Monday, 21 April 2025
สรวง_สิทธิสมาน

เปิดเที่ยวบินประวัติศาสตร์ พาเด็กไทยกลับไปศึกษาต่อจีน ภายใต้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตลอดช่วง 2 ปี

นับเป็นอีกความสำเร็จของกลุ่มเด็กไทย ภายใต้การร่วมมือจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ, เอกชน, สมาคมนักเรียนไทย-จีน รวมถึงบรรดานักเรียนและผู้ปกครอง ที่รวมพลัง #พาเด็กไทยกลับจีน ตลอด 2 ปีหลังร่วมต่อสู้กันอย่างมีความหวัง เพื่อให้เด็กทุกคนได้กลับไปศึกษา ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนอีกครั้ง

เพราะอย่างที่ทราบดีว่าปัจจุบันมีนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาต่อที่ประเทศจีน ประสบปัญหายังกลับไปเรียนไม่ได้มีจำนวนมาก ซึ่งความยากลำบากที่นักเรียน/ นักศึกษากลุ่มนี้ต้องประสบ ก็มีตั้งแต่ ทุนรัฐบาลที่หลายคนกำลังจะถูกยกเลิกไป จนถึงถูกบังคับให้ลาออก, หลายคนต้องเสียค่าเช่าที่พักฟรีๆ เป็นปีเพราะขนของกลับไม่ได้, ค่าเทอมที่ต้องจ่ายเต็มแต่คุณภาพการเรียนออนไลน์ที่ไม่ช่วยอะไร, การฝึกงานหรือการทำตัวจบที่ค้างคาไปต่อไม่ได้ ฯลฯ ซึ่งถือว่าหนักหนามาก และกระทบต่อแผนการชีวิตและครอบครัว

นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน ได้เปิดเผยพร้อมขอบคุณทุกการช่วยเหลือนี้ว่า ตามที่กลุ่มร้องขอเปิดวีซ่านักเรียน (จีน) ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการส่วนใหญ่ในนามสมาคมนักเรียนไทย-จีน ได้ขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือจากท่านในด้านต่างๆ เพื่อช่วยเหลือนักเรียน/นักศึกษาไทยให้สามารถกลับไปศึกษาต่อ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีนมาตั้งแต่กลางปี 2563 นั้น

.
บัดนี้ด้วยความช่วยเหลือจากหลายฝ่าย ทำให้ความพยายามเรียกร้องเปิดวีซ่านักเรียนจีนของนักศึกษาไทยตลอด 2 ปี นั้นประสบความสำเร็จ จนเกิดเป็นเที่ยวบินแรกของนักศึกษาไทยในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา อันนำไปสู่การทยอยอนุมัติรายชื่อเดินทางกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนของนักเรียน/นักศึกษาไทยในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันเที่ยวบินที่สองกำลังดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนศกนี้ และเริ่มเข้าสู่การดำเนินการเที่ยวบินที่สามในลำดับถัดไป
.
ในนามของสมาคมนักเรียนไทย-จีน ร่วมกับกลุ่มร้องขอเปิดวีซ่านักเรียน (จีน) จึงขอขอบคุณท่านและผู้เกี่ยวข้องในหน่วยงานของท่านที่ให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือในด้านต่างๆ จนนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียกร้องเปิดวีซ่านักเรียนจีนของนักศึกษาไทย ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา
.
สำหรับความสำเร็จดังกล่าวเกิดขึ้นผ่านความอนุเคราะห์จากบุคคล รวมถึงองค์กรอีกหลายภาคส่วน เพื่อผลักดันให้เกิดเที่ยวบินแรกของโลกและเที่ยวบินถัดๆ ไป ในการพานักเรียน/นักศึกษาไทยกลับไปยังประเทศจีน เพื่อทำการศึกษาต่อ ได้แก่...

'สรวง ตัวแทนวัยรุ่นไทย' ร่วมเสวนากระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน หนุนคนรุ่นใหม่เป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพ 2 ชาติให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

(21 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ สหพันธ์ชาวจีนโพ้นทะเล และรัฐบาลมณฑลยูนนาน จัดการประชุมหอการค้าจีน-อาเซียน ครั้งที่ 20 และการเสวนาผู้นำเยาวชนไทย-จีน ที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน 

การเสวนาผู้นำเยาวชนไทย-จีนในครั้งนี้ ได้นำพาเยาวชนจากประเทศจีนและไทย มาร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายในด้านการค้าขาย และการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ในมิติต่าง ๆ ผ่านการประชุมรูปแบบการเสวนาโต๊ะกลม การกล่าวสุนทรพจน์ และบรรยายแลกเปลี่ยนประสบการณ์

คว่าง จินหรง ประธานสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการเสวนา และกล่าวในฐานะแขกรับเชิญพิเศษว่า "ปัจจุบัน โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ จีนและไทยก็กำลังเผชิญกับโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ของการพัฒนาในทุกมิติ เยาวชนไทย-จีน คืออนาคตของทั้งสองประเทศ หวังว่าคนหนุ่มสาวจะทำงานร่วมกัน เพื่อเขียนบทใหม่ของความร่วมมือฉันมิตรจีน-ไทย ด้วยพลังและความสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างไทย-จีน"

อีกหนึ่งแขกรับเชิญคนสำคัญดีกรี 'เยาวชนดีเด่นระดับโลก' จาง หยวนกัง คนรุ่นใหม่ที่เข้าร่วม Global Shapers Community ในงาน World Economic Forum ณ กรุงดาวอส เขายังเป็นประธานบริษัท Shanghai Zeyang Intelligent Technology Co., Ltd. ประธานจางได้พูดถึงประเด็นการปรับตัวทางความคิดของคนรุ่นใหม่ เพื่อการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมให้พัฒนาตามกระแสโลก เขาเสนอว่า "คนหนุ่มสาวควรยอมรับและปรับตัวเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยแนวทางการคิดที่เปิดกว้าง เป็นนวัตกรรม และคำนึงถึงความร่วมมือมากกว่าการแข่งขัน"

ดร.ฉี ปิน ประธานคณะกรรมการเยาวชน สมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือของคนรุ่นใหม่ไทย-จีนว่า “ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารกระจายอย่างรวดเร็ว คนหนุ่มสาวจากทั้งสองประเทศควรใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการสำคัญ ๆ ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม เทคโนโลยี และการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ความสำคัญกับแนวคิดริเริ่ม 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' การแก้ปัญหาระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และวิกฤตพลังงาน ก็สามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทั้งสองประเทศได้เช่นกัน”

ทั้งนี้ ตัวแทนผู้เข้าร่วมการเสวนาฝ่ายไทย สรวง สิทธิสมาน (เฉิน เทียนอี้) ที่ปรึกษาสมาคมนักเรียนไทย-จีน (นายกสมาคมฯ รุ่นก่อตั้ง) ได้เปิดเผยถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ของเยาวชนสองประเทศว่า “ในปัจจุบัน เยาวชนที่สนใจไปศึกษาแลกเปลี่ยนทางภาษาจากทั้งสองประเทศ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ คนหนุ่มสาวที่กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่จะมีจิตใจที่เปิดกว้างและมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยภูมิหลังที่หลากหลายทางวัฒนธรรม พวกเราไม่เพียงจะกลายเป็นสะพานสำคัญและเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยน รักษามิตรภาพระหว่างไทยและจีน ยังจะเป็นสะพานเชื่อมสู่อนาคตความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย“

นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนกลุ่มเยาวชน ได้แก่ ดร.หลิว ซิน อดีตประธานสมาคมนักศึกษาและนักวิชาการจีนแห่งประเทศไทย สมัยที่ 5-6, หยู ชุนเซียว ประธานสหพันธ์พัฒนาเยาวชนจีนโพ้นทะเลแห่งประเทศไทย, ศ.ดร.ซุน ซิ่วประธานกรรมการบริหารเยาวชนสมาคมผู้ประกอบการชาวจีนโพ้นทะเลไทย-จีน, หมี่ หลานประธานกลุ่ม Sunshine Investments International group ณ ออสเตรเลีย, เจิ้ง เซียวเฉิง ประธานสมาคมนักธุรกิจรุ่นใหม่มณฑลยูนนาน และ หวาง เจิงยู่ ประธานสหพันธ์คนจีนโพ้นทะเลรุ่นใหม่ในเยอรมนี เข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้อีกด้วย

ตัวแทนคนรุ่นใหม่ทุกท่าน ได้แบ่งปันประสบการณ์การเติบโต เรื่องราวการเป็นผู้ประกอบการ และการสร้างความร่วมมือ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวา และเสน่ห์ของเยาวชนจีนและไทย ทั้งยังได้อภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นไปได้และโอกาสในวงกว้างของเยาวชนจีนและไทย ทั้งในด้านนวัตกรรม การเป็นผู้ประกอบการ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และความร่วมมือทางการศึกษาผ่านการแลกเปลี่ยนเชิงโต้ตอบ

แขกรับเชิญสำคัญอีกสามท่าน ได้แก่ จ้าว หาน ประธานสมาคมผู้ประกอบการรุ่นใหม่แห่งมณฑลยูนนาน และประธาน Yunnan Yunhaiyao Catering Service Management Co., Ltd., เหอ หย่งเทา รองประธานสมาคมนักศึกษาและนักวิชาการจีนแห่งประเทศไทย และ ดร.ชุย อ้ายหลิน จากสมาคมนักศึกษาและนักวิชาการจีนแห่งประเทศไทยหารือแนวทางกระชับการแลกเปลี่ยนระหว่างเยาวชนจีนและไทยในยุคใหม่

ก่อนการประชุมใหญ่ กลุ่มเยาวชนจีนและไทยได้ร่วมกันปิดห้อง จัด 'การประชุมร่วมเสวนาเยาวชนชั้นนำจีน-ไทย' เพื่อสร้างกลไกการเจรจาและแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ

“แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทย-จีน และความสัมพันธ์ด้านการค้าขายของสองประเทศจะมีพื้นฐานที่ดีเปรียบเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีบางสิ่งที่ประชาชนของทั้งสองประเทศยังคิดเห็นไม่ตรงกัน ไม่เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง ด้วยอุปสรรคทางด้านภาษาและการรับข้อมูลผ่านสื่อโซเชียล” สรวง สิทธิสมาน ตัวแทนฝ่ายไทย ชี้แจงต่อที่ประชุม 

สรวง สิทธิสมาน เสนอต่อว่า “เพื่อให้ประชาชนสองประเทศมีความเข้าใจตรงกัน และรู้จักกันอย่างลึกซึ้งมากขึ้น ผมอยากเน้นย้ำให้ทุกท่าน ทั้งท่านที่มาจากหน่วยงานรัฐบาลและเอกชน เป็นคนไทย คนจีน และ/หรือประเทศอื่น ๆ ต้องเห็นความสำคัญ และร่วมกันผลักดัน ‘การทูตภาคประชาชน’ หรือหากใช้คำที่แม่นยำกว่านี้ ก็จะขอใช้คำว่า ‘การทูตภาคเยาวชน’ เพราะอย่างที่ทุกท่านกล่าวไว้ว่าเยาวชนคือกลไกสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศในอนาคต"

ช่วงท้ายของการประชุม ที่ประชุมได้เห็นตรงกันว่า ปี พ.ศ. 2568 ซึ่งถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย โดยเป้าหมายในการจัดงานเสวนาผู้นำเยาวชนจีน-ไทย ในครั้งต่อไปในปี พ.ศ. 2568 จะจัดขึ้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อการต่อยอดความร่วมมือในเชิงปฏิบัติ และสนับสนุนการสร้างชุมชนคนรุ่นใหม่ เพื่อประชาคมไทย-จีนที่มีอนาคตร่วมกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top