‘อัษฎางค์’ ข้องใจ ‘ชัชชาติ’ ไม่สานต่อผลงานผู้ว่าฯ คนก่อน เพราะนึกถึงผลประโยชน์ปชช. หรือ ผลทางการเมืองกันแน่
(5 ม.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยระบุว่า
“ล้ม เลิก”
เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนหรือผลทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง?
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึง “การเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle EV) ในคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร” ว่า จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม
1. ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม
2. หากจะทำต้องดูเรื่องความคุ้มทุนด้วย
3. เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน
มาดูการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ
ข้อมูลเท่าที่ผมมีคือ
ขสมก.เริ่มต้นเดินรถเมื่อ 1 ตุลาคม 2519 โดยตลอดระยะเวลากว่า 43 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง องค์กรนี้ขาดทุนสะสมทุกปี ยกเว้นปี 2535 ปีเดียวเท่านั้นที่มีกำไร 61 ล้านบาท
ในปี 2563 ขสมก. ขาดทุนเฉลี่ยถึงเดือนละ 360 ล้านบาท ที่น่าสนใจคือ 233 ล้านบาท หรือ 65% เป็นการจ่ายภาระดอกเบี้ย
ในปี 2563 ขสมก.มีหนี้สิน 127,786 ล้านบาท มีผลขาดทุนสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีการประเมินว่า หนี้สิ้นของ ขสมก.จะเพิ่มเป็น 127,786 ล้านบาท
จึงต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ
รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมี 4 พี่น้อง ที่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ คือ การบินไทย ขสมก., การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.)
