Wednesday, 23 April 2025
เพจเจอร์

'เพจเจอร์' ระเบิดทั่ว 'เลบานอน' ดับ 11 เจ็บเกือบ 4,000 ราย ด้านอิสราเอลยังเงียบ ส่วนสหรัฐฯ ออกตัวปัดเอี่ยวทันที

(18 ก.ย. 67) เอเอฟพี รายงานว่า สหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าพวกเขาไม่ทราบล่วงหน้าและไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุเพจเจอร์ที่ใช้งานโดยพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ เกิดระเบิดทั่วเลบานอน พร้อมเรียกร้องอิหร่านอดทนอดกลั้นอย่าคิดตอบโต้

พวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ ประกาศกร้าวว่าจะแก้แค้นอิสราเอล หลังกล่าวหารัฐยิวเป็นคนจุดชนวนเพจเจอร์จำนวนมากครั้งใหญ่ทั่วเลบานอนในวันอังคาร (17 ก.ย.) สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 11 ราย และบาดเจ็บกว่า 4,000 คน ในนั้นรวมถึงพวกนักรบและผู้แทนทูตอิหร่านประจำกรุงเบรุต และในนั้น 400 รายอาการสาหัส

แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "ผมบอกกับคุณได้ว่า อเมริกาไม่เกี่ยวข้อง อเมริกาไม่ทราบเหตุการณ์นี้ล่วงหน้า และ ณ เวลานี้เราอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล"

มิลเลอร์ ปฏิเสธข้อสงสัยในวงกว้างว่าเหตุระเบิดลงมือโดยอิสราเอล ซึ่งยิงปะทะกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์แทบทุกวัน นับตั้งแต่กลุ่มนักรบฮามาส พันธมิตรของฮิซบอลเลาะห์ บุกจู่โจมจากฉนวนกาซาเล่นงานอิสราเอล แบบไม่คาดคิด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปีก่อน ซึ่งกระตุ้นให้ อิสราเอลเปิดปฏิบัติการแก้แค้นรุกรานกาซา สังหารผู้คนไปแล้วกว่า 41,000 ราย

เหตุระเบิดมีขึ้นหลายสัปดาห์ หลังจากสหรัฐฯ ดำเนินการด้านการทูตแบบลับ ๆ ในความพยายามสกัดการเอาคืนครั้งใหญ่ของอิหร่านที่เล็งเป้าเล่นงานอิสราเอล แก้แค้นให้ อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำการเมืองของฮามาส ที่ถูกลอบสังหารระหว่างอยู่ในกรุงเตหะราน และกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล

มิลเลอร์ กล่าวว่าสารที่สหรัฐฯ ส่งถึงอิหร่านยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง "เราเรียกร้องอิหร่านอย่าใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ใด ๆ ในความพยายามบ่อนทำลายเสถียรภาพเพิ่มเติม และเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคให้มากไปกว่านี้อีก"

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน อามอส ฮอชสตีน ทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ได้พบปะกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และพวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลคนอื่น ๆ ในขณะที่เขาหาทางสกัดสงครามเต็มรูปแบบระหว่างอิสราเอลกับเลบานอน

"เราต้องการเห็นการแก้ปัญหาด้วยวิธีการด้านการทูต ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์" มิลเลอร์ระบุ "เราอยากเห็นชาวบ้านอิสราเอลหลายหมื่นคนที่ต้องโยกย้ายถิ่นฐานออกจากบ้าน และชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนที่ต้องพลัดถิ่นออกจากบ้าน สามารถกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนได้"

อย่างไรก็ตาม มิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งถูกสหรัฐฯ มองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย เป้าที่โจมตีได้โดยไม่ผิดกติกา แต่เขาไม่ยืนยันว่าอิสราเอลเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ "สมาชิกก่อการร้ายของเครือข่ายก่อการร้ายเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่เปิดปฏิบัติการกับพวกเขา"

'เลบานอน' อ้าง 'อิสราเอล' ฝังระเบิดไว้ในเพจเจอร์ 5,000 เครื่อง ตั้งแต่ขั้นผลิต ชี้!! ยากต่อการตรวจจับ และจะระเบิดเมื่อได้รับข้อความที่เป็นสัญญาณ

(18 ก.ย. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานข่าว อ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคงระดับสูงของเลบานอนและแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า มอสซาด หน่วยงานด้านข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอลฝังระเบิดไว้ในวิทยุติดตามตัว หรือ เพจเจอร์ ที่ใช้สำหรับการรับข้อความสั้น ๆ 5,000 เครื่อง ที่นำเข้าโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (Hezbollah) ในเลบานอน หลายเดือนก่อนที่จะเกิดการระเบิดในวันอังคาร (17 ก.ย.)

ปฏิบัติการที่เกิดขึ้นถือเป็นการเจาะระบบความมั่นคงของฮิซบอลเลาะห์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทำให้เพจเจอร์หลายพันเครื่องระเบิดทั่วเลบานอน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บเกือบ 3,000 คน รวมถึงนักรบของฮิซบอลเลาะห์และเจ้าหน้าที่การทูตของอิหร่านในกรุงเบรุต ของเลบานอน แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนระบุว่า เพจเจอร์เหล่านี้มาจากบริษัทโกลด์ อพอลโล ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในไต้หวัน แต่ทางบริษัทออกมาระบุว่า ไม่ได้เป็นผู้ผลิตเพจเจอร์ดังกล่าว แต่เพจเจอร์นี้ผลิตในบริษัทในทวีปยุโรปที่ได้สิทธิในการใช้ยี่ห้อของโกลด์ อพอลโล กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่มีอิหร่านหนุนหลังประกาศจะตอบโต้เอาคืนอิสราเอล ในขณะที่กองทัพอิสราเอลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับการระเบิดของเพจเจอร์ แหล่งข่าวหลายแหล่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์สว่า แผนการครั้งนี้ใช้เวลาดำเนินการหลายเดือน

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของเลบานอนกล่าวว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ สั่งซื้อเพจเจอร์ 5,000 เครื่องจากบริษัทโกลด์ อพอลโล และมีรายงานว่า เพจเจอร์ที่สั่งซื้อนี้ถูกนำเข้ามายังเลบานอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซู ชิง-กวง ผู้ก่อตั้งโกลด์ อพอลโล กล่าวว่า เพจเจอร์ที่เกิดการระเบิดดผลิตโดยบริษัทแห่งหนึ่งในยุโรปที่ได้สิทธิในการใช้ชื่อแบรนด์ของบริษัท ซึ่งมีสำนักงานอยู่ไนไต้หวัน เขายืนยันว่า ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้เป็นของบริษัท เพียงแต่มีชื่อแบรนด์บนผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อของบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเพจเจอร์แต่อย่างใด บรรดานักรบของฮีซบอลเลาะห์หันมาใช้เพจเจอร์ในการสื่อสารเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามของอิสราเอล

แหล่งข่าวกล่าวว่า เพจเจอร์มีการปรับแต่งฝังระเบิดโดยมอสซาดในระหว่างการผลิต ซึ่งแผงวงจรที่ใช้นั้น ยากต่อการตรวจจับ โดยเพจเจอร์ 3,000 เครื่องจะระเบิดเมื่อได้รับข้อความที่เป็นสัญญาณ บางแหล่งข่าวระบุว่า ระเบิดน้ำหนักราว 3 กรัม ถูกซ่อนไว้ในเพจเจอร์และผ่านการตรวจของฮิซบอลเลาะห์มาเป็นเวลาหลายเดือน

วิเคราะห์!! สถานการณ์ราคาน้ำมัน ตัวแปรดันราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม 'เหตุรุนแรงในตะวันออกกลาง-พายุเฮอร์ริเคน Francine'

เมื่อวานนี้ (18 ก.ย.67) หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ ได้เปิดเผย 4 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการปรับเพิ่มราคาน้ำมันดิบในปัจจุบัน ดังนี้...

1. ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่กลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ภายหลังเครื่องมือสื่อสารถูกแฮกและเกิดระเบิดขึ้นในเลบานอน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้กล่าวโทษอิสราเอลว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดในครั้งนี้และประกาศจะตอบโต้อิสราเอล ในขณะที่อิสราเอลยังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

2. การผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกยังคงได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน Francine โดยยังคงมีการอพยพคนงานออกจากแท่นขุดเจาะน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกปรับลดกว่า 12% จากปริมาณการผลิตปกติ 

3. นักลงทุนยังคงจับตาการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) โดยตัวเลขผลสำรวจล่าสุดของ FEDWATCH ชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนัก 69% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนความต้องการใช้น้ำมันได้

4. สถาบันปิโตรเลียมแห่งสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ย. 67 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 1.96 ล้านบาร์เรล

สำหรับราคาน้ำมันดิบ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.67 ที่ผ่านมา อ้างอิง เวสต์เทกซัส (WTI) อยู่ที่ 71.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล (+1.10) ส่วน เบรนท์ (Brent) อยู่ที่ 73.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล (+0.95)

‘เพจเจอร์’ เทคโนโลยียุคเก่า ความนิยมในวงการแพทย์ ใช้แจ้งเหตุฉุกเฉินพร้อมกัน ในขณะที่มือถือทำไม่ได้

‘เพจเจอร์’ เครื่องเล็ก ๆ ที่เคยถูกมองว่าล้าสมัยกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ทั้งในแง่ของการใช้งานในภาคการแพทย์และเหตุการณ์ระเบิดเพจเจอร์ที่สั่นสะเทือนเลบานอน ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล

(20 ก.ย. 67) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ความเป็นที่นิยมของ 'โทรศัพท์มือถือ' จนกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารหลักของโลก ได้ทำให้วิทยุติดตามตัว หรือ 'เพจเจอร์' กลายเป็นสิ่งล้าสมัยไปอย่างมาก โดยความต้องการลดลงจากช่วงรุ่งเรืองในทศวรรษ 1990

อย่างไรก็ตาม เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กเหล่านี้ยังคงเป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญในบางพื้นที่ เช่น การดูแลสุขภาพและบริการฉุกเฉิน เนื่องจากความทนทานและมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

แพทย์ศัลยกรรมอาวุโสที่โรงพยาบาลชั้นนำแห่งหนึ่งของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า “นี่เป็นวิธีที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในการสื่อสารกับผู้คนจำนวนมากเกี่ยวกับข้อความที่ไม่ต้องการคำตอบ” โดยเสริมว่า เพจเจอร์นั้นมีการใช้กันทั่วไปโดยแพทย์และพยาบาลทั่วทั้งระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ของประเทศ

ล่าสุด ประเด็นวิทยุสื่อสารได้ครองหน้าข่าวเกือบทุกสำนัก เมื่อมีการระเบิดเพจเจอร์หลายพันเครื่องที่ใช้โดยสมาชิกกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์พร้อมกันทั่วเลบานอน จนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 9 คน และบาดเจ็บเกือบ 3,000 คน

ตามแหล่งข่าวความมั่นคงระดับสูงของเลบานอนและแหล่งข่าวอีกแห่งหนึ่งระบุว่า อุปกรณ์ระเบิดภายในเพจเจอร์นั้นถูกฝังโดย 'มอสซาด' หน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล

สำหรับเพจเจอร์นั้น NHS ของสหราชอาณาจักรใช้งานประมาณ 130,000 เครื่องในปี 2019 ซึ่งคิดเป็นมากกว่าหนึ่งในสิบของเพจเจอร์ทั่วโลก

แพทย์ที่ทำงานในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลพกเพจเจอร์เมื่อพวกเขาอยู่ในเวร แพทย์อาวุโสใน NHS กล่าวว่า เพจเจอร์หลายเครื่องยังสามารถส่งเสียงไซเรนและข้อความเสียงไปยังกลุ่ม เพื่อให้ทีมแพทย์ทั้งหมดได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับเหตุฉุกเฉินพร้อมกัน ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้ สถาบันเรือช่วยชีวิตแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ยังใช้เพจเจอร์นี้เพื่อแจ้งเตือนลูกเรือของตน

ตัวเพจเจอร์นั้น สามารถติดตามได้ยากกว่าสมาร์ตโฟน เนื่องจากขาดเทคโนโลยีการนำทางที่ทันสมัยกว่า เช่น ระบบตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ หรือ GPS สิ่งนี้ทำให้เพจเจอร์เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในหมู่อาชญากร โดยเฉพาะผู้ค้ายาเสพติดในสหรัฐฯ ในอดีต

อย่างไรก็ตาม แก๊งอาชญากรรมกำลังใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้นในปัจจุบัน เคน เกรย์ อดีตตัวแทน FBI กล่าวกับรอยเตอร์สว่า “ตอนนี้พวกอาชญากรหันไปใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งสามารถทิ้งได้ง่ายและแทนที่ด้วยโทรศัพท์เครื่องอื่นที่มีหมายเลขต่างกัน ทำให้ติดตามได้ยาก”

ทั้งนี้ ตลาดเพจเจอร์ทั่วโลก ซึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้สำคัญสำหรับบริษัทอย่าง Motorola มีมูลค่าอยู่ที่ 1,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ตามรายงานเดือนเมษายนของ Cognitive Market Research จำนวนนี้คิดเป็นเพียงเศษเล็กเศษน้อยของตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าประมาณครึ่งล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2023

แต่ความต้องการเพจเจอร์กำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความต้องการการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในภาคการดูแลสุขภาพ รายงานคาดการณ์อัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้นที่ 5.9% จากปี 2023 ถึง 2030 โดยอเมริกาเหนือและยุโรปเป็นตลาดเพจเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดสองแห่ง โดยสร้างรายได้ 528 ล้านดอลลาร์ และ 496 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top