Wednesday, 3 July 2024
หยุดปฏิบัติหน้าที่

ลุ้น!! ‘บิ๊กตู่’ ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน หลังศาล รธน. มีมติ 5 ต่อ 4 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ด่วน!! ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องฝ่ายค้าน ตีความวาระ 8 ปี เสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 สั่ง ’บิ๊กตู่’ หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ฟาก ‘บิ๊กป้อม’ ผงาดนั่งรักษาการณ์นายกฯ ส่วน ‘บิ๊กตู่’ ร่วมถกครม.ได้ในฐานะ รมว.กลาโหม

 (24 ส.ค.65) คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เข้าชื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 เพื่อขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าสิ้นสุดลงของตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำสั่งวินิจฉัยออกมา เนื่องจากเห็นว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน

ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว เห็นว่ากรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 7(9) จึงมีมติเอกฉันท์รับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยให้ผู้ถูกร้องสามารถยื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

'บิ๊กตู่' พร้อมหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

‘พล.อ.ประยุทธ์’ เคารพผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยจะหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของนายกรัฐมนตรี และมีมติเสียงข้างมากให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยนั้น 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคารพผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญทุกประการ โดยจะหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) เป็นต้นไป จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมต่อไปตามปกติ โดยในระหว่างนี้ พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน และปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรี โดยมิได้มีผลกระทบต่อการบริหารประเทศ และการปฏิบัติงานของข้าราชการ หรือการดำเนินนโยบายอื่นๆ ของรัฐบาล

'อ.อุ๋ย-ปชป.' หวัง!! 'ลุงชาญ' แสดงสปิริต หยุดปฏิบัติหน้าที่  ชี้!! ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง ยก 'อภิรักษ์' เป็นตัวอย่าง

(3 ก.ค.67) จากการเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี เมื่อ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งผลปรากฏว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายชนะ แต่ต่อมาความปรากฎขึ้นว่า นายชาญ เคยถูก ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพในปี 2555 และศาลอาญาคดีทุจริตได้ประทับรับฟ้องแล้ว ทำให้มีข้อถกเถียงว่า นายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 และมาตรา 93 หรือไม่ นั้น

นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ประกอบมาตรา 93 กำหนดให้ ผู้ดำรงตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งจากหน่วยงานใด ๆ อีก เพราะเป็นไปโดยผลของกฎหมาย ซึ่งมีเจตนารมณ์คือหากท้ายสุดแล้วศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิด ก็จะทำให้ผู้นั้นหมดสิทธิ์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้าดำรงตำแหน่งนั้นอีกต่อไป จึงต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายใด ๆ จากการใช้อำนาจหน้าที่ในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นการออกคำสั่งแต่งตั้งบุคคลต่าง ๆ หรืออนุมัติการใช้งบประมาณ ซึ่งจะมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำเหล่านั้นในภายหลัง และป้องกันมิให้ผู้นั้นใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้าไปสั่งการใด ๆ เพื่อยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

ดังนั้น ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วและได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมอีกในวาระใหม่ ก็ไม่ได้ทำให้ผลของกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป ผู้ถูกกล่าวหาจึงยังต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมาย โดยไม่ต้องรอการสั่งการใด ๆ อีก

"ระหว่างที่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ผมอยากให้ลุงชาญ แสดงสปิริต แถลงข่าวยุติการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสมัครใจ โดยไม่ต้องรอให้สังคมและภาคส่วนต่าง ๆ กดดันไปมากกว่านี้ เพื่อให้กฎหมายได้ดำเนินไปตามครรลองแห่งความยุติธรรม เพื่อสร้างจิตสำนึกและสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับการเมืองท้องถิ่น เหมือนอย่างเช่นที่ ท่านอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่า กทม. จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยสปิริตลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่ได้รับเลือกตั้งมาเป็นสมัยที่สอง หลังจากที่ถูก ปปช. ชี้มูลความผิดกรณีจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง โดยที่ยังไม่ได้ยื่นฟ้องศาลเลย และไม่มีกฎหมายกำหนดให้ท่านต้องลาออก และสุดท้ายศาลก็ตัดสินว่าท่านบริสุทธิ์ และรักษาผลประโยชน์ให้ กทม. ได้ถึง 250 ล้านบาท ครับ ด้วยความปรารถนาดี" นายประพฤติ ระบุ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top