Tuesday, 22 April 2025
หนังไทย

‘สุรพงษ์’ ชู ดันอุตฯ หนังไทย เป็น soft power สู่เวทีโลก ใช้ศักยภาพดึงดูดนักลงทุน-สร้างรายได้ นำพาประเทศพ้นความจน

(4 พ.ค. 66) นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ตัวแทนพรรคเพื่อไทย กล่าวบนเวทีรับฟังปัญหาและแสดงวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ที่ห้องออดิทอเรี่ยม ชั้น 5 Bacc หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ถึงแนวทางให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยว่า วงการภาพยนตร์ไทยมีศักยภาพอยู่แล้ว แต่รัฐฯ ต้องเข้าไปช่วยพัฒนาในส่วนของ 4M คือ man (ทรัพยากรมนุษย์), money (เงินทุน), management (การบริการจัดการ) และ material (วัตถุดิบ)

นายสุรพงษ์ขยายความว่า ปัญหาด้านการบริหารจัดการ พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะตั้ง ‘Thailand Creative Public Agency’ ขึ้นมา เป็นองค์กรที่แยกออกจากส่วนราชการ เพื่อให้การทำงานมีความยืดหยุ่นและต่อเนื่อง มี พ.ร.บ. รองรับ เพื่อให้มีอำนาจและงบประมาณที่ชัดเจน ที่สำคัญองค์กรดังกล่าวจะต้องได้รับความสำคัญจากรัฐบาล และมีตัวแทนของภาคเอกชนเข้าไปร่วมขับเคลื่อน เช่น สนับสนุนให้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน สร้างองค์ความรู้ เช่าโรงภาพยนตร์เพื่อฉายภาพยนตร์ไทยทุกจังหวัด

ส่วนปัญหาเรื่องเงินทุนและทรัพยากรมนุษย์นั้น สุรพงษ์กล่าวว่า แก้ไขได้ด้วยการผลักดันให้โกอินเตอร์เพื่อดึงดูดทุนจากต่างประเทศเข้ามา ทุนจะดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาด้วยค่าตอบแทนและสวัสดิการที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยยังมีแนวคิดว่า วัตถุดิบอย่างบทภาพยนตร์ควรถูกนำมาตีมูลค่าเป็นทรัพย์สิน เพื่อให้นำไปใช้ในการดำเนินการทางธุรกิจการเงินต่าง ๆ ได้ 

“ทั้งนี้ทั้งนั้น คนที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาลต้องมีความเจตจำนงทางการเมือง นายกรัฐมนตรีต้องสนใจและทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง ลำพังรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมแก้ปัญหาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยไม่ได้” นายสุรพงษ์ เสริม


ที่มา : https://www.facebook.com/pheuthaiparty/posts/pfbid0s6F3Aw9HhniVppJqhwCmaW4Bh7VSRuUHnSc39jovkktKzRGh1L3WSHci7U9FqZY7l

‘หลานม่า’ หนังครอบครัวน้ำตาซึม สะท้อนภาพวัฒนธรรมไทย-จีน ครองใจผู้ชมทั่วเอเชีย ขึ้นแท่นหนังทำเงินสูงของไทย ปี 2024

(18 ก.ย. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ไทยเนื้อหาสุดซึ้งกินใจผู้คนจนมีชื่อเสียงโด่งดังและกวาดรายได้มหาศาลตั้งแต่เข้าฉายในแผ่นดินใหญ่ของจีนเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยสามารถทำรายได้มากกว่า 100 ล้านหยวน (หรอืประมาณ 500 ล้านบาท) และมีเรตติงอยู่ที่ 8.9 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนนจากผู้ชมภาพยนตร์กว่า 140,000 คนบนเว็บไซต์โต้วป้าน (Douban) แหล่งรวมรีวิวและคำวิจารณ์ภาพยนตร์สัญชาติจีน

นอกจากจะประสบความสำเร็จในจีนแล้ว ภาพยนตร์เรื่องหลานม่ายังได้รับความนิยมไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดของไทยในปี 2024 และเป็นภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย

‘หลานม่า’ ภาพยนตร์ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่อาสาขอดูแลยาย (อาม่า) ของตนที่ป่วยหนักในฐานะ ‘หลานชายที่แสนกตัญญู’ เพื่อหวังที่จะเป็นผู้ได้รับมรดกของยาย ทว่าสุดท้ายกลับพบคุณค่าที่แท้จริงของความสัมพันธ์ในครอบครัว

ผู้ชมชาวจีนส่วนมากพบว่าครอบครัวชาวจีนโพ้นทะเลแต้จิ๋วที่ปรากฏในหนังเรื่องนี้มีความคล้ายคลึงกับครอบครัวของตน ทำให้พวกเขามีอารมณ์ร่วมไปกับภาพยนตร์จนน้ำตาซึม และนำมาสู่การถกเถียงเกี่ยวกับจริยธรรมของครอบครัวและปัญหาทางสังคมในวงกว้าง

‘พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์’ ผู้กำกับและผู้ร่วมเขียนบทของภาพยนตร์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้พูดถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เราทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี สิ่งนี้อาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ ‘หลานม่า’ ได้รับความนิยมและเข้าถึงผู้คน

‘หลานม่า’ เป็นผลงานภาพยนตร์เกี่ยวกับครอบครัวชิ้นแรกของพัฒน์ โดยในตอนเริ่มแรกบทภาพยนตร์นี้เขียนขึ้นโดยอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนบทอีกหนึ่งคนที่ต้องดูแลย่าที่ป่วยในตอนที่ตนยังเป็นเด็ก ซึ่งผู้เขียนบททั้งสองคนได้ใช้เวลาถึง 2 ปีในการขัดเกลาบทภาพยนตร์ พร้อมเพิ่มรายละเอียดที่อ้างอิงจากผู้คนและเหตุการณ์จริงมากขึ้น

สำหรับพัฒน์ ผู้กำกับซึ่งเป็นลูกครึ่งไทย-จีน เปิดเผยว่าการสร้างภาพยนตร์โดยอิงจากองค์ประกอบทางวัฒนธรรมที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นยายของเขา และสามารถนำภาพยนตร์มาเข้าฉายในจีนที่ซึ่งผลตอบรับของผู้ชม ‘เกินความคาดหมาย’ นั้นล้วนเป็นประสบการณ์ที่แสนพิเศษสำหรับเขา

ด้านทรงพล วงษ์คนดี ผู้อำนวยการฝ่ายขายและธุรกิจต่างประเทศของจีดีเอช 559 (GDH 559) ซึ่งเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องนี้ ระบุว่าการที่หลานม่าได้รับความนิยมในจีน เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จในการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของไทย โดยตลาดพลู ซึ่งเป็นตลาดในเขตธนบุรีของกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ถ่ายทำหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้กลายมาเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแล้วในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ทรงพลยังหวังว่าผู้บริโภคชาวจีนจะเข้าใจภาพยนตร์ไทยมากขึ้นผ่านโอกาสในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นใบเบิกทางให้กับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยในตลาดวัฒนธรรมที่กว้างกว่าเดิม

หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรี ยุคล ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านภาพยนตร์และซีรีส์ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของไทย เปิดเผยว่าไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม อาทิ ชายทะเลและเกาะต่าง ๆ

หม่อมราชวงศ์เฉลิมชาตรีเผยว่าไทยและจีนมีความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านภาพยนตร์และวัฒนธรรมอื่น ๆ อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยมีทีมงานภาพยนตร์ชาวจีนเดินทางมาถ่ายทำที่ไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะภาพยนตร์และซีรีส์บางเรื่องที่มีกลิ่นอายของไทยได้รับความนิยมในตลาดขนาดใหญ่ของจีนเช่นกัน พร้อมเสริมว่าภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และเราให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับจีนในด้านอุตสาหกรรมนี้

'พชร์-อานนท์' ปลื้ม!! คนเลือกดูหนังกันเก่งขึ้น ไม่ต้องพึ่ง 'นักวิจารณ์-นักรีวิว' กันอีกต่อไป

เมื่อวานนี้ (22 ก.ย. 67) ผู้กำกับชื่อดัง 'พชร์ อานนท์' ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

พิสูจน์ออกมาแล้วว่าคนสมัยนี้ดูหนังกันเก่งขึ้นคือดูหนังกันตามรสนิยมชมชอบของตัวเองไม่ต้องพึ่งนักวิจารณ์นักรีวิวกันอีกต่อไป 

อยากปรบมือให้กับคนดูหนังไทยหนังไม่ไทยให้ดัง ๆ เงินเรา ชีวิตเรา เราอยากจะใช้จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของเรา เพราะจะมีจะจนก็ตัวเรา ไม่ต้องไปพึ่งไปฟังคนรอบข้าง เราทำงานเหนื่อยก็ตัวเรา ไม่มีนักวิจารณ์ นักรีวิวมาช่วย เราทำงานพอเราจะซื้อความสุข เราก็ต้องตัดสินใจด้วยตัวเราเอง 

ที่ออกมาพูดแบบนี้ เพราะเราสังเกตดู หนังที่เข้าฉายในระยะไล่เลี่ยกัน ในช่วงนี้หนังบางเรื่องคนชมกันเยอะมาก เพจรีวิว นักวิจารณ์ทั้งที่เป็นเองและแต่งตั้งตัวเองขึ้นมา ต่างชมกันแทบทุกเพจ เลื่อนไปตรงไหนก็เจอแต่คนชมว่าดีว่าทันสมัยว่าล้ำยุค แต่ตรงข้ามกับรายได้ของหนังที่ชมกันเลย เรียกว่าชมกันจนเลือดตาแทบกระเด็น 

ผิดกับหนังที่ถูกด่าจนลิ้นไก่จะทะลุออกจากคอ อย่างเช่น หนังเรื่องวีไอผี และวีณา หนังนอกสายตา รู้มั้ยหนัง 2 เรื่องนี้ทำเงินไปถึงเกือบ 30 ล้าน 2 เรื่องรวมกัน 

ซึ่งมันพิสูจน์ให้เห็นว่า รสนิยมของคนดูหนังมันไม่เหมือนกัน เราก็ไม่ได้บอกว่าหนัง 2 เรื่องนี้เป็นหนังที่ดี 100% แต่คนเลือกที่จะดูเพราะฉะนั้นอย่าดูถูกรสนิยมคนอื่น เงินก็เงินเขา ชีวิตก็ชีวิตเขา ความคิดก็ความคิดเขา จะไปว่าเขาไม่มีสมองไม่มีรสนิยม ต่ำดูหนังไม่เป็นไม่ได้ สมองคนเราเท่ากันแค่ความชอบมันต่างกันไม่ใช่เรื่องที่ผิด 

ประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะฉะนั้นคิดว่าทุกคนคงเข้าใจคำว่า ประชาธิปไตย กันเป็นอย่างดี ไม่เอาไม่ว่าไม่ด่าไม่บลูลี่คนอื่นถ้าเขาคิดไม่เหมือนเรา และอย่าด่าเราด้วยเพราะเราก็คิดไม่เหมือนคนอื่นเหมือนกัน นาน ๆ อยากจะพูดที โปรดเคารพความคิดความชอบของคนอื่นด้วยแล้วเราจะอยู่กันอย่างมีความสุข จริงมั้ยคนไทย? 

พูดในฐานะผู้กำกับไทยคนนึงที่นั่งดูวงการหนังไทยมายาวนาน และจงโปรดจงรับรู้กันไว้ด้วยว่า ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่อยากเอาเงินของตัวเองออกมาลงทุนแล้วเขาก็อยากได้รับผลการตอบแทนที่คุ้มค่า หรือขอทุนคืนก็ยังดีเงินไม่ได้หากันง่าย ๆ นะสมัยนี้ ใครจะบ้าเอามาให้ขยี้ขย้ำ ละเลงกันได้บ่อย ๆ ละจ๊ะ สังคมมันเปลี่ยนไปเร็ว ๆ จริง อย่าเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ถ้าเราไม่ได้สัมผัสหรือรับรู้มันจริง ๆ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top