นายกฯ อังกฤษ ประกาศแผนคุมเข้มการย้ายถิ่นฐาน หวังลดจำนวนผู้อพยพลงหลักแสนภายใน 4 ปี
(13 พ.ค. 68) เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ประกาศแผนปรับกฎวีซ่าและมาตรการตรวจคนเข้าเมืองชุดใหม่ โดยตั้งเป้าลดการย้ายถิ่นฐานลงภายในสี่ปีข้างหน้า พร้อมเน้นว่าระบบใหม่จะ “ยุติธรรม” และ “เลือกสรร” มากขึ้น เพื่อควบคุมการเข้ามาของผู้อพยพอย่างรัดกุม
รัฐบาลสหราชอาณาจักรจะยุติโครงการวีซ่าที่เปิดรับพนักงานดูแลสุขภาพจากต่างประเทศ และบังคับให้นายจ้างจ้างคนในประเทศก่อน พร้อมปรับเกณฑ์คุณสมบัติแรงงานให้เข้มขึ้น เช่น ต้องมีวุฒิปริญญา และยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ โดยกระทรวงมหาดไทยคาดว่า แผนนี้อาจลดผู้อพยพได้ปีละราว 100,000 คนภายในปี 2029
นอกจากนี้รัฐบาลเมืองผู้ดีเตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมสำหรับนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างชาติสูงสุดถึง 6,600 ปอนด์ (ราว 290,749 บาท) และพิจารณาเก็บภาษีใหม่จากนักศึกษาต่างชาติ มหาวิทยาลัยและวิทยาลัยจะถูกตั้งเป้าให้มีอัตราเริ่มเรียนและจบการศึกษาของนักเรียนต่างชาติสูงกว่า 90%
ด้านฝ่ายค้านและภาคธุรกิจวิจารณ์ว่า แผนดังกล่าวอาจกระทบแรงงานภาคดูแลและการศึกษาอย่างรุนแรง ขณะที่นักการเมืองฝ่ายซ้ายกล่าวหารัฐบาลว่ากำลังปลุกปั่นกระแสต่อต้านผู้อพยพ ส่วนพรรคอนุรักษ์นิยมและพรรครีฟอร์มโจมตีว่าแผนยังอ่อนเกินไป
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า แผนทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากความหวั่นไหวต่อพรรครีฟอร์ม แต่เป็นเพราะรัฐบาลต้องการควบคุมการย้ายถิ่นฐานอย่างแท้จริง โดยมุ่งเน้นให้สหราชอาณาจักรมีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่สมดุล และสนับสนุนการเติบโตภายในประเทศ
