Monday, 1 July 2024
อัยการสูงสุด

'อัยการสุงสุด' แฉไทม์ไลน์คดี GT200 แนะ ทบ. พิสูจน์ตั้งแต่ปี 60 ชี้ทำตอนนี้ไม่มีผล

‘อัยการสุงสุด’ แจงไทม์ไลน์คดี GT200 แนะตรวจสอบ 757 เครื่อง ตั้งแต่ปี 2560 กองทัพบกชนะคดีให้บริษัทคืนเงินตั้งแต่ปลายปี 2564 ย้ำ การพิสูจน์ไม่ได้มีผลแพ้ชนะทางคดีแล้ว

6 มิ.ย. 2565 – นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทยอินไซด์ไทยแลนด์กรณีที่กระทรวงกลาโหมระบุถึงอัยการสูงสุดแนะให้ตรวจสอบจีที 200 ทุกเครื่องว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2560 กองทัพบกได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อขอให้จัดพนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีปกครองว่าต่างฟ้อง บริษัท เอวิเอ แซทคอม จำกัด กับพวกรวม 4 คน เพื่อให้รับผิดตามสัญญาปกครอง กรณีซื้อขายเครื่องจีที 200 รวม 12 สัญญา ทุนทรัพย์ยังไม่รวมดอกเบี้ย 683,900,000 บาท

เมื่อได้รับเรื่องมาจึงได้มอบเรื่องให้ทางสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 5 เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ ระหว่างตรวจสำนวน ทางพนักงานอัยการเห็นว่าการที่จะบอกว่าเครื่องนี้ไม่มีคุณสมบัติตามสัญญาหรือเป็นเครื่องที่ใช้การไม่ได้นั้น เป็นสาระสำคัญที่จะบอกว่าคดีนี้แพ้หรือชนะ จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกองทัพบกเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 เพื่อให้เป็นข้อเท็จจริงซื้อเป็นข้อยุติเพื่อให้ศาลใช้ประกอบการตัดสินคดี

วันที่ 23 เมษายน 2560 อัยการพิเศษฝ่ายคดีปกครอง 5 ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลปกครอง โดยฟ้องบริษัท เอวิเอ แซทคอม เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 นายสุทธิวัฒน์ วัฒนกิจ ผู้ถูกร้องที่ 2 ธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 3 ในฐานะเป็นแบงก์การันตี รับผิดในวงเงินประมาณ 56,000,000 บาท โดยไม่เกิน 56,000,000 บาทเศษ ธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 4 ในฐานะแบงก์การันตีรับผิดชอบในวงเงินไม่เกิน 6,000,000 บาทเศษ ซึ่งทุนทรัพย์ที่ยื่นฟ้องไป ณ วันที่ 27 เมษายน 2560 คือ 687,691,975.49 บาท

วันที่ 28 ธันวาคม 2560 ศาลปกครองกลางกลาง สั่งไม่รับคำฟ้องคดีนี้ โดยวินิจฉัยว่าคดีขาดอายุความ ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ แต่ทางอัยการฝ่ายคดีปกครอง 5 ยื่นอุทธรณ์ว่า คดีไม่ขาดอายุความ
 

'ถวิล' ยื่นเรื่องถึงอัยการสูงสุดให้อุทธรณ์ ฟ้อง 'ยิ่งลักษณ์' คดีโยกย้ายไม่เป็นธรรม

(23 ม.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายถวิล เปลี่ยนศรี สว.อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ทำจดหมายด่วนที่สุดถึงอัยการสูงสุด ลงวันที่ 23 ม.ค. เพื่อขอให้อัยการสูงสุด ยื่นอุทธรณ์คดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีที่ยื่นฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะจำเลย ในการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อ 26 ธ.ค. 2666

โดยระบุถ้อยคำในจดหมายว่า ตนในฐานะผู้เสียหายในคดีอาญาดังกล่าว ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาที่ได้ยกฟ้อง ทั้งที่พยานหลักฐานที่อัยการนำเข้าสืบต่อศาลนั้นมีความชัดเจนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำผิดจริง รวมถึงตนเห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ กระทำความผิดตามฟ้อง

“ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ให้ อัยการสูงสุด ฐานะโจทก์ ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาดังกล่าว ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่หากท่านไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ทันเวลา ก็ขอให้ท่านยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ออกไปเพื่อยื่นอุทธรณ์ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดด้วย ในอันที่จะให้คดีที่อ้างถึงข้างต้นถึงที่สุดตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป” นายถวิล ระบุ

‘อัยการสูงสุด’ สั่งฟ้อง ‘อนันต์ อัศวโภคิน’ ฐานสมคบฟอกเงิน ‘คดีสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น’

เมื่อวานนี้ (29 ก.พ. 67) นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งสำนวนคดีอาญา ส.1 เลขรับที่ 57/2562 คดีระหว่าง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้กล่าวหา นายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหา ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน (คดีสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น) พร้อมความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา เพื่อให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 มาตรา 34

คดีนี้ อัยการสูงสุด ได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหา ในฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุได้มีการสมคบกัน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 60 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ตามความเห็นแย้งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

นายประยุทธ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สำนวนคดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินคดีของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 โดยพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบดำเนินคดีได้นัดหมายนายอนันต์ อัศวโภคิน ผู้ต้องหา มาพบพนักงานอัยการที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนรัชดาภิเษกเพื่อส่งฟ้องศาลในวันที่ 2 เม.ย.2567 เวลา 09.30 น.

ตรวจแนวรบ 'อัยการ' คดี 112 ส่อแววยืดคดีจนได้ 'อสส.คนใหม่' พลิกเกม 'นายใหญ่' ให้คล้าย 'คดีบอสกระทิงแดง'

8.พชร ยุติธรรมดำรง ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2548 - 30 ก.ย. 2550    
9.ชัยเกษม นิติสิริ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2550 - 2552    
10.จุลสิงห์ วสันตสิงห์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2556    
11.อรรถพล ใหญ่สว่าง ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2556 - 26 มิ.ย. 2557    
12.ตระกูล วินิจนัยภาค ดำรงตำแหน่ง 27 มิ.ย.2557 - 30 ก.ย. 2558    
13.ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2560    
14.เข็มชัย ชุติวงศ์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2560 - 30 ก.ย. 2562 
15.วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2562 - 30 ก.ย. 2564    
16.สิงห์ชัย ทนินซ้อน ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2565    
17.นารี ตัณฑเสถียร ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2565 - 30 ก.ย. 2566    
18.อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ ดำรงตำแหน่ง 1 ต.ค. 2566 - ปัจจุบัน    
19.ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ (ผ่านมติกอ./รอวุฒิสภาพิจารณา)

วันนี้ขออนุญาตร้อยเรียงวิเคราะห์บทวิเคราะห์แบบง่าย ๆ ด้วยการนำรายชื่ออัยการสูงสุด (อสส.) ที่มีมาตั้งแต่ปี 2534 มาทบทวนให้ดูตั้งแต่ท่านที่ 8 พชร ยุติธรรมดำรง จนมาถึงว่าที่อสส.คนใหม่ คนที่ 19  ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ (ที่ว่ากันว่าเป็นทีมงานมือดีของ อสส.ชัยเกษม นิติสิริ) ซึ่งอยู่ในกระบวนการ การพิจารณาของวุฒิสภา

เปิดสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ วุฒิสภาจะตั้งกรรมาธิการฯ ตรวจสอบคุณสมบัติและพฤติกรรมพฤติการณ์ต่าง ๆ ก่อนที่จะนัดแนะกันลงมติในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งตอนนั้นอาจจะเป็น สว. ชุดใหม่แล้วก็ได้ แค่ได้คะแนนเสียงข้างมาก 'อสส.คนใหม่' ก็จะชื่อ 'ไพรัช' หลังการโปรดเกล้าฯ

ย้อนดูรายชื่อ อสส.ข้างต้นแล้ว ก็ต้องหมายเหตุประเทศไทยเอาไว้ว่า มี อสส. ถึง 2 คน ที่สั่งฟ้องคดีนายทักษิณ ชินวัตร ข้อหาความผิด ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพ์ คนแรกคือ ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ คนที่สองคือ อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์

กรณีท่านอำนาจนั้น ทักษิณทำหนังสือขอความเป็นธรรม ทางอัยการสั่งให้สอบเพิ่มมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ที่สุดวันที่ 29 พ.ค. ที่ผ่านมาก็สั่งฟ้อง

ขณะนี้ทีมทนายทักษิณร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้ง อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะ "พนักงานสอบสวนขณะนั้น (2558-2559) ถูกข่มขู่จากรัฐบาล คสช. จนขาดความเป็นอิสระในการรวบรวมพยานหลักฐานคดี ทำให้นายทักษิณไม่ได้รับความเป็นธรรม..."

อ่านกันไม่ยาก...นี่เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อประวิงเวลา หรือยืดคดีออกไป...คล้าย ๆ คดีบอส กระทิงแดง ซึ่งตามหน้าไพ่ขณะนี้เขาว่ากันว่า หากสามารถยืดสุดติ่งไปจนไปถึง อสส.คนใหม่ได้ บางทีเหตุการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้...

ซุ่มเสียงของทักษิณในงานบวชน้องชาย สส.เพื่อไทยที่ปทุมธานีเมื่อ 8 มิ.ย. ฟังดูเหมือนจะไปตามนัดอัยการ เพื่อนำตัวทักษิณส่งฟ้องศาล แต่หากฟังซ้ำดี ๆ ทักษิณไม่ได้ตกปากรับคำเป็นมั่นเหมาะว่าจะไป...เพราะดูเหมือนเขาจะมั่นใจว่า การร้องขอความเป็นธรรมซ้ำสองรอบนี้ อย่างน้อยน่าจะมีการยืดเวลาออกไป...

จะอย่างไรก็ตาม แบไพ่เล่นกันแบบนี้...ทำเอาคนที่รักบ้านรักเมืองหัวใจสั่นรัว ตลาดหุ้นออกอาการสั่นไหว กลัว 'นายใหญ่' จะยิ่งเหลิงลมล้มดีล จนกลายเป็นจุดชนวนความวุ่นวายรอบใหม่ขึ้นมาจริง ๆ !!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top