Tuesday, 22 April 2025
หมายจับ

สตม.จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ “ฟอกเงิน” พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 70 ล้านบาท

ตม.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับ สภ.ม่วงสามสิบ จับกุม นางสุด (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ตามหมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 281/2566 ลงวันที่ 28 กันยายน 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) เพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต, สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) เพื่อการค้าและการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต, รับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์ หรือให้ความสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือเพื่อมิให้ผู้กระทำความผิดถูกลงโทษ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ม่วงสามสิบ จว.อุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร (สถานีย่อยกระทุ่มแบน) ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ 2567 ตม.จว.สมุทรสาคร ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.ม่วงสามสิบ ว่านางสุด (นามสมมุติ) ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานีความผิดเกี่ยวกับจำหน่ายยาเสพติด และฟอกเงิน ได้หลบหนีหมายจับมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ร่วมกันได้ออกสืบสวนหาข่าวและติดตามตัวนางสุด จนกระทั่งสืบทราบว่านางสุด จะมาติดต่อธุระส่วนตัวบริเวณใกล้กับที่ทำการ ตม.จว.สมุทรสาคร จึงได้ไปตรวจสอบ จนกระทั่งพบบุคคลซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าว จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง จากการตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวคือนางสุดซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ จึงได้แสดงหมายจับทำการจับกุม จากการสืบสวนทราบว่านางสุด ได้เปิดบัญชีธนาคารสำหรับรับโอนเงินกลับประเทศลาว โดยมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป  

สืบนครบาล รวบสาวใหญ่ตระเวนกรีดกระเป๋า เคยก่อเหตุมีหมายจับแต่ก็ยังไม่เลิกก่อเหตุ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้สุจริตหาเช้ากินค่ำ

เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส. ,พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บชน. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พัฒน์พงษ์ กื้อมะโน สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.1 พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 2 ดำเนินการเจ้าหน้าที่สืบนครบาล ร่วมกับสายตรวจ สน.พญาไท ได้จับกุมตัว

น.ส.มนัสนันท์ หรือ จรรยพร อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ตัวการในข้อหาลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น” จากการตรวจสอบในฐานระบบ ยังพบหมายจับติดตัวอีก 1 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.208/2565 ลงวันที่ 23 มี.ค.2565  ซึ่งกระทำความผิดฐาน "ร่วมกันลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่นฯ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป"

พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าพนักงานตำรวจ สืบนครบาล ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้า ย่านประตูน้ำ กรุงเทพ ว่ามีกลุ่มบุคคลแต่งตัวปกปิดตัวตนเดินตระเวนลักทรัพย์ในบริเวณตลาดประตูน้ำ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบดังเหตุดังกล่าว ต่อมาวันที่ 16 มี.ค. 67 เจ้าหน้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมพบหญิงต้องสงสัยแต่งตัวปกปิดตัวตน เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบหญิงคนดังกล่าว และได้นำตัวมาซักถาม จนทราบว่า ชื่อนางสาวมนัสนันท์ หรือ จรรยพร อายุ 54 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1633/2560 ลงวันที่ 23 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้อ่านหมายจับและ ให้นางสาวมนัสนันท์ อ่านเองแล้ว ยอมรับว่าเป็นว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าวนี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและทำบันทึกจับกุมที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุ เมื่อปี 2559 ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุร่วมกับเพื่อนที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ กรีดกระเป๋าผู้เสียหาย ขณะซื้อของแถวตลาดสำเพ็ง จากนั้นได้นำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้จุดเกิดเหตุ 7 ครั้ง ได้เงินไป 1 แสน 4 หมื่นบาท 

สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ รับว่าไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง โดยร่วมก่อเหตุกับนางกิมเฮงตั้งแต่ปี2559เรื่อยมา ออกตระเวนก่อเหตุตามตลาดประตูน้ำ โบ๊เบ๊ สำเพ็ง ที่มีคนพลุ่กพล่าน และจะแต่งตัวมิดชิดพรางหน้าพรางตัวแบบมุสลิมป้องกันถูกติดตามจับกุม โดยผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นคนกรีดกระเป๋า ส่วนนางกิมเฮงเป็นคนยืนบังให้ เหยื่อที่เลือกจะเป็นผู้หญิงเท่านั้นที่สะพายกระเป๋าข้าง อาศัยจังหวะที่เหยื่อเผลอ ทำธุระ 

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่มักชอบไปเดินตลาดที่มีคนจำนวนมาก จะมีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวด้วย จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการดูแลทรัพย์สิน และไม่ควรใส่เครื่องประดับ และของมีค่าติดตัว หากสะพายกระเป๋าควรสะพายไว้ข้างหน้าไม่ควรสะพายไว้ข้างหลัง เพราะคนร้ายอาจแฝงตัวเข้ามาจากด้านหลังเพื่อกรีดกระเป๋าฉกทรัพย์สิน หรือของมีค่าไป

"เชียงราย"ตม.เชียงรายรวบ5หมายจับระดมปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรมช่วงหยุดยาวสงกรานต์"

วันที่ 1 เมษายน 2567ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เทียนทอง ผกก.ตม.จว.เชียงรายเป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์2567พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมการรับษาความสงบเรียบร้อยการดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์2567เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเกิดความสงบเรียบร้อยสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลจึงกำหนดให้มีการระดมกวาดล้าง

อาชญากรรมก่อนช่วงวันหยุดยาวต่อมาหลังจากนั้นชุดสืบสวนปราบปรามตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เวียงชัย จับกุม น.ส.ธัญชนก (นามสมมุติ)หรือ แพร อายุ 45 ปี   บ้านเลขที่ 3 หมู่ที่5  บ.ไชยเจริญ  ต.เวียงชัย  อ.เวียงชัย จ.เชียงราย  ผู้ต้องหาตามหมายจับ หมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่จ.386/ 2566 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่การใช้ความรุนแรงหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง สถานที่จับกุม บนถนนสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 5 บ.ไชยเจริญ ต.เวียงชัย อ.เวียงชัย จ.เชียงรายเวลา

ประมาณ 07.00 น. ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.เวียงชัย จับกุม นาย ดารากร  (นามสมมุติหรือ ถิ่น อายุ 25 ปี  บ้านเลขที่ 115 หมู่ที่ 12 บ.ป่าบงใต้ ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงราย  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่จ.380/2566 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2566 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและกระทำการทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่การใช้ความรุนแรงหรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง สถานที่จับกุม บนถนนสาธารณะหน้าบ้านเลขที่ 115 หมู่ที่ 12 บ.ป่าบงใต้ ต.ผางาม อ.เวียงชัย จ.เชียงรายเวลาประมาณ 08.00 น. ตม.จว.เชียงราย ได้จับกุมตัว นายวุฒิพงษ์  (นามสมมุติสัญชาติไทย อายุ 41 ปี ที่อยู่ 184 หมู่ที่ 7 ต.ห้วยไคร้  อ.แม่สาย จ.เชียงราย  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 439/2566 ลง 25 ธันวาคม 2566 โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำส่ง สภ.แม่จัน ดำเนินคดี สถานที่จับกุมจุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย.เวลาประมาณ 

08.00 น. ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.กก.บก.ปคม. จับกุม น.ส.น้ำฝน แข็งแรง อายุ 28 ปี เลขบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ 5 5709 01092 98 0 ที่อยู่ 11 หมู่ที่ 12 ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญา ที่ 1134/2567 ลง 15 มีนาคม 2567 และหมายจับที่ 1247/2567 ลง 26 มีนาคม 2567 โดยกล่าวหาว่า “ค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหาพามาจากหรือส่งไปยังที่ใดหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี,เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม  นำส่ง พงส.กก.6 บก.ปคม. ดำเนินคดี สถานที่จับกุม บนถนนหน้าบ้านเลขที่ 181 หมู่ที่ 3 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงรายเวลาประมาณ 09.30 น. ตม.จว.เชียงราย ร่วมกับ จนท.ตร.สภ.พญาเม็งราย จับกุม นายยงยุทธ  (นามสมมุติอายุ 33 ปี ที่อยู่ 38 หมู่ที่ 18 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดเทิง ที่ 6/2566 ลง 19 มกราคม 2566 โดยกล่าวหาว่า ประมวบกฎหมายยาเสพติด (เมทฯ) เสพ นำส่ง ศาลจังหวัดเทิง สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 38 หมู่ที่ 18 ต.แม่เปา อ.พญาเม็งราย จ.เชียงรายรวมทั้งหมด5คนจึงจับกุมตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

สันติ วงศ์สุนันท์/ผู้สื่อข่าวเชียงราย

‘หมอลิลลี่’ เผยโดน ‘พยาบาลดัง’ ตามคุกคาม มา 5 ปี เอาทัวร์มาลง ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกันปัจจุบันได้รับข่าวดี!! คู่กรณีได้รับหมายจับแล้ว ชี้!! เหมือนได้ชีวิตคืนมา ไม่ต้องผวา

(12 ต.ค. 67) หมอลิลลี่ แพทย์หญิงวรัญญา งานทวี คุณหมอคนดังในโลกโซเชียล ได้ออกมาเปิดเผยว่า คุณหมอโดนพยาบาลคนหนึ่ง ติดตามคุกคามคุณหมอ ทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ แขวนและเอาทัวร์มาลงคุณหมอ จนคุณหมอเครียดและสูญเสียลูก ทั้งที่หมอลิลลี่และพยาบาลคนนั้น ไม่รู้จักกันมาก่อน

ทั้งนี้ หมอลิลลี่ คนดังบนโลกออนไลน์ ได้ออกมาเผยเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 ว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี หมอลิลลี่ถูกแขวะ ใส่ร้าย โดนเอาทัวร์มาลงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ครอบครัวของหมอลิลลี่ก็โดนหมด แม้กระทั่งตอนที่แฟนขอแต่งงานเมื่อเดือนตุลาคม 2566 หมอลิลลี่ ยังไม่กล้าโพสต์ ได้มาโพสต์ประกาศให้รับทราบอีกทีตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2567 หมอลิลลี่จดทะเบียนสมรสเดือนพฤษภาคม 2567 และจัดงานมงคลสมรสเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ตอนเดือนเมษายน พบว่าพยาบาลคนนั้นยังแขวนหมอลิลลี่และครอบครัวทางหน้าวอลล์เฟซบุ๊ก โพสต์ต่อว่าหมอลิลลี่ในที่สาธารณะ และทำให้ในเดือนเดียวกัน หมอลิลลี่ได้ตัดสินใจที่จะรวบรวมหลักฐานและจัดการฟ้องเงียบ ๆ

เดือนมิถุนายน 2567 ได้มีคนมาขอให้หมอลิลลี่เล่าสิ่งที่โดนลงโซเชียล หลังจากหมอลิลลี่ปิดเฟซบุ๊กไปพักใหญ่เพราะหมอลิลลี่เหนื่อยจากการโดนแขวะ และหมอลิลลี่ก็ยืนยันว่า ตนไม่เคยรู้จักกับพยาบาลคนนี้มาก่อน มีแต่พยาบาลที่ตามคุกคามหมอลิลลี่ฝ่ายเดียว ทำให้หลายเดือนมานี้ หมอลิลลี่เงียบ และตามคดีทุกวัน ไม่มีวันไหนที่หมอลิลลี่หลับลง เพราะกลัวว่าพยาบาลคนนี้จะไม่ได้รับผลกรรมที่ทำกับตนหรือเหยื่อคนอื่น

การที่หมอลิลลี่ออกมาทำเรื่องนี้ เพื่อปกป้องตัวเอง หมออยากมีลูกทันทีหลังแต่งงาน หลังจากที่แต่งงาน หมอก็พยายามจะมีลูก แต่ลูกไม่มาเพราะหมอเครียดเรื่องคดีมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไป สน. ประจำ จนวันที่ 25 กันยายน 2567 หมอได้รับข่าวดีว่ามีลูกแล้ว "แต่ความดีใจนั้นอยู่ได้ไม่ถึง 5 วัน" สิ่งที่หมอโดนทำให้หมอทรมานและคิดทุกวัน เครียดทุกวัน จนหมอต้องเสียลูกไปเพราะกดดันมาก

และเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 หมอลิลลี่ ก็ได้รับข่าวดีว่า "เขาได้รับหมายจับแล้ว"

และ เราเหมือนได้ชีวิตคืนมา หลังจากต้องผวา หวาดกลัวมาเกือบ 5 ปี จากนี้เราจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตอนนี้เราโชคดีที่มีสามีที่ดีและใส่ใจมาก KV Por เหลือแค่ลูก หวังว่าจะมีโอกาสอีกครั้ง และรอบนี้จะไม่เสียลูกไปอีก

เราไม่อยากสูญเสียอะไรอีกแล้ว จากนี้เราอยากใช้ชีวิตให้มีความสุขบ้างค่ะ ขอบคุณทุกคนจริง ๆ สำหรับกำลังใจดี ๆ เสมอมา

ทั้งนี้ พบว่า พยาบาลคนดังกล่าวนั้น เคยมีประเด็นวิวาทะฟาดปากกับคนอื่นมาก่อนจนเป็นข่าวดัง และตอนนั้นก็มีคนเข้าข้างเธอเป็นจำนวนมาก และเมื่อเธอถูกหมายจับ ก็ปรากฏว่าพยาบาลคนนี้ได้ออกมาขอโทษผ่านทางเฟซบุ๊กและ X ทั้งในภาษาไทย และภาษาเยอรมัน ซึ่งพยาบาลต้องขอโทษโดยปักหมุด 60 วันใน Instagram, X, Facebook ไม่ปิดคอมเมนต์ ไม่ลบโพสต์ แต่หมอลิลลี่ก็บอกว่า การขอโทษนั้นดูไม่จริงใจ เพราะเอาภาษาเยอรมันขึ้นก่อน เวลาอ่านต้องเลื่อนลงมาถึงเจอภาษาไทย

ทางหมอลิลลี่ยังได้เล่าอีก หมอลิลลี่โดนพยาบาลตามแขวะตามใส่ร้ายมาหลายปี โดยที่หมอลิลลี่ไม่เคยตอบโต้ แม้ว่าจะบล็อกไปแล้วก็ยังโดนเอาเฟซบุ๊กอื่นมาแขวะต่อ จนกระทั่งพ่อแม่ของพยาบาล ได้มาขอไกล่เกลี่ยเพื่อขอให้เกิดการยอมความ ซึ่งพ่อแม่ของพยาบาล ตอนแรกก็คิดว่าลูกมีปัญหาทะเลาะกับหมอลิลลี่มาก่อน แต่เมื่อหมอลิลลี่ยืนยันว่าไม่รู้จักกัน เพราะทำงานคนละอาชีพ ไม่เคยเรียนด้วยกัน ไม่เคยเจอกัน ไม่เคยด่ากลับ แต่หมอลิลลี่กลับโดนด่าหนัก จนทางแม่ต้องถามพยาบาลว่า ไปตามว่าหมอลิลลี่ทำไม ซึ่งพยาบาลก็บอกแม่ และแม่ก็บอกทนายว่า เหตุที่ทำแบบนั้นเพราะ ‘หมั่นไส้’

ย้อนที่มา-ผลกระทบ Bully ต่อหมอลิลลี่ หลังพยาบาลดังตามคุกคาม ผลกระทบสุดช๊อก!! เมื่อข้อความทางออนไลน์ทำลายชีวิตของคนจริง ๆ

(15 ต.ค. 67) จากข่าวของหมอลิลลี่ แพทย์หญิง วรัญญา งานทวี ที่ได้ฟ้องร้องพยาบาลชื่อดัง หรือที่รู้จักกันในนามพยาบาลกิ่ง น.ส.นริญญา มงคลเอี่ยม จนมีการออกหมายจับ และมีการโพสต์ขอโทษในเวลาต่อมานั้น วันนี้ The State Times จะพาผู้อ่านย้อนไปถึงที่มาและที่ไปของเหตุการณ์ในครั้งนี้ 

เริ่มต้นที่พยาบาลกิ่ง ที่ต้องย้อนกลับไปช่วงกระแสม๊อบ 3 นิ้ว มีหลาย ๆ คนต่างฉกฉวยจังหวะและโอกาสสำคัญ เป็นดาวจรัสแสง หรือจะเรียกว่าอินฟลูเอนเซอร์และอื่น ๆ 

ก้าวย่างของพยาบาลกิ่ง น.ส.นริญญา มงคลเอี่ยม ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น เท่าไหร่ หลังจากที่ได้แสงพุ่งมาที่ตัวเอง สิ่งที่พยาบาลกิ่งทำต่อคือการหาแสงอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการ แขวน หรือ เรียกทัวร์ไปลง 

บางครั้ง บางคน โพสต์นั้นต้องถูกลบและหายไปจากระบบออนไลน์ คงไม่ต่างอะไรกับหลาย ๆ เคสที่ผู้คนบนโลกออนไลน์สามารถทำร้ายกันอย่างรุนแรงได้ 

กับหมอลิลลี่ วรัญญา งานทวี ก็เช่นเดียวกันกับหลายคน
ข้อมูลจากโพสต์ในเฟซบุ๊กของหมอลิลลี่ระบุว่า ครั้งแรกที่รู้จักกับพยาบาลคนดังกล่าวมาจากที่พยาบากิ่งได้ทักมาขอความรู้เรื่องการ Verify ตัวตนใน Social Media เมื่อช่วงปี 2562 หรือ 2563 และมีการติดต่อนิดหน่อย  

ก่อนต่อมาจะถูกแขวน และสร้าง Fake News เกี่ยวกับหมอลิลลี่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถชนคนเสียชีวิต หรือการใส่ชุดผ่าตัดออกนอกพื้นที่ และอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง 

ที่ผ่านมาหมอลิลลี่ตัดสินใจบล็อกบัญชี Social Media บางรายที่คุกคามความเป็นมนุษย์มากเกินไป โดยเธอให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจในครั้งนี้ว่า “เราแค่ขอใช้สิทธิความเป็นมนุษย์ในการprotectหัวใจตัวเองบ้าง ไม่ใช่ใครจะมาด่ามาคุกคามอะไรเราก็ได้”

แม้จะบล็อกไปแล้วแต่พยาบาลดังกล่าวยังใช้บัญชี Social Media อื่น ๆ ตามมาคุกคามผ่านการแคปภาพในโพสต์ไปแขวน หรือใช้บัญชีเฟซบุ๊กอื่นมา comment อยู่ดี และดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด

สุดท้ายช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2567 หมอลิลลี่ ได้อัปเดตข่าวสารเรื่องนี้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรกว่าได้ตัดสินฟ้องเอาผิด พยาบาลกิ่ง เนื่องจากต้องประสบปัญหาความเครียดอย่างสูง ประกอบกับการตัดสินใจที่จะแต่งงาน จึงตัดสินใจใช้ ‘ศาลสถิตยุติธรรม’ เป็นที่พึ่ง

ด้วยความกดดันและความเครียดอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 4-5 ปี มันหนักอึ้งเกินคนคนหนึ่งจะแบกรับไหว ทำให้ครอบครัวของหมอลิลลี่ต้องสูญเสียทายาท ภายหลังทราบข่าวการตั้งครรภ์ภายในระยะเวลาแค่ 5 วัน 
เนื่องจากความเครียด ความกดดันจากการฟ้องคดี เพราะหากความยุติธรรมไม่ได้อยู่ข้างหมอลิลลี่ อนาคตต่อไปคงเป็นเครื่องหมายคำถาม 

7 ต.ค. 67 เรื่องนี้มีการอัปเดตอีกครั้งเมื่อ หมอลิลลี่ แจ้งข่าวว่า จากกรณีนี้ศาลได้พิจารณาออกหมายจับ เป็นความยุติธรรมครั้งแรกที่ได้รับ หลังจากผ่านระยะเวลาแห่งความทุกข์มากกว่า 4-5 ปี ทำให้ทุกบัญชี Social Media ของ Narinya Mongkoleiam  (babygings) จะมีข้อความว่า 

ข้าพเจ้าน.ส.นริญญา มงคลเอี่ยมได้ทำการกล่าวว่าร้ายแก่พญ. วรัญญา งานทวี มาเป็นเวลาหลายปี โดยไม่เคยรู้จักกับพญ.วรัญญา มาก่อนโดยอคติส่วนตัว โดยคุณหมอรวมถึงครอบครัวคุณหมอได้รับความเดือดร้อนจากการเป็นตัวกลางก่อให้เกิดความเกลียดชัง วันนี้ได้สำนึกผิดแล้ว อยากขอโทษคุณหมอที่ทำให้เดือดร้อนกับการกระทำและจะไม่ทำพฤติกรรมแบบนี้อีก

Aufgrund meines respektlosen Verhaltens gegenüber Frau Varanya Nganthawee habe ich mehrere Jahre Sie und Ihre Familie Wegen persönlicher Voreingenommenheit verletzt. Ich, Narinya Mongkoleaim, fühle mich sehr schuldig. und Ich bin ein Teil der Hass verursacht. Dann würde ich mich aufrichtig bei ihr entschuldigen. Ich verspreche Ihnen, dass Ich mich nicht noch einmal so verhalten werde.

ความยุติธรรมที่มาช้า ยังดีกว่าความยุติธรรมที่ไม่มีวันมาถึง แต่สุดท้ายต้องอึ้งเล็ก ๆ จากเหตุผลที่ตามทำร้ายชีวิตของคนคนหนึ่งที่พ่อและแม่ของพยาบาลแจ้งมาว่า “ทำเพราะหมั่นไส้“
และนอกจากพยาบาลคนนี้แล้ว หมอลิลลี่ยังได้แชร์โพสต์ของอีกหนึ่งคนที่ได้ทำการขอโทษหมอลิลลี่ 

แม้ในโลกออนไลน์ความเป็นตัวตนจะจางหาย แต่สิ่งที่จำเป็นคงหนีไม่พ้นความเป็นมนุษย์ และตระหนักว่าอีกฝั่งของจอ คือ คนที่มีเลือด เนื้อ มีพ่อ และแม่ไม่ต่างจากเรา 

‘ตั้ง อาชีวะ’ งง!! GUไปเกี่ยวอะไร กับการปล้น ‘กรุสมบัติเก่าของอยุธยา’ อายุกว่า 500 ปี ก่อนรับคำขอโทษ!! จาก ‘บาส Go Went Go’ กรณีมี ‘หมายจับ 112’ ไปโผล่ ในรายการ

(8 มี.ค. 68) จากกรณีที่ช่อง Go Went Go ได้นำภาพหมายจับคดี112 ของ ‘ตั้ง อาชีวะ’ (ที่ยังมีอายุความ) ไปใช้ในรายการตอนที่มีชื่อว่า ‘ตามรอยตำนานลี้ลับ 6 วัดร้างสุดเฮี้ยนในอยุธยา’ ซึ่งมีช่วงนาทีที่ 9.43 โดยได้มีการบรรยายพร้อมภาพประกอบเล่าเรื่องราวของการปล้นกรุเก่าอายุ 500 ปี แล้วดันไปมีภาพหมายจับของ ‘ตั้ง อาชีวะ’ ขึ้นไปอยู่ในนั้น ซึ่งทำให้คนดูเข้าใจผิดว่า คนในภาพหมายจับ คือคนไปปล้นสมบัติ

ล่าสุด ‘ตั้ง อาชีวะ’ ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า ...

สวัสดีครับทุกคน จากประเด็นของช่อง Go Went Go นะครับที่ทางทีมงานได้นำภาพหมายจับคดี112 ของผม (ที่ยังมีอายุความ) ไปใช้ในรายการตอนที่มีชื่อว่า 'ตามรอยตำนานลี้ลับ 6 วัดร้างสุดเฮี้ยนในอยุธยา' ซึ่งมีช่วงนาทีที่9.43 ได้มีการบรรยายพร้อมภาพประกอบเล่าเรื่องราวของการปล้นกรุเก่าอายุ 500 ปี แล้วดันไปมีภาพหมายจับของผมขึ้นไปอยู่ในนั้น ซึ่งคนดูอาจจะสามารถเข้าใจผิดได้ในกรณีนี้เช่น คนในภาพหมายจับคือคนไปปล้นสมบัติ,ตั้งอาชีวะไปปล้นสมบัติของอยุธยา หรือตั้งอาชีวะผู้ที่เกิดในปี2534นั่งเครื่องย้อนเวลาไปปล้นสมบัติเก่าของอยุธยา เป็นต้น 

คือตอนแรกผมก็ไม่ทราบนะครับว่ามีภาพผมไปปรากฏอยู่ในรายการนี้ จนกระทั่งพี่คนสนิทของผมที่ไทยได้รับชมรายการดังกล่าวแล้วส่งมา ต้องยอมรับตรงๆนะครับผมก็เคืองอยู่นั่นแหละ โมโหเลยโพสต์ไป1โพส (เคืองดิ พวกจากไทยโทรมา ว้าย ไอตั้งโจรปล้นสมบัติอยุธยา) ผมก็เลยส่งข้อความไปหาทางเพจ และได้โทรข้ามประเทศไปเพื่อจะขอคุย แต่ไม่มีใครรับสายในตอนแรก

หลังจากที่ผมโพสต์ไปไม่นาน คุณบาส Panupat Sukanlayaruk ก็รีบติดต่อกลับมา พร้อมแก้ไขสถานการณ์โดยทันที เช่นการล็อกคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นส่วนตัวเพื่อแก้ไขบางช่วงบางตอน และได้โพสต์ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านเพจของคุณบาส 

ต้องบอกก่อนนะครับว่า เราได้พูดคุยกัน และคุณบาสก็แสดงความขอโทษอย่างจริงใจ และทีมงาน-ทีมตัดต่อก็ได้ส่งข้อความมาขอโทษผมด้วยเช่นกัน กรณีนี้ถ้าพูดกันตามตรงก็คือเป็นความผิดพลาดของทางทีมงานจริงๆนะครับ ซึ่งคุณบาสเองก็ติดภารกิจอยู่ที่ประเทศอื่นๆ เลยไม่ได้มีเวลาเช็กงานดังกล่าว ก็ถือว่าความผิดพลาดครั้งนี้ของทีมงานให้เป็นบทเรียนไปนะครับ น้องที่ทำตัดต่ออาจจะไม่ได้เช็กข้อมูลจริงๆ ซึ่งผมเองก็ได้บอกกับคุณบาสตอนสนทนากันว่า "โอเคครับ ผมน้อมรับคำขอโทษจากคุณแล้วนะ ทางทีมงานเขาอาจจะพลาดจริงๆ ไม่ต้องไปว่าพวกเขาแรงนะ ห้ามไล่น้องเขาออกนะ"

สุดท้ายนี้นะครับ ก็ต้อขอบคุณคุณบาส และทีมงาน ที่จัดการทุกอย่างได้รวดเร็วมากๆ และผมรู้สึกได้ว่าเป็นการขอโทษที่แสดงออกมาด้วยความจริงใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top