Wednesday, 19 June 2024
สกุลธรจึงรุ่งเรืองกิจ

‘สกุลธร’ น้องชายธนาธร ให้การปฏิเสธทุกข้อหา ยัน!! ขอสู้คดี ปมติดสินบน 20 ล้าน-เช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 ที่ศาลอาญาคดีทุจริต และประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ย่านตลิ่งชัน ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เป็นจำเลยซึ่งเป็นน้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้กระทำการ และประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่” และ “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่น ให้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อจูงใจให้กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบ ด้วยหน้าที่ และได้กระทำไปในฐานะเป็นผู้แทนนิติบุคคล และเพื่อประโยชน์ของนิติบุคคล

กรณีนายสกุลธร มีพฤติการณ์กระทำผิดติดสินบนเจ้าพนักงาน และนายหน้าเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 แปลงในซอยร่วมฤดี และย่านชิดลม

โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 66 นายสกุลธร พร้อมทนายความ เดินทางมาศาล

ภายหลังเสร็จสิ้นการพิจารณา ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง นายสกุลธรได้ออกจากห้องพิจารณา และเดินทางกลับขึ้นรถยนต์ออกจากศาลทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้นายสกุลธร จำเลยฟัง และได้สอบถาม ว่าจะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่า นายสกุลธร แถลงให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีทุกข้อหา โดยศาลนัดคู่ความตรวจสอบพยานเบื้องต้นกับเจ้าพนักงานศาลก่อน ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ และนัดตรวจคู่ความทั้ง 2 ฝ่าย มาตรวจพยานหลักฐานกับศาลวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 3 ได้เป็นโจทก์ฟ้องนาย สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด เป็นจำเลย กรณีนายสกุลธรติดสินบนเงินจำนวน 20 ล้านบาทเจ้าหน้าที่และนายหน้าในการเช่าที่ดิน จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ รวม 2 แปลง ในซอยร่วมฤดี และย่านชิดลม โดยยื่นฟ้องนายสกุลธร ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี

'สกุลธร' แจง 6 ข้อ ปมคดีติดสินบน 20 ล้าน เช่าที่ดินทรัพย์สินฯ ยัน!! ตนเองเป็นผู้เสียหาย แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.67) นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกจดหมายชี้แจง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาลงโทษให้จำคุก 6 เดือน โดยได้ระบุว่า …

ผมเป็นผู้แจ้งเบาะแสทุจริต แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต

สืบเนื่องจากคดีการทุจริตซึ่งเกิดขึ้นกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตามที่ปรากฏในข่าว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 โดยมีผมเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำเลยในคดีนี้

ผมขอชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ดังนี้

1) ผมและคณะทำงานในขณะนั้น ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายตามที่เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้แจ้งกับผมและทีมงานทุกประการ

แต่ต่อมาภายหลัง ผมได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้หลอกลวงผม ด้วยการปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ

2) เมื่อผมได้ทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่คนนี้หลอก ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยรีบแจ้งข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานทรัพย์สินฯ จนเป็นเหตุทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ดำเนินคดีอาญากับบุคคลนี้ จนศาลพิพากษาลงโทษเขาพร้อมกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง และคดีถึงที่สุดไปแล้ว

3) ระหว่างสอบสวนคดีดังกล่าวในช่วงปี 2562 ผมยังเคยได้รับเชิญไปให้การในฐานะผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวด้วย แต่เนื่องจากในขณะนั้นผมติดภารกิจสำคัญอยู่ที่ต่างประเทศ จึงไม่ได้ไปให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวน

4) ในช่วงระหว่างการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงปลอมแปลงเอกสารสำนักงานทรัพย์สินฯ กลุ่มนี้ ตั้งแต่ในชั้นสอบสวนกระทั่งถึงในชั้นศาล พนักงานสอบสวนไม่เคยดำเนินคดีใดๆกับผมทั้งสิ้น

5) แต่หลังจากนั้น กลับมี“นักร้อง” ไปร้องให้ดำเนินคดีผม หาว่าผมรู้เห็นเป็นใจกับบุคคลนี้ และเป็นผู้ใช้ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวไปกระทำการทุจริต

6) ผมขอตั้งคำถามให้ทุกท่านลองพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม ว่าหากผมมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวจริงแล้ว เหตุใดผมจะต้องวิ่งไปแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลอกลวงดังกล่าว เพื่อให้ตัวเองเดือดร้อนถูกดำเนินคดีไปด้วย?

ผมคือผู้เสียหายจากการหลอกลวงของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่จำเลย การที่ผมเป็นผู้เริ่มคดีขึ้นเสียเองด้วยการแจ้งเบาะแสการทุจริตไปยังสำนักงานทรัพย์สิน ก็เพราะไม่อยากให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้รับความเสื่อมเสียจากการที่มีบุคลากรแอบแฝงกระทำการหลอกลวงผู้อื่นเช่นที่ผมพบเจอด้วยตนเอง

ผมเคารพในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น แต่ผมขอใช้สิทธิต่อสู้คดีจนถึงที่สุด และพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความสุจริตใจของผมตามครรลองของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ

21 พฤษภาคม 2567


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top