Wednesday, 23 April 2025
วิปรัฐบาล

‘วิปรัฐบาล’ หัก ‘ฝ่ายค้าน’ ยึดคืนเวลา ‘ซักฟอก’  ดึงเวลาคืนรัฐตอบทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านถาม

(1 เม.ย.67) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุมวิปรัฐบาลถึงการทบทวนเวลาอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า กรอบที่ฝ่ายค้านขอมาทั้งหมดคือ 22 ชม. ฝั่งรัฐบาลรวมคณะรัฐมนตรี (ครม.) 6 ชม. เมื่อดูแล้วครม.มีเวลาชี้แจง 4 ชม. และการอภิปรายตามมาตรา 152 คือการกล่าวหารัฐบาล เมื่อฝ่ายค้านกล่าวหาก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลจะต้องตอบคำถามให้กระจ่างแจ้ง แต่ปัญหาคือเมื่อเรากลับไปดูการอภิปรายตามมาตรา 153 ของวุฒิสภาที่ผ่านมานั้น พบว่ารัฐมนตรีบางคนมีเวลาตอบแค่ 2 นาที หากได้เวลาน้อยก็จะทำให้รัฐมนตรีไม่มีโอกาสชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหาย หากตอบไม่ครบ ฝ่ายค้านก็จะบอกว่ารัฐมนตรีไม่กล้าตอบ หนีตอบคำถาม ดังนั้นเพื่อให้เกิดความยุติธรรม โดยต้องขอเวลาเพิ่มเพื่อให้รัฐบาลได้มีโอกาสตอบ ซึ่งจะต้องมีการเจรจากับฝ่ายค้านอีกครั้ง

“ผมมองว่าฝ่ายรัฐบาลอย่างน้อยต้องได้เวลา 10 ชม.ขึ้นไป ฝ่ายค้านก็ต้องลดลงมาจาก 22 ชม. อาจจะเหลือ 18 ชม. ก็ถือว่ามากกว่ากันเท่าตัว ฉะนั้น การอภิปรายก็เพื่อให้มีการตอบให้ประชาชนหายข้องใจ เพราะถ้าฝ่ายค้านเอาเวลาไป 22 ชม. แล้วให้รัฐบาล 4-6 ชม. ก็ไม่ได้ และเมื่อหักเวลาประท้วงแล้ว รัฐบาลก็ได้ไม่น่าจะเกิน 4 ชม. ซึ่งจะทำให้รัฐบาลไม่สามารถตอบได้ทุกประเด็นที่ฝ่ายค้านถาม” นายวิสุทธิ์ กล่าว

‘ประธานวิปรัฐบาล’ ดักคอ ‘ก้าวไกล’ เสนอเพิ่มวันประชุมสภาฯ เพื่อหวังเอาคะแนน ชี้!! สส. ต้องมีเวลาลงพื้นที่ ‘รับฟัง-แก้ไขปัญหา’ ให้ประชาชน รวมทั้งประชุม กมธ.

(6 ก.ค.67) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เพิ่มวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณากฎหมายสำคัญให้มากขึ้นว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือกัน แต่หากย้อนไปดูในอดีต เราจะมีการประชุมสภาฯ เริ่มในช่วงบ่ายของวันพุธและวันพฤหัสบดี พอมาถึงในยุคของนายชวน หลีกภัย เป็นประธานสภาฯ ก็ให้เพิ่มการประชุมมาเป็นวันพุธเต็มวันและวันพฤหัสบดี ดังนั้นหากมีความจำเป็นที่ต้องพิจารณากฎหมายสำคัญ อาจจะเพิ่มการประชุมในวันศุกร์อีกวันหนึ่งก็พอได้ แต่ถ้าจะเพิ่มวันประชุมเป็น 4-5 วันเลยคงจะไม่ไหว เพราะ สส.ก็ต้องมีการประชุมพรรคและประชุมกรรมาธิการฯ ชุดต่าง ๆ

ดังนั้นหากเป็นเรื่องเร่งด่วนจะเพิ่มการประชุมในวันศุกร์อีกหนึ่งวันอาจจะพอได้ ทั้งนี้ ขอให้มานั่งประชุมสภาฯ ให้ครบทั้งสองวัน นั่งประชุมกันให้เต็ม ๆ ก็น่าจะพอแล้ว

“ผู้แทนเขตโดยเฉพาะที่อยู่ต่างจังหวัดน่าเห็นใจ เพราะประชาชนในพื้นที่อยากเห็นหน้า ยิ่งเวลามีปัญหาทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง ก็อยากให้ผู้แทนเข้ามาดูและรับฟังปัญหาอย่างใกล้ชิด เข้าใจว่า สส.พรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่เป็น สส.บัญชีรายชื่อและ สส.กทม.จึงอาจจะไม่ต้องไปลงพื้นที่เหมือนกับ สส.พรรคอื่น ๆ ดังนั้นอย่าคิดจะประชุมเพื่อหวังเอาคะแนนลอย ๆ” นายวิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

‘วิสุทธิ์’ รับโควตา ‘รองประธานฯ คนที่ 1’ เป็นของ ‘ภูมิใจไทย’ ‘เพื่อไทย’ ไม่ส่งใครไปแย่ง ชี้!! ‘พิเชษฐ์’ ไม่ขอสลับ-ไม่ขอลาออก

(11 ส.ค. 67) นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงโควตาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ว่า โควตาดังกล่าวเป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะให้ใครดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พรรคเพื่อไทยไม่ได้ส่งใครไปชิงตำแหน่งนี้ และไม่จำเป็นต้องสลับตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่1กับรองประธานสภาฯคนที่ 2 ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย เพราะนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พรรคเพื่อไทย ไม่ขอสลับ และไม่ขอลาออกจากตำแหน่ง ตอนนี้โควตารองประธานสภาฯคนที่1 เป็นของพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องรอการหารือวิปรัฐบาล ในวันที่ 13 ส.ค อีกครั้ง

"มั่นใจไม่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน การเป็นรองประธานสภาคนที่ 1หรือคนที่ 2 ไม่ต่างกัน เท่าเทียมกัน การทำงานใกล้เคียงกัน ต่างกันแค่สำนักงานที่อยู่ในความดูแลที่ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎร จะมอบให้ใครดูแลงานด้านไหน  ไม่มีการก้าวก่ายกันอยู่แล้ว เชื่อมั่นการทำงานจะเป็นไปด้วยความราบรื่น" นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ส่วนการพิจารณาปรับโควตาตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร หลังจากเสียงสส.ของพรรคประชาชนลดลง 5 เสียงนั้น ส่วนตัวเห็นว่า จำนวนสส.ของพรรคประชาชนที่หายไป 5 คน ลดลงแค่เล็กน้อย ดูแล้วคงยากที่จะให้มาสลับตำแหน่งกันใหม่ อัตราส่วนยังคงใกล้เคียงของเดิมอยู่ คงไม่ถึงขั้นมีผลกระทบให้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการสามัญของพรรคประชาชนต้องมาทบทวนกันใหม่ อย่างไรก็ตามเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของตนเท่านั้น จะต้องมาคุยกันในที่ประชุมวิปรัฐบาลวันที่ 13 ส.ค.ก่อน พรรคร่วมรัฐบาลอื่น อาจเห็นไม่เหมือนตนก็ได้ เราทำงานในนามพรรคร่วมรัฐบาล ต้องรับฟังความเห็นร่วมกัน

ส่วนกรณีพรรคประชาชนมีผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวนมาก และสามารถระดมเงินบริจาคได้มากกว่า 20 ล้านบาท ในระยะเวลาดำเนินการเพียงไม่กี่วันนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้รู้สึกหนักใจ เอฟซีของใครก็ย่อมสนับสนุนพรรคของตัวเอง เป็นเรื่องปกติ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนโยบายพรรคจะสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน การที่พรรคประชาชนประกาศความเชื่อมั่นจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวในการเลือกตั้งปี 2570นั้น ก็ต้องดูถึงเวลาจะทำได้จริงหรือไม่ เหลือเวลาอีก 3 ปี สถานการณ์ในอนาคตคาดการณ์ไม่ได้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่พรรคเพื่อไทยมั่นใจในนโยบายและการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน จะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและเสียงตอบรับจากประชาชนในการเลือกตั้งสมัยหน้า โดยเฉพาะขณะนี้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตใกล้จะแจกเงินถึงมือประชาชนในปลายปี ทำให้เสียงตอบรับของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยดีขึ้นมาก รวมถึงราคาพืชผลการเกษตรหลายอย่างก็ดีขึ้น ทำให้คะแนนพรรคเพื่อไทยกลับมาดีขึ้นอย่างมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top