Wednesday, 3 July 2024
เทพไทเสนพงศ์

‘เทพไท’ ชี้ พปชร.ขับ ‘ธรรมนัส’ พ้นพรรค เหมือนปล่อยเสือจากกรง ระวังถูกแว้งกัด

วันที่ 21 ม.ค. 65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า เมื่อที่ประชุมร่วมของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ กับ ส.ส.ของพรรค มีมติขับ ส.ส.กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส จำนวน 21 คนออกจากพรรค ตามความสมัครใจของกลุ่มร้อยเอกธรรมนัสแล้ว ทำให้มีการวิเคราะห์สถานการณ์ และมีการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา แม้แต่แกนนำของพรรคพลังประชารัฐ อย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็บอกว่า หลังจากขับกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ออกจากพรรคไปแล้ว จะทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลแข็งแกร่งขึ้น หรือนายไพบูลย์ นิติตะวัน บอกว่า การขับ ส.ส.กลุ่มนี้ออกจากพรรค จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ มีเอกภาพ จบปัญหาความขัดแย้งภายในอย่างสิ้นเชิง รวมถึงนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล ได้แสดงความมั่นใจว่า สภายังเดินหน้าต่อ แม้เสียงปริ่มน้ำ

ซึ่งผมจะขอวิเคราะห์ และคาดการณ์ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองต่อจากนี้ไป ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ว่าจะพบกับปัญหาอะไรบ้าง

1.) เสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนอย่างแน่นอน เพราะคะแนนเดิม ที่สนับสนุนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จำนวน 267 คน ตัดออกไป 21 เสียง เพื่อไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย มีอิสระทางการเมืองมากยิ่งขึ้น

2.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็สุ่มเสี่ยงกับสภาล่มบ่อยครั้งมากขึ้น เพราะจำนวน ส.ส. 21 คน ถ้าหากไม่เข้าร่วมประชุม ก็จะทำให้สภาล่มได้อย่างง่ายดาย เพราะโดยปกติ ส.ส. ของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลขาดหายเป็นประจำ

3.) กฎหมายสำคัญของรัฐบาล ที่จะเข้าสู่การพิจารณา ของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถ้าหากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ส. กลุ่มร้อยเอกธรรมนัส โอกาสจะไม่ผ่านมติสูงมาก เมื่อกฎหมายสำคัญของรัฐบาลถูกตีตก รัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง คือ ไม่ยุบสภา ก็ลาออก

‘เทพไท’ คาใจ ตั้งคำถาม ‘ชัชชาติ-เพื่อไทย’ ฮั้วทางการเมืองในสนามเลือกตั้ง กทม.หรือไม่

วันที่ 25 มี.ค. 65 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ข้อความว่า เมื่อตอนเย็นวันที่ 24 มีนาคม เวลา 17.30 น. ผมนั่งดูการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย จำนวน 50 คนใน 50 เขต ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ มีการเชิญว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ขึ้นปรากฏตัวบนเวที และแนะนำตัวทีละโซน เมื่อแนะนำตัวเสร็จแล้ว จะมีตัวแทนผู้สมัครส.ก.โซนละคน กล่าวคำปราศรัย โชว์วิสัยทัศน์ พูดถึงนโยบายว่าจะทำอะไรให้คนกรุงเทพบ้าง มีการประกาศนโยบายหลายอย่าง ที่คนกรุงเทพฯ ประสบอยู่ แต่พรรคเพื่อไทยส่งแคผู้สมัคร ส.ก.ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารโดยตรง การประกาศนโยบายว่า จะทำโน้นทำนี้ออกไป จะให้ใครทำครับ

‘เทพไท’ เผย ‘ลุงตู่’ ลงจากหลังเสืออย่างสง่างาม ปิดฉากทางการเมืองไทย พร้อมขึ้นหิ้งสู่ ‘องคมนตรี’

(3 ธ.ค. 66) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ‘เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง’ ดังนี้…

ลุงตู่ ลงจากหลังเสือ อย่างสง่างาม

หลังจากผมได้โพสต์เพลง ‘สดุดีลุงตู่’ ในสื่อโซเชียลช่องยูทูปได้ไม่นาน ปรากฏว่า มียอดผู้เข้าชม 1 แสนคนภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง และรวมจากสื่อทุกช่องทาง มียอดผู้เข้าชมนับล้านวิว ในเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กระแสความนิยมในตัวลุงตู่ ยังมีอยู่ไม่น้อย ไม่ได้ลดต่ำลงไปเลย และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้นำประเทศ ซึ่งมาจากการรัฐประหาร ผ่านการเลือกตั้ง เข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสุดท้ายได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เป็น ‘องคมนตรี’ ถือว่าเป็นเกียรติอันสูงสุด

การได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรี ของพลเอกประยุทธ์ในครั้งนี้ นับว่าเป็นการวางมือทางการเมืองแบบเด็ดขาด ถือได้ว่าได้ก้าวลงจากตำแหน่งแบบสง่างามหรือสมูทที่สุด

ก่อนหน้านี้ หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ผู้นำที่มาจากการรัฐประหาร เมื่อลงจากตำแหน่ง หรือที่เรียกกันว่าลงจากหลังเสือ อาจจะถูกเสือแว้งกัดได้ แต่กรณีของลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ได้ลงจากตำแหน่งอย่างมีเกียรติ และส่งไม้ต่อให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจากขั้วอำนาจใหม่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกประการ นับว่าเป็นนิมิตหมายใหม่ ที่รัฐบาลเก่ากับรัฐบาลใหม่เปลี่ยนผ่านอำนาจ ส่งมอบงานกันอย่างมีไมตรีต่อกัน ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน

การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี ในครั้งนี้ เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกแล้ว ปิดฉากทางการเมืองอย่างเป็นทางการ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ‘ขึ้นอยู่บนหิ้ง’ แล้ว คงไม่ลงมาเกลือกกลั้วกับการเมืองอีกแน่นอน

ผมขอแสดงความชื่นชมยินดีกับตำแหน่งองคมนตรีของลุงตู่อีกครั้งหนึ่ง หวังว่าท่านคงได้นำความรู้ความสามารถ ความซื่อสัตย์สุจริต และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติต่อไป

‘เทพไท’ จี้ ‘แพทองธาร’ ให้ปรับปรุงตัว ชี้!! เป็นตัวตลก อยากให้มีวุฒิการเมืองมากกว่านี้

(26 พ.ค.67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง’ ระบุว่า …

อย่าอุ๊งอิ๊ง!!!

ผมเห็นข่าวพาดหัวว่า คุณอุ๊งอิ๊งยังไม่พร้อมเป็นนายกฯ หลังจากที่นักข่าวได้ถามเรื่องศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 ส.ว. เพื่อพิจารณาการพ้นตำแหน่งรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ว่าหากผลของคำวินิจฉัยของศาลให้คุณเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป

ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งพูดกับนักข่าวเป็นความจริงหรือไม่ หรือต้องการจะเอาใจคุณเศรษฐา เพื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ในความรู้สึกของประชาชนนั้น คุณอุ๊งอิ๊งเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แสดงว่ามีความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี 100% แต่ทำไมเมื่อนักข่าวถามในตอนนี้ กลับบอกว่า ไม่พร้อมที่จะรับตำแหน่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะทางการเมืองของคุณอุ๊งอิ๊ง ที่มักจะมีปัญหาและสร้างประเด็นให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ มาโดยตลอด

ผมอยากจะยกคำพูดของคุณอุ๊งอิ๊ง บนเวทีปราศรัยหาเสียง เช่น

1.การบอกว่าให้ดูหน้าดิฉันไว้ จะไม่จับมือกับคนทำรัฐประหารจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน แต่ในวันนี้ก็ได้กระโดดข้ามขั้วจัดตั้งรัฐบาลกับกลุ่มคนที่ทำรัฐประหารเรียบร้อยแล้ว

2.การปราศรัยบนเวทีว่า จะปิดสวิตช์ ส.ว. ปิดสวิตช์ 3 ป. คนไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกินมีใช้ ไปพร้อมๆกัน แล้วตอนนี้ผลก็คือ นายกเศรษฐากำลังจะถูก 40 ส.ว.ปิดสวิตช์ การประกาศจะปิดสวิตช์ 3 ป.ก็ไม่สามารถทำได้จริง ต้องจับมือกับ 3 ป.ตั้งรัฐบาลด้วยกัน

3.การที่ประชาชนมีกินมีใช้ วันนี้ก็พบความจริงว่าประชาชนลำบากเหมือนเดิม เงินดิจิทัลวอลแล็ตคนละ 10,000 บาท ก็ไม่สามารถแจกให้กับประชาชนได้

4.การประกาศเติมเงินให้กับครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท ก็ยังไม่มีการเติมให้เลยแม้แต่ครอบครัวเดียว

5.การประกาศว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ราคาไฟฟ้า ราคาน้ำมันจะลดลง จะไม่แพงอีกต่อไป แต่วันนี้กลับเพิ่มราคาขึ้นเรื่อยๆ

ผมไม่อยากให้สังคมมองคุณอุ๋งอิ๋งขาดความน่าเชื่อถือในคำพูด เป็นตัวตลก ให้โลกโซเชียลนำคลิปการพูดหาเสียงของคุณอุ๊งอิ๊งมาล้อเล่น แชร์กันเป็นไวรัล จนถึงการนำชื่อคุณอุ๋งอิ๋งมาเป็นคำล้อเลียน คำสบถ เช่น อย่าอุ๊งอิ๊งอีกเลย อย่าทำตัวอุ๊งอิ๊ง หรืออุ๊งอิ๊งอีกแล้วนะ ฯลฯ ซึ่งสร้างความเสียหาย ทำลายภาพลักษณ์นักการเมืองรุ่นใหม่

จึงอยากแนะนำให้คุณอุ๊งอิ๊งปรับปรุงตัว และมีวุฒิภาวะทางการเมืองมากกว่านี้ ขอเตือนไว้ด้วยความหวังดี

‘เทพไท’ เผย ‘ชวน’ ขออยู่เฝ้าพรรค ขอเป็นหลักให้ปชป. ยัน!! ขอทำหน้าที่ ‘สส.’ อย่างเต็มที่ เพื่อพี่น้องประชาชน

(2 มิ.ย.67) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.เวลา15.00 น.นายชวน หลีกภัย สส. บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แวะมาเยี่ยมตนที่บ้านพักเขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เพราะท่านรู้ว่าตนไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก ยังอยู่ในระหว่างการพักโทษและติดกำไลอีเอ็มอยู่ การเดินทางออกนอกเขตควบคุม จะต้องขออนุญาตทุกครั้ง เพราะไม่ใช่นักโทษเทวดา ที่มีอภิสิทธิ์ชนเหนือนักโทษคนอื่นๆ ท่านชวนได้ให้ความเมตตาต่อตนมาก ตอนตนอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ท่านก็กรุณาไปเยี่ยมถึง2ครั้ง เมื่อออกจากเรือนจำมาพักโทษที่บ้าน ท่านก็ยังอุตส่าห์แวะมาเยี่ยมและให้กำลังใจตนอีก ต้องกราบขอบพระคุณท่านมาก

นายเทพไท กล่าว ตนได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงสถานการณ์การเมืองในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กระแสนิยมยังไม่กระเตื้องขึ้นเลย เมื่อดูจากผลโพลของสำนักต่างๆ ปรากฎว่าความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ ยังอยู่ในระดับ 3% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ถ้าเปรียบเทียบกับโอกาสการเมืองในขณะนี้ในวันที่มวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยม ผิดหวังจากพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลเดิม และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็ได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว คะแนนนิยมของมวลชนกลุ่มนี้ ก็น่าจะกลับมาพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม แต่กลับไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหมาย คนที่ผิดหวังกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม กลับไหลไปที่พรรคก้าวไกลมากกว่า 

“ผมจึงถามนายชวนว่า จะทำอย่างไรต่อไปกับบทบาทของท่านในพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งท่านก็ยืนยันว่า ยังทำหน้าที่ในฐานะสส. คนหนึ่ง จะตั้งกระทู้ถาม อภิปรายตรวจสอบรัฐบาล เป็นปากเสียงให้กับประชาชน ไม่ว่า สส. ส่วนใหญ่หรือกรรมการของพรรคประชาธิปัตย์ จะวางบทบาทของพรรคอย่างไรก็ตาม ก็เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค แต่ส่วนตัวท่านก็ยังทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยอย่างเข้มแข็งต่อไป จะไม่ลาออกจากพรรค และจะไม่ทิ้งพรรคอย่างเด็ดขาด ท่านยังแวะเยี่ยมพี่น้องประชาชนตลอดเส้นทาง ทุกครั้งที่เดินทางกลับจังหวัดตรังโดยรถยนต์ ผมได้ฝากความหวังและให้กำลังใจท่าน ขอให้ท่านได้เป็นเสาหลักของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป ไม่ว่าจะเหลือใครสักกี่คนก็ตาม ขอให้ท่านรักษาพรรคไว้ เพื่อให้คนที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ได้กลับไปฟื้นฟูพรรคอีกครั้งหนึ่ง” นายเทพไท กล่าวทิ้งท้าย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top