Wednesday, 23 April 2025
ฮิซบอลเลาะห์

'ฮิซบอลเลาะห์' ถล่มคืน 'อิสราเอล' กองกำลังติดอาวุธในอิรัก ร่วมผสมโรงด้วย หลายฝ่ายกังวล!! ความขัดแข้งใน ‘กาซา-เลบานอน’ อาจลุกลามไปใหญ่โต

(22 ก.ย. 67) การปะทะกันระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ กองกำลังติดอาวุธในเลบานอนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสรุปได้ดังนี้ 

•    วันอังคาร (17 ก.ค.) เพจเจอร์ที่ฮิซบอลเลาะห์ใช้สื่อสารเกิดระเบิดทั่วเลบานอนพร้อมกัน 3,000 เครื่อง 
•    วันพุธ (18 ก.ย.) วิทยุสื่อสารของฮิซบอลเลาะห์ระเบิดในเลบานอน 

รวมสองวันดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน บาดเจ็บกว่า 3,000 คน

•    วันศุกร์ (20 ก.ย.) อิสราเอลปฏิบัติการทางอากาศถล่มกรุงเบรุต ปลิดชีพ “อิบราฮิม อาคิล” ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และเป็นหนึ่งในผู้ที่วางแผนการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. รวมถึงสมาชิกระดับปฏิบัติการณ์อีก 10 คน ด้านกระทรวงสาธารณสุขเลบานอนรายงานวันนี้ (22 ก.ย.) ว่า การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 45 รายแล้ว
•    วันเสาร์ (21 ก.ย.) กองทัพอิสราเอลเผยว่า ได้ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายราว 290 แห่ง รวมถึงโจมตีเครื่องยิงจรวดฮิซบอลเลาะห์หลายพันเครื่อง และว่าจะโจมตีเป้าหมายเพิ่มต่อเนื่อง

ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ปะทะกันอย่างหนักมาตั้งแต่คืนวันเสาร์จนถึงเช้าวันนี้ โดยฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดเข้าไปในพื้นที่ทางตอนเหนือของอิสราเอล และเผยว่า กลุ่มได้โจมตีฐานทัพอากาศรามัต เดวิด ของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธหลายลูก ซึ่งถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดการสู่รบระหว่างกัน 

ขณะที่เจ้าหน้าที่จากขบวนการ Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เผยว่า กลุ่มได้ยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีอิสราเอลช่วงรุ่งสางวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนแนวหน้าเลบานอนครั้งใหม่ของกลุ่ม

ด้านกองทัพอิสราเอลเผยว่า ทั่วประเทศมีเสียงไซเรนดังตลอดทั้งคืน เนื่องจากมีจรวดและขีปนาวุธยิงมากจากฝั่งเลบานอนและอิรัก แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถสกัดขีปนาวุธส่วนใหญ่ไว้ได้

อิสราเอลยังได้สั่งปิดโรงเรียนและห้ามผู้คนรวมตัวกันในหลายพื้นที่ทางตอนเหนือ ทั้งยังสั่งให้โรงพยาบาลในพื้นที่ดังกล่าวย้ายไปดำเนินการในสถานที่ที่มีการป้องกันหนาแน่นเป็นพิเศษ เพื่อให้ปลอดภัยจากการยิงจรวดและขีปนาวุธ

ขณะที่ฝั่งเลบานอน ไม่มีการสั่งการใด ๆ ในเช้าวันอาทิตย์

ทั้งนี้ การโจมตีของฮิซบอลเลาะห์และกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ทำให้อาคารจำนวนมากในอิสราเอลเสียหาย และมีบ้านหลังหนึ่งใกล้กับเมืองไฮฟาเสียหายอย่างหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้ารักษาผู้บาดเจ็บแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานเสียชีวิต และประชาชนได้รับคำสั่งให้อยู่ใกล้หลุมหลบภัยและที่ปลอดภัย

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลกันหลายฝ่ายว่า ความขัดแย้งในกาซาและเลบานอน อาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของภูมิภาค

‘อิหร่าน‘ เปิดฉากโจมตี ‘อิสราเอล‘ ระลอกใหม่ เพิ่มแรงกดดัน ส่อเค้าลุกลามกลายเป็นสงครามในภูมิภาค

อิหร่านยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอลเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ต.ค.67) ส่งผลให้ท้องฟ้าเหนือกรุงเยรูซาเล็มและกรุงเทลอาวีฟสว่างไสว และเสียงไซเรนเตือนภัยดังไปทั่ว ขณะที่ระบบป้องกัน Iron dome สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธบางส่วนได้ 

กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐระบุว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูกใส่เป้าหมายหลายแห่ง และเสริมว่า สหรัฐได้ให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือในการปกป้องอิสราเอล

กองทัพอิสราเอลระบุว่า ยังไม่ทราบถึงความสูญเสียใด ๆ โดยก่อนหน้านี้ ขบวนการมูจาฮิดีนปาเลสไตน์อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงกราดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 รายทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟ

อิสราเอลเริ่มบุกเลบานอนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยเคลื่อนกำลังเข้าไปทางตอนใต้ ปฏิบัติการภาคพื้นดินมีเป้าหมายเพื่อผลักดันกองกำลังเฮซบอลเลาะห์ให้ถอยห่างจากชายแดนมากขึ้น หลังจากเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มก่อการร้ายที่อิหร่านให้การสนับสนุนมาหลายสัปดาห์

เจ้าหน้าที่เลบานอนกล่าวว่าการโจมตีอย่างหนักของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,000 รายและทำให้ผู้คนต้องพลัดถิ่นฐานมากถึง 1 ล้านคนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

อิสราเอลกล่าวว่า อิหร่าน 'จะต้องชดใช้' สำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ต่ออิสราเอล นักข่าว ABC News ของสหรัฐอเมริการายงานว่า อิหร่านยิงขีปนาวุธประมาณ 200 ลูก โจมตี 4 เป้าหมาย ได้แก่ ศูนย์บัญชาการมอสสาด และฐานทัพอากาศหลักอีก 3 แห่ง 

แม้ว่าการโจมตีจะยุติลงได้ค่อนข้างเร็ว แต่ก็ชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับสถานการณ์ที่ตึงเครียดเป็นอย่างมากอยู่แล้ว มีคำเตือนมานานแล้วว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและตัวแทนของอิหร่านอย่างกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน อาจลุกลามกลายเป็นสงครามในภูมิภาคที่กว้างขึ้น ทำให้ขณะนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การตอบโต้ของอิสราเอล

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสหรัฐฯ 'สนับสนุน' อิสราเอลอย่างเต็มที่ แต่เขากล่าวว่ารัฐบาลของเขายังคงหารือกับอิสราเอลอยู่ว่าสมควรที่จะตอบโต้อิหร่านอย่างไร “เราจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้ถูกต้อง เราติดต่อกับรัฐบาลอิสราเอลและพันธมิตรของเราอย่างต่อเนื่อง และยังต้องรอดูกันต่อไป” เขากล่าว

ในขณะที่อิสราเอลกำลังสู้รบในสองแนวรบอยู่แล้ว อิสราเอลทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาตั้งแต่ถูกโจมตีอิสราเอลทางตอนใต้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ทำให้ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนเสียชีวิตในฉนวนกาซา พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายจนเป็นเศษซาก

และแม้ว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะยิงข้ามพรมแดนกันมาตลอดทั้งปีที่ผ่านมา แต่การที่อิหร่านได้เปิดฉากโจมตีเมื่อวันอังคาร เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่อิสราเอลประกาศว่าได้เปิดฉากปฏิบัติการภาคพื้นดิน 'จำกัดและเฉพาะพื้นที่' ในเลบานอน การส่งทหารอิสราเอลเข้าไปในเลบานอน อิหร่านจึงถือเป็นการยกระดับความรุนแรงในการปฏิบัติการของอิสราเอล จนทำให้อิหร่านต้องเปิดฉากโจมตีอิสราเอลอีกครั้งหนึ่ง

‘สถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวี’ ออกประกาศอำนวยความสะดวกกลับไทย หลังสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง

(6 ต.ค. 67) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ว่า 

ตามที่เกิดสถานการณ์ความตึงเครียดในอิสราเอลและภูมิภาคตะวันออกกลาง และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งว่า หากมีพี่น้องคนไทยในอิสราเอลที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย และต้องการความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อช่วยสำรองบัตรโดยสารเครื่องบิน
พาณิชย์ให้ โดยผู้เดินทางต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง 

สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง
ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150 +972 503673195
ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431+972 54-469-3476
ไอดีไลน์ 0544693476

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ

นอกจากนี้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยังได้ออก แบบสำรวจความประสงค์ของคนไทยในอิสราเอลในการเดินทางกลับประเทศไทย (โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง) ให้กรอกผ่าน Google Form ได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/1k00qCDPoDJdeP_rNHV8MbPSgcht6eJ73ZYJ9zXRZl2Q/viewform?fbclid=IwY2xjawFvLMtleHRuA2FlbQIxMAABHQIxSDugIqcitLszbYigDCVdG8pVWjXkxTB9EW1lgqVqCd-qMgWwbbY2qg_aem_15AEhWP6F0idvpEP6ij57A&edit_requested=true

เกิดเหตุปะทะชายแดนอิสราเอล-เลบานอน แรงงานไทยตาย 1 บาดเจ็บรุนแรง 1

(11 ต.ค. 67) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้ออกประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอล ว่า

ประกาศสำหรับคนไทยในอิสราเอลโดยที่เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (11 ต.ค. 67) ได้เกิดเหตุยิงจรวดต่อสู้รถถัง (anti-tank missile) เข้าไปยังนิคมเกษตร Yir'on ทางเหนือของอิสราเอลติดชายแดนเลบานอน

ซึ่งเป็นเขตปิดทางทหาร (closed military zone) ทำให้แรงงานไทย 1 รายเสียชีวิต และอีก 1 รายได้รับผลกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอแจ้งว่า หากมีพี่น้องแรงงานไทยที่ยังอยู่ในเขตปิดทางทหารหรือพื้นที่เสี่ยงอันตรายอื่น ๆ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อขอรับความช่วยเหลือในการย้ายออกจากพื้นที่ตามหมายเลขโทรศัพท์ด้านล่าง

ฝ่ายกงสุล โทร +972 546368150 +972 503673195
ฝ่ายแรงงาน โทร. +972 9-954-8431+972 54-469-3476
ไอดีไลน์ 0544693476

เขตปิดทางทหาร (closed military zone) ในขณะนี้ 11 แห่ง ได้แก่ เมืองเมตูลา (Metula) มิซกาฟ อัม (Misgav Am) คฟาร์ กิลอาดี (Kfar Giladi) โดเวฟ (Dovev) ซิฟออน (Tziv'on) มาลเกีย (Malkia) รอช ฮานิกรา (Rosh Hanikra) ชโลมิ (Shlomi) ฮานิตา (Hanita) อดามิท (Adamit) และอาหรับ อัล-อรามเช (Arab al-Amshe) โดยเป็นพื้นที่ห้ามพักอาศัยหรือทำงาน

ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top