Tuesday, 22 April 2025
เนวิน_ชิดชอบ

'ลุงเนวิน' ปลื้ม!! 'บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด' สร้างสถิติใหม่ ยอดชมในสนามสูงสุด - โกยนัดเดียวกว่า 12 ล้าน

นายเนวิน ชิดชอบ บิ๊กบอส 'ปราสาทสายฟ้า' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'ลุงเนวิน' ขอบคุณแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจและช่วยกันสร้างสถิติใหม่ ทั้งยอดจำนวนผู้ชมในสนามมากที่สุดประจำวีคที่ 5 ในเกมเปิดรังเจ๊า 'เมืองทอง ยูไนเต็ด' 1-1 รวมถึงกวาดรายได้จากนัดนี้ไปกว่า 12 ล้านบาท

โดยเกมดังกล่าว 'ปราสาทสายฟ้า' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้รายได้ไปมากกว่า 12 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดค่าบัตรผ่านประตู จำนวน 1,622,640 บาท และยอดการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก จำนวน 10,539,198 บาท รวมทั้งสิ้น 12,161,838 บาท

สงครามเงียบ ‘นายใหญ่’-‘ครูใหญ่’ ต่างฝ่ายต่าง 'ซ่อนดาบในรอยยิ้ม'

เบิร์ทเดย์ ครบ 66 ย่างปีที่ 67 ของเนวิน ชิดชอบ เมื่อ 4 ต.ค.2567 ยิ่งใหญ่อลังการตามรูปแบบฉบับของ ‘ครูใหญ่เนวิน’ และตระกูลชิดชอบ มีพิธีปะกำช้าง ผูกข้อมือเรียกขวัญโดยครูปะกำ..

ไฮไลต์ไม่ได้อยู่ที่การผูกข้อมือครูใหญ่ แต่อยู่ที่ครูใหญ่พูดเสียงดังขณะผูกข้อมือให้ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า... “ผูกให้เป็นนายกฯ ผูกให้ยิ่งใหญ่ ผูกให้แข็งแรง..”

ข่าวงานวันเกิดก๊อปปี้เดียว แต่ถูกแพร่กระจายไปนับร้อยสำนักสื่อในชั่วพริบตา..ตามมาด้วยบทวิเคราะห์ โดยมีจุดร่วมคือ..วันนี้ครูใหญ่เนวินและพรรคสีน้ำเงิน รวมทั้งสว.สีน้ำเงิน คือขั้วอำนาจหรือ 'ดุลอำนาจ' ที่ทรงพลังยิ่ง ไม่แพ้ดุลอำนาจของอีกกลุ่มที่นำโดย ‘นายใหญ่’ ทักษิณ ชินวัตร..

ปี 2551 เนวิน แยกทางกับทักษิณ ชินวัตร พร้อมวลี “มันจบแล้วครับนาย”...พ.ศ.2566 -67 ทักษิณกลับบ้านพร้อมดีลลับ พรรคเนวิน 71 เสียงต้องยกมือพรึ่บหนุนเศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร แห่งพรรคเพื่อไทยที่มี ‘นายใหญ่’ เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ..

ทั้งน.เนวินและน.หนู-อนุทิน ต่างเคยเป็นลูกน้องของนายใหญ่ แต่วันนี้ ‘อนุทิน’ ถึงเวลาสำแดงตัวตน แสดงวุฒิภาวะผู้นำภายใต้การสนับสนุนรัฐบาลแพทองธารด้วยท่วงทำนองแข็งแรง..จริงใจ ในขณะที่ครูใหญ่เนวินกำกับทั้งยุทธศาสตร์-ยุทธวิธี...รักษาสมดุลอำนาจและพร้อมรุกฆาตทางการเมืองการเลือกตั้ง เพื่อตอบโจทย์..

ให้ ‘บิ๊กหนู’ เป็นนายกรัฐมนตรี จริง ๆ ไม่ใช่ 'นายกสมาคมคนเกลียมัว' ที่อนุทินพูดเล่นมุก..

ย้อนไปก่อนหน้านี้ไม่นาน..ปรากฏการณ์กรณีตั้งคำถามเรื่อง เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่หมายถึงคาสิโนแสนล้าน /กรณีสว.สีน้ำเงินพลิก 360 องศา แก้พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ (กรณีรัฐธรรมนูญ)ต้องใช้เสียงข้างมากสองชั้น ที่โดนใจชาวประชาฝั่งอนุรักษ์นิยม..ตลอดจนจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา ประเด็นจริยธรรม..ฯลฯ

เป็นการสำแดงความเป็นตัวตนและจุดยืนของพรรคสีน้ำเงินที่ดูเหมือนจะพยายามเป็นหัวขบวนฝ่ายอนุรักษ์นิยมก้าวหน้า หัวใจสีน้ำเงิน ที่จากนี้ไปพรรคเพื่อไทยตลอดจน ‘นายใหญ่’ จะเริ่มอึดอัดมากขึ้นเป็นลำดับ...ขณะที่พรรคสีน้ำเงินเองก็รู้ว่าจะต้องโดนตอบโต้ในรูปแบบต่าง ๆ..

เพียงแต่ พ.ศ.นี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีทางเลือก จะต้องประคับประคองต่อรองกันไป..จนกว่านายกฯอิ๊งค์จะไปต่อไม่ไหว หรือฉวยใช้จังหวะที่ได้เปรียบทางการเมืองยุบสภา..เพื่อจะเป็นนายกฯอีกรอบ

ในสนามการเมืองนอกจาก ‘ครูใหญ่เนวิน’ จะมีใครสักกี่คนที่ล่วงรู้ว่า เพลานี้ ‘นายใหญ่’ ที่หลบมุมหลบฉากสปอตไลต์นัยว่าเพื่อให้นายกฯอิ๊งค์เปล่งแสงได้เต็มที่นั้น กำลังจัดทัพปรับแถวสนามเลือกตั้งใหม่ในหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคอีสาน ซึ่งเพื่อไทยได้เพียง 73 ที่นั่ง พลาดเป้าไปอย่างน้อย 30...เหตุผลหนึ่งเพราะพรรคสีน้ำเงิน 'ดูด' คนของพรรคเพื่อไทยไปจำนวนมาก แต่หลายคนสอบตก เช่น สนามศรีสะเกษ เป็นต้น ..และขณะนี้คนเหล่านั้นกำลังจะกลับบ้านมารับใช้ ‘นายใหญ่’..!!

ส่วนบนเวทีอำนาจนั้น ‘นายใหญ่’.. ‘ครูใหญ่’..ต่างฝ่ายต่างรู้...ใครกำลังเดินหมากเกมอย่างไร และต่างมีตัวแทนบนเวทีคือนายกฯกับรองนายกฯ... คือ ‘อิ๊งค์’ กับ ‘หนู’..ที่ดูเหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ จะเริ่มเห็น 'ดาบในรอยยิ้ม' ของทั้งสอง..ชัดเจนขึ้นเป็นลำดับแล้ว!?

‘ครูใหญ่’ ของจริง แต่ ‘นายใหญ่’ ก็เหนือชั้น!? หลัง ‘อนุทิน - เนวิน’ ดอดเข้า ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’

(9 ต.ค. 67) ไม่ทันจะสิ้นกระแสความจากบทวิเคราะห์ล่าสุด... “ประกาศิตสีน้ำเงิน: สงครามเงียบนายใหญ่-ครูใหญ่” บ่งชี้ทิศทางสถานการณ์ว่าจะดำเนินไปด้วยความตึงเครียด-คุมเชิง...

แต่มาวันนี้ต้องบันทึกเหตุการณ์และขีดเส้นใต้สถานการณ์ใหม่ในสาระสำคัญบางประการ...

ค่ำวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค.2567 หลังเบิร์ธเดย์สองวัน ‘เนวิน ชิดชอบ’ และ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าพบ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า วันรุ่งขึ้นรายการของ 'หมาแก่' ทางช่อง 9 อสมท.ออกมาเปิดเผย แต่อนุทินหลบฉากนักข่าว 2-3 รอบ ไม่ยอมตอบคำถาม..กระทั่งวันรุ่งขึ้นวันประชุมครม.ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องจริง

อนุทิน พยายามพูดให้เป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของ 'เบิร์ธเดย์ บอย' ตนเป็นคนประสาน พร้อมปฏิเสธว่าในอดีต ‘เนวิน’ ไม่เคยพูดกับทักษิณว่า “มันจบแล้วครับนาย”  

ประเด็นสำคัญ อนุทิน ปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่า เป็นการไปตกลงกันเรื่อง 'นายกคนละครึ่ง' กับพรรคเพื่อไทย...ยืนยันตนตั้งใจจะทำงานรับใช้สนองงงานนายกฯแพทองธารให้ดีที่สุด..!!

ประมวลและตรวจสอบข่าวเชิงลึกเชิงกว้างดูแล้ว..ต้องให้น้ำหนักว่าการพบกันครั้งนี้ 'นายใหญ่' ทักษิณเป็นฝ่ายริเริ่มอยากพบและพูดคุยกับเนวิน ชิดชอบ ที่บารมีกำลังเบ่งบานและเป็นอีกดุลอำนาจทางการเมืองที่สำคัญยิ่งในขณะนี้..

ดุลอำนาจ..ในการคุมพรรคภูมิใจไทย พรรค 70 เสียง ใหญ่อันดับสองในพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายสำคัญเช่น กรณีกาสิโน,แลนด์บริดจ์, เจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา หากภูมิใจไทยไม่เล่นด้วยก็ไปต่อไม่ได้..

ดุลอำนาจ..ในการกำหนดชี้นำทิศทางในสภาสูงหรือสภาสีน้ำเงิน..ดังกรณีร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ที่วุฒิสภาแหกโค้งไม่เห็นด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร อยู่ในขณะนี้

ต้องไม่ลืมว่า.. 'ครูใหญ่' เนวินถึงแม้ต้นทุนทางสังคมก็ไม่ดีเด่ไปกว่า 'นายใหญ่' ทักษิณ แต่การแยกทางออกมาเมื่อเดือนธ.ค.2551ก็ไม่ได้เป็นการแยกออกมาแบบไม่มีปีไม่มีขลุ่ย หากแต่ส่วนหนึ่งเป็นสัญญาณจากประมุขบ้านสี่เสาเทเวศร์ที่ส่งสัญญาณผ่านคุณพ่อชัย ชิดชอบ...และเหตุการณ์ขณะนั้นคนเสื้อแดงบางปีกกำลังปลุกกระแสเรื่อง 'รัฐไทยใหม่' อีกต่างหาก...จึงเป็นเงื่อนเหตุอย่างหนึ่งทำให้ 'เนวินและเพื่อน' แยกทาง...พร้อมคำประกาศขอทักษิณหยุดกระทำ 2 เรื่อง..ซึ่งไม่ขอฉายซ้ำตรงนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแบบเกือบ 360 องศา..พ.ศ.2566-2567 ทักษิณกลับบ้านด้วยดีลลับกับปีกที่เรียกกันว่าอนุรักษ์นิยม ไม่แปลกที่วันนี้ 'นายใหญ่' ที่ยังเหนือชั้นและทรงบารมีเหนือกว่า จะเชื้อเชิญอดีตลูกน้องเก่าที่ตัวเองรู้ขี้รู้ไส้มาพูดคุยฟื้นความหลัง มองไปข้างหน้าและตกลงผลประโยชน์เชิงอำนาจ...

จะกล่าวว่า..มันเป็น 'ดีลพิเศษ' ระหว่างนายใหญ่กับครูใหญ่..ที่มีเพียงอนุทินและอาจจะรวมถึงแพทองทองธารเท่านั้นที่ล่วงรู้ก็น่าจะพูดได้...

ไม่นาน..ดีลพิเศษที่ว่าจะค่อยๆถูกเปิดเผย...ไม่ว่าจะเป็นมุมลบหรือมุมบวก...

สรุปว่า..'ครูใหญ่' นั้นเป็นของจริงฝ่ายสีน้ำเงิน และ 'นายใหญ่' นั้นเหนือชั้น..รู้ว่าจะปิดดีลได้แบบชัดครบจบจริง คุยกับน.หนูยังไม่พอ ต้องน.เนวิน..!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top