Tuesday, 22 April 2025
ลูกไก่ทอง

‘ร้านลูกไก่ทอง’ จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ‘ปังชา’ ห้ามใช้ตั้งชื่อร้าน-สินค้า ห้ามลอกเลียน ทำซ้ำ ดัดแปลง

(28 ส.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘Lukkaithong - ลูกไก่ทอง Thai Royal Restaurant’ ของร้านอาหารลูกไก่ทอง ซึ่งมี 6 สาขาในกรุงเทพฯ และร้านปังชาคาเฟ่ 5 สาขา โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า…

"จดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาเครื่องหมายการค้า สู่การพัฒนาเศรษฐกิจไทยร่วมกันอย่างยั่งยืน แบรนด์ปังชา จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ‘ปังชา’ ภาษาไทย และ ‘Pang Cha’ ภาษาอังกฤษ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 จดทะเบียนลิขสิทธิ์ จดทะเบียนสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข สงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ปังชา Pang Cha ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้านหรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย"

โพสต์ดังกล่าวชาวเน็ตได้วิพากษ์วิจารณ์และสงสัยว่า นอกจากจดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าแล้ว เป็นการจดสิทธิบัตรเมนู ‘ปังชา’ หรือ ‘ปังชาไทย’ ที่เป็นน้ำแข็งไสรสชาไทยใส่ขนมปัง โรยด้วยนมข้นหวาน ซึ่งได้รับรางวัลมิชลินไกด์หลายปีซ้อนหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นร้านอาหารอื่น ๆ ที่มีเมนูในลักษณะคล้ายกันจะกลายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์

จากการสืบค้นข้อมูล ‘ปังชา’ จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ พบว่า น.ส.กาญจนา ทัตติยกุล เจ้าของแบรนด์ปังชาได้ยื่นคำขอลิขสิทธิ์ ขนไก่ปังชา ประเภทงานศิลปกรรม ลักษณะงานจิตรกรรม เลขที่คำขอ 371901 โดยได้เลขทะเบียน 47654 และคำขอเครื่องหมายการค้า เลขที่คำขอ 220133778 โดยได้ทะเบียนเลขที่ 231117892 โดยระบุข้อจำกัดว่า "ข้าพเจ้าไม่ขอถือเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่จะใช้ อักษรโรมันและอักษรไทยทั้งหมดที่ปรากฏอยู่บนเครื่องหมาย ยกเว้น คำว่า KAM"

นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.กาญจนา ทัตติยกุล ได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ (Design Patents) 7 ฉบับ ได้แก่ แก้ว ตุ๊กตา ลวดลายของแก้ว ลวดลายบนฉลากสินค้า ถ้วยไอศกรีม จดลิขสิทธิ์งานจิตรกรรม 6 ฉบับ ได้แก่ ไก่เจ้าครับ แก้มกาญจนา ไก่เจ้าค่ะ ขนไก่ปังชา แก้มกัลยา ไก่เหล็กถัก และเครื่องหมายการค้าหรือบริการอีก 45 ฉบับ

‘หนุ่ม กรรชัย’ ซัดดรามา ‘ปังชา’ แนะ บางเรื่องควรปล่อยไปบ้าง พร้อมย้อนตำนาน ‘ไอซ์มอนสเตอร์’ ลั่น!! ผมคือเจ้าแรกในไทย

กรณีดรามาร้อนจนแฮชแท็ก #ปังชา ขึ้นเทรนด์ข้ามวันข้ามคืน หลังมีข่าวร้านดังยื่นฟ้องร้านค้ารายย่อยที่ใช้ชื่อว่า ‘ปังชา’ ว่าเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า พร้อมฟ้องเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท

ล่าสุด ‘หนุ่ม กรรชัย’ ได้พูดในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า…

“ปังชา มีรากมาจากร้านไอซ์มอนสเตอร์ของผมนี่แหละ เพราะผมเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่นำเข้าน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะไสละเอียดแบบนี้เข้ามา ผมไปซื้อสิทธิบัตรมาจากประเทศฟิลิปปินส์ ชื่อว่า ‘ไอซ์มอนสเตอร์’ (Ice Monster)”

“ปรากฏว่าผมเปิดร้านได้ราว 3 เดือน ร้านไอซ์มอนเตอร์ของผมก็โดนฟ้องจากร้านชื่อ ‘มอนสเตอร์ไอศกรีม’ เพราะทางนั้นไปจดคำว่า ‘มอนสเตอร์’ ไว้เป็นภาษาอังกฤษ โดยห้ามใช้คำว่า ‘Monster’ ขายน้ำแข็งไส ไอศกรีม ขายน้ำดื่ม ตอนนั้นโลโก้มีความคล้ายกัน ทางฝ่ายคู่กรณีเรียกค่าเสียหายมาเยอะมาก และบอกให้ผมฉีกถ้วยทิ้งด้วย”

“สุดท้าย ผมเลยให้น้องสาวของผมไปขอซื้อลิขสิทธิ์คำว่า ‘Monster’ มาถือไว้เอง แล้วปล่อยให้ทุกคนสามารถเอาไปใช้ได้”

“คือผมไม่ได้จะมาโอ้อวดว่าผมใจใหญ่อะไร แต่ผมมองว่าเรื่องแบบนี้ บางอย่างเราก็ต้องปล่อยไปบ้าง” หนุ่ม กรรชัย กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับแบรนด์แฟรนไชส์ ‘ไอซ์มอนสเตอร์’ (Ice Monster) เปิดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2549 เรียกว่าเป็นน้ำแข็งไสในตำนานเจ้าแรกในเมืองไทย ความแปลกใหม่คือเป็นน้ำแข็งที่ป่นละเอียดมากๆ เหมือนเกล็ดหิมะ ท็อปปิ้งด้วยผลไม้ตามฤดูกาล และน้ำเชื่อมก็เป็นสูตรเฉพาะที่ได้ลิขสิทธิ์จากฟิลิปปินส์

แต่ต่อมา ‘หนุ่ม กรรชัย’ ได้ถูกคนที่ร่วมเป็นหุ้นส่วนถอดชื่อออกจากการเป็นหุ้นส่วนโดยไม่ได้บอกกล่าว จนกลายเป็นคดีฟ้องร้องกันครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้หนุ่ม กรรชัย นำไอซ์มอนสเตอร์ กลับมาขายอีกครั้ง

‘เจ้าของร้านปังชา’ ยอมรับ สื่อสารผิดพลาด ไม่มีเจตนาเรียกเก็บเงิน ยัน!! ‘ปังชา’ ใคร ๆ ก็ใช้ได้

จากกรณี ‘ร้านอาหารชื่อดัง’ ของไทยแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเมนูขึ้นชื่อคือ ‘ปังชาเย็น’ เปิดเผยข่าวสำคัญว่าแบรนด์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า (Trademark) ชื่อเมนูดังกล่าวทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว พร้อมอ้างอิงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่า ร้านสงวนสิทธิห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข รวมทั้งห้ามนำชื่อแบรนด์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไปใช้เป็นชื่อร้าน หรือใช้เป็นชื่อสินค้าเพื่อจำหน่าย พร้อมกันนี้ยังแนบรายละเอียดกฎหมายโดยอ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรม ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณแก้ม เจ้าของร้านลูกไก่ทอง เจ้าของตำรับปังชา ได้เปิดใจผ่านรายการ ‘เที่ยงวันทันเหตุการณ์’ ของ หนุ่ม กรรชัย ถึงประเด็นดังกล่าว ว่า ตนขออนุญาต กราบขอโทษ ตอนนี้เศร้ามาก ที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการสื่อสารของทางร้าน ทั้งหมดเป็นความคลาดเคลื่อนที่ทำให้เกิดกระแสสังคม

คุณแก้ม กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ขอโทษร้านที่เชียงราย และร้านที่หาดใหญ่มาก ๆ หากมีโอกาส จะไปขอโทษด้วยตนเอง วันนี้ขอโทษประชาชนทั้งหมด ที่เกิดจากความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารของทางเรา จนนำไปสู่เหตุการณ์ทุกวันนี้

เรื่องราวเกิดจากที่เพจร้านโพสต์เรื่องลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร แต่เราใส่ข้อความ แต่ไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจน และการใส่ข้อความเป็นการสื่อสารที่ผิด ไม่อธิบาย และให้ความรู้อย่างครบถ้วน เมื่อถูกแชร์ออกไปจึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด

หนุ่ม กรรชัย ถามว่า ใจดำไปหรือไม่ กับสิ่งที่คุณไปฟ้องชาวบ้านชาวช่อง 102 ล้าน หรือ 7 แสน ทำให้เขาลำบาก คุณแก้ม กล่าวว่า ทั้งหมดที่ออกโนติสไป ไม่มีเจตนาที่จะฟ้องไป และไม่สามารถที่จะฟ้องร้องเขาได้ ทั้งหมดที่เขียนไปในโนติสที่ถูกเขียนไป 102 ล้าน เรื่องเครื่องหมายการค้า เพราะเราดูแบบมาจากต่างประเทศ ที่ให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้า ซึ่งเครื่องหมายแต่ละอันมันวัดค่าไม่ได้ และที่ผ่านมาจะเห็นเคส แบรนด์ไทยถูกต่างชาติเอาไปใช้ได้ จึงกลัวต่างชาติเอาไปใช้ได้

หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่า ที่กลัวต่างชาติเอาไปใช้ เข้าใจได้ แต่สิ่งที่คุณทำคือไปยื่นโนติสฟ้องคนไทย มันจำเป็นขนาดนั้นเลยหรือ คุณแก้ม กล่วาว่า เป็นความผิดพลาดของทางเราโดยตรง ซึ่งได้มีการคุยกับฝ่ายกฎหมายแล้ว โดยการรับการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน และเข้าใจผิดทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่ฟ้องร้อง

หนุ่ม กรรชัยถามว่า ตกลงว่าปังชา ใช้ได้หรือไม่ คุณแก้ม กล่าวว่า ปังชา ใช้ได้ ทุกคนใช้ได้ ไม่ได้จองเป็นของคนเดียว ปังชา ปังเย็น น้ำแข็งไส ใช้ได้เลย และจะไม่มีการไปยื่นโนติสแล้ว

จากความผิดพลาดตรงนี้เราได้คุยกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และได้รับข้อมูลที่ชัดเจนร่วมกัน ส่วนภาชนะถ้ามีคนใช้แล้วมันคล้ายกัน จะวัดกันตรงไหนนั้น ขึ้นอยู่ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาพิจารณา ตนไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้

ทั้งนี้ หนุ่ม กรรชัย สรุปเรื่องที่เกิดขึ้นไว้ว่า คำว่าปังชา คนไทยทุกคนสามารถใช้ได้ การที่ไปจดนั้น เป็นโลโก้ เครื่องหมายการค้า ปังชา เป็นตัวเขียน เป็นตัวหนังสือใช่หรือไม่ คุณแก้ม กล่าวว่า เครื่องหมายการค้าของคนคือ ภาพผู้หญิงไทยและมีตัวถ้วย อีกอันหนึ่งคือ PANG CHA ซึ่งอ่านว่าปังชา

หนุ่ม กรรชัย ถามว่า เมื่อปังชา ภาษาไทยใช้ได้ แล้วชื่อ PANG CHA ภาษาอังกฤษได้หรือไม่ คุณแก้ม กล่าวว่า ใช้ได้ ถ้าไม่ก่อให้เกิดความสับสน ซึ่งอันนี้ต้องให้กรมทรัพย์สินทางปัญญามาอธิบายให้ชัดเจน

หนุ่ม กรรชัย ได้พูดเรื่องเครื่องหมายการค้า ตอนหนึ่งว่า ในส่วนของผม เคยเจอกรณีนี้ คือ เคยโดนคำว่า MONSTER ซึ่งเขาไม่ได้จดคำว่า MONSTER ซึ่งเป็นคำธรรมดาสามัญ แต่เค้าจดว่ารูปตัวอักษรนี้ คือ เครื่องหมายการค้า คือ โลโก้ของเขา แล้วเค้าเอามาฟ้องผม ซึ่งในวันนั้น ผมได้ซื้อมาเก็บไว้ คนอื่นมาใช้ผมก็ไม่ได้ไปฟ้องเขานะ

ท้ายสุด คุณแก้ม ได้เปิดใจอีกครั้งว่า “ขอโทษมาก ๆ ตอนนี้แก้มแย่มาก ๆ ขอโทษที่สุด ขอโทษทุกคน เราไม่เคยจับจองอะไรเป็นของเรา ขอให้ทุกคนให้โอกาส และให้อภัยในทุก ๆ สิ่งของทางแบรนด์ด้วย หากมีสิ่งใดทำให้ทุกคนเสียใจ ผิดหวัง วันนี้น้อมรับ กราบขอโทษ และขอโอกาส”

‘ไก่ทอง ออริจินัล’ ออกแถลงการณ์ คนละร้านกับ ‘ลูกไก่ทอง’ ไม่มีความเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ-การบริหาร ใดๆ ทั้งสิ้น

(1 ก.ย. 66) จากกรณีดรามา ‘ปังชา’ ของ ‘ร้านลูกไก่ทอง’ ที่นำมาสู่กระแสความสับสนของชาวเน็ตว่า ตกลงแล้ว ‘ร้านลูกไก่ทอง’ กับ ‘ร้านไก่ทอง’ เป็นร้านเดียวกันหรือไม่นั้น

ล่าสุด ‘ร้านไก่ทอง ออริจินัล’ ซึ่งมีชื่อคล้ายกัน ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันผ่านเฟซบุ๊ก ‘ไก่ทอง ออริจินัล - Kaithong Original’ ว่าเป็นคนละร้าน และไม่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยเหตุการณ์ดรามา ‘ปังชา’ หนนี้ สร้างผลกระทบต่อร้าน เพราะทำให้หลายท่านเกิดความสับสนและเข้าใจผิดอย่างมาก ว่า…

“เนื่องจากทางร้าน ‘ไก่ทอง ออริจินัล’ ได้รับทราบถึงเหตุการณ์และกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจประเภทเดียวกัน เรารู้สึกเห็นใจและเข้าใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก 

ร้านของเราก็เป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน จากชื่อร้านที่มีความคล้ายคลึงกัน ทำให้หลายท่านเกิดความสับสนและเข้าใจผิด 

จึงขอประกาศชี้แจงให้ทราบว่า ร้าน ‘ไก่ทอง ออริจินัล’ และ ร้าน ‘ลูกไก่ทอง’ ไม่ใช่ร้านเดียวกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ และการดำเนินการใด ๆ ทั้งทางธุรกิจ และการบริหาร ทั้งสิ้น

ทางผู้บริหารและพนักงาน ขอขอบคุณลูกค้า ที่ให้การสนับสนุน ร้านไก่ทอง ออริจินัล ด้วยดีเสมอมา ทางร้านยังมุ่งมั่นรักษามาตรฐานความอร่อย วัตถุดิบที่คงความออริจินัล ด้วยการคัดสรรอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความอร่อยตามกาลเวลาในแบบฉบับต้นตำรับมายาวนานกว่า 25 ปี”

สำหรับ ‘ร้านไก่ทอง ออริจินัล’ ปัจจุบัน มีทั้งหมด 4 สาขา ได้แก่ สาขาเมืองทองธานี / สาขาเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ / สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า / สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ และร้านในเครือ ‘ไก่ทอง ออริจินัล’ ประกอบไปด้วย The Dessert by Kaithong Original เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ และ ARUNN เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน   


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top