Tuesday, 22 April 2025
สุทธิชัยหยุ่น

‘เศรษฐา’ โต้เดือด!! ‘ศิริกัญญา-หยุ่น’ ปมดิจิทัลวอลเล็ต ซัด!! อย่าเอาความคิดตัวเองมาสร้างความสับสนให้ ปชช.

(11 พ.ย. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความใน X หรือ ‘ทวิตเตอร์’ ตอบโต้นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท

นายเศรษฐา ระบุว่า “อย่าเอามาตรฐานความคิดของตัวเองมาหวังว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนกัน อย่ามองความตั้งใจที่บริสุทธิ์ และความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน มาเป็นมุมการเมืองที่สร้างความสับสนให้กับประชาชนเลยครับ”

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังได้ตอบโต้นายสุทธิชัย หยุ่น ที่โพสต์ระบุว่า “นายกฯ ย้ำคำว่า ‘e-government’ หลายครั้ง คงต้องนิยามให้ชัด ๆ อย่าให้งงเหมือน soft power” โดยนายกฯ กล่าวว่า “ผมว่าทุกคนเค้าเข้าใจดีครับ ยกเว้นสื่อบางสื่ออาจจะพยายามบิดเบือนหรือสร้างความเข้าใจ เพื่อให้คุณเข้าใจผิด”

LINE TODAY มอบรางวัล PERSON OF THE YEAR ให้ ‘สุทธิชัย หยุ่น’ ในฐานะ นักข่าวผู้คร่ำหวอด ยืนหยัดในวงการสื่อมาเกือบ 6 ทศวรรษ

เมื่อเร็วๆ นี้  LINE TODAY ได้มอบรางวัล PERSON OF THE YEAR 2024 บุคคลต้นแบบที่แนวคิดและผลงานนั้น มีอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้คน สังคม และประเทศ ประเดิมปีแรกมอบให้ “สุทธิชัย หยุ่น” นักข่าวผู้คร่ำหวอดในวงการสื่อสารมวลชนมาเกือบ 6 ทศวรรษ ที่สามารถยืนหยัดและปรับตัวท่ามกลางกระแสคลื่นการเปลี่ยนแปลงในภูมิทัศน์สื่อหลายระลอก ทำให้ยังคงเป็นบุคคลข่าวที่ผู้คนทุกวัยติดตามในโลกปัจจุบัน พร้อมดันรางวัลเป็นหมุดหมายใหม่สร้างแรงบันดาลใจคนไทย

สิริกาญจน์ สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ LINE TODAY - LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาสำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ในหลายมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคมที่กำลังเปลี่ยนผ่านยุคสมัยทั่วโลก ความท้าทายสำคัญคือการก้าวทันและปรับตัวให้สามารถยืนหยัดเป็นต้นแบบ และสร้างสรรค์ผลงานให้เกิดอิทธิพลเชิงบวกต่อผู้คน นั่นคือสิ่งที่ LINE TODAY มองหาบุคคลที่จะเป็น PERSON OF THE YEAR ซึ่งคุณสุทธิชัย หยุ่น เป็นนักสื่อสารมวลชนที่ก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงหลายยุคสมัยของอุตสาหกรรมข่าวในเมืองไทยมาเกือบ 60 ปี  จากหนังสือพิมพ์สู่โลกออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มอย่างเต็มตัว  ซึ่งยังคงนำเสนอแนวคิด การวิเคราะห์ข่าวเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ตรงไปตรงมา ชัดเจน ตั้งคำถามให้ฉุกคิดผ่านทัศนะและประสบการณ์ที่สั่งสมมานาน สามารถเชื่อมโยงผู้ติดตามได้ทุกเพศทุกวัยให้เกาะติดสถานการณ์รอบโลก” 

สุทธิชัย หยุ่น ได้เผยถึงการบทบาทการทำงานว่า “ในฐานะที่ผมทำสื่อออนไลน์มาเกือบ 20 ปี เราต้องทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลที่คนไว้วางใจ สำคัญที่สุดต้องทำการบ้านและตรวจสอบข้อเท็จจริง เคล็ดลับความสำเร็จใหม่ในยุคนี้คือการปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม ในยุคที่โซเชียลมีเดียสร้างโอกาสให้สามารถสื่อสารสองทางได้ ซึ่งไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนอย่างไร คุณภาพเนื้อหาจะเป็นตัวตัดสิน โดยเฉพาะความท้าทายในยุคนี้ที่ใครก็สามารถเป็นสื่อได้ เรายิ่งต้องยกระดับการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร (Information)  ให้เป็นองค์ความรู้ (Knowledge) นำไปสู่สร้างภูมิปัญญา (Wisdom) ที่ผู้คนนำไปดำเนินชีวิตในยุคนี้ได้” 

เปิดรายได้ 6 ปี 'สุทธิชัย หยุ่น' โกย 318 ล้าน กำไรกว่า 151 ล้าน พบ 20 สัญญากว่า 20 ล้าน มาจาก 'ไทยพีบีเอส' จ้าง 'บ.กาแฟดำ'

(14 มิ.ย. 67) จากกรณีที่นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข อดีตผู้ดำเนินรายการสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี กล่าวผ่านรายการประชาทอล์ค ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของสำนักข่าวประชาไท ชี้แจงกรณีที่อดีตผู้ประกาศข่าวสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ซึ่งปิดกิจการไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เช่น นายธีรัตถ์ รัตนเสวี นางสาวลักขณา ปันวิชัย หรือคำ ผกา ไปผลิตรายการข่าวเช้าให้กับสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) กรมประชาสัมพันธ์ ในนามบริษัท คำดี จำกัด กล่าวว่า รายการดังกล่าวมีพิธีกร 3 คนดำเนินรายการ จ่ายค่าดำเนินรายการ 3 คน แล้วผู้ดำเนินรายการจ่ายค่าช่างแต่งหน้า และค่าโปรดิวเซอร์ที่มาช่วยทำข้อมูลให้ ต่างจากนายสุทธิชัย แซ่หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส และนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ จัดรายการให้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสยังไง

"การเข้าข้างกัน เชียร์กัน มีสื่อเชียร์รัฐบาลไม่ใช่เรื่องผิด และการมีกลุ่มคนที่เห็นด้วยกับรัฐบาลก็ไม่ใช่เรื่องผิด เขาก็อยากจะอธิบายแทนรัฐบาล เพราะที่ผ่านมามีคนถล่มรัฐบาล กระทั่งรับปัญหามา ก็รู้สึกมีปมเรื่องนี้ว่าทำไมไม่พยายามอธิบายในสิ่งที่รัฐบาลทำบ้าง เมื่อสื่อส่วนใหญ่เข้าข้างฝ่ายค้าน ทำไมสื่อส่วนหนึ่งจะอธิบายสิ่งที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนกันไม่ได้" นายชูวัสกล่าว

ต่อมานายสุทธิชัยโพสต์ข้อความในแพลตฟอร์ม X บัญชี @suthichai ว่า "ขอใช้สิทธิพาดพิงครับ ความแตกต่างที่ชัดที่สุดคือ รัฐบาลสั่ง NBT ได้ แต่สั่ง ThaiPBS ไม่ได้ครับ (ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลลุงตู่หรือรัฐบาลนี้)"

ล่าสุดเฟซบุ๊ก ‘ซึ่งต้องพิสูจน์’ โพสต์อินโฟกราฟิก หัวข้อ ‘เว็บฯ ระบบข้อมูลการใช้จ่ายภาครัฐ (ภาษีไปไหน)’ ระบุ ตั้งแต่ปี 62 ถึงปี 67 TPBS จ้าง ‘บริษัท กาแฟดำ’ (ที่มี ‘สุทธิชัย หยุ่น’ เป็น 1 ในกรรมการ) 20 โครงการ มูลค่า 20.86 ล้านบาท’ โดยเรียงลำดับตามมูลค่าโครงการดังนี้

1. วันที่ลงนามในสัญญา 14 ส.ค. 62 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผลิตและจัดหารายการ ฟังเสียงประเทศไทย คำตอบอยู่ในหมู่บ้าน ไตรมาส 3-4/2562 จำนวน 26 ตอน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 3.25 ล้านบาท

2. วันที่ลงนามในสัญญา 6 พ.ย. 62 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผลิตรายการ ตั้งวงคุย กับสุทธิชัย หยุ่น โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 2.57 ล้านบาท

3. วันที่ลงนามในสัญญา 30 ธ.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการฟังเสียงประเทศไทย จำนวน 19 วัน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.52 ล้านบาท

4. วันที่ลงนามในสัญญา 9 ก.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการ ฟังเสียงประเทศไทย (จำนวน 17 วัน) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.36 ล้านบาท

5. วันที่ลงนามในสัญญา 10 มี.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการ ฟังเสียงประเทศไทย (ไตรมาสที่ 1-2/2563) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.12 ล้านบาท

6. วันที่ลงนามในสัญญา 30 มิ.ย. 65 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ (วันศุกร์) ไตรมาสที่ 3-4/2565 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.11 ล้านบาท

7. วันที่ลงนามในสัญญา 28 ม.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ ไตรมาสที่ 1-2/2563 (จำนวน 26 ตอน) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.11 ล้านบาท

8. วันที่ลงนามในสัญญา 16 ก.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ (ไตรมาสที่ 3-4/2563) จำนวน 26 ตอน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.11 ล้านบาท

9. วันที่ลงนามในสัญญา 30 มิ.ย. 66 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินการรายการตอบโจทย์ (วันศุกร์) ไตรมาสที่ 3-4/2566 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.11 ล้านบาท

10. วันที่ลงนามในสัญญา 27 ธ.ค. 64 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ (วันศุกร์) จำนวน 25 ตอน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.07 ล้านบาท

11. วันที่ลงนามในสัญญา 31 ม.ค. 67 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการคุยนอกกรอบ กับ สุทธิชัย หยุ่น (เดือนกุมภาพันธ์-เดือนมิถุนายน 2567) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 941,600.00 บาท

12. วันที่ลงนามในสัญญา 30 ธ.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการตอบโจทย์ (จำนวน 21 ตอน) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 898,800.00 บาท

13. วันที่ลงนามในสัญญา 16 ก.ย. 64 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการคุยให้คิด โดยคุณสุทธิชัย หยุ่น จำนวน 15 ตอนความยาวตอนละ 50 นาที โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 600,000.00 บาท

14. วันที่ลงนามในสัญญา 26 ก.ย. 65 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างค่าผู้ดำเนินรายการ รายการ คุยให้คิด ไตรมาส 4/2565 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 520,000.00 บาท

15. วันที่ลงนามในสัญญา 2 มิ.ย. 64 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างค่าผู้ดำเนินรายการ คุยให้คิด ไตรมาส 2-3/2564 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 520,000.00 บาท

16. วันที่ลงนามในสัญญา 2 ก.ค. 66 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการ คุยให้คิด (ไตรมาส 3/2566) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 520,000.00 บาท

17. วันที่ลงนามในสัญญา 2 ต.ค. 66 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการ คุยให้คิด ไตรมาส 4/2566 โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 520,000.00 บาท

18. วันที่ลงนามในสัญญา 6 มิ.ย. 65 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการ คุยให้คิด โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 480,000.00 บาท

19. วันที่ลงนามในสัญญา 31 มี.ค. 64 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผลิตหนังสือ ฟังเสียงประเทศไทย จำนวน 1,000 เล่ม โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 270,000.00 บาท

20. วันที่ลงนามในสัญญา 3 ธ.ค. 63 องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) จ้างผู้ดำเนินรายการ ฟังเสียงประเทศไทย (จำนวน 3 วัน) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง 240,750.00 บาท

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า บริษัท กาแฟดำ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2561 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ มีกรรมการบริษัท ประกอบด้วย นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น นายปราบดา หยุ่น นางนันทวัน แซ่หยุ่น และนายธวัช ยวงตระกูล เมื่อตรวจสอบงบการเงิน พบว่าผลประกอบการตลอด 6 ปีที่ผ่านมามีดังนี้

-ปี 2561 มีรายได้รวม 36,915,808.69 บาท กำไรสุทธิ 15,323,028.29 บาท
-ปี 2562 มีรายได้รวม 60,815,894.44 บาท กำไรสุทธิ 31,155,133.00 บาท
-ปี 2563 มีรายได้รวม 54,988,606.30 บาท กำไรสุทธิ 26,936,460.39 บาท
-ปี 2564 มีรายได้รวม 59,608,001.44 บาท กำไรสุทธิ 31,570,541.86 บาท
-ปี 2565 มีรายได้รวม 55,033,712.89 บาท กำไรสุทธิ 23,615,549.80 บาท
-ปี 2566 มีรายได้รวม 51,281,671.04 บาท กำไรสุทธิ 22,773,065.39 บาท

รวม 6 ปีมีรายได้รวม 318,643,694.80 บาท กำไรสุทธิรวม 151,373,778.83 บาท

สำหรับนายสุทธิชัย แซ่หยุ่น ปัจจุบันอายุ 77 ปี เคยเป็นผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการอำนวยการสื่อเครือเนชั่น เจ้าของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น กรุงเทพธุรกิจ คมชัดลึก และสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ก่อนยุติบทบาทเมื่อเดือน มี.ค. 2561 หันมาเปิดบริษัทชื่อว่ากาแฟดำ จัดรายการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และเขียนบทความให้กับหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ โดยใช้นามปากกา ‘กาแฟดำ’ ภายหลังจึงได้มาจัดรายการโทรทัศน์ผ่านสถานีโทรทัศน์ต่าง ๆ เช่น สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กรมประชาสัมพันธ์ สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี สถานีโทรทัศน์เอ็มคอต เอชดี เป็นต้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top