Saturday, 29 June 2024
รามคำแหง

‘สตม.’ บุกทลาย!! 'ปาร์ตี้ผิวสี' ย่านรามคำแหง ลักลอบมั่วสุมยันหว่างร่วมครึ่งร้อย!! หวั่นแพร่เชื้อโอไมครอน

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัย หรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน  ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ  นิธินนทเศรษฐ์  ผบก.ตม.1, และ พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดปฏิบัติการสืบสวนฯ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้าย ดังนี้ 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ได้ทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าที่ร้านนครบาร์บางกอก ในย่านรามคำแหงจะมีการลักลอบจัดปาร์ตี้สังสรรค์ และจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับกลุ่มลูกค้า โดยมีกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติผิวสี และมีหญิงไทยร่วมด้วย ซึ่งมักมีการนัดรวมตัวเพื่อมั่วสุมดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ร้านดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้มีการประชุม วางแผนในการเข้าปิดล้อมตรวจสอบร้านดังกล่าว

ต่อมาในวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 01.45 น. สตม. โดย กก.สส.บก.ตม.1 ได้สนธิกำลังกับ กก.2 บก.ปส.1 และ สน.หัวหมาก เข้าปิดล้อมตรวจค้นร้านนครบาร์บางกอก ที่เกิดเหตุ พบสภาพภายในร้านมีลักษณะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ตกแต่งภายในโดยมีโต๊ะพูล รวมทั้งมีการจัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  มีลูกค้าทั้งคนไทย และคนต่างชาติ กำลังใช้บริการอยู่จำนวนหลายสิบราย

จากการตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางของกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติทั้งหมดในร้าน พบเป็นบุคคลต่างด้าวผิวสีจากประเทศในแถบแอฟริกาเช่น ไนจีเรีย คองโก แคเมอรูน เป็นต้น โดยในจำนวนบุคคลต่างด้าวทั้งหมดนี้ เจ้าหน้าที่พบว่ามีบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีหนังสือเดินทาง หรือมีหนังสือเดินทางที่ไม่มีรอยตราประทับจากช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เป็นจำนวนถึง 15 ราย ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคลต่างด้าวในจำนวนนี้ว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย” นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบนางสาวดา (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี สัญชาติไทย แสดงตนเป็นเจ้าของและผู้ดูแลร้าน โดยอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการเช่าช่วงจากเจ้าของร้านเดิม ซึ่งร้านดังกล่าวนี้เคยเปิดเป็นร้านจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง แต่ได้รับผลกระทบจากภาวะโรคระบาดโควิด-19 จนต้องปิดตัวไป     

โดยหลังจากทำการเช่าช่วงร้านดังกล่าว นางสาวดาได้ลักลอบใช้ร้านดังกล่าวเป็นที่นัดรวมตัวมั่วสุมของกลุ่มคนต่างชาติผิวสีเรื่อยมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน โดยจะใช้แผ่นเมทัลชีทปิดช่องแสงโดยรอบจนทึบและปิดเสียงดนตรี เพื่อปิดบังอำพรางเจ้าหน้าที่เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบพบ

ซึ่งในส่วนของเจ้าของร้านที่เกิดเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้จับกุมในข้อหา “จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ได้รับอนุญาต และ จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มโดยร้านไม่ผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยฯ โดยจัดให้มีการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านเกินเวลา อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 47 ข้อ 2 ลงวันที่ 29 พ.ย.64” และควบคุมตัวทั้งนางสาวดาฯ และบุคคลต่างด้าวทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมากดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

TESLA Model 3 ประกาศปรับราคาลง เริ่มต้นที่ 1,659,000 บาท  พร้อมฟรีประกันชั้น 1 สั่งซื้อผ่านออนไลน์ รับรถได้ ภายในเดือนนี้

Tesla Model 3 ประกาศปรับลดราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากประเทศจีน) โดยบริษัทแม่ Tesla Official (Thailand)
Model 3 Rear-Wheel Drive    ส่วนลด 100,000 บาท  เริ่มต้น    1,659,000 บาท
Model 3 Long Range AWD     ส่วนลด 120,000 บาท  เริ่มต้น     1,879,000 บาท
Model 3 Performance AWD  ส่วนลด 250,000 บาท  เริ่มต้น   2,059,000 บาท

โดยมีเงื่อนไขรับรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2023 นี้ พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 เมื่อจัดไฟแนนซ์ กับสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ
(ทิสโก้, กรุงศรีฯ, เกียรตินาคิน, กสิกรไทย)

โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อผ่านทาง website : https://www.tesla.com/th_TH หรือ TESLA Center แห่งแรกในไทย The Paseo รามคำแหง

26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตร ม.รามคำแหงรุ่นแรก

วันนี้ เมื่อ 48 ปีก่อน ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ และ ‘สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ’ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นแรก 

พิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกของมหาวิทยาลัยรามคำแหง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ดำเนินการขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จประกอบพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พร้อมพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชด้วย ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 เป็นวันเสด็จพระราชดำเนินในพิธี โดยใช้สถานที่จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรก คือ บริเวณหน้าสำนักหอสมุดกลาง

หลังจากพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่งไปทางด้านหลังสำนักหอสมุดกลาง เสด็จขึ้นหอสมุดกลางทางประตูด้านหลัง เสด็จเข้าห้องรับรอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทูลเกล้าฯ ถวายครุยปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และรองอธิการบดีทูลเกล้าฯ ถวายครุยปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางสังคมวิทยา แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงฉลองพระองค์ครุย แล้วทรงลงปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยมของมหาวิทยาลัย เมื่อถึงหมายกำหนดการพิธีพระราชทานปริญญาบัตร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเสด็จพระราชดำเนินเข้าเวทีที่ประทับ ทรงบูชาพระรัตนตรัย แล้วเสด็จประทับพระราชอาสน์ ที่หน้าสำนักหอสมุดกลาง

นายกสภามหาวิทยาลัย ได้ขอพระราชทานพระราชวโรกาสกราบบังคมทูลสดุดี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อธิการบดีเชิญปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและรองอธิการบดีเชิญปริญญาบัตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางสังคมวิทยาขึ้นทูลเกล้าฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

จากนั้น เป็นการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรตามลำดับ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ และคณะเศรษฐศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2517 หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่บัณฑิต ความตอนหนึ่งว่า...

“มหาวิทยาลัยรามคำแหงนี้เป็นมหาวิทยาลัยในแบบที่ให้โอกาสแก่ ผู้ปรารถนาวิชาความรู้ ให้เข้ามาศึกษาค้นคว้าวิทยาการต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง และอย่างอิสระจึงอำนวยประโยชน์ได้มาก ในด้านสนับสนุนส่งเสริมบุคคลทั่วไป และโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานแล้ว ให้ได้ฟื้นฟูเพิ่มพูนความสามารถของตนทางด้านวิชาการ เพื่อนำไปปรับปรุง การงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยกฐานะหน้าที่ให้สูงขึ้น มหาวิทยาลัยมีความมุ่งหมายสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งเสริม ผู้ที่เข้ามาศึกษาดังนี้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้วทุกคนควรจะได้มองเห็น และควรที่จะได้น้อมนำมาเป็นคติในการดำเนินชีวิต และการงานต่อไป โดยทำความตั้งใจและความเพียรให้มั่นคง ในอันที่จะฝึกฝนและปรับปรุงตนเอง ในการทำงานให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ และสำคัญที่สุดควรจะได้พยายาม หาทางนำความคิดวิทยาการซึ่งอุตส่าห์ฝึกฝนศึกษามาได้ด้วยยากนั้นมาใช้ ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความ เจริญมั่นคงของชาติบ้านเมืองของเรา”

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซับน้ำตา บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยบริเวณชุมชนสินทรัพย์เก่า ซอยรามคำแหง 39 แขวงวังทองหลาง กรุงเทพฯ

ตามที่ได้เกิดอัคคีภัยบ้านเรือนประชาชนบริเวณชุมชนสินทรัพย์เก่า ซอยรามคำแหง 39 ถนนรามคำแหง แขวงวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเพลิงไหม้ในครั้งนี้ได้สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก

วานนี้ (วันอังคารที่ 16 มกราคม 2567) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ พร้อมด้วยนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ  นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย จำนวน 25 ครอบครัว 56 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,000 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว15 ชุด รายบุคคล 10 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 220,500 บาท (สองแสนสองหมื่นห้าร้อยบาทถ้วน)

ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล มอบเงินสดคนละ 400 บาท จำนวน 56  คน มูลนิธิส่งเสริมศีลธรรมสงเคราะห์ มอบเงินสดครอบครัวละ 500 บาท จำนวน 25  ครอบครัว และมูลนิธิพุทธสมาคมปทุมรังษี  มอบข้าวสารให้คนละ 10 กิโลกรัม จำนวน 56 คน คิดเป็นมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 263,800  บาท (สองแสนหกหมื่นสามพันแปดร้อยบาทถ้วน) โดยมีนายสรวุฒิ ลันสุชีพ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ  สำนักงานเขตวังทองหลาง พร้อมด้วย นางนฤมล ขอดอนุ หัวหน้าฝ่ายรายได้  ร่วมในพิธี ณ บริเวณสำนักงานเขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

ตลอดระยะเวลา 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมงานสาธารณกุศลมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung  

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top