Thursday, 4 July 2024
เจ๋งดอกจิก

‘เจ๋ง ดอกจิก’ ปลื้ม!! ‘รทสช.’ มาแรง หลัง ปชช.พอใจนโยบาย ฉะ ‘เพื่อไทย’ อย่าหลอกใช้คนเสื้อแดงเพื่อหวังแลนด์สไลด์

(14 มี.ค. 66) นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ เปิดเผย ว่า ได้ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และจังหวัดแพร่ เพื่อช่วยว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หาเสียง ได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะที่จังหวัดอุตรดิตถ์ มีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เป็นอดีตแกนนำคนเสื้อแดงที่เคยนำมวลชนมาต่อสู้ในช่วงปี 53, 54 และ 57 พรรครวมไทยสร้างชาติเห็นความสำคัญ ให้ความไว้วางใจเลือกให้ลงในเขต 1 อุตรดิตถ์ แกนนำเสื้อแดงคนนี้เป็น 1 ในคนที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการเหลียวแลเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงในจังหวัดอุตรดิตถ์อีกหลายคน

นายยศวริศ กล่าวว่า แม้จะต้องแข่งกับพรรคการเมืองใหญ่ที่เป็นอดีต ส.ส. แต่ประชาชนเขาก็อยากได้คนใหม่ ประกอบกับนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติจับต้องได้ ประชาชนพอใจกับนโยบายพรรค พร้อมที่จะสนับสนุน ตนได้ไปอธิบายนโยบายของพรรคให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้น เช่น การเพิ่มเงินในบัตรประชารัฐ 300 เป็น 1,000 บาท การเพิ่มเงินเดือนให้ อสม. 2,000 บาท รวมทั้งเบี้ยยังชีพอายุ 60 ปีขึ้นไป มาได้เป็น 1,000 บาท พร้อมแนะนำตัวผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติทุกเวที

นายยศวริศ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของตนเน้นนำเสนอนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ประชาชนก็เข้าใจ แต่ก็ยังมีคนที่คลั่งไคล้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทยมาด่าตนว่าขายอุดมการณ์ ทำให้ทัวร์มาลงบ้าง แต่ต้องเข้าใจว่า ส.ส.เสื้อแดงในพรรคเพื่อไทยมีมากที่เข้าใจคนเสื้อแดง แต่คนประเภท เฮีย เจ๊ หรือเศรษฐีที่เข้าไปอยู่ ไม่ได้จริงใจกับคนเสื้อแดง แถมรังเกียจคนเสื้อแดง หาว่าเป็นคนชั้นล่าง เป็นไพร่สกปรก คนเหล่านี้ไม่เคยให้เกียรติคนเสื้อแดง ไปหาก็ไม่ให้การต้อนรับ

“ที่ผมพูดแบบนี้ เพราะพรรคการเมืองนี้จบด้วยวอร์รูมประชุมกันในห้องแอร์ ส.ส.ไม่มีปากมีเสียง คนเสื้อแดงก็จะถูกหลอกมาใช้งานอีกครั้งช่วงเลือกตั้ง หลังเลือกตั้งเสร็จก็คงถูกทิ้ง เพราะการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย ตัดสินใจคนในห้องแอร์ คนพวกนี้รังเกียจคนเสื้อแดง ขยะแขยงคนเสื้อแดง ถึงเวลาจะใช้งาน ทำทีเอ็นดูคนเสื้อแดงเหลือเกิน ดูจากการปราศรัย มาพบกับคนเสื้อแดง ดูแววตาก็รู้ว่าไม่จริงใจ ยกเว้น นส.ส.เสื้อแดง คนกลุ่มนี้ยังจริงใจอยู่ การเลือกตั้งครั้งนี้ คนเสื้อแดงก็คงถูกหลอกใช้ ถูกหลอกแลนด์สไลด์เหมือนเดิม นี่คือแผนเอาคนเสื้อแดงมาหลอกคนเสื้อแดงด้วยกัน แต่สุดท้ายการตัดสินใจทุกเรื่องอยู่ที่ เจ๊ จ. เจ๊ ด. เฮียนั่น เฮียนี่” นายยศวริศ กล่าว

‘รมว.พีระพันธุ์’ เกลี้ยกล่อม ‘เจ๋ง ดอกจิก’ มอบตัว หลังมีชื่อเอี่ยวก๊วนศรีสุวรรณ รีดเงินอธิบดีกรมการข้าว

(26 ม.ค. 67) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. นำโดย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผอ.ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ นำหมายค้นเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายจำนวน 3 จุด ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการนักเคลื่อนไหวหรือนักร้องเรียนข่มขู่เรียกเงินเจ้าหน้าที่รัฐแลกกับการไม่ร้องเรียนหรือกลั่นแกล้งให้ถูกตรวจสอบ

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ว่าได้ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน หรือ นักเคลื่อนไหวชื่อดัง พร้อมด้วยนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ และเป็นหนึ่งในคณะทำงานเขตราชการที่ 11 ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี พร้อม น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ร่วมกันข่มขู่เรียกเงินจำนวน 3 ล้านบาท ก่อนจะมีการเจรจาต่อรองเหลือเพียง 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการปลูกข้าว และโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว โดยอ้างว่าพบข้อพิรุธที่ส่อไปในทางทุจริต

แต่ด้วยความที่ นายณัฏฐกิตติ์ มั่นใจว่าที่ผ่านมาตนเองนั้นบริหารงานหรือปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 รายกล่าวอ้างเพื่อข่มขู่ จึงมองว่าการถูกกระทำเช่นนี้ไม่เป็นธรรมแก่ตนเอง แต่ด้วยความที่เกรงว่าหากถูกร้องเรียนโจมตีบ่อยครั้งเข้าจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงยอมจ่ายเงินให้ครั้งแรกก่อนเป็นจำนวน 1.4 แสนบาท ก่อนแอบถ่ายคลิปวิดีโอตอนส่งมอบเงินเก็บไว้เป็นหลักฐาน 

จากนั้นจึงนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ก่อนมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงจนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 รายมีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางออกหมายจับ นายศรีสุวรรณ และ น.ส.พิมณัฏฐา ในข้อความผิดฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด พร้อมออกหมายจับนายยศวริศ ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ และ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ก่อนวางแผนให้ผู้เสียหายทำการนัดหมายส่งมอบเงินงวดต่อมาอีก 5 แสนบาท ไปส่งมอบให้ จึงซ้อนแผนเข้าจับกุม

โดยเป้าหมายสำคัญจุดแรกเป็นบ้านเลขที่ 51/119-121 ม.9 ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านพฤกษา 17 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายศรีสุวรรณ หลังจากผู้เสียหายส่งคนนำเงิน 5 แสนบาท ไปส่งมอบให้กับภรรยาของนายศรีสุวรรณ กระทั่งเมื่อเห็นว่ามีการหยิบซองเงินเข้าไปภายในบ้านจริง จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ระหว่างนั้นนายศรีสุวรรณเกิดไหวตัวพยายามวิ่งนำซองเงินไปโยนทิ้งบริเวณข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่ติดตามไปตรวจยึดกลับคืนมาได้ ก่อนแสดงหมายจับให้เจ้าตัวรับทราบจากนั้นจึงทำการควบคุมตัวพร้อมพาตรวจค้นภายในบ้านพัก เพื่อค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติมทางคดี นอกจากนี้ยังได้เตรียมเชิญตัวภรรยาของนายศรีสุวรรณ ไปทำการสอบปากคำเพื่อตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่

ภายหลังการจับกุมตัวนายศรีสุวรรณได้ไม่นาน ทางด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มายัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อประสานติดต่อจะพา นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก กับ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ผู้ต้องหาอีก 2 ราย เข้ามอบตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจานัดหมายสถานที่รับส่งมอบตัว เบื้องต้นคาดว่าทั้งสองจะเข้ามอบตัวที่ สน.นางเลิ้ง ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะมีการแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้งภายหลังภารกิจเสร็จสิ้น

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล และสน.ดุสิต ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยและเชิญ นายยศวริศ หรือเจ๋ง ดอกจิก ขึ้นรถเพื่อไปที่สน.ดุสิต ทำการสอบสวนตามขั้นตอนและกระบวนการต่อไป 

ด้านนายยศวริศ กล่าวว่า “ยังไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้เรื่องอะไร เพิ่งรู้เรื่องจากตำรวจ ผมประสานให้นายศรีสุวรรณเฉย ๆ ซึ่งเรื่องนี้ต้องคุยกันไม่เป็นไร ยืนยันว่าชี้แจงได้ ขอย้ำว่าชี้แจงได้ไม่มีปัญหา”

ทั้งนี้ มีรายงานว่าบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลมีเจ้าหน้าที่สอบสวนกลางได้มาเตรียมพร้อมบริเวณห้องปฏิบัติการสื่อมวลชน 1 และด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ตั้งแต่ช่วงเที่ยง หลังมีรายการว่า นายยศวริศ เดินทางเข้ามาที่ตึกบัญชาการ 1 ตั้งแต่ช่วงสายของวัน เพื่อพบกับนายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

‘รทสช.’ ยัน!! ‘เจ๋ง ดอกจิก’ หลุดคณะทำงานพรรคตั้งแต่ ธันวา 66 ลั่น!! จุดยืนพรรคชัดเจน ‘ทำผิด-หลักฐานชัด’ ขับพ้นสมาชิกลูกเดียว

(27 ม.ค. 67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังตำรวจรวบตัว นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ สมาชิกพรรค รทสช. ภายในทำเนียบรัฐบาล หลังมีการกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาทว่า…

กรณีของนายยศวริศ ตามที่ปรากฏบนสื่อต่างๆ ขอชี้แจงว่า…

1.) พรรคฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหา และขอสนับสนุนให้พิจารณาไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเจ้าตัวก็มีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง 

2.) กรณีที่มีคำสั่งแต่งตั้ง นายยศวริศ หรือ ‘คุณเจ๋ง’ เป็นคณะทำงานนั้น ได้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่เดือน ธ.ค. 66 แล้ว ส่วนของ น.ส.พิมณัฏฐา ก็ถูกยกเลิกทันทีที่ทราบข่าว 

3.) กรณีที่สมาชิกคนไหนไปกระทำความผิด มีหลักฐานชัดเจน กรรมการบริหารฯ จะพิจารณาขับออกจากสมาชิกตามข้อบังคับ ซึ่งเคสนี้จะมีการนำเข้าเพื่อพิจารณาในการประชุมกรรมการบริหารในรอบต่อไป

‘ศรีสุวรรณ’ ยื่น 4 แสนประกันตัวเอง พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ชี้!! ถูกจ้องหนนี้ ‘ธรรมดา’ เพราะผู้เสียประโยชน์หวังเห็นตนล้มสักที

(27 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสอบปากคำนายศรีสุวรรณ จรรยา นานเกือบ 9 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำในประเด็นต่างๆ มีการให้นายศรีสุวรรณ ชี้แจงภาพบริเวณจุดทิ้งถุงเงิน, โฉนดที่ดิน 5 แปลง เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงของกลางที่ตรวจยึดมาได้จากที่บ้าน ก่อนแจ้งข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐฯ เรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดฯ ตามหมายจับ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ก่อนจะยื่นเงินสด 4 แสนบาทเพื่อขอประกันตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านและอนุญาตให้ประกันตัว

นาศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ หลังได้รับการประกันตัว โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกรับเงินจากอธิบดีกรมการข้าว ส่วนที่โยนเงินจำนวน 500,000 บาท ทิ้งที่ข้างบ้าน เนื่องมาจาก ตนเองเห็นว่ามีใครก็ไม่รู้นำเงินมาแขวนไว้ ภรรยาตนเองซึ่งไม่รู้เรื่อง ได้นำเงินดังกล่าวมาให้ตนเองดู เมื่อเห็นว่าไม่ใช่เงินของตัวเองและเข้าข่ายน่าสงสัย จึงนำไปทิ้งเพื่อปัดให้พ้นตัวไปก่อน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกใจแต่ก็ไม่ทำให้เสียขวัญ และยังมีกำลังใจที่ดีอยู่ การที่ตนเองถูกดำเนินคดีครั้งนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา การทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตก็เหมือนการเดินฝ่าฝน ต้องเปียกเป็นธรรมดา แน่นอนว่าต้องมีไปเหยียบตาปลาผู้มีอำนาจ โดยคดีในวันนี้เชื่อว่ามาจากผู้ที่เสียผลประโยชน์ หนึ่งในนั้นคือผู้เสียหายในคดีนี้ ที่ตนเองกำลัง ได้แจ้งสื่อมวลชนว่ากำลังตรวจสอบอย่างเข้มข้น ทำให้เจ้าตัวอาจเกิดความหวาดวิตก พยายามหาหนทางที่จะล้มตนเองให้ได้ ซึ่งตนเองยืนยันว่ามีข้อมูลพยานหลักฐานทุกอย่าง ที่จะสามารถยืนยันหักล้างทุกอย่างในคดี

นายศรีสุวรรณ ยังบอกอีกว่า การทำให้ศรีสุวรรณล้มลงได้ก็ทำให้คนเหล่านี้ผยองขึ้น ตนเองทำใจได้มาโดยตลอด ครั้งนี้ตนเองพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติ แต่ก็จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบข้อร้องเรียนการทุจริตของผู้มีอิทธิพลต่อไป ทั้งการฟ้องร้องคดีความให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนให้ได้รับความเป็นธรรม การจับผิดนักการเมือง ข้าราชการที่ทุจริตคอร์รัปชัน

ขณะที่ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ก็ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามว่าได้เรียกรับเงินจริงหรือไม่ เจ๋งตอบเพียงสั้นๆว่า “ไม่มีๆ” พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ โดยเจ้าตัวได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 แสนบาทเพื่อขอประกันตัวเช่นกัน

วิชามาร!! ใช้คดี ‘ศรีสุวรรณ’ ทำลาย ‘พีระพันธุ์’ ขัดขวาง ‘รื้อโครงสร้างพลังงาน-แคนดิเดตนายกฯ’

จากกรณี ตำรวจ บก.ปปป. นำกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. บุกจับกุมนายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน นักเคลื่อนไหวชื่อดังที่บ้านในจังหวัดปทุมธานี พร้อมของกลางเงินสด 5 แสนบาท และจับกุมนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ประธานกลุ่มรวมใจรักชาติ กับ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังทั้งหมดมีพฤติกรรมร่วมกัน ข่มขู่เรียกเงิน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว 1.5 ล้านบาท แลกกับการยุติเรื่องร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนผลิตด้านการปลูกข้าว และปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว หลังอ้างว่าพบพิรุธในทางทุจริต ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุด วันนี้ (28 ม.ค. 67) ผู้ใช้ติ๊กต็อกช่องหนึ่ง ชื่อ ‘@dr.brahm_isara_inya’ หรือ ‘ดร.พราหมณ์อิศรา อินทร์ยา’ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า…

“ผมไม่เคยนึกชื่นชม ชื่นชอบ คุณศรีสุวรรณ จรรยา เป็นการส่วนตัวเลยนะครับ แอบยิ้ม แอบสะใจด้วยซ้ำ พอแกโดนจับคดีรีดไถเองเสียบ้าง แต่ว่าคดีนี้ มีบางประเด็นที่อยากจะชี้ชวนให้พี่น้องประชาชนมาช่วยกันคิดครับ

เพราะว่าคดีนี้ มีผู้ต้องหาร่วมอีก 2 คนคือ คุณเจ๋ง ดอกจิก กับ อดีตผู้สมัคร สส.หญิงของพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ทั้ง 3 คนนี้ จะผิด จะถูกอย่างไร ก็ให้ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรมนะครับ แต่ถ้าพี่น้องทุกท่าน สังเกตดีๆ จะเห็นว่าคดีนี้มีความพยายามที่จะขยายผลความเสียหายให้ลามไปจนถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ และให้ลุกลามไปถึง ท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์ เลยด้วยซ้ำ

ตัวผมนั้นไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้มีส่วนได้ ส่วนเสียอะไรกับพรรคเค้าหรอกนะครับ แต่มองด้วยใจที่เป็นธรรม ผมเห็นว่าท่านรัฐมนตรีพีระพันธุ์ เป็นคนเก่ง เป็นคนดีคนหนึ่งเลย เรื่องคดีโฮปเวลล์ เรื่องเหมืองทองอัครา ท่านก็ช่วยสู้คดีให้พวกเราทุกคนจนชนะนะครับ

ช่วยทำให้ประเทศไทยประหยัดเงิน ไม่ต้องเสียค่าโง่ได้หลายหมื่นล้านบาท คุ้มค่าตัวจริงๆ จ้างเงินเดือน เดือนละแสนกว่าบาท แต่หาเงินให้ประเทศชาติได้แสนล้านบาท

แถมพอมาอยู่กระทรวงพลังงาน หากพี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวก็จะรู้ว่าราคาพลังงานของบ้านเรานั้น ค่าวัตถุดิบ ค่าดําเนินการ ค่าภาษี ค่านั่น ค่านี่บวกเข้ามาไม่รู้กี่สเต็ปครับ สุดท้ายหักภาระให้พวกเราเป็นคนจ่าย ให้ประชาชนเป็นฝ่ายแบกรับอยู่ข้างเดียว แบบนี้มันไม่แฟร์ครับ

แต่พอท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์ เข้ามาบริหาร ท่านก็บอกว่าโครงสร้างแบบนี้มันแก้ไม่ได้แล้ว ต้อง ‘รื้อทําลาย สร้างใหม่’ อย่างเดียว

สิ่งนี้ส่งผลสั่นสะเทือนมหาศาลนะครับ หากท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์ ทําสําเร็จ พวกเราประชาชนได้ประโยชน์แน่นอน เพราะค่าพลังงานจะถูกลง แต่คนที่เขากุมอํานาจในโครงสร้างนี้อยู่ ผู้ที่มีอํานาจเหนือกว่าอํานาจรัฐไทย เขาจะเป็นฝ่ายเสียหาย เขาจะเป็นฝ่ายที่เสียผลประโยชน์

แล้วแบบนี้… จะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะเริ่มกระบวนการในการทําลายท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์ก่อน โดยขยายผลจากคดีของคุณศรีสุวรรณนี่แหละ”

ดร.พราหมณ์อิศรา ยังกล่าวต่ออีกว่า อีกประเด็นหนึ่งผู้ที่ติดตามข่าวก็จะรู้ว่านักวิเคราะห์มากมาย ฟันธงเลยว่า ถ้ารัฐบาลคุณเศรษฐาไปไม่รอด ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง มีการพลิกผันท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์นี่แหละ จะเป็นคนหนึ่งที่อาจมีสิทธิ์ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

“นี่ไม่ได้กล่าวหาใคร ไม่ได้ว่าคุณเศรษฐาหรือใครนะ แต่ธรรมชาติของนักการเมือง มันต้องอิจฉาริษยา ชิ่งเด่นกันอยู่แล้ว

มีความเป็นไปได้ไหม ที่จะดิสเครดิตทําลายภาพลักษณ์ของท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์ โดยการใช้คดีของคุณศรีสุวรรณเป็นเครื่องมือ

และก็อย่างที่บอกว่าผมนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคเขาหรอก แต่มองด้วยใจเป็นธรรมครับ” ดร.พราหมณ์อิศรา กล่าว

นอกจากนี้ ดร.พราหมณ์อิศรา ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ท่านรัฐมนตรี พีระพันธุ์ กําลังทํางานหนัก ท่านกําลังสู้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ประเทศชาติบ้านเมืองของเรา และผลงานของท่านก็พิสูจน์ว่า ท่านลุยงานไหน งานนั้นก็สําเร็จ…

เพราะฉะนั้น มีความเป็นไปได้นะครับ ที่คนไม่หวังดีจะชิงลงมือทําลายท่านเสียก่อน ก่อนที่ท่านจะทําอะไรสําเร็จขึ้นมาได้

ผมอยากเรียกร้องแก่พี่น้องประชาชนครับ อย่าเพิ่งไปเชื่อกระแสข่าวลือ อย่าเพิ่งไปเชื่อสิ่งที่เขาปั่น เพื่อทําลายภาพลักษณ์ เพื่อทําลายภาพพจน์ของคนดีๆ เลยครับ เสียดายของครับ คนดีมีฝีมือควรถูกเก็บไว้ใช้งาน เก็บไว้ทําประโยชน์ให้บ้านเมืองดีกว่าครับ”

‘เอกนัฏ’ ยัน!! ไม่ปกป้อง ‘เจ๋งดอกจิก-พิมณัฏฐา’ เตรียมเสนอ ‘ขับพ้นพรรค-ถอดชื่อ’ จากทีมทำงาน

(29 ม.ค.67) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) ดังนี้...

กรณีนายเจ๋งและนางสาวพิมณัฏฐา

พรรคและผู้บริหารพรรคยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เต็มที่เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ผมได้ให้นายทะเบียนตรวจสอบสถานะความเป็นสมาชิก 1) นายยศวริศ (เจ๋ง ดอกจิก) ไม่ปรากฏว่าเป็นสมาชิกพรรค 2) นางสาวพิมณัฏฐา ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 2566 และชำระค่าสมาชิกในวันเดียวกัน

การประชุมกรรมการบริหารพรรคและประชุม สส. พรรคในวันพรุ่งนี้ผมจะเสนอให้…

(1) ตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อเสนอกรรมการบริหารพรรคให้มีมติขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคของ นางสาวพิมณัฏฐา และทุกคนที่เกี่ยวข้อง กรณีกระทำผิดวินัยหรือจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง ตามข้อบังคับพรรค

(2) ให้รัฐมนตรี ประธานกรรมาธิการ กรรมาธิการ สส. ตรวจสอบและรายงานการตั้งคณะทำงาน ที่ปรึกษา ผู้ช่วย หากยังมีนายยศวริศ (เจ๋ง ดอกจิก) หรือ นางสาวพิมณัฏฐา อยู่ ก็จะประสานขอให้ถอนชื่อออกโดยทันทีเพื่อไม่ให้นำไปแอบอ้าง

ทั้งนี้พรรคฯ จะไม่ปกป้องการกระทำความผิดของสมาชิก และยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อมูล ผลสอบ หลักฐานต่างๆ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป

‘ติ๊กต็อกดัง’ มั่นใจ!! ‘พีระพันธุ์’ แม่นกฎหมาย-ข้อมูลเป๊ะ เชื่อ!! ไม่เข้าข้าง-ช่วยเหลือ ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ให้พ้นผิด

เมื่อวานนี้ (29 ม.ค. 67) ผู้ใช้งานบัญชีติ๊กต็อก ‘sparkupdate’ ได้โพสต์คลิปเกี่ยวกับกรณีตำรวจควบคุมตัวนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายในทำเนียบรัฐบาล หลังมีการกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว จำนวน 3 ล้านบาท ว่า…

“มีประเด็นใหม่ที่น่าสนใจ โดยที่ปรึกษากฎหมายของทางอธิบดีกรมการข้าว ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า…พรรครวมไทยสร้างชาติ ‘อาจจะ’ ช่วยเหลือเจ๋ง ดอกจิก เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ (ข่มขู่ รีดเงิน) หากยังมีตำแหน่งทางราชการ หรือมีการแต่งตั้งทางราชการ ก็จะต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ซึ่งถือเป็นโทษที่หนักมาก แต่หากได้มีการปลดหรือลงจากตำแหน่งมาก่อนแล้ว กลายเป็นบุคคลธรรมดา จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี”

ผู้ใช้ติ๊กต็อกรายนี้ ยังระบุต่อว่า “มีหลายคนตั้งคำถาม ตั้งข้อสงสัยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเข้ามาช่วยเหลือกันเองหรือเปล่า ซึ่งทางเรามั่นใจนะว่า ‘ไม่’ เพราะคนที่ออกมาให้ข่าวว่าตำแหน่งของ เจ๋ง ดอกจิก หลุดไปตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้วคือนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งเรามั่นใจมากว่าทางคุณพีระพันธุ์แม่นยำเรื่องกฎหมาย เรื่องเอกสาร เรื่องความชัดเจน เราเชื่อว่าจะไม่มีการปกป้องคนผิด เพราะก็เคยเป็นผู้พิพากษามาก่อนด้วย”

“ส่วนอีกประเด็นก็คือคุณขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้ออกมาเปิดโอกาสให้ร้องเรียนได้ หากใครโดนคนของพรรคแอบอ้างหรือทุจริต ก็สามารถส่งข้อความร้องทุกข์ได้ เป็นการถือโอกาสนี้เพื่อสะสาง กวาดล้างให้สะอาด ส่วนใครที่แต่งตั้งตำแหน่งอะไรไว้ ก็จะให้ทำรายงานและส่งกลับมาให้พรรคดูอีกทีหนึ่ง ซึ่งนี่ก็เป็นท่าทีของพรรครวมไทยสร้างชาติหลังเกิดกรณีของเจ๋งดอกจิก”

‘ดร.หิมาลัย’ ยัน!! รทสช. ไม่เกี่ยวข้องพฤติกรรม ‘เจ๋ง ดอกจิก’ ชี้!! ‘ถูก-ผิด’ ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

(9 ก.พ. 67) ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ TOP NEW Talk กรณีนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก เข้าไปพัวพันกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคลของคุณเจ๋ง ดอกจิก ซึ่งทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่าตนเป็นคนชักชวนเจ๋ง ดอกจิก เข้าพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้หากคนที่ติดตามการเมืองมาตลอด จะทราบว่า เจ๋ง ดอกจิก อยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง และเมื่อช่วงใกล้จะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทางเจ๋ง ดอกจิก ได้เข้ามาที่พรรคฯ เพื่อขอร่วมงานทางการเมืองด้วยกันกับทางพรรค โดยได้ยกประเด็นเรื่องการสลายสีเสื้อเพื่อความสมานฉันท์ของคนในชาติ ซึ่งตรงกับแนวทางนโยบายของพรรคพอดี

ดร.หิมาลัย ย้ำว่า กรณีที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคนของพรรครวมไทยสร้างชาติเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพรรค เนื่องจากเป็นการกระทำส่วนตัว และที่สำคัญคือพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ท่านพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคฯ ได้เน้นย้ำเสมอถึงความซื่อสัตย์สุจริต แม้แต่โครงการต่าง ๆ ที่สส.ของพรรคต้องการผลักดัน ถ้าโครงการนั้นเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ท่านก็จะให้ดำเนินการตามระเบียบของราชการ หากกฎเกณฑ์เป็นอย่างไรก็ให้ทำตามนั้น

ส่วนเรื่องที่มีการกล่าวหาว่า ท่านพีระพันธุ์ ปลด เจ๋ง ดอกจิก จากคณะทำงาน เพื่อช่วยเหลือให้ได้รับโทษน้อยลงนั้น ดร.หิมาลัย ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะท่านพีระพันธุ์ เป็นคนทำงานเที่ยงตรงและโปร่งใส แต่ทางคุณเจ๋งเอง ที่ได้มาขอลาออกก่อนหน้านี้ เพราะไม่สะดวกที่จะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ต่างจังหวัด พร้อมทั้งได้แนะนำให้แต่งตั้งพิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือคุณการ์ตูน แทนตนเอง โดยให้เหตุผลว่าเคยเป็นผู้สมัครสส.ของพรรคมาก่อน อย่างไรก็ดี หนังสือแต่งตั้งที่ท่านพีระพันธุ์ ลงนามไปนั้น เป็นเพียงร่างคำสั่งแต่งตั้งเท่านั้น และคำสั่งนั้นก็ยังอยู่บนโต๊ะเจ้าหน้าที่ ยังไม่ได้ประกาศออกไป เพราะท่านลงนามในช่วงเที่ยง ๆ จากนั้นเวลาประมาณบ่ายสองโมง ก็มีข่าวเรื่องตบทรัพย์ออกมา จึงมีการระงับร่างคำสั่งนั้นไว้ก่อน

“การที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าท่านพีระพันธุ์ ปลดคุณเจ๋ง ดอกจิก ออกจากคณะทำงาน เพื่อช่วยให้รับโทษน้อยลง เรื่องนี้ผมยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะจากการทำงานกับท่านพีระพันธุ์ มาหลายปี ผมบอกได้เลยว่าท่านเป็นคนทำงานตรงไปตรงมา เปรียบดังไม้บรรทัดก็ว่าได้ ทุกอย่างยึดตามหลักเกณฑ์ตามตัวอักษรเป๊ะ ๆ เพราะฉะนั้นหากคุณเจ๋ง ทำผิดจริง ท่านไม่มีทางช่วยคนผิดอย่างแน่นอน และในวันที่เกิดเรื่อง ทางคุณเจ๋งจะเข้ามาลา แต่ท่านก็ไม่ให้เข้าห้องทำงาน แต่ท่านออกมาพบข้างนอก พร้อมกับบอกให้ไปต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย และอธิบายให้สังคมฟัง จากนั้นก็ได้ให้เชิญทั้ง 2 ท่านนี้ออกจากที่ทำงานของท่านทันที” 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top