Tuesday, 22 April 2025
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการเกี่ยวข้าว ณ แปลงสาธิตการเกษตรที่ 5 รร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการเกี่ยวข้าว ณ แปลงสาธิตการเกษตรที่ 5 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก

เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.65) สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการเกี่ยวข้าว ณ แปลงสาธิตการเกษตรที่ 5 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก

'ยูเนสโก' ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโก แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ยูเนสโก ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโก ด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูเนสโกด้านการส่งเสริมศักยภาพของเด็กชนกลุ่มน้อย และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม (UNESCO Goodwill Ambassador for the Empowerment of Minority Children and the Preservation of their Intangible Cultural Heritage) แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2548 

ทั้งนี้ ยูเนสโกได้เล็งเห็นคุณูปการอย่างใหญ่หลวง ที่ได้ทรงงานเพื่อพัฒนาการศึกษาและพัฒนาศักยภาพเด็กด้อยโอกาสที่อยู่ห่างไกลทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่มากว่า 40 ปีก่อนที่องค์การยูเนสโกจะทูลเกล้าฯ ถวายตำแหน่งดังกล่าว และยังคงทรงงานอย่างต่อเนื่อง โดยวาระการดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีองค์การยูเนสโกของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมัยปัจจุบันได้สิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 องค์การยูเนสโกจึงกราบบังคมทูลต่ออายุวาระในการดำรงตำแหน่งต่อไปอีก 2 ปี

ตชด. จัดอุปสมบทหมู่ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

วันนี้ (26 มีนาคม 2567) เวลา 08.00 น. ที่วัดบวรนิเวศวิหาร แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชทานแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีอุปสมบทหมู่ข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2567 ในโอกาสนี้ พลตำรวจโท ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เข้าร่วมอุปสมบทพร้อมข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน รวม 28 นาย ภายในงานประกอบด้วยพิธีมอบผ้าไตรและบาตร หลังจากนั้นได้มีพิธีบรรพชาและอุปสมบท โดยมีพระธรรมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารเป็นพระอุปัชฌาย์ และมีผู้บังคับบัญชา ข้าราชการตำรวจและครอบครัวเข้าร่วมพิธี

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ (2 เมษายน ) อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี นับตั้งแต่ปี 2541 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กำลังพลได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อตำรวจตระเวนชายแดนและพสกนิกรชาวไทย อีกทั้งยังเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้แก่กำลังพลผู้เข้ารับการบรรพชาอุปสมบท มีโอกาสให้ศึกษาหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนาเพื่อพัฒนาจิตใจของตนเอง โดยตลอดระยะเวลาที่บรรพชาจะได้ฝึกปฏิบัติธรรม วิปัสสนาและเจริญภาวนา ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมวชิรญาณ 200 ปี เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และลาสิกขาในวันที่ 9 เมษายน 2567 โดยวันที่ 2 เมษายน 2567 พระภิกษุ ตชด. ทั้ง 28 รูป จะเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ณ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน อีกด้วย

พลตำรวจโท ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เปิดเผยว่า “ได้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะร่วมอุปสมบทหมู่ในครั้งนี้ ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามราชกุมารี อย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 40 ปี ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อพสกนิกรชาวไทยและตำรวจตระเวนชายแดน โดยเฉพาะงานโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อให้เด็กและเยาวชน ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองและคนในชุมชนชายแดนได้อย่างยั่งยืน”  ซึ่งในการอุปสมบทในครั้งนี้ พลตำรวจโท ยงเกียรติ มนปราณีต  ได้รับฉายา “ปิยกิตติโก” (ปิ-ยะ-กิต-ติ-โก) แปลว่า ผู้มีชื่อเสียงอันเป็นที่รักของคนทั้งหลาย

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เป็นองค์ประธานทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ “ชัยพัฒนา” ครั้งที่ 15

กองทัพอากาศได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี องค์นายกกิตติมศักดิ์และองค์ประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา เสด็จฯ เป็นองค์ประธานทอดพระเนตรการแสดงคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ “ชัยพัฒนา” ครั้งที่ 15 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ

โดยมี พลอากาศเอก พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย คุณมนทิรา  พัฒนกุล นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนมูลนิธิชัยพัฒนา และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศ เฝ้ารับเสด็จฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567 โอกาสนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ “ชัยพัฒนา” เพื่อสมทบทุนมูลนิธิชัยพัฒนา จากนั้นทรงพระราชทานเงินรายได้และของที่ระลึกแก่ นายสุเมธ  ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กองทัพอากาศได้จัดการแสดงคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ “ชัยพัฒนา” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน รวม 14 ครั้ง เพื่อนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย สนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงจัดตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนโครงการพัฒนาอื่น ๆ โดยมีพระราชปณิธานเพื่อให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสุข และการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแก่อาณาประชาราษฎร์ คอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อ “ชัยพัฒนา” ครั้งที่ 15 มี พลอากาศเอก ชัยนาท  ผลกิจ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ เป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดคอนเสิร์ตฯ และ นาวาอากาศเอก ชยกร  โชติพิทยานนท์ ผู้บังคับการกองดุริยางค์ทหารอากาศ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน เป็นผู้อำนวยการฝึกซ้อม ทั้งนี้ ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “THE WIND BENEATH MY WINGS” ซึ่งสื่อความหมายถึงความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพอากาศเกิดจากข้าราชการ นักเรียนทหาร ทหารกองประจำการ และครอบครัวที่เป็นส่วนสำคัญสนับสนุนให้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จ โดยเป็นการแสดงศักยภาพทางดนตรีของวงซิมโฟนีออร์เคสตรากองทัพอากาศ (The Royal Thai Air Force Symphony Orchestra) ซึ่งประกอบด้วยนักดนตรี และคณะนักร้องหมู่ประสานเสียงกว่า 180 คน คอนเสิร์ตครั้งนี้ได้รับเกียรติจากศิลปินรับเชิญที่มีชื่อเสียง ได้แก่ คุณนันทิดา  แก้วบัวสาย คุณศรราม  เอนกลาภ คุณอิสรพงศ์  ดอกยอ และคุณณัฐวดี  พวงสุวรรณ ร่วมขับร้องบทเพลงต่าง ๆ ได้อย่างน่าประทับใจ สำหรับการแสดงในครั้งนี้บรรเลงและขับร้องบทเพลง โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 2 ภาค ภาคแรก เป็นการบรรเลงเพลง GUARDIAN OF THE SKY  บทเพลงจะแบ่งออกเป็น ๔ ท่อน ที่บรรเลงต่อเนื่องกัน

โดยมีอารมณ์เพลงและท่วงทำนองที่แตกต่างกันออกไป ต่อเนื่องด้วยเพลงเหาะ (ดำเนินเวหา) บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออร์เคสตรากองทัพอากาศ ประกอบการร้องประสานเสียงและฆ้องไทย 5 วง เพลงสองฝั่งโขง เพลงยอยศพระลอ เป็นการบรรเลงประกอบดนตรีไทย และปิดท้ายด้วยเมดเลย์ลูกทุ่ง ภาคที่สองเริ่มด้วยบทเพลงทรายกับทะเล และเพลง WIND BENEATH MY WINGS ต่อเนื่องด้วย เพลง I DREAMED A DREAM เพลงศรพระราม เพลง CIRCLE OF LIFE & HE LIVES IN YOU จากนั้นเป็นการขับร้องเพลงดุจบิดามารดร ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับสองเพลงสุดท้ายเป็นการขับร้องหมู่ร่วมกับวงซิมโฟนีออร์เคสตรากองทัพอากาศ ประกอบด้วย เพลงในหลวงของแผ่นดิน และเพลงแด่เธอ ซึ่งเป็นการนำเสนอสื่อความหมายถึงการขอบคุณผู้ที่เสียสละในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ เพื่อกองทัพอากาศและประเทศชาติ

#กองทัพอากาศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top