบกแท็กซี่เพื่อที่จะไปกินข้าว ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที คนขับแท็กซี่คิด 400 บาท

เราเลยบอกว่า ทำไมแพงจัง ไม่มีมิเตอร์เหรอคะ สิ่งที่เจอคือ คนขับแท็กซี่ตะโกนใส่หน้ากลางถนนที่คนเยอะมากว่า ที่นี่ไม่มีมิเตอร์หรอกนะ

เราเป็นคนไทย เขาเป็นคนไทย ที่นี่แผ่นดินไทย ที่นี่ถนนเอกมัย โดนคนขับแท็กซี่ตะคอกใส่หน้า กฎหมายเมืองไทยไม่มีมิเตอร์กันแล้วเหรอ อยากฝากผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องนี้ ลงพื้นที่ดูแลกันหน่อย ถ.เอกมัย ไม่ต้องมีมิเตอร์แล้วใช่หรือไม่ ถ้าจะไปใกล้ๆ ก็คือ 400 บาท แล้วคนไทยก็คิดราคานี้ ไม่มีมิเตอร์จริงๆแล้วใช่ไหม จะได้เข้าใจตรงกัน ทุกคนที่ยืนอยู่บนแผ่นดินไทยจะได้ทราบว่าตรงนี้ไม่ต้องใช้มิเตอร์แล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อคนหากิน ที่ต้องใช้แท็กซี่ในการเดินทาง นี่ขนาดมีเงินยังไม่ไหวเลย กะรวยเลยไปแค่นี้ 400 บาท ถ้าเป็นจริงก็ออกกฎหมายมาให้ชัดว่าประเทศไทยไม่ต้องใช้มิเตอร์ แต่ถ้าไม่จริง ก็ช่วยจัดการให้ด้วยนะคะ

ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก มียอดวิวแล้วกว่า 2.4 ล้านครั้ง พร้อมกับคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ปล่อยปละละเลยจนทำให้พฤติกรรมเช่นนี้ฝังรากลึกจนยากจะแก้ไข


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top