'สภากาแฟ' เห็นพ้อง!! 14 ส.ค. 'นายกฯ นิด' น่าจะรอด 'ดิจิทัลหมื่น' ไปต่อ สวนทางห้ามบินดูไบ เพราะ 'ธรรมะจัดสรร' ความชอบธรรมเหนือถุงขนม
“อีกทั้งความผิดของผู้ถูกร้องที่ 2 ยังเสมือนเป็นความผิดประธาน ซึ่งในขณะที่มีการเสนอชื่อแต่งตั้งผู้ถูกร้องที่ 2 ให้เป็นรัฐมนตรี ยังไม่ได้มีการวินิจฉัยความผิดประธานโดยศาลรัฐธรรมนูญ กรณีผู้ถูกร้องที่ 1 ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นความผิดอุปกรณ์ จึงไม่อาจมีไปด้วยได้”
ที่ยกมาข้างต้นคือเศษเสี้ยวคำชี้แจง 32 หน้าของนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้ถูกร้องที่ 1 เมื่อ 7 มิ.ย.2567 ซึ่งได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และ 'เล็ก เลียบด่วน' ได้มีโอกาสทอดทัศนาแล้ว สรุปสั้นสุดไม่เกิน3บรรทัดเพิ่มเติมจากข้อความข้างต้นก็คือ...
'เศรษฐา' อ้างว่า ผู้ที่จะชี้ขาดว่า...ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่นั้น คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่กรรมการกฤษฎีกาหรืออดีต 40 สว.ผู้ร้อง...พร้อมยืนยันว่า การตรวจสอบคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามผู้ถูกร้องที่ 2 (พิชิต ชื่นบาน) ดำเนินการโดยชอบทุกประการ...
ครับประมาณนั้น...หากใครสังเกต 'นายกนิด' พักนี้จะเห็นว่า แม้ปมใหญ่ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' อนาคตยังน่าหวาดเสียว...แต่ภาษากายนั้นดูผ่อนคลายราวกับรู้อนาคตวันพุธที่ 14 ส.ค.ว่า 'น่าจะรอด' คือ ไม่พ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค หนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160(4) และ (5) ที่อดีต 40 สว.ร้องต่อศาล...
ถ้ารอดก็ทำงานต่อไป...เดินหน้าปรับใหญ่ครม.ตามจันทร์ส่องหล้าลิขิตหรือใครลิขิตก็ว่ากันไป...แต่ถ้าหลุดจากตำแหน่งหนนี้ ขอเคลียร์ไว้ที่ตรงนี้ว่า หมดสิทธิที่ถูกเสนอชื่อชิงนายกฯ อีก เพราะเป็นปัญหาประเด็น 'ขาดคุณสมบัติ' ต่างจากกรณี สมัคร สุนทรเวช ที่หลุดเพราะคดี 'ชิมไปบ่นไป' กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ...แต่ สมัคร แค่โชคร้าย กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบไม่ได้ เพราะประเด็น 'เลือดข้นกว่าน้ำ' ตอนนั้นทักษิณดันน้องเขย...สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกฯ แทน...แต่ สมชาย ก็เป็นนายกฯ ได้แค่ 57 วัน
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร...ตอนนี้สภากาแฟบางวง ที่ประกอบด้วยนักวิชาการ, สื่อมวลชน, นักการเมือง, นักสังเกตการณ์ ค่อนข้างจะมีทั้งข้อมูลเก่า ข้อมูลใหม่ตรงกันแล้วว่า...โอกาสเศรษฐา 'รอด' ได้ไปต่อนั้น มีมากกว่าไม่รอด...โดยศาลอาจจะมองในประเด็นไม่มีเจตนา...หรือบกพร่องโดยสุจริต คล้ายกรณีทักษิณเมื่อปี 2544 แต่จะเป็นตามนี้หรือไม่ก็รอดูกันอีกที...
อนึ่ง สำหรับกรณี ทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางไปดูไบแต่ศาลยกคำร้องไม่อนุญาตให้ไปนั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นลั่นเมืองว่า มีอะไรในกอไผ่...ซึ่งน่าสังเกตว่า ทีมทนายไปยื่นคำร้องในวันเสาร์ที่ 27 ก.ค.
คอลัมน์ 'เลียบการเมือง' ขออนุญาตฟันธงหมากเกมความน่าจะเป็น 3 ประการ...
1) ทดสอบ ตรวจเช็กอุณหภูมิท่าทีของศาลหลังการเปลี่ยนตัวอธิบดีศาลอาญาเมื่อเดือน ก.ค.
2) ไปเคลียร์ธุรกิจสำคัญ และพบยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว
3) แก้เคล็ดดวงชะตาด้วยการย้ายที่พัก...และเผื่อเหลือเผื่อขาด หากมีความวุ่นวาย ก็อาจขอหลบภัยอยู่ต่างประเทศยาวอีกครั้ง และอาจตรวจรักษาสุขภาพตามที่อ้างว่านัดหมอไว้ 2 ครั้งด้วยก็ได้
ตามคำร้องทักษิณขอลา 1-16 ส.ค.ขณะที่คดีความผิดมาตรา 112 ศาลนัดตรวจเอกสารหรือนัดพร้อมวันที่ 19 ส.ค.
ดังนั้น...สมมติ...หากทักษิณได้รับการอนุญาตออกนอกประเทศ...ภาพของทักษิณก็จะยิ่งถูกตอกย้ำความเป็น 'นักโทษเทวดา' ความเป็นผู้ทรงอิทธิพล ทว่า หากบังเอิญวันที่ 14 ส.ค.2567 เศรษฐา 'รอด' ก็อาจจะเคลมมั่ว ๆ ได้ว่า ไม่ใช่เพราะบารมีอิทธิพลของเขาเพราะเขาอยู่ต่างประเทศ!!
ต้องบอกกล่าวกันตรงนี้ว่า คำสั่งของศาลที่ไม่อนุญาตหนนี้นั้นได้รับการอนุโมทนาสาธุ ว่าชอบด้วยเหตุด้วยผลเป็นยิ่งนัก...หากจำกันได้ก่อนหน้านี้ร่วมเดือนเศษ...ศาลอาญาเพิ่งเปลี่ยนตัวอธิบดี เหตุเพราะคนเก่าที่ถูกปล่อยข่าวเรื่อง 2 พันล้านนั้น มีเหตุอื้อฉาวบนรถไฟจนถูกย้าย ดังที่สำนักข่าวอิศราเคยนำเสนอไว้...แต่ทั้งนี้ท่านที่มาทำหน้าที่รักษาการอยู่ปัจจุบันและจะอยู่ชั่วคราวก็ทำหน้าที่เป็นอย่างดีโดยเฉพาะกรณีล่าสุดนี้ ก่อนที่เดือน ต.ค.ปีนี้ จะมีอธิบดีท่านใหม่มารับตำแหน่งเป็นทางการ...
ธรรมะจัดสรร...ถุงขนม หรือ ผลประโยชน์ หลายสิบล้าน หลายร้อยล้าน ไม่สามารถชนะความถูกต้องชอบธรรมได้ในท้ายที่สุด!!
