Wednesday, 3 July 2024
เม็กซิโก

‘สภาเม็กซิโก’ โชว์ร่างมัมมี่อายุพันปี หน้าตาคล้าย ‘มนุษย์ต่างดาว’ ด้านผู้ค้นพบ กร้าว!! “พวกเรากำลังเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์

(14 ก.ย. 66) สำนักข่าวเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์ รวมถึงสื่อต่างชาติอีกหลายสำนัก ต่างรายงานข่าวน่าตื่นเต้น ซึ่งเกิดขึ้นกลางที่ประชุมสภาของเม็กซิโก เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากมีการนำร่างที่ถูกระบุว่า “ไม่ใช่ร่างของมนุษย์” จำนวน 2 ร่าง มาแสดงระหว่างการไต่สวนสาธารณะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิตนอกโลกของสภาเม็กซิโก ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในการนำเรื่องของมนุษย์ต่างดาวมาพูดในสภาเม็กซิโก

โดยนายเจมี เมาส์ซัน นักข่าวและนักวิจัยชาวเม็กซิกัน ซึ่งเป็นผู้ค้นพบซากฟอสซิลดังกล่าว ที่ประเทศเปรู เมื่อปี ค.ศ.2017 เป็นผู้นำซากฟอสซิลทั้งสองมาที่ประชุมสภาเม็กซิโก ซึ่งเป็นร่างสีเทา โครงหน้ามีความเหมือนกับมนุษย์ และมีนิ้วข้างละ 3 นิ้ว โดยมีกะโหลกศีรษะที่นูนออกมามากกว่ามนุษย์ทั่วไป

นายเมาส์ซัน กล่าวว่า ซากมัมมี่นี้ไม่ใช่มนุษย์ แต่ไม่อยากเรียกว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว เนื่องจากยังไม่รู้ความจริง พร้อมอ้างอิงข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์คาร์บอน โดยมหาวิทยาลัยออโตโนมัสแห่งชาติ เม็กซิโก ที่ระบุว่า “ซากมัมมี่นี้ มีอายุมากถึงราว 1,000 ปี”

อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่า เคยมีการค้นพบซากฟอสซิลในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว และถูกพิสูจน์ได้ในเวลาต่อมาว่า เป็นซากของ “มัมมี่เด็ก”

ขณะที่นายเมาส์ซัน ซึ่งได้ยกมือสาบานต่อสภาฯ ว่าจะพูดความสัตย์จริงต่อสภาฯ ระบุว่า สิ่งที่ปรากฏนี้เป็นที่แน่ชัดว่า เรากำลังเจอกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวโยงกับสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใดๆ บนโลกนี้ และอาจจะต้องมีการเปิดให้สถาบันวิทยาศาสตร์ใดๆ ทำการสอบสวนเรื่องดังกล่าว ก่อนจะบอกว่า “เราไม่ได้อยู่ลำพัง”

การนำร่างมัมมี่ดังกล่าว ที่ดูเหมือนกับมนุษย์ต่างดาวมาแสดงในที่ประชุมสภา ทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลายบนโลกออนไลน์ ทั้งการแปลกใจ ความไม่เชื่อ และบางคนก็เยาะเย้ยการกระทำดังกล่าว เนื่องจากไม่เชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริง

‘สหรัฐฯ’ จ่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเพิ่ม หวังสกัดกั้นผู้อพยพ อ้าง!! เป็นงบที่เหลือค้างจากนโยบายของรัฐบาล ‘โดนัลด์ ทรัมป์’

(6 ต.ค. 66) สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐอเมริกาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ว่าจะสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกเพิ่มอีกราว 20 กิโลเมตรในสตาร์ เคาน์ตี้ รัฐเท็กซัส เพื่อสกัดการเข้าประเทศของผู้อพยพจากเม็กซิโก ซึ่งถือเป็นการเดินหน้าในนโยบายหลักของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สนับสนุนให้มีการสร้างกำแพงตามชายแดนที่ติดกับประเทศเม็กซิโก

หลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อจากทรัมป์ในเดือนมกราคมปี 2021 หนึ่งในสิ่งแรกที่เขาทำคือออกแถลงการณ์ให้คำมั่นว่า “ภาษีของชาวอเมริกันจะไม่ถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนอีก” รวมถึงสั่งให้มีการตรวจสอบทรัพยากรทั้งหมดที่ถูกใช้ในการสร้างกำแพงไปแล้ว

อย่างไรก็ดี รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กล่าวว่า การตัดสินใจที่จะสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกเพิ่มนั้นไม่ได้หันเหไปจากแถลงการณ์ให้คำมั่นของไบเดนเมื่อปี 2021 แต่อย่างใด เพราะงบประมาณที่ถูกจัดสรรไว้ตั้งแต่สมัยรัฐบาลทรัมป์เมื่อปี 2019 จำเป็นต้องนำออกมาใช้ตอนนี้ ‘นายอเลฮานโดร มายอร์กาส’ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ระบุว่า ไม่มีนโยบายการบริหารใหม่เกี่ยวกับกำแพงชายแดน ตั้งแต่วันแรกของการทำงาน ฝ่ายบริหารได้แสดงชัดเจนว่ากำแพงกั้นชายแดนไม่ใช่คำตอบ

มายอร์กาส กล่าวว่า โครงการก่อสร้างกำแพงชายแดนดังกล่าวได้รับการจัดสรรงบไว้แล้วในสมัยรัฐบาลของทรัมป์ และกฎหมายระบุให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณดังกล่าว ตามที่มีการประกาศเมื่อช่วงต้นปีนี้

“เราได้ขอให้สภาคองเกรสยกเลิกงบประมาณดังกล่าวหลายครั้ง แต่พวกเขายังไม่ทำเช่นนั้น เราจึงต้องดำเนินการตามที่กฎหมายระบุ และในปัจจุบันมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องสร้างเครื่องกีดขวางและถนนใกล้กับชายแดนสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย” มายอร์กาส กล่าว

ด้านอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ได้รีบออกมาประกาศชัยชนะในนโยบายสร้างกำแพงของตนเอง และเรียกร้องให้ประธานาธิบดีไบเดนออกมาขอโทษเขา และประเทศอเมริกาที่เดินหน้าในเรื่องกำแพงชายแดนล่าช้ากว่ากำหนด

ขณะที่ประเทศเม็กซิโกได้ออกมาคัดค้านแผนการสร้างกำแพงชายแดนเพิ่มของสหรัฐฯ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ ได้มีการหารือกันในกรุงเม็กซิโก ซิตี เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก

โดย ‘นายอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์’ ประธานาธิบดีเม็กซิโกกล่าวประณามว่า เป็นการเดินถอยหลัง และ ‘อลิเซีย บาร์เซนา’ รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก กล่าวคัดค้านแผนดังกล่าวเช่นกัน รวมถึงสมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตหลายคนได้ออกมาวิจารณ์ไบเดน จากการหันมาเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นชายแดนเพิ่ม

‘ศุลกากรฯ ฮ่องกง’ ยึด ‘ยาบ้าล็อตใหญ่’ หนัก 1.1 ตัน ส่งตรงจากเม็กซิโก ถูกแปลงโฉมเป็น ‘เปลือกหอย’ ซุกซ่อนปะปนมากับเปลือกหอยของจริง

(10 พ.ย. 66) สำนักข่าวซินหัว, ฮ่องกง รายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ ศุลกากรเขตบริหารพิเศษฮ่องกงทางตอนใต้ของจีน พบเหตุต้องสงสัยกรณีค้าเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) หรือ ‘ยาบ้า’ จำนวนมากเป็นประวัติการณ์ และยึดของกลางดังกล่าวได้ราว 1.1 ตัน โดยยาบ้าเหล่านี้ถูกดัดแปลงให้เป็นรูปทรงของ ‘เปลือกหอย’ และบรรจุซุกซ่อนมากับเปลือกหอยจริง

ศุลกากรฯ ระบุผ่านถ้อยแถลงว่า คดีนี้เป็นคดีค้ายาบ้าชนิดแข็งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ศุลกากรฯ เคยตรวจพบ

หลังจากการประเมินความเสี่ยง เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ศุลกากรฯ ได้ทำการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ทางทะเลตู้หนึ่ง ที่ระบุไว้ว่าบรรทุกอาหารทะเล 611 กระสอบ และถูกส่งจากเม็กซิโกมาถึงฮ่องกง

จากการตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว พบยาบ้าต้องสงสัยจำนวนหนึ่งซึ่งซุกซ่อนอยู่ โดยถูกอำพรางมาในรูปแบบของเปลือกหอย และปะปนอยู่กับเปลือกหอยของจริงภายในถุงไนลอนจำนวน 104 ใบ

ทั้งนี้ หลังทำการสืบสวน เจ้าหน้าที่ศุลกากรฯ ได้จับกุมชายวัย 60 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถ และชายวัย 54 ปี ผู้ดูแลโกดังแห่งหนึ่ง จากนั้นได้จับกุมหญิงวัย 46 ปี ผู้ดูแลโกดังสินค้าของบริษัทโลจิสติกส์ และชายว่างงานวัย 27 ปีรายหนึ่ง โดยคดีนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

อนึ่ง ศุลกากรฯ ตรวจพบกรณีที่เกี่ยวข้องกับยาบ้าจำนวนมากกว่า 1 ตันเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2022 มีการยึดยาบ้าแบบเหลวได้ราว 1.8 ตัน จากการขนส่งทางทะเลที่ระบุว่าเป็นการบรรทุกสินค้าประเภทน้ำมะพร้าว

‘ปธน.เม็กซิโก’ กุมขมับ!! การลักลอบขน ‘อาวุธสหรัฐฯ’ เกิดขึ้นถี่ ชี้!! 70% มาจาก ‘เท็กซัส’ ร้อง รบ.สหรัฐฯ แล้ว แต่ยังไม่เห็นผล

(15 ก.พ.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่าอาวุธจากสหรัฐฯ ที่ถูกลักลอบขนส่งเข้าเม็กซิโกครึ่งหนึ่งนั้นมาจากรัฐเท็กซัส

โลเปซ โอบราดอร์ ได้ตั้งคำถามว่าเหตุใดเกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ จึงยินยอมให้สถานการณ์ดังกล่าวดำเนินต่อไป ขณะที่แอบบอตต์เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักในการกระชับการควบคุมชายแดนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมตั้งคำถามว่าผู้ว่าการรัฐเท็กซัสจะตอบสนองต่อประเด็นนี้อย่างไร

โลเปซ โอบราดอร์ ระบุว่านับตั้งแต่ตัวเขาเริ่มเข้ามารับตำแหน่งบริหารประเทศเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ได้มีการยึดอาวุธเกือบ 50,000 ชิ้น โดยร้อยละ 70 มาจากสหรัฐฯ ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากเท็กซัส

เม็กซิโกเรียกร้องสหรัฐฯ หลายต่อหลายครั้งให้ดำเนินการมากขึ้นเพื่อควบคุมการลักลอบนำเข้าอาวุธปืนสู่เม็กซิโก ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง โดยเฉพาะระหว่างองค์กรอาชญากรรมที่เป็นคู่อริกัน

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลเม็กซิโกได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ และแคนาดาช่วยต่อต้านการลักลอบขนส่งอาวุธ ‘พลังงานสูง’

‘เม็กซิโก’ เวทีหาเสียงพังถล่ม หลังลมกระโชกแรงเป็นเหตุ สร้างความสูญเสีย 9 ชีวิต - บาดเจ็บอย่างน้อย 50 คน

เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.67) กล่าวว่า เกิดอุบัติเหตุเวทีปราศรัยหาเสียงพังถล่มจากอิทธิพลของลมกระโชกแรง ทางตอนเหนือของเม็กซิโก จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

ด้าน ซามูเอล การ์เซีย ผู้ว่าการรัฐนวยโว เลออน ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วเป็นผู้ใหญ่ 8 รายและผู้เยาว์ 1 ราย รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 50 คน โดยบางรายมีอาการสาหัส

โดยภาพของสื่อท้องถิ่นจากจุดเกิดเหตุในเมืองซาน เปโดร การ์ซา การ์เซีย เผยให้เห็นความโกลาหลของฝูงชนที่พยายามวิ่งหนีออกจากเวทีที่กำลังโค่นล้ม ขณะที่เสาไฟและจอทีวีขนาดยักษ์พังถล่มใส่บริเวณที่ฮอร์เก้ อัลวาเรซ เมย์เนซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเม็กซิโก และสมาชิกพรรค Citizens' Movement ของเขายืนอยู่

เมย์เนซที่หลบหนีออกมาได้โดยไม่มีอาการบาดเจ็บสาหัส กล่าวว่า เวทีพังทลายลงเนื่องจากมีลมกระโชกแรง

"ผมสบายดีและกำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น" เมย์เนซ วัย 38 ปีกล่าว พร้อมเสริมว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการดูแลผู้ประสบเหตุ

งานที่จัดขึ้นนี้เป็นการชุมนุมหาเสียงสำหรับผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองซาน เปโดร การ์ซา การ์เซีย โดยมีผู้สมัครวุฒิสมาชิกและฝ่ายนิติบัญญัติจากพรรค Citizens' Movement เข้าร่วมด้วย

เมย์เนซซึ่งระงับกิจกรรมหาเสียงทั้งหมดทันที กล่าวว่า เขาจะยังคงอยู่ในที่เกิดเหตุจนกว่าผู้บาดเจ็บคนสุดท้ายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ก่อนหน้านี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของเม็กซิโกเตือนว่าจะมีฝนตกหนัก, ลมกระโชกแรงถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอาจมีพายุทอร์นาโดในนวยโว เลออนและรัฐอื่น ๆ ทางตอนเหนือ

ผู้ว่าการการ์เซียเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปข้างนอก เนื่องจากพายุอาจสร้างอันตรายถึงชีวิต

ในโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ประธานาธิบดีอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ของเม็กซิโก กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนของผู้ประสบเหตุที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ เช่นเดียวกับผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีก 2 คนก็แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับผู้ที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ชาวเม็กซิกันจะออกมาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไป รวมทั้งตำแหน่งสมาชิกสภาคองเกรส, ผู้ว่าการรัฐ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

‘นางแบบเวเนซุเอลา’ ถูกรถไฟดูดร่าง ดับสลดที่เม็กซิโก หลังพยายามถ่ายรูป ให้มีรถไฟแล่นผ่านเป็นฉากหลัง

เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.67) นสพ.The Sun ของอังกฤษ รายงานข่าว Model, 30, killed after clothes became tangled in passing high-speed train during photoshoot near tracks in Mexico ซึ่งระบุว่า ที่ประเทศเม็กซิโก เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิต โดยผู้ตายคือ ซินเธีย นาเยลี ฮิกาเรดา เบอร์เมโฮ (Cinthya Nayeli Higareda Bermejo) อายุ 30 ปี นางแบบสาวชาวเวเนซุเอลา เหตุเกิดที่บริเวณในเมืองซาโกอัลโก เดอ ตอร์เรส ใกล้เมืองกวาดาลาฮารา ทางภาคตะวันตกของเม็กซิโก

โดยรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้เข้าไปยืนใกล้กับรางรถไฟ โดยหวังจะถ่ายภาพตนเองให้มีรถไฟแล่นผ่านเป็นฉากหลัง กระทั่งเมื่อรถไฟแล่นมาด้วยความเร็วสูง ได้เกิดแรงลมดูดเสื้อผ้าพร้อมดึงร่างของผู้ตายเข้าไป ส่งผลให้ถูกรถไฟชนเสียชีวิตดังกล่าว โดยหน่วยกู้ภัยได้นำร่างของนางแบบสาวรายนี้ส่งไปชันสูตร ก่อนจะมอบให้ญาตินำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ขณะที่ โจอาคิน เมนเดซ รุยซ์ (Joaquin Mendez Ruiz) อัยการรัฐฮาลิสโก ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองซาโกอัลโก เดอ ตอร์เรส กล่าวว่า จากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์ เบื้องต้นชี้ว่าคดีนี้เป็นอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม ยังมีการสืบสวนเพิ่มเติม

ขณะที่ Enstarz สำนักข่าวออนไลน์ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเน้นเสนอข่าวบันเทิง รายงานข่าว Model Killed After Clothes Get Tangled In High-Speed Train During Photoshoot ระบุว่า เหตุสลดที่เกิดขึ้นกับนางแบบสาววัย 30 ปี ชาวเวเนซุเอลารายนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

‘นายกฯ เทศมนตรี’ เม็กซิโก โดนยิงดับ หลังได้ ปธน.ใหม่ไม่นาน ตอกย้ำ!! แม้เลือกตั้งจบ แต่ความมั่นคงของประเทศยังไม่เริ่ม

(6 มิ.ย. 67) เอเอฟพี รายงานว่า นายกเทศมนตรี ของเมืองทางตะวันตกของเม็กซิโก ถูกสังหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่ ‘คลอเดีย เชนบัม’ ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโก 

ทั้งนี้ ด้านกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ลงเอ็กซ์ว่า รัฐบาลของรัฐมิโชกัน ประณามการฆาตกรรมนายกเทศมนตรีของโกติจา ‘โยลันดา ซานเชซ ฟิเกโร’

การฆาตกรรมนายกเทศมนตรีหญิงรายนี้ เกิดขึ้นหลังจากชัยชนะอย่างถล่มทลายของ คลอเดีย เชนบัม ที่ทำให้เกิดความหวังในการเปลี่ยนแปลงในประเทศ ที่เต็มไปด้วยความรุนแรงทางเพศ

ด้าน ซานเชซ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรี ในการเลือกตั้งปี 2564 ถูกยิงเสียชีวิตบนถนนสาธารณะ ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการฆาตกรรมครั้งนี้ แต่กล่าวว่าได้เริ่มดำเนินการรักษาความปลอดภัย เพื่อจับกุมฆาตกรแล้ว

ก่อนหน้านี้ นักการเมืองรายนี้ ถูกลักพาตัวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ขณะออกจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในเมืองกวาดาลาฮารา ในรัฐฮาลิสโก ซึ่งติดกับมิโชกัน 3 วันต่อมา รัฐบาลกลาง ได้ออกมาระบุว่า ได้พบเธอยังมีชีวิตอยู่

ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น ผู้ลักพาตัวเป็นกลุ่ม Jalisco Cartel - New Generation (CJNG) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าข่มขู่นายกเทศมนตรี ที่ต่อต้านกลุ่มอาชญากร ที่ยึดอำนาจตำรวจในเขตเทศบาลของเธอ

อย่างไรก็ตาม มิโชกัน มีชื่อเสียงในด้านสถานที่ท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมส่งออกด้านเกษตรกรรมที่เจริญรุ่งเรือง แต่ยังเป็นรัฐที่มีความรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ เนื่องจากมีแก๊งขู่กรรโชก และค้ายาเสพติด

นอกจากนี้ ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า อัตราการฆาตกรรมของเม็กซิโก อยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก และยังคงเป็นสถานที่อันตรายสำหรับผู้หญิง โดยตัวเลขแสดงให้เห็นว่ามี ผู้หญิงประมาณ 10 คน ถูกฆาตกรรมทุกวัน มีผู้สูญหายมากกว่า 100,000 คนในประเทศ โดยไม่มีคำอธิบายถึงชะตากรรมของพวกเขา

จากข้อมูลของหน่วยงาน Think Tank ‘Mexico Evalua’ ระบุว่า ประมาณ 95% ของอาชญากรรมทั้งหมดทั่วประเทศยังไม่ได้รับการแก้ไขในประเทศในปี 2022

ทั้งนี้ คลอเดีย เชนบัม นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศ และอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเม็กซิโกซิตี้ แคนดิเดตประธานาธิบดีเม็กซิโกจากพรรคโมเรนา (Morena) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้าย คว้าชัยถล่มทลายในการเลือกตั้ง โดยก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศเม็กซิโก ต่อจากผู้นำคนปัจจุบัน ‘อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์’

นอกจากเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโกแล้ว ยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา หรือทวีปอเมริกาเหนือ

เธอให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงความมั่นคง แต่ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเม็กซิโก มีผู้สมัครถูกสังหาร 38 ราย ได้ตอกย้ำปัญหาความมั่นคงครั้งใหญ่ของประเทศ จนถึงวันเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ยังมีการสังหารคน 2 คนที่หน่วยเลือกตั้งในรัฐปวยบลาด้วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top