Wednesday, 14 May 2025
เจนภพจบกระบวนวรรณ

‘เจนภพ’ สุดทน! รับไม่ได้กรณีโฆษณาลาซาด้า ชี้ ถ้าเป็นสมัยเก่า โดนกุดหัว 7 ชั่วโคตรไปแล้ว

‘เจนภพ จบกระบวนวรรณ’ รับไม่ได้กรณีโฆษณาลาซาด้า เผย ทำน้ำตาตกใน ไม่เคยพบไม่เคยเห็นแบบนี้ ถ้าเป็นสมัยเก่า โดนกุดหัวไปแล้วพร้อมระบุเขียนเพลงตั้งไว้สองชื่อ "ช้อปปี้ขยี้ใจ" กับ "เสร็จลาซาด้า" แต่สุดท้ายยอมทิ้ง แต่งเพลงใหม่

วันนี้ (9 พ.ค.) จากกรณี นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอล ได้ทำแคมเปญโฆษณา Lazada 5.5 ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่พบว่ามีการแต่งกายล้อเลียนบุคคลสำคัญที่คนไทยเคารพ และล้อเลียนบุคคลทุพพลภาพหรือผู้พิการนั้น 

ล่าสุด เจนภพ จบกระบวนวรรณ นักแต่งเพลงและนักวิชาการเพลงไทยลูกทุ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ปรากฎการณ์ ลาซาด้า ทำให้น้ำตาฅนสูงอายุอย่างผมต้องไหลพรากโดยไม่รู้ตัว เพราะตั้งแต่เกิดมาจนอายุใกล้ ๗๐ แล้ว ผมเผ้าหงอกเกือบหมดทั้งหัวแล้ว ไม่เคยพบไม่เคยเจอไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อน

การกระทำเยี่ยงนี้ ไม่น่าจะเป็นการกระทำของ " ฅน " เลย ถ้าเป็นเพียง ไส้เดือน กิ้งกือ ก็แล้วไป แต่นี่เป็นความคิดและการกระทำของ " ฅน " ซ้ำยังเป็น " ฅนไทย " ด้วย ซึ่งปกติธรรมเนียมนิยมและวัฒนธรรมของ " ฅนไทย " เรื่องการล้อเลียนเหยียดหยามอย่างนี้เขาจะไม่ทำกัน เพิ่งจะมียุคนี้สมัยนี้นี่แหละ สมัยที่วัฒนธรรมตะวันตกไหลบ่าเข้ามาท่วมท้นสังคมไทยจนสำลักอิสระเสรีสิทธิมนุษยชนประชาธิปไตยโดยไม่รับผิดชอบต่อผู้อื่น กระทบกระเทือนผู้อื่น ซึ่งผมก็งงว่ามันเป็น สิทธิมนุษยชน - ประชาธิปไตย ตรงไหน?

การกระทำอย่างนี้ มิได้สร้างความเดือดร้อนให้ตัวเองเท่านั้น แต่ยังสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจกินไม่ได้นอนไม่หลับให้โคตรเหง้าสักหลาดของตัวเองด้วย เพราะญาติโกโหติกาท่านอื่นๆ เขาไม่ได้รู้เห็นดีด้วย เป็นสมัยเก่า โดนกุดหัว ๗ ชั่วโคตรไปแล้ว เป็นพระมหากรุณาธิคุณแค่ไหนที่เบื้องพระยุคลบาทไม่คิดเอาความ

กระนั้นก็เถอะ " ฅนไทย " ผู้จงรักภักดีที่มีท่วมแผ่นดิน ใฅรเขาจะยอม 

แรงกระเพื่อมของ ลาซาด้า ครั้งนี้ ไม่ได้เกิดกับ ไส้เดือน กิ้งกือ ไม่กี่ตัว แต่มันส่งผลกระเทือนมากมายไปยัง ทุกฅนที่หวังพึ่งพาแอพนี้ในการขายของซื้อของฝากของทำธุรกิจกับแอพนี้ ฅนซื้อน่ะไม่เท่าไหร่ ซื้อที่อื่นก็ได้ แต่ ฅนขาย นี่สิ ใฅรหน้าไหนจะรับผิดชอบความเสียหายที่เขาได้รับไปด้วย จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้กับใฅร? กับ ลาซาด้า กับ เอเจนซี่ต้นเรื่อง หรือกับ ไส้เดือน กิ้งกือ ตัวนั้น 

เรื่องหยามหยาบจาบจ้วงอย่างนี้ ถึงเวลาที่ " ฅนไทย " ทั้งมวล สำคัญที่สุดคือ รัฐบาล จะเพิกเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ได้แล้วครับ ที่จริงมันควรมีปฏิกิริยาอย่างจริงจังมานานแล้ว แต่ก็ทำตัวอยู่เหนือปัญหามาตลอด ไม่คิดจะแก้ไขสักที อย่าลืมนะครับว่าไม่มียุคใดสมัยใดที่ สถาบันพระมหากษัตริย์ จะถูกกระทำย่ำยีอย่างหนักหน่วงมากมายเท่ายุคนี้ !!!!!

มีหลายฅนแสดงอาการโกรธเคืองอย่างรุนแรง และ บอกว่า พวกไส้เดือนกิ้งกือ เหล่านี้ แค่ด่าทอมัน มันไม่รู้สึกรู้สาหรอก ต้องไปลากมันออกมากระทืบให้ตายคาตีน ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยการใช้ความรุนแรงขนาดนั้น แต่ ฅนประเภทนี้ ถ้าไม่มีกฎบทกฎหมายอะไรจัดการได้ มันก็จะเป็นไฟสุมขอนสร้างความเดือดดาลสร้างความแตกแยกรุนแรงมากขึ้นๆ จนที่สุดก็ปะทุ ได้ 

บางท่านบอกกับผมว่า เห็นเป็น ไส้เดือน กิ้งกือ ก็ยังสูงเกินไป เพราะ ไส้เดือน กิ้งกือ จริงๆ ก็มีประโยชน์ มีคุณค่า ควรจะเห็นว่าเป็นเพียง เห็บ เหา เท่านั้น ซึ่งไร้ค่าไร้ประโยชน์ควรกำจัดเสียให้สิ้นซากสถานเดียว

‘อ.เจนภพ’ ปลื้มใจ!! ยูเนสโก ยก ‘สุพรรณฯ’ เป็น ‘เมืองสร้างสรรค์ทางดนตรี’ เผย ดีใจที่ได้ช่วยขับเคลื่อนศิลปะเชิงวิชาการ ดัน ‘เพลงลูกทุ่งไทย’ สู่สากล

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 66 นายเจนภพ จบกระบวนวรรณ นักจดหมายเหตุและนักวิชาการเพลงลูกทุ่งไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

“เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ‘ยูเนสโก’ ประกาศผลรับรองเมืองสมาชิกเครือข่ายสร้างสรรค์จาก 55 เมืองทั่วโลก ให้ ‘สุพรรณบุรี’ เป็น ‘เมืองสร้างสรรค์ทางดนตรี’

ในฐานะที่เป็นเข็มหมุดเล็กๆ เล่มหนึ่งที่บุกเบิกริเริ่มในเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ ‘เจนภพ จบกระบวนวรรณ’ ประกาศให้ ‘เมืองสุพรรณบุรี’ เป็น ‘เมืองหลวงของเพลงลูกทุ่งไทย’ มาตั้งหลายสิบปีแล้ว

ผมดีใจ ปลื้มใจ หายเหนื่อยไม่น้อย เมื่อได้ยินข่าวนี้ ต่อไปภายหน้าจะเป็นไปเช่นไร คงต้องเป็นภาระหน้าที่ของคนรุ่นใหม่ๆ แล้วกระมัง คนอย่างเจนภพ บุกเบิกมาได้เท่านี้ก็น่าดีใจแล้ว…”

“เมื่อราวๆ วันที่ 3-5 สิงหาคม พ.ศ. 2559 ผมไม่แน่ใจว่าจะยังมีใครจำได้บ้างหรือเปล่า ว่ามีงาน ‘วิถีคนเมืองเหน่อ’ จัดขึ้นที่โรงละครแห่งชาติภาคตะวันตก จ.สุพรรณบุรี และงานนี้นี่เองที่ ผม - เจนภพ จบกระบวนวรรณ ได้นำเสนอ ‘มหกรรมลูกทุ่งเลือดสุพรรณ มหัศจรรย์คนเสียงเหน่อ’ ผมกราบเรียนเชิญ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ขวัญจิต ศรีประจันต์, ศรเพชร ศรสุพรรณ, สุรชาติ สมบัติเจริญ, สลักจิต ดวงจันทร์, เสมา ทองคำ, เด่นชัย สายสุพรรณ, อัมพร แหวนเพชร, โสนน้อย เมืองสุพรรณ, นงเยาว์ ดาวสุพรรณ, แสงจันทร์ ดาวลอย, นพพร เมืองสุพรรณ, จ่อย ไมค์ทองคำ, แพรวา พัชรี, ศรศรี คีรีพันธุ์ ฯลฯ ขึ้นเวทีแสดงศักยภาพของนักร้องเมืองสุพรรณอย่างเต็มที่

แต่ครั้งกระนั้น ยังเป็นเรื่องของการรวบรวมเอานักร้องสายเลือดสุพรรณเป็นหลัก ยังไม่ได้ลงลึกในเชิงวิชาการสักเท่าไหร่”

“ถ้าท่านจำได้ เมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2559 ปีเดียวกัน ผมนำเสนอ ‘มหกรรมเพลงนครปฐม’ ที่สถาบันศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา และครั้งกระนั้น คือ งานแสดงดนตรีลูกทุ่งเชิงวิชาการครั้งแรกในเมืองไทย ที่ผมภาคภูมิใจนำเสนอแนวคิดนี้ ถ้าถามผม ผมก็อยากจะทำงานเชิงวิชาการบันเทิงศิลปะอย่างนี้ให้สัญจรไปทุกจังหวัด แล้วแต่โอกาสวาสนาจะเอื้ออำนวย

วันนี้ ผมดีใจกับสุพรรณบุรีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ‘เมืองสร้างสรรค์ทางดนตรี’ ของ องค์การยูเนสโก และผมก็คาดหวังว่า นับจากนี้ไปน่าจะมีงานดนตรีเชิงสร้างสรรค์ดีๆ เกิดขึ้นอีกมากมาย”

“ถ้าไม่รังเกียจความคิดของผม ผมก็อยากจะเสนอแนวคิดงานเชิงวิชาการแบบเจนภพด้วย นั่นคือ ‘มหกรรมเพลงสุพรรณบุรี’ จะเป็นเช่นไร จะเป็นไปได้แค่ไหน ลองฟังรายการ ‘ข้าวเกรียบเพลงเก่า’ ทางช่องยูทูบเสียงศิลปิน บ่ายวันนี้ (6 พ.ย.) ดูก่อนก็ได้ครับ ถูกใจ ถูกต้อง ชอบธรรมแล้วก็ค่อยสนับสนุน แต่หากไม่ใช่ก็ลืมๆ ไปเสียก็ได้ แค่ความคิดของศิลปินแก่ๆ คนหนึ่งก็เท่านั้นเอง”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top