(11 ก.ย. 67) ความขยันหมั่นเพียร, มัธยัสถ์, อดทน เป็นค่านิยมที่ชาวจีนมักปลูกฝังให้แก่บุตรหลานตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เพื่อจะได้โตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า แต่ทว่า วันนี้ ค่านิยมเหล่านี้กำลังถูกท้าทาย ด้วยสาเหตุจาก… ‘ภาวะโลกร้อน’
เมื่อไม่นานมานี้ โลกโซเชียลจีนมีการถกเถียงในประเด็นเรื่องการติดแอร์ในห้องเรียน เนื่องจากจีนกำลังเผชิญปัญหาจากคลื่นความร้อน ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ บางเมืองมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส
ทำให้ผู้ปกครองจำนวนมากรู้สึกเป็นห่วงบุตรหลาน ที่ต้องทนเรียนในห้องเรียนในช่วงภาวะอากาศร้อนรุนแรงเช่นนี้ และเรียกร้องให้ทางโรงเรียนติดตั้งเครื่องปรับอากาศในห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนหนังสือได้สบายขึ้น
แต่ข้อเรียกร้องของผู้ปกครองกลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดี จากหน่วยงานด้านการศึกษาประจำนครฉางชา ของมณฑลหูหนาน ที่ตั้งอยู่ในภาคกลางตอนใต้ของจีน เขตที่เจอมรสุมคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของจีนในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ออกมายืนยันว่า จะไม่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศใด ๆ ในโรงเรียนไหนทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อจะได้ปลูกฝังคุณธรรม ‘ด้านความอุตสาหะ’ และ ‘ความอดทน’ ให้แก่เด็กนักเรียน
คำตอบของเจ้าหน้าที่นครฉางชา ได้จุดกระแสการถกเถียงเรื่อง ‘ควร-ไม่ควร’ ติดแอร์ในห้องเรียนขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นไฟลามทุ่ง ที่มาพร้อมกับคำถามว่า แล้วใครสมควรที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องปรับอากาศนี้
ผู้ปกครองคนหนึ่ง แสดงความเห็นใน Weibo ว่า "ให้ฝึกความขยันและอดทนเหรอ? ไหนลองให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษาธิการลองมานั่งในห้องทำงานอุณหภูมิ 40 องศาดูบ้างซิ แล้วพูดใหม่อีกทีว่านี่เป็นวิธีในการฝึกความอดทนให้เด็กจริงหรือเปล่า"
อีกความเห็นหนึ่งกล่าวว่า "ปัญหาภาวะโลกร้อนไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และจะยิ่งรุนแรงขึ้น แล้วคุณจะให้เด็ก ๆทำยังไง"
หลิน ยูจิน คุณพ่อของเด็กนักเรียนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในเมืองกวางโจว แสดงความเห็นผ่านสื่อท้องถิ่น สนับสนุนการติดแอร์ในห้องเรียนว่า ถ้าไม่มีแอร์ คงยากที่จะทำให้เด็กมีสมาธิในการเรียนได้เต็มที่
แต่ทั้งนี้ ก็มีผู้ปกครองอีกฝั่งที่เห็นต่าง ในประเด็นเรื่องการติดแอร์ในห้องเรียน โดยคำนึงถึงหลักสุขอนามัย หากติดแอร์แล้วจะทำให้ห้องเรียนที่เคยมีอากาศถ่ายเทกลายเป็นห้องปิด ที่นอกจากกจะบ่มเพาะเชื้อโรคแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ อาทิ ไข้หวัด หรือ Covid-19 ในห้องเรียนได้ง่าย
ผู้ปกครองบางคน เสนอไอเดียในการปรับเปลี่ยนภาคการเรียนให้สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป หรือบางห้องเรียนก็นำถังน้ำแข็งมาตั้งไว้ในห้องช่วยเพิ่มความเย็นในห้องเรียนได้
ในปัจจุบัน ห้องเรียนส่วนใหญ่ในโรงเรียนจีนไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่อาศัยความเย็นจากพัดลมเพดาน แต่ด้วยภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ที่ทำให้ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิในหน้าร้อนของจีนสูงขึ้น และยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีกเมื่อต้องเจอกับมรสุมคลื่นความร้อนเช่นในปีนี้ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจีนคาดการณ์ว่า อุณหภูมิสูงสุดของจีนมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก 2.8 องศาในอีก 30 ปีข้างหน้า
แต่ถึงกระนั้น หลายโรงเรียนยังลังเลกับข้อเรียกร้องของผู้ปกครองที่ต้องการให้ติดแอร์ในห้องเรียน เพราะติดเรื่องค่าใช้จ่าย และ ค่าไฟ ที่จะเพิ่มสูงขึ้น ที่เกินงบประมาณของโรงเรียน
และเคยมีประเด็นมาแล้ว เมื่อโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองเซียงถัน ของมณฑลหูหนาน ขอให้ผู้ปกครองช่วยกันบริจาคเงินเพื่อซื้อเครื่องปรับอากาศให้โรงเรียน แต่สุดท้ายคณะกรรมการด้านการศึกษาพิจารณาว่าไม่สมควร และสั่งให้โรงเรียนคืนเงินบริจาคให้ผู้ปกครอง ทั้ง ๆ ที่ผู้ปกครองนักเรียนส่วนใหญ่สนับสนุน และเต็มใจบริจาคเงินช่วยโรงเรียน เพราะเห็นว่าควรคำนึงถึงความสะดวกสบายของนักเรียนเป็นอันดับแรก
ด้วยเหตุนี้ ประเด็นเรื่องการติดแอร์ในห้องเรียนของจีน จึงตีไม่แตก แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ปกครอง ที่ยินดีที่จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพื่อให้บุตรหลานได้เรียนหนังสืออย่างสบาย แต่ก็ติดที่นโยบายภาครัฐ ที่มองว่าสุดท้ายรัฐบาลก็ต้องแบกค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟ และ ค่าซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นอยู่ดี หรือหากมองในแง่มุมความเท่าเทียมของโรงเรียนรัฐ ที่ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบเดียวกันในทุกโรงเรียน ที่ทำให้นโยบายห้องเรียนติดแอร์ไม่ผ่าน
ดังนั้น สิ่งที่นักเรียนหวังพึ่งได้ ก็คือ ความขยันหมั่นเพียร, มัธยัสถ์, อดทน ของตนเอง ที่ต้องทนเรียนในห้องเรียนในช่วงอากาศร้อน ที่รุนแรงกว่าสมัยก่อนให้ได้ จนกว่าพวกเขาจะเติบโตขึ้นเพื่อไปเปลี่ยนแปลงอนาคตในวันข้างหน้าด้วยตัวของพวกเขาเอง