Tuesday, 22 April 2025
หนึ่งคนว่ายหลายคนให้

ยอดบริจาค 'หนึ่งคนว่าย หลายคนให้' ทะลุ 14 ล้าน ด้าน 'โตโน่' เตรียมว่ายน้ำข้ามโขง 22 ต.ค. 65

(21 ต.ค. 65) โครงการ 'หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ONE MAN AND THE RIVER' ล่าสุดยอดบริจาคอยู่ที่ 14.1 ล้านบาท จากเป้าประมาณ 17 ล้านบาท เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ขณะที่ 'โตโน่' เตรียมลงมือว่ายน้ำข้ามโขงพรุ่งนี้ (22 ต.ค. 65) เป็นระยะทางกว่า 15 กิโลเมตร

ทั้งนี้ ทุกคนสามารถร่วมบริจาค โครงการ One Man And The River ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2565 ช่องทางรับบริจาค บัญชี ธนาคารกรุงศรี สาขาถนนเพชรบุรีใหม่ 034-0-04773-2 ชื่อบัญชี : มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ เพื่อโครงการเทใจ 

'โตโน่' บวงสรวงก่อนลงน้ำ 10 โมง 9 นาที เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม ถอดสร้อยพญานาคมอบให้

'โตโน่' บวงสรวงก่อนลงน้ำ 10 โมง 9 นาที เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม ถอดสร้อยพญานาคมอบให้โตโน่ เผยเก็บมา 15 ปี คิดว่าเจ้าตัวเหมาะสม เปิดยอดบริจาค ทะลุ 28 ล้านบาทแล้ว

(22 ต.ค.65) ที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช บรรยากาศก่อนพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในงาน "One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้" ว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงบริเวณฝั่งไทย-ลาว มีการจัดเตรียมปรมพิธี เครื่องเซ่นไหว้และบายศรีพญานาค 7 เศียร พร้อมจัดเวทีเครื่องขยายเสียงติดตั้งรอบพื้นที่ โดยประชาชนพากันเข้ามาร่วมงานกันจนแน่นพื้นที่ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาจนช่วงเช้ามืดจะมีฝนตกลงมาปรอยปรายก็ตาม

สำหรับยอดเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลในการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน ล่าสุดทีมผู้จัด แจ้งว่าเมื่อเวลา 07.40 น. มีเงินบริจาคเข้ามา 21,262,027 บาทแล้ว ซึ่งเกินตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 16 ล้านบาท (ปัจจุบันมุ่งสู่ 30 ล้านบาท)

ขณะที่ โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ พร้อมคณะรักษาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ตัวแทน รพ.นครพนม และ รพ.แขวงคำม่วน จาก สปป.ลาว และทีมงานผู้จัดโครงการ ได้เริ่มทำพิธีบวงสรวงในเวลา 08.00น.โดยมี พระอาจารย์เทพนรินทร์ ชินรังษี เจ้าอาวาสวัดเทพนรินทธราราม นำสวดชยันโต สร้างขวัญกำลังใจ ก่อนพระอาจารย์จะถอดสร้อยพญานาคที่สวมคอไว้ ซึ่งทำจากหยก และผ่านการปลุกเสกที่คำชะโนด แล้วมอบให้โตโน่ นำไปสวมใส่ โดยพระอาจารย์ ระบุว่าแต่แรกไม่คิดจะมอบให้ใคร เก็บไว้ตลอด 15 ปี จนตั้งใจจะนำมามอบให้โตโน่ เพราะคิดว่าเหมาะสมจะเป็นเจ้าของที่แท้จริง

ก่อนจะทำพิธีประพรมน้ำมนต์ ก่อนนางรำท้องถิ่น 200 คน พร้อมดารานักแสดงสาว 7 คน ประกอบด้วย ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์, ฮาน่า ฮาน่า ลีวิส, ไข่มุก รุ่งรัตน์ เหม็งพานิช, แม็กกี้ อาภา ภาวิไล,แบมบี้ สิรินโสพิศ ปัจฉิมสวัสดิ์, แป้ง ดาริน ตาแปง, พิมพ์ ประพิมภรณ์ พิมพา และอีฟ ไอยวริญร์ ชื่นชอบ จะร่วมกันรำถวายพ่อปู่พญานาค หรือพญาศรีสัตตนาคราช ในบทเพลง รำศรีโคตรบูรณ์ และเพลงออนซอนนครพนม เป็นเวลา 12 นาที

'เจ เจตริน' ภูมิใจแทน 'โตโน่-ทีมงาน' หลังยอดบริจาคถล่มทลายทะลุ 60 ลบ.

ภายหลังจากที่นักร้องหนุ่มโตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้ทำภารกิจว่ายน้ำข้ามโขงกับโครงการ 'One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้' เพื่อรวบรวมเงินบริจาคให้กับโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน ฝั่ง สปป.ลาว จนได้ยอดเงินไปมากกว่า 60 ล้านบาทแล้วในขณะนี้

ล่าสุดนักร้องดังรุ่นพี่ เจ-เจตริน วรรธนะสิน ก็ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่าก่อนหน้านี้หนุ่มโตโน่เคยมาปรึกษาถึงโครงการดังกล่าวตนจึงได้แนะนำทีมเรือและทีม Rescue ที่ดีที่สุด พร้อมเผยรู้สึกภูมิใจแทนนักร้องหนุ่มรุ่นน้องและทีมงานที่มีคนช่วยบริจาคมากมายขนาดนี้

“โตโน่เคยมาหาที่บ้าน และขอปรึกษาตั้งแต่โครงการแรก บอกว่าอยากว่ายข้ามอ่าวไทย ข้ามเกาะ เราได้ให้คำแนะนำจากประสบการณ์ทางน้ำทางทะเลกลับไปบ้าง เพราะเคยขี่เจ็ทสกีข้ามอ่าวไทย หรือ ขี่ข้ามเกาะมาพอควร เลยได้แนะนำทีมเรือและทีม Rescue ที่ดีที่สุด ที่โตโน่และทีมงานใช้อยู่ในปัจจุบัน ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจกับโน่และทีมงานมากๆ ที่ไม่ละความพยายามในการที่จะสร้างสถิติให้ตัวเอง เพื่อชนะใจตัวเอง และความตั้งใจที่ดี ที่จะสร้างกุศล หาหนทางที่จะหาเงินที่สามารถช่วยผู้ป่วยได้อีกมากมายหลายชีวิตทั้งคนไทยและคนลาว รู้สึกภูมิใจแทนโน่และทีมงานที่มีผู้มีจิตศรัทธาและน้ำใจจากคนไทยหลั่งไหลมาช่วยกันบริจาคมากมาย และ ผมคือหนึ่งในนั้น #onemanandtheriver #หนึ่งคนว่ายหลายคนให้ #ท่าแขก #นครพนม #คนไทยสามัคคีกัน #คิดดีทำดี #ไทย #ลาว #แม่น้ำโขง #จิตศรัทธา #ชนะใจตัวเอง”

นายกรัฐมนตรียินดีและชื่นชม 'โตโน่' ทำความดีเพื่อสังคม

นายกรัฐมนตรียินดีและชื่นชม 'โตโน่' ทำความดีเพื่อสังคม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความชื่นชม นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักร้องและนักแสดง และยินดีที่สามารถบรรลุภารกิจว่ายน้ำข้ามลำน้ำโขง ระดมเงินจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อกิจกรรม One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้

นักเขียนซีไรต์ซัดคนจิตใจต่ำทรามไม่สร้างสรรค์เอาแต่เลียน้ำลายคนอื่นมาพูดพล่อยๆ เอาเท่

(24 ต.ค.65) นายวิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า *จะวิ่งจะว่ายอีกกี่ร้อยครั้ง​ ได้เงินบริจาคกี่พันล้านก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น​ ถ้าไม่แก้ปัญหาที่โครงสร้าง*

เมิงพูดกี่ครั้งก็ดูเท่ทุกครั้งแหละ​ แต่เมิงต้องรู้ก่อนว่า​"โครงสร้างสังคมที่เป็นอยู่นี้เป็นแบบไหน​ อย่างไร" แจกแจงให้ชัด และเมิงต้องการให้เป็นแบบไหน​ อย่างไร​ อย่าเลียน้ำลายคนอื่นมาพูดพล่อยๆ เอาเท่

เมิงต้องรู้ต่อไปอีกว่า... โครงสร้างสังคมแม้จะเลอเลิศแค่ไหน​ แต่ถ้าคนชั่ว​ คนถ่วงความเจริญ​ คนจิตใจต่ำ​ คนไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ​ ไม่มีสำนึกสาธารณะ​ ไม่มีน้ำใจ​ ไม่มีความเป็นมนุษย์ โครงสร้างที่เลอเลิศนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้​ เหมือนคฤหาสน์หรู​ แต่คนอยู่กักขฬะโสมม​ คฤหาสน์ก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น

เมิงต้องการโครงสร้างสังคมแบบไหน​ อย่างไร​ เมิงต้องมี​ "โครงสร้างจิตสำนึกและเนื้อหาจิตสำนึก" ของเมิงก่อน​ เหมือนเมิงจะสร้างคฤหาสน์อันโอฬารตระการตา​ มึงต้องมีพิมพ์เขียวก่อน

‘นิชคุณ’ ฟาด!! ชาวเน็ตขุดคลิปว่ายน้ำโจมตี ‘โตโน่’ ย้ำ!! “ไม่มีอะไรดีๆ จะพูด ก็ไม่ต้องพูดดีกว่า”

ทำเอาหนุ่ม ‘นิชคุณ’ ไม่สบายใจอย่างแรง หลังชาวทวิตเตอร์เอาภาพที่ ‘นิชคุณ หรเวชกุล’ ไอดอลเกาหลีวง 2PM เคยไปออกรายการนึง แล้วว่ายน้ำข้ามแม่น้ำฮัน ตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว ไปเชื่อมโยงเปรียบเทียบกับการว่ายน้ำข้ามโขง ของ ‘โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ ในโครงการ ‘ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ เพื่อหาเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ 

โดยหนุ่มนิชคุณ ยอมรับตรงๆ ว่ารู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า “จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้ข่าวลึกขนาดนั้น แต่ในใจผมก็คือเป็นแฟนคลับพี่โตโน่อยู่แล้ว เพราะว่าพี่เขาก็ทำงานช่วยสังคมมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วเขาก็มาว่ายน้ำครั้งนี้ คือผมเช็กทวิตเตอร์อยู่ดีๆ ก็มีคลิปที่ผมว่ายน้ำขึ้นมา แล้วก็มีคนโจมตีกันไปโจมตีกันมา ผมก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแบบ 100% ผมก็เลยอยู่ห่างๆ ดีกว่า แต่ผมก็คิดว่าพี่โตโน่เขาก็พยายามทำดีเพื่อสังคมของเขา ไม่ได้ตกใจที่มีการโยงแต่ก็แบบ…ทำไมอีกแล้ว คือผมก็ชื่นชมที่พี่เขาพยายามทำดีเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ แล้วพอเอามาโยงกับผมแล้วกลายเป็นว่าทั้งสองฝั่งปะทะกันแล้วแบบมันไม่เกิดอะไรที่มันดีขึ้น ผมก็เลยอยู่เงียบๆ ของผมดีกว่า เดี๋ยวมันก็ซาลงไปเอง คือถ้ามีฝั่งไหนออกมาพูดอะไรด้วยตัวเองมันจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง”

'โตโน่' สุดปลื้ม 'ในหลวง-พระราชินี' มอบพระราชสาส์น พระราชทานกำลังใจ 'หนึ่งคนว่ายหลายคนให้'

..ปลื้มปีติ โตโน่ ภาคิน เป็นตัวแทนโครงการ หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ เข้ารับพระราชทาน พระราชสาส์นกำลังใจ จากในหลวง-พระราชินี

หลังทำภารกิจว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ในโครงการหนึ่งคนว่ายหลายคนให้ One Man & The River เพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลทั้ง 2 ฝั่ง ไทยและลาวสำเร็จแล้ว ซึ่งได้ปิดยอดบริจาครวมกว่า 82 ล้านบาท พร้อมเตรียมจัดส่งเครื่องมือทางการแพทย์ ตามที่โรงพยาบาลจำเป็นต้องใช้ เพื่อเป็นประโยชน์แก่คุณหมอ และพยาบาล สำหรับใช้ในการรักษาต่อไป ทั้งนี้นักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ยังได้ประกาศเตรียมลาบวชในช่วงต้นปีหน้า หลังเคลียร์งานเสร็จเรียบร้อย เพื่อตอบแทนน้ำใจของทุกคนอีกด้วย

ล่าสุดในอินสตาแกรมของโตโน่ ได้โพสต์ภาพตนเอง พร้อมด้วย คุณแม่น้อย สุดชมโชย ขณะเข้ารับพระราชทาน พระราชสาส์นกำลังใจ จากในหลวงและพระราชินี โดยได้เขียนข้อความสุดปลื้มปีติใต้โพสต์ดังกล่าวด้วยว่า “วันนี้ผม เป็นตัวแทนจากโครงการ ‘ONE MAN AND THE RIVER หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ เข้ารับพระราชทาน พระราชสาส์นจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

‘หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ ปันน้ำใจ ‘พี่น้องชาวไทย’ สู่ ‘พี่น้องชาวลาว’

หลายครั้งหลายคราที่เราได้เห็นคนในวงการบันเทิงออกมาทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม เช่น ‘บิณฑ์ บันลือฤทธิ์’ ที่อาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไม่ว่าจะไฟไหม้ น้ำท่วม และทุกเรื่องที่ช่วยได้ก็จะเข้าไปช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง หรือแม้แต่ ‘พี่ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย’ ที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาจัดกิจกรรมวิ่งการกุศลเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือโรงพยาบาล และยังมีคนในรวมถึงบุคคลในวงการบันเทิงอีกหลายท่านที่ขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่สังคมไทยต่างภาคภูมิใจในจิตอาสาของพวกเขาทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามในปีนี้ ถ้าจะให้พูดถึงจิตอาสาอีกคนในวงการบันเทิงที่สร้างกระแสสะเทือนสังคมได้สุด ๆ ก็คงหนีไม่พ้น ‘โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ที่ได้ออกมาประกาศโครงการว่ายน้ำข้ามโขง เพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์มอบให้กับโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ภายใต้ชื่อโครงการ ‘One Man & The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ โดยตั้งเป้ารับยอดบริจาคไว้ที่ 17 ล้านบาท

หลังจากที่ประกาศโครงการออกไป กระแสตอบรับก็มีทั้งดีทั้งร้ายปะปนกันไป มีบางคนที่ไม่สนับสนุนการว่ายน้ำข้ามโขงในครั้งนี้เพราะมองว่าอันตรายเกินไป อีกทั้งจะกลายเป็นภาระให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องระดมคนมาดูแล บางคนก็สนับสนุนเป็นอย่างดีเพราะเชื่อมั่นในฝีมือและความตั้งใจของโตโน่

'โตโน่' ทำได้!! 'หนึ่งคนว่าย หลายคนให้' ส่งมอบศูนย์หัวใจสองฝั่งโขงสำเร็จ

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ. 67) ณ โรงพยาบาลนครพนม ได้จัดงานส่งมอบศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง ONE MAN AND THE RIVER ห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลนครพนม ตามรายการบริจาคว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ONE MAN AND THE RIVER ‘หนึ่งคนว่าย หลายคนให้’ โดยมีนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรทางการแพทย์ร่วมงาน

นายนฤพนธ์ ยุทธเกษมสันต์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม กล่าวว่า ปัจจุบันมีการเปิดประเทศจะมีผู้เดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนมเพิ่มขึ้น จากทั้งภาคเศรษฐกิจ ภาคการท่องเที่ยว และภาคการแพทย์และสุขภาพ ในด้านสาธารณสุข จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการรองรับผู้สูงอายุ มีประชากรสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเดินทางเข้ามารับบริการทางการแพทย์และสุขภาพในจังหวัดนครพนม ปี 2563 เราให้บริการผู้ป่วยนอก 320,210 ครั้ง ผู้ป่วยใน 27,992 ครั้ง คาดว่าการเปิดประเทศจะมีประชากรต่างชาติ เดินทางเข้ามารักษาจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันยังเป็นปัญหาหลักในพื้นที่ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา

ดังนั้น การก่อตั้งศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง โรงพยาบาลนครพนม จะช่วยให้ผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในจังหวัดนครพนม และพื้นที่ข้างเคียงได้อย่างรวดเร็วตามมาตรฐานการรักษา เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตและทุพพลภาพ โดยในส่วนของโรงพยาบาลนครพนมนั้นได้ดำเนินการยื่นเรื่องไปที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติแล้ว คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในเดือนเมษายน และระหว่างที่เรากำลังพัฒนาบุคลากรด้านนี้ให้มากขึ้น เราได้ทีมศูนย์หัวใจเพื่อแผ่นดินจากโรงพยาบาลสกลนครมาช่วยก่อน

น.ส.เอด้า จิรไพศาลกุล กรรมการผู้จัดการเทใจดอทคอม กล่าวว่า เทใจดอทคอมเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ระดมทุนและจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วนให้ครบถ้วนตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยเริ่มจากการสำรวจความต้องการใช้งาน ความพร้อมของเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ จากนั้นจึงเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆ เข้ามานำเสนอต่อคณะกรรมการกลาง โดยกระบวนการดังกล่าวทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน hand social enterprise ช่วยออกแบบกระบวนการเพื่อให้การคัดเลือกโปร่งใสที่สุด และการทำศูนย์หัวใจสองฝั่งโขงยังได้ความอนุเคราะห์จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจจากที่ต่าง ๆ เช่น ผศ.นพ.วรการ พรหมพันธุ์ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ผศ.นพ.ไชยสิทธิ์ วงศ์วิภาพร หัวหน้าสาขาวิชาโรคหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นพ.เขตต์ ศรีประทักษ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานอายุรศาสตร์หัวใจโรงพยาบาลทรวงอก นพ.ธนพัฒน์ เลิศวิทยากำจร นายแพทย์ชำนาญการ อายุรกรรม (หัวใจ) ผศ.พ.ญ.รัตนา คำวิลัยศักดิ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ที่ได้ร่วมกันคัดเลือกเพื่อให้ได้เครื่องที่ดีและเหมาะสมกับโรงพยาบาลที่จะเป็นศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง

ด้านนายโตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ กล่าวว่า พวกเราทั้งพี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาว สปป.ลาวได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้โรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลแขวงคำม่วน โดยมูลค่าสิ่งของที่เราจัดซื้อไปทั้งหมดคิดเป็น 92,500,000 บาท วันนี้ถือเป็นวันที่ดีมาก ๆ อีกวันที่เรามาร่วมกันเป็นสักขีพยานในการปิดโครงการ เพื่อส่งมอบ ‘ศูนย์หัวใจสองฝั่งโขง’ (Cath Lab) ที่ใช้เวลากว่า 6 เดือนในการจัดตั้งศูนย์หัวใจแห่งนี้ เริ่มตั้งแต่การทำห้องสวนหัวใจใหม่ที่มีระบบความปลอดภัยจากอันตรายจากรังสีต่าง ๆ รวมถึงการทำระบบไฟฟ้าสำรองที่สามารถตรวจรักษาผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง แม้ระบบไฟฟ้าจะดับทั้งเมืองนครพนม

นอกจากนี้ยังมีการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับใช้ในห้องตรวจรักษาแบบครบครัน ได้แก่ เครื่องสวนหัวใจระนาบเดี่ยว, เครื่องอัลตราซาวนด์หัวใจ, เครื่องอัลตราซาวนด์ชนิดดูเส้นเลือดหัวใจ, เครื่องตรวจวัดการแข็งตัวของเลือด, เครื่องปั๊มหัวใจไฟฟ้า, เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ พร้อมระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้เพื่อให้วิเคราะห์การตรวจรักษาได้อย่างแม่นยำ ปัจจุบันเราทราบว่าทั้งสองโรงพยาบาลได้ใช้เครื่องมือแพทย์ที่ได้รับบริจาคจากโครงการหนึ่งคนว่าย หลายคนให้ อย่างคุ้มค่า เช่น โรงพยาบาลนครพนมมีการใช้งานเครื่องต่าง ๆ ทุกวัน ขณะที่โรงพยาบาลแขวงคำม่วนได้ใช้ตรวจรักษาคนลาวไปแล้วกว่า 12,000 คน

"รู้สึกดีใจที่พวกเราได้มีส่วนร่วมทำให้พี่น้องชาวไทยและชาว สปป.ลาว ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงโรงพยาบาลแห่งนี้ได้เข้าถึงการตรวจรักษาที่ทันสมัย เพื่อให้ทุกท่านได้มีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสุดท้ายนี้ ผมขอขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่มีส่วนในการทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วงตามเจตนาที่ได้ตั้งใจไว้"

ทั้งนี้ มีตัวแทนแขวงคำม่วน ดร.สมจิตร อ่ำพิลาวง รองหัวหน้าแผนกสาธารณสุขแขวงคำม่วน ท้าววันทะวี สานุวง รองหัวหน้าแผนกการต่างประเทศ ดร.นางคำหล้า ราชวง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแขวงคำม่วน พร้อมคณะ มาร่วมพิธีด้วย

โรงพยาบาลนครพนมได้รับเครื่องมือแพทย์ 11 รายการ ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการสวนหัวใจ 1 ศูนย์ ที่โครงการได้จัดซื้ออุปกรณ์ครบครัน ประกอบด้วย เครื่องสวนหัวใจระนาบเดี่ยว, เครื่องอัลตราซาวนด์หัวใจ, เครื่องอัลตราซาวนด์ชนิดดูเส้นเลือดหัวใจ, เครื่องตรวจวัดการแข็งตัวของเลือด, เครื่องปั๊มหัวใจไฟฟ้า, เครื่องตรวจคลื่นหัวใจ, ระบบ IT ต่าง ๆ เพื่อให้การวิเคราะห์แม่นยำ, งบประมาณเพื่อปรับปรุงสถานให้รองรับการใช้งาน, เครื่องช่วยหายใจสำหรับเด็กชนิดความถี่สูงพร้อมชนิดควบคุมแรงดันและชนิดไม่สอดใส่ท่อ 1 เครื่อง สำหรับ PICU (ห้องไอซียูเด็ก)

เครื่องเฝ้าติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ Monitor NIBP 1 เครื่อง สำหรับ PICU (ห้องไอซียูเด็ก), เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมปริมาตรและแรงดันพร้อมระบบหย่าเครื่องอัตโนมัติ ขนาดกลาง จำนวน 5 เครื่อง, เครื่องควบคุมการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ 20 เครื่อง เตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้า 3 Motor 12 เตียง 

เตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้าชนิด 4 motor ชนิดที่ชั่งน้ำหนักได้ 2 เตียง เตียงผู้ป่วยสำหรับไอซียูปรับด้วยไฟฟ้าชนิด 4 motor จำนวน 3 เตียง เตียงสำหรับผู้ป่วยควบคุมด้วยรีโมตคอนโทรลที่นอนโฟม (Stroke) 12 เตียง เครื่องอัลตราซาวนด์หัวใจ 1 เครื่อง เครื่องวัดความดันโลหิต 5 เครื่อง

โรงพยาบาลแขวงคำม่วนได้เครื่องมือแพทย์ 20 รายการ ดังนี้ เครื่องช่วยหายใจเด็ก ชนิด nCPAP จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องช่วยหายใจสำหรับทารกที่มีภาวะหายใจลำบาก ภาวะหยุดหายใจ หรือหลังจากถอดท่อช่วยหายใจทางหลอดลม เพื่อช่วยให้ทารกหายใจเหนื่อยน้อยลง เครื่องเฝ้าติดตามสัญญาณชีพชนิดข้างเตียงผู้ป่วย Bedside Monitor ที่สามารถติดตามภาวะการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต จำนวน 5 เครื่องเพื่อติดตั้งในห้อง ICU เครื่องกระตุกหัวใจ AED จำนวน 3 เครื่อง เพื่อติดตั้งในห้องฉุกเฉิน รถกู้ชีพ เครื่องวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติพร้อมขาตั้ง 12 เครื่อง เพื่อติดตามอาการคนไข้ในแผนกและวอร์ดผู้ป่วยในต่าง ๆ เครื่องวัดความดันชนิดสอดแขนจำนวน 3 เครื่อง เพื่อใช้แผนก OPD, ผู้ป่วยฉุกเฉิน เครื่องดึงคอ/ดึงหลัง (traction) จำนวน 1 เครื่อง

สำหรับแผนกกายภาพบำบัดที่ปัญหาด้านกระดูกคอและสันหลัง เครื่องอัลตราซาวนด์สำหรับกายภาพ จำนวน 2 เครื่อง แผนกกายภาพบำบัดเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ หม้อต้มแผ่นประคบร้อน จำนวน 1 เครื่อง (แผนกกายภาพบำบัด) Infant Incubator 2 เครื่อง Radian Warmer 2 เครื่อง Surgical Light (อยู่ระหว่างการขนส่ง) Infusion Pump 5 เครื่อง Syringe Pump 5 เครื่อง ชุดกล้องส่องตรวจและผ่าตัดโพรงจมูกและทอมซิล ENT Diagnostic Set 1 ชุด เครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง 1 เครื่อง ULTRASOUND 4 มิติ แผนกสูติ 1 เครื่อง เครื่องวัดการบีบตัวของมดลูก ครรภ์แฝด 1 ชุด ชุดกล้องส่องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้ใหญ่พร้อมเครื่องล้างกล้องส่องตรวจ 1 เชต อุปกรณ์ผ่าตัดสมอง (เครื่องเจาะและตัดกะโหลกชนิดความเร็วสูง) Autocave เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อขนาด 280 ลิตร


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top