Monday, 21 April 2025
เปรมศักดิ์เพียยุระ

'หมอเปรมศักดิ์' ค้านร่างแก้รธน. ฉบับพรรคส้ม ชี้! ไม่ควรแตะหมวด 1,2 หวั่นกระทบอำนาจ สว.

‘สว.เปรมศักดิ์’ คัดค้านร่างแก้ไข รธน. ฉบับพรรคประชาชน ชี้ไม่ควรแตะต้องหมวด 1-2 หวั่นลดอำนาจ สว. สร้างความแตกแยก มองรอ 180 วันได้ ไม่ต้องรีบร้อน

(6 ม.ค. 68) ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงข่าวแสดงจุดยืนในการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า ขอคัดค้านการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 (6) ของ สส.พรรคประชาชน เรื่องการออกเสียงรับหลักการวาระแรก และเสียงเห็นชอบในวาระสาม ซึ่งเดิมกำหนดให้ใช้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ แต่ร่างที่แก้ไขใหม่ ได้เสนอให้ตัดเงื่อนไขที่ต้องใช้เสียงเห็นร่วมด้วยของ สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ออกไป และเพิ่มเติมด้วยเสียงเห็นชอบจาก สส.ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 แทน

นพ.เปรมศักดิ์ ชี้ว่า เรื่องการตัดเงื่อนไขการนำไปออกเสียงประชามติ ก่อนการทูลเกล้าฯ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในมาตรา 256 (8) ตนเองไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขในมาตรานี้ เพราะถือเป็นการตัดทอนอำนาจของ สว. ลงอย่างชัดเจน ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เรื่องอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ที่บัญญัติให้ สว. มีหน้าที่และอำนาจกลั่นกรองกฎหมายที่ผ่านจากสภาผู้แทนราษฎร และอาจเป็นชนวนสร้างความขัดแย้งขึ้นระหว่างสองสภา ที่สำคัญรัฐธรรมนูญมาตรา 156 (15) เดิมได้บัญญัติชัดเจนให้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ต้องกระทำร่วมกันของรัฐสภา

นพ.เปรมศักดิ์ ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะต้องไปแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ เรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออำนาจศาล หรือองค์กรอิสระ ดังนั้นจึงจะต้องไป แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งบัญญัติเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ เห็นควรว่าไม่ควรไปแตะต้องเลย เพราะจะสร้างความแตกแยกขึ้นในชาติบ้านเมือง

นพ.เปรมศักดิ์ ยังระบุอีกเหตุผลคือ เมื่อตนเองลงพื้นที่ช่วงปีใหม่ พบว่า ประชาชนเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และถามว่าทำไมต้องเร่งด่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่าปัญหาปากท้อง จึงมองว่ารออีก 180 วันก็ได้ ให้กฎหมายว่าด้วยการออกเสียงประชามติแล้วเสร็จ

นพ.เปรมศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า จากที่ได้รับฟังเสียง สว. ส่วนใหญ่ก็เห็นคล้ายกับตนเอง คือไม่ควรแตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 ไม่ว่าพรรคใดจะเสนอก็ตาม เพราะไม่ได้ดูว่าพรรคการเมืองใดเสนอมาเป็นตัวตั้ง แต่หากพรรคเพื่อไทยเสนอมาในลักษณะเดียวกับพรรคประชาชน ตนเองก็ไม่เห็นด้วย

นพ.เปรมศักดิ์ ยังย้ำว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ควรรีบร้อน เพราะการกระทำอะไรที่รีบร้อน อาจจะส่งผลเสีย พร้อมมองว่า หากรอครบ 180 วัน แล้วสภาผู้แทนราษฎรยืนยันมติเดิม จะไม่ทำให้แตกหักกันระหว่าง 2 สภา เพราะส่วนตัวก็เห็นชอบกับการทำประชามติด้วยหลักเกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียว แต่มองว่า เรื่องกรอบเวลาไม่ควรเอาคำว่ากลัวจะแก้รัฐธรรมนูญไม่ทันการเลือกตั้งปี 2570 เป็นหลัก เพราะรัฐบาลนี้จะอยู่พ้นปี 2568 หรือไม่ก็ยังไม่ทราบ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top