Tuesday, 22 April 2025
เฟกนิวส์

“โฆษกรัฐบาล” เผย นายกฯ ย้ำ ปชช.รู้ทันเทคโนโลยี วอน อย่าหลงเชื่อข่าวโควิด-19 ปลอม   แนะตรวจสอบแหล่งข้อมูลทุกครั้งก่อนแชร์   

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังการสร้างข่าวปลอม และบิดเบือนข้อมูลนโยบายรัฐบาล และข่าวสารทางราชการโดยเฉพาะในเรื่องโควิด-19  จากการติดตามตรวจสอบของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)ขณะนี้มีหลายข่าวที่มีการแชร์ข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงกับสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชนติดตามข่าวสาร เพื่อล่อลวงให้คนเข้ามาคลิกอ่าน เกิดความตื่นตระหนก หลงเชื่อ และแชร์ข่าวปลอมโดยรู้ไม่เท่าทัน

พร้อมกันนี้ก็ฝากย้ำเตือนไปยังประชาชนทุกคนใช้เทคโนโลยีและการรับข้อมูลข่าวต่าง ๆ อย่างรู้เท่าทัน อย่าลงเชื่อข้อมูลข่าวสารที่ได้รับโดยทันทัน แต่ขอให้มีการพิจารณา คิดวิเคราะห์ และตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ทุกครั้งก่อนเชื่อและเผยแพร่แชร์ข้อมูลออกไป

เพื่อช่วยกันป้องกันข้อมูลคลาดเคลื่อนที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและนำไปสู่ความตื่นตระหนกและความวุ่นวายในสังคมได้ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังกำชับผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดรวมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บริหารจัดการสถานการณ์การแพร่รระบาดในพื้นที่ รวมทั้งเร่งนำผู้ป่วยโควิด-19 เข้าสู่ระบบการรักษาตามลำดับอาการ 

กมธ.พัฒนาการเมือง เตรียมเรียก ผู้บริหาร ททบ.5 ชี้แจง กรณีรายการ กนก -ธีระ ‘แพร่เฟคนิวส์’ ทำประชาชนสับสน สร้างความเกลียดชัง หวั่น กระทบความสัมพันธ์ไทย - ยูเครน

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขต 25 บางขุนเทียน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีสื่อร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายธีรนัย จารุวัสตร์ กรรมการสมาคมนักข่าวและอุปนายกฝ่ายปฏิรูปสื่อ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุถึงกรณีที่นายกนก รัตน์วงศ์สกุล และนายธีระ ธัญไพบูลย์ ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ รายการ 'เล่าข่าวข้น' ช่อง ททบ.5 เผยแพร่คลิปเหตุการณ์หนึ่งในรายการ โดยอ้างว่าเป็นคลิปจัดฉากศพผู้เสียชีวิตจำนวนหลายร้อยรายในสงครามยูเครนจากการรุกรานจากกองทัพรัสเซีย โดยคลิปดังกล่าวออกอากาศผ่านโทรทัศน์ วันที่ 28 ก.พ. 2565

ต่อมา เมื่อมีการตรวจสอบ พบว่า คลิปดังกล่าวคือคลิป ‘Demo gegen Klimapolitik’ หรือการแสดงเชิงสัญลักษณ์ของนักกิจกรรมในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อ 4 ก.พ. 2565 เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทั่วโลกให้ความสนใจกับวิกฤตสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง หรือ climate change ซึ่งไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์สงครามยูเครนกับรัสเซีย

โดยนายธีรนัยให้ความเห็นว่า การกระทำของผู้ประกาศข่าวช่องดังกล่าวผิดจริยธรรมสื่ออย่างยิ่ง เนื่องจากไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข่าวก่อนนำมารายงานให้ประชาชนรับทราบ เพราะจะสร้างความสับสนให้กับประชาชนได้โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านช่องทางสื่อของรัฐซึ่งมีความเป็นทางการ กรณีนี้นายธีรนัยยังเรียกร้องต่อองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบกรณีการเผยแพร่ข่าวบิดเบือนดังกล่าว รวมถึงรายงานให้ประชาชนรับทราบเกี่ยวกับผลการดำเนินการตรวจสอบ

‘หมอยง’ ชี้!! บทเรียนสำคัญในการต่อสู้กับโควิดช่วง 2 ปี ไม่ได้สู้แค่โรค แต่สังคมถูกโชกไปด้วยข้อมูลสร้างความสับสน

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสถานการณ์ โควิด โดยเนื้อความระบุว่า..

โควิด 19 การต่อสู้ที่สำคัญ คือ Fake news, ข่าวร้าย (shock news, breaking news) และการให้ร้าย รังแก bully
ยง ภู่วรวรรณ 14 มีนาคม 2565 

บทเรียนสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดร้ายแรงใน 2 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นจริง fake news, ข่าวร้าย shock news ข้อมูลที่สร้างความสับสน 

โดยเฉพาะ ข้อมูลมีความจริงเพียง 20% แล้วใส่ความเห็น โน้มน้าว ไม่ได้อยู่บนฐานของความเป็นจริง

มีข่าว ที่ไม่เป็นจริง และมีการส่งต่ออันมากมายบนสื่อสังคมในยุคปัจจุบันที่แพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อความจริงปรากฏ ก็ไม่มีใครตามไปแก้ข่าว
ข้อมูลดังกล่าวถ้าได้รับฟังซ้ำๆ เชื่อเลย หลายคนคงจะเชื่อ เรื่องของโรคโควิด วัคซีนในการใช้ป้องกัน ทำให้เราเสียโอกาสไปมาก

‘ก้าวไกล’ งง!! นายกฯ โยน สมช.แก้วิกฤตศก. แก้ปัญหาหรือรักษาประโยชน์แก่กลุ่มทุน

‘วรภพ-ก้าวไกล’ อัด ‘ประยุทธ์’ อับจนถึงขั้นเตรียมดึงกฎหมายความมั่นคงมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แนะต้องแก้ที่เพิ่มสวัสดิการ และอุดหนุนกลุ่มธุรกิจขนส่งที่กระทบกับคนจำนวนมาก เพื่อเยียวยาความเดือดร้อน

วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าว กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เงินเฟ้อพุ่ง ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น ปัญหาน้ำมันแพง ฯลฯ โดยคำสั่งของประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เหตุผลว่าประเทศมีปัญหาพลังงานมาเป็นเวลานาน ปัจจุบันมีต้นทุนนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ผนวกกับวิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครน จึงให้ สมช. เข้าดูแลปัญหาความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศ ราคาดีเซลและแก๊ซหุงต้ม ซึ่งสะท้อนศักยภาพและความสามารถของนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศที่ผิดพลาดและล้มเหลว

วรภพ กล่าวว่า ท่าทีดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตอนแรกอ่านข่าวคิดว่าเป็น ‘เฟกนิวส์’ เพราะดูไม่น่าเป็นไปได้ในยุคนี้ ในเมื่อมันเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ ก็ไม่น่าจะเอากฎหมายความมั่นคงมาใช้แก้ได้ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวสะท้อนว่า นายกฯในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจไม่มีความสามารถแก้ไขปัญหา เพราะไม่มีความเข้าใจเรื่องเศรษฐกิจอย่างเพียงพอ อีกทั้งยังบริหารแบบทหาร การให้เตรียมนำเอา พ.ร.บ.ความมั่นคงมาใช้ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย และกฎหมายปัจจุบันของกระทรวงพลังงานก็มีอำนาจเพียงพออยู่แล้ว ในการควบคุมเรื่องเชื้อเพลิง น้ำมันแพง แต่กลับไม่ทำอะไร

สถาบันสื่อมืออาชีพ ‘เครือเนชั่น’ ร้องสมาคมนักข่าวฯ บอกถูกพรรครวมไทยสร้างชาติ 'คุกคาม'

(24 พ.ย. 65) กองบรรณาธิการเนชั่นทีวี เนชั่นออนไลน์ และสื่อในเครือ ยื่นหนังสือให้สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พิจารณาข้อเท็จจริงการนำเสนอข่าวของสื่อในเครือเนชั่น กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมเข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มีเนื้อหาดังนี้...

ตามที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำกราฟฟิกแบนเนอร์เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ของพรรค และส่งไปยังกลุ่มไลน์ของสื่อมวลชน เพื่อจงใจกล่าวหาว่า ข่าวการสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเฟคนิวส์ โดยได้แนบลิงค์ข่าวของเนชั่นออนไลน์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เรื่อง 'บิ๊กตู่' สมัครเป็นสมาชิก 'พรรครวมไทยสร้างชาติ' (https://www.nationtv.tv/news/politics/378893620)

จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งข้อเท็จจริงของข่าวนี้ และการกระทำของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น กองบรรณาธิการเนชั่นทีวี และเนชั่นออนไลน์ ตลอดจนสื่อทุกสื่อของเครือเนชั่น ยืนยันว่า การนำเสนอข่าวนี้ทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์ และทีวี ได้ปฏิบัติตามหลักจริยธรรม จรรยาบรรณ และมาตรฐานทางวิชาชีพสื่อสารมวลชน ด้วยอุดมการณ์ 'สถาบันสื่อมืออาชีพ' โดยได้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงในข่าว และเปิดโอกาสให้หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้ชี้แจง ซึ่งก็ได้นำเสนอคำชี้แจงของหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติไปพร้อมกันด้วย (https://www.bangkokbiznews.com/politics/1039313)

การทำหน้าที่สื่อมวลชน อย่างถูกต้อง อาจจะไม่ถูกใจ บางคนบางกลุ่ม ดังนั้นควรแยกแยะ ออกมาให้ชัดเจนว่า เนชั่นทีวี ปฏิบัติหน้าที่ ‘ไม่ถูกต้อง’ อย่างไรบ้าง

ฉะนั้นการที่พรรครวมไทยสร้างชาติได้ทำแบนเนอร์ กล่าวหาใส่ร้ายว่าการนำเสนอข่าวของเครือเนชั่นเป็น 'เฟคนิวส์' หรือ 'ข่าวปลอม' พร้อมกระจายไปตามช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ของพรรค และกลุ่มไลน์สื่อมวลชน ถือว่าเป็นการ 'คุกคามสื่อ' รูปแบบหนึ่ง และเป็นการจงใจทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อ ทั้ง ๆ ที่บุคลากรของพรรคสามารถชี้แจง อธิบาย ปฏิเสธข่าว รวมถึงใช้สิทธิทางกฎหมายดำเนินคดีกับสื่อเครือเนชั่นได้ หากเห็นว่าการเสนอข่าวของเครือเนชั่นก่อความเสียหายให้กับพรรค แต่ทางพรรคกลับใช้วิธีการป้ายสี ทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อแทน ซึ่งมาตรฐานการดำเนินการเช่นนี้ ถือเป็นอันตรายต่อการทำหน้าที่สื่อสารมวลชน ไม่ว่าแขนงใด

ยิ่งไปกว่านั้น การให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาของผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะบุคคลที่ตกเป็นข่าวเอง รวมถึง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ก็เป็นแนวแบ่งรับแบ่งสู้ และไม่ได้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

'โค้ช-ดาวยิงซาอุฯ' ปฏิเสธข่าวลือเจ้าชายฯ แจกรถโรลส์รอยซ์ ชี้!! แค่เฟกนิวส์จากหมอฟันชาวปากีสถาน

แอร์เว่ เรอนาร์ เฮดโค้ชของทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แจกรถยนต์หรูโรลส์รอยซ์ ให้แก่นักฟุตบอลทุกหลังเอาชนะอาร์เจนติน่า โดยชี้ว่ามันเป็นเพียงแค่เฟกนิวส์ เท่านั้น 

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย แจกรถยนต์โรลส์รอยซ์ รุ่นแฟนทอม ให้แก่นักเตะทุกคนหลังคว่ำอาร์เจนติน่า ในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2022 เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ เดลีเมล สื่อชั้นนำในประเทศอังกฤษ ออกมาเผยว่าต้นตอข่าวดังกล่าวมาจากหมอฟันชาวปากีสถานรายหนึ่งที่มีผู้ติดตาม และมีอิทธิพลด้านโซเชียลมีเดียค่อนข้างสูง ออกมาเผยแพร่เรื่องนี้บททวิตเตอร์แบบลอยๆ เท่านั้น ไม่มีมูลความเป็นจริงแต่อย่างใด 

และล่าสุด แอร์เว่ เรอนาร์ กุนซือใหญ่ออกมาแก้ข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์หลังเกมที่ ซาอุดีอาระเบีย พ่ายแพ้ให้กับ โปแลนด์ เมื่อคืนวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 

"เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เรามีกระทรวงกีฬา และสมาคมฟุตบอล ที่ทำงานกันอย่างเคร่งเครียด มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะมาทำอะไรแบบนี้เลย" เรอนาร์ กล่าว 

"การแถลงข่าวก่อนเกมพบ อาร์เจนติน่า ผมแค่บอกว่ามันเป็น 1 ใน 3 เกมที่สำคัญมากสำหรับเรา และเรื่องเดียวที่ถือเป็นข่าวดีสำหรับคือ การจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยอันดับ 1 หรือ 2 เท่านั้น" 

ส่วน ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ ดาวยิงทีมชาติซาอุดิอาระเบีย ออกมายืนยันอีกหนึ่งเสียงว่าข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และนักเตะทุกคนตั้งใจลงสนามเพื่อรับใช้ประเทศ และทำผลงานให้ดีที่สุดอยู่แล้ว

"เรื่องนั้นมันไม่ใช่เลย เราอยู่ที่นี่ตรงนี้เพื่อรับใช้ประเทศบ้านเกิดของเราให้ดีที่สุด นั่นคือผลตอบแทนของพวกเขา" 

‘พิธา’ ยัน!! ‘ก้าวไกล’ ไม่เคยเสนอลดบำนาญ ขรก. ย้ำ!! มีแต่แนะรัฐเพิ่มรายได้ - ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น

(30 ม.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีข่าวปลอมกลับมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์อีกครั้ง บิดเบือนว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายลดเงินเดือนหรือบำนาญของข้าราชการ

โดยนายพิธากล่าวว่า พรรคก้าวไกลขอยืนยันอีกครั้ง ว่าเราไม่มีและไม่เคยมีนโยบายลดเงินเดือนหรือบำนาญของข้าราชการ สิ่งที่เราเสนอคือให้ลดงบประจำ ที่ไม่ใช่เงินเดือนของข้าราชการ เช่นการไปดูงานเมืองนอก โครงการอบรมสัมมนา โครงการที่ซ้ำซ้อน รวมถึงลดงบกลางที่เป็นเงินสำรองที่เปิดโอกาสให้รัฐบาลเอาไปใช้ได้ตามใจชอบ โดยไม่เกิดประโยชน์ พรรคก้าวไกลเสนอว่าควรโยกเงินเหล่านี้มาจัดสวัสดิการที่ดี ให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยดีกว่านี้ได้

'โอ๊ค-พานทองแท้' เตรียมเอาผิดคนสร้างเฟกนิวส์ ปล่อยภาพเก่า ‘ทักษิณ’ เล่นกับหลานที่ ตปท.

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพนายทักษิณ กำลังอุ้มหลานและตั้งคำถามว่า รพ.ตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ จะตอบคำถามสังคมในกรณีอย่างไร?

ล่าสุด (7 ก.ย.66) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ ได้ทวีตข้อความชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ ถึงประเด็นดังกล่าว ไว้ว่า...

“โรงพยาบาลตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไม่น่าจะต้องอธิบายอะไรนะครับ แต่คุณ (ชื่อเฟซ) เตรียมอธิบายกับพนักงานสอบสวนว่าคุณต้องการอะไรมากกว่าครับ”

ทั้งนี้ นายพานทองแท้ ยังระบุในรูปดังกล่าวว่าเป็น เฟกนิวส์ หรือข่าวปลอม เพราะภาพดังกล่าวเป็นภาพที่โพสต์ตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่ต่างประเทศ โพสต์โดย อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เมื่อวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2565 หรือเมื่อปีก่อนแล้ว

‘แบมแบม’ ไม่ทน!! เตรียมเช็กบิลแอนตี้แฟนชอบกุเฟกนิวส์ ลั่น!! คราวนี้เอาจริง อยู่คนละประเทศ ก็จะล่าตัวมาให้ได้

(7 พ.ย.66) ทำเอาเหล่าอากาเซ่ถูกใจเป็นอย่างมากเมื่อ ‘แบมแบม GOT7’ หรือ แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล ที่เป็นอีกหนึ่งคนที่โดนถ้อยคำว่าร้ายจากชาวเน็ตมาตลอด โดยล่าสุดนี้เจ้าตัว ออกมารีโพสต์ถึงบริษัทต้นสังกัด @BAMBAMxABYSS ระบุข้อความว่า "คุณสามารถทำอะไรกับพวกคนที่พูดจาแย่ๆ และสร้างข่าวปลอมถึงผมได้ไหม ผมเบื่อและทนไม่ไหวแล้ว ใครก็ตามที่มีปัญหากับผม ก็รอดูตอนจบแล้วกันนะ"

ต่อมาเจ้าตัวยังโพสต์ต่อเนื่องว่า ถึงเวลาทำเงินสักหน่อยแล้ว ก่อนที่ผมจะไปทำงานต่อ ขอบอกอะไรหน่อย คราวนี้ผมเอาจริง พวกแอนตี้ฯ คิดว่าผมทำอะไรไม่ได้เพราะอยู่คนละประเทศใช่ไหม ผมจะทำเต็มที่เพื่อตามหาคุณ แล้วมาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น

หลังจากที่แบมแบม ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวนั้นเหล่าอากาเซ่ทั้งไทยและต่างประเทศต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งสนับสนุนที่ศิลปินลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนเองด้วยการฟ้องร้องกลุ่มพวกแอนตี้แฟน พร้อมทั้งส่งกำลังใจให้หนุ่มแบมแบมจัดการคนพวกนี้ได้สำเร็จ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top