Monday, 21 April 2025
อมรัตน์โชคปมิตต์กุล

4 งานเบาะ ๆ ของ 'ตชด.' ที่ขอให้ ‘เจี๊ยบ ก้าวไกล’ ลอง!! หลังโจมตีงบฯ ‘ตชด.’ แถมแซะ "แทบไม่เหลือภารกิจ"

จากกรณี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 มีเนื้อหาตอนหนึ่งพาดพิงถึงงบประมาณของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และอภิปรายให้ลดบทบาทของหน่วยงาน ตชด. เพราะภารกิจลดลง จำเป็นต้องจัดงบประมาณให้เหมาะสม ตชด.ได้รับงบประมาณปี 2566 จำนวน 2,782 ล้านบาท มากเทียบเท่ากับงบประมาณหน่วยงานตำรวจขนาดใหญ่รวมกันถึง 3 หน่วยงานนั้น

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก 'เสธPlay' โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนี้...

ขออนุญาต Educate ท่าน ส.ส. ผู้ทรงเกียรติเรื่องภารกิจของตำรวจตระเวนชายแดนหน่อยนะครับ

เผื่อท่านนึกไม่ออกหรือไม่มีความรู้จริงๆ ก็ขอให้ท่านทดลองงาน ตชด. แบบเบาๆ เบื้องต้น ตามรายการพวกนี้ รายการละ 1 สัปดาห์ก็พอ

1. เดินเท้าบุกป่าฝ่าดง ขึ้นเขาลงห้วย ไม่ต้องมาก สัก 1-2 ลูก ไปสอนหนังสือเด็กในที่ห่างไกล

2. ลาดตระเวนตรวจพื้นที่ ตรวจหลักเขตประเทศไทย ว่าไม่มีใครแอบไปเคลื่อนย้ายหรือทำลาย

3. ไปซุ่มในป่า รอจับ สกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติด หรือพวกลักลอบตัดไม้ ซึ่งแน่นอนต้องมีการนอนแรมกลางป่าระหว่างรอ ในป่าไม่มีแอร์ ยุงป่าตัวใหญ่กว่ายุงบ้านประมาณ 2 เท่า แมลงอื่นที่กัดแล้วคันเป็นชั่วโมง ไม่รวมพวกงู ปลิง หรือสัตว์อื่น ๆ

‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ โต้ ‘คริส’ ใส่ร้ายก้าวไกล ลั่น!! คนแบบนี้ไร้สปิริต ไม่เคยคิดเสียดาย

(10 ก.พ. 66) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวีตข้อความในทวิตเตอร์ตอบโต้นายคริส โปตระนันทน์ อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกล ว่า…

“ในส่วนตัวไม่เคยเสียดายคนอย่างคริส โปตระนันทน์ การใส่ร้ายพรรคไม่ใช่สปิริตที่ดี เช่น กล่าวหาว่าไม่มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค”

พปชร. โต้เดือด 'เจี๊ยบก้าวไกล' หลังใช้คำไม่เหมาะ ถาม 'บิ๊กตู่' พูดหมาๆ อย่างนั้นได้อย่างไร

(16 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 12.15 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีโดยไม่มีการลงมติ ตามม.152 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้อภิปรายตอนหนึ่งช่วง โดยเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง ทั้งมาตรา 112 มาตรา 116 และพ.ร.บ.คอมพ์ทั้งหมด

"เมื่อเร็วๆ นี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ ระบุ ว่า จะปิดประตู นิรโทษกรรม ดิฉันขอถามว่าท่านพูดหมาๆอย่างนั้นได้อย่างไร" นางอมรัตน์ กล่าว

ทำให้นายศุภชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธาน ขอให้นางอมรัตน์ ถอนคำพูด “นายกฯ พูดหมาๆ” โดยนางอมรัตน์ได้ถอนคำพูดพร้อมระบุซ้ำว่า “ขอถอนคำพูดว่านายกฯ พูดหมาๆ” นางอมรัตน์ กล่าว

นายศุภชัย จึงติงว่า ให้ถอนคำพูดก็พอไม่ต้องย้ำ ในสภาฯ แห่งนี้เป็นสภาทรงเกียรติถึงแม้เราจะไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัวแต่ก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ควรจะนำคำพูดที่ไม่เหมาะสมมาใช้

'ป้าเจี๊ยบ' ยกกรณีป้านา หากผู้นำที่มีสติปัญญา จะมีวิธีการรับมือผู้เห็นต่างอย่างเหมาะสม

'อมรัตน์' ชี้กรณีป้านา หากผู้นำที่มีสติปัญญาจะมีวิธีการรับมือผู้เห็นต่างอย่างเหมาะสม ซัดประยุทธ์ ไร้วุฒิภาวะ ไม่เหมาะสมแคนดิเดตนายก 

(14 มี.ค.66) อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่ตำรวจเข้าจับกุม ‘ป้านา’ วันทนา โอทอง โดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ขัดขวางการแสดงออกทางการเมืองและมีการตั้ง 3 ข้อหาหนัก โดยอมรัตน์กล่าวว่า ตนเข้าใจความจำเป็นในหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นำ แต่การใช้กำลังรุนแรงปิดปากฉุดกระชากลากถูกับหญิงผู้สูงอายุคนเดียว ต้องถามว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่

ทั้งนี้หากประยุทธ์เป็นผู้นำที่มีสติปัญญาควรมีการซักซ้อมทำความเข้าใจกับทีมตนเองว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีแนวปฏิบัติอย่างไร ต้องมีการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจ และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักอย่างเหมาะสมไม่ใช่ใช้มุมมองแบบทหาร มองเพื่อนร่วมชาติที่มีจุดยืนการเมืองคนละขั้วเป็นอริราชศัตรู แบบที่มองภัยจากภายนอกประเทศ” อมรัตน์กล่าว


ส่วนประเด็นการตั้งข้อกล่าวหาหนักต่อป้านา ว่าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตนอยากถามว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ไปตรวจราชการที่ อ.บ้านโป่งครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี หรือใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นข้ออ้างไปติดตามงานเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง เพราะรู้กันอยู่ว่าบ้านโป่งเป็นเขตพื้นที่ส.ส.ย้ายพรรคจากปชป.ไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ส่วนประเด็นที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคนที่ชู 3 นิ้วว่าให้ไปหาหมอป่วย และมาเพราะต้องการอะไรสักอย่าง 
อมรัตน์ให้ความเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็รู้นี่ว่าประชาชนที่มารอพบท่านมาเพราะต้องการอะไรบางอย่าง
เลยต้องถามว่าเมื่อทราบแล้วในฐานะผู้นำเคยออกมารับฟังพวกเขาไหม
และนี่ขนาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ ทั้งที่มีบทเรียนอยู่แล้ว 

‘เจี๊ยบ ก้าวไกล’ ยัน!! ใช้กระเป๋าถือแบรนด์ดัง ‘ของแท้’ ซื้อจากห้างหรู 4 ปีที่แล้ว ราคาใบละ 66,500 บาท

3 เม.ย.66) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ชี้แจงหลังถูกชาวเน็ต ระบุว่าใช้กระเป๋ายี่ห้อหรู เป็นของปลอม โดยเธอยืนยันว่าไม่เคยใช้ของปลอม

กระเป๋าใบนี้ราคาไม่กี่หมื่น ซื้อจาก Shop ในห้างพารากอนน่าจะ 3-4 ปีที่แล้ว ข้อมูลการซื้ออนุญาตให้ทาง shop เปิดเผยได้ ไม่ใช่ความลับอะไร

“ความลุ่ยของสาย” เกิดจากใช้งานหนักโยนไปโยนมาปมที่มัดปลายไว้ก็คลายออก รุ่นนี้มีหลายสี

ที่จริงไม่ได้อยากชี้แจงอะไรแต่เห็นว่าเริ่มจะขยายประเด็นไปกันใหญ่

โดยนางอมรัตน์ นำภาพและราคามาโพสต์ไว้ในคอมเมนต์ ซึ่งกระเป๋าถือใบดังกล่าวราคา 66,500 บาท


ที่มา: https://www.thaipost.net/x-cite-news/353443/ 

‘อมรัตน์’ ซัดใส่ ‘ทักษิณ’ ทุเรศ หลังให้สัมภาษณ์ ขอความเห็นใจ พูดได้หน้าไม่อาย ลากประเทศไทยให้ถอยหลัง แล้วบอกให้ ต่างคนต่างอยู่

(17 มี.ค.67) นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กต่อเนื่อง ให้ความเห็นกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าใครที่ไม่ชอบหน้า ขอให้ต่างคนต่างอยู่ 

โดยโพสต์แรก นางอมรัตน์ได้แชร์ข่าวพร้อมระบุว่า ดีลของคุณมันเห็นแก่ตัวเกินไป เมื่อเลือกที่จะเห็นแก่ได้จนกระทบความรู้สึกผู้คนทั้งสังคม 

ต่อมาได้โพสต์คลิปและข้อความอีกว่า เป็นคน "มาสว่างไปมืด" ไปเสียแล้ว ก็ควรน้อมรับเสียงก่นด่าวิพากษ์วิจารณ์ แหงนหน้าก็อายฟ้า ก้มหน้าก็อายดิน ทุเรศ !

และโพสต์สุดท้ายเป็นข้อความ ว่า ลากประเทศถอยหลังเสร็จบอกขอความเห็นใจให้ต่างคนต่างอยู่ Sus

‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ ฟาด ‘สส.รักชนก’ แสดงภาษากาย ไม่เหมาะสม ชี้!! ขนาดรองประธานสภาฯ อดีตพรรคเดียวกัน ยังไม่ให้เกียรติ

(22 มิ.ย.67) สืบเนื่องจากการอภิปรายพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ช่วงที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส. กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ได้นำภาพตัดต่อรูปภาพนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาประกอบในการอภิปรายดังกล่าว โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ได้ตักเตือน น.ส.รักชนก ว่า เป็นการเสียดสี และได้ชี้แจงประเด็นเรื่องการเปลี่ยนสไลด์ของผู้อภิปราย ว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่เป็นกรรมการตรวจสไลด์ของรัฐสภา ทำให้น.ส.รักชนกแสดงออกด้วยท่าทีไม่พอใจ

ต่อมามีผู้นำคลิปช่วงดังกล่าวมาเผยแพร่ในแพลตฟอร์ม X โดย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แชร์คลิปนี้พร้อมแสดงความคิดเห็นประกอบว่า 

"ดิฉันเห็นด้วยว่า move นี้ไม่ ok รวมถึงการใช้ภาษากายไม่สุภาพ"

‘เจี๊ยบ-อมรัตน์’ แจงด่วน!! หลังโดนทัวร์ลง กรณีพยายามแบก ‘สส.ปูอัด’ เผย!! ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ตำรวจไทย ทั้งมั่วทั้งผิดพลาด

(8 ก.พ. 68) จากกรณี 'สส.ปูอัด' นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับ ฐานข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวต่างชาติที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดกระแสเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง

หนึ่งในผู้ที่ออกมาแสดงความเห็นคือ 'เจี๊ยบ' นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ซึ่งโพสต์ว่า “ทุกกรณีที่อยู่ในชั้นถูกกล่าวหาแล้วถูกกดดันให้รับผิดชอบลาออก เวลาผ่านไปสุดท้ายพิสูจน์ตัวเองได้ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จะชดเชยกันยังไง”

ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์นางอมรัตน์พยายามปกป้องและแบก สส.ปูอัด

ต่อมานางอมรัตน์โพสต์อธิบายเพิ่มเติมว่า “ดิฉันไม่ได้ชอบพฤติกรรม สส.ปูอัดที่ผ่านมา แต่เร็วเกินไปที่จะไปกดดันให้ต้องลาออกเดี๋ยวนี้เดี๋ยวนั้น”

“มันต่างกรรมต่างวาระก็ต้องมีใจเป็นธรรมและใช้ความรอบคอบตามสมควรก่อนจะไปเร่งกดดันให้ใครลาออก เพราะทุกคนก็ยังไม่เห็นสำนวนหลักฐานและข้อต่อสู้ของผู้ถูกกล่าวหา อย่างน้อยก็น่าจะไปให้ถึงชั้นให้อัยการมีคำสั่งฟ้องเสียก่อน”

“นี่เพิ่งชั้นตำรวจ และส่วนตัวก็ไม่ได้ไว้ใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่าไหร่ ได้ข่าวว่าออกเป็นหมายจับเลย ข้ามขั้นตอนการออกหมายเรียกให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาก่อน และปูอัดก็ควรไปรับทราบข้อกล่าวหาและต่อสู้คดีโดยไม่ใช้เอกสิทธิ์ สส.”

ล่าสุด เช้าวันที่ 8 ก.พ. 68 นางอมรัตน์โพสต์ข้อความชี้แจงเพิ่มอีก โดยบอกว่า “ตอบเรื่องแบกสักหน่อย เอาจริง ๆ ดิฉันก็เหมือนทุกท่าน อยากเห็นคนมีตำแหน่งทางการเมืองทำผิดแล้วออกมาแสดงความรับผิดชอบโดยเร็วและต้องถูกลงโทษ”

“ควรรีบเข้ามาสู่กระบวนการโดยเร็วไม่ควรใช้เอกสิทธิ์ สส.ประวิงเวลา”

“ความต้องการความเป็นยุติธรรมเป็นสัญชาตญาณของมนุษย์”

“แต่ดิฉันมีพื้นฐานไม่เคยเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมไทยที่มันเหลวแหลกเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะในชั้นต้นคือชั้นตำรวจที่ไม่เคยมีความน่าเชื่อถือ ทั้งมั่วทั้งผิดพลาด”

“เมื่อถูกใครหรือองค์กรไหนกดดันหน่อยก็เร่งรัดสำนวนมั่ว ๆ ให้พ้นตัวรีบส่งศาลส่งอัยการ เขียนสำนวนรวบรวมหลักฐานให้ผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิดก็มีให้เห็นนับไม่ถ้วน อย่างเรื่องบอสกระทิงแดง และอื่น ๆ มากมาย”

“หลายคดีในเบื้องต้นศาลก็ฟันไปตามสำนวนที่ตำรวจชงมา จับขังไม่ให้ประกันแล้วก็หลุดภายหลัง”

“ผู้บริสุทธิ์กี่คนแล้วเสียอนาคตกับความอยุติธรรมโดยไม่ได้รับชดเชยเยียวยา เรือนจำก็เต็มไปด้วยแพะ อาชญากรตัวจริงกี่คนแล้วที่ลอยนวลและยังเดินลอยหน้าในสังคม”

“อันที่จริงดิฉันก็ไม่ไว้ใจศาลด้วยทั้งเรื่องสองมาตรฐานและความเป็นอิสระ แต่ก็ไม่รู้จะทำไง ได้แค่เรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว”

“กรณีปูอัดแนวโน้มอาจจะผิดจริงแต่ก็อยากให้ใจเย็น ๆ กันนิดนึงเท่านั้น ข่าวใหญ่พาดหัวอะไรตูมตามขึ้นมาก็อย่าพึ่งด่วนบ้าจี้ตาม”

“ดิฉันรังเกียจกลุ่มนางแบกลูกจ้างที่ได้รับผลประโยชน์ พรรคจะตระบัดสัตย์ผิดสัญญาประชาคมอย่างไรก็ยังหน้าด้านแบกอย่างไร้สติส่งผลให้พรรคตกต่ำลงทุกวัน”

“ถ้าพรรคประชาชนผิดพลาดจากที่สัญญาไว้ก็จะวิจารณ์และช่วยตรวจสอบอย่างเข้มข้นเท่าที่ทำได้ ให้ปรับปรุง จะได้เป็นความหวังของประชาชน ไม่ดันทุรังแบก”

“แต่กรณี สส.ปูอัด ไม่รู้จะไปแบกให้เมื่อยเพื่ออะไร”

“เพราะปูอัดเป็น สส.พรรคไทยก้าวหน้าไม่ใช่พรรคประชาชน เขาถูกขับออกไปตั้งแต่สมัยเป็นพรรคก้าวไกลแล้ว”

“ตัวดิฉันเองก็ไม่ชอบพฤติกรรมที่ผ่านมาของเขา ปูอัดเป็นสส.รุ่น 2 ที่ดิฉันไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่เคยมีเบอร์โทรหรือไลน์กัน”

“ตอนเลือกตั้งปี 66 ก็ไม่เคยไปช่วยหาเสียง รู้แต่ว่าเป็น สส.กทม.จำไม่ได้ว่าเขตไหน เพราะ สส.รุ่นใหม่มีตั้ง 151 คน แก่แล้วจำไม่หมด”

“แค่ดิฉันไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดตามมาถ้าเราไปด่วนประหารชีวิตใครสักคนทางสังคมและทางการเมืองด้วยเรื่องพาดหัวข่าวสั้น ๆ โดยยังไม่ทันได้ให้โอกาสอีกฝ่ายโต้ตอบข้อกล่าวหาก็เท่านั้น”

“การไปด่วนชี้หน้าใครถูกผิด หรือประณามหยามเหยียดน่าจะต้องรอให้เรื่องสะเด็ดน้ำกันบ้าง และต้องมีใจเป็นธรรมไม่ใช้อคติที่มีในใจไปแล้วจากประวัติของเขาด้วย”

“เพราะแม้แต่คนทำผิดครั้ง 1,2 มาแล้ว ก็อาจไม่ใช่คนผิดในครั้งที่ 3 คนเรามีแนวโน้มจะผิดซ้ำได้ แต่ก็ไม่ใช่จะ 100 %”

“รอเวลานิดให้เรื่องเขยิบจากชั้นตำรวจ ไปช่วยกันไล่ออกตอนที่ชั้นอัยการเห็นว่ามีมูลสั่งฟ้องคงจะดีกว่า คงยังไม่ได้สายเกินไป”

“อาจไม่ได้ต้องรอถึงชั้นศาลตัดสินก็ได้เพราะมันคงจะนานเกินไป”

“เขียนมาน่าจะครบถ้วนแล้ว รู้สึกเสียเวลาและเมื่อยนิ้วนิดหน่อย แต่คิดว่าควรตอบเพื่อบันทึกไว้ก่อนจะ move on”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top