Wednesday, 23 April 2025
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมประกาศเจตนารมย์ต่อต้านทุจริต โปร่งใส ไม่คอรัปชั่น กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรม

วันที่ 6 ธันวาคม 2566 เวลา 09.00น. ที่ห้องประชุมอาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. กระทรวงยุติธรรม จัดงาน"ประกาศเจตนารมย์ต่อต้านทุจริต"

เนื่องในสัปดาห์ต่อต้านทุจริตและส่งเสริมจริยธรรม 'ยุติธรรมต้าน โกงโปร่งใส ไม่คอรัปชั่น' โดยมี พัน
ตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวนโยบาย ในการต่อต้านการทุจริตของกระทรวงยุติธรรมแก่สื่อมวลชนและผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงาน โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวรายงาน ตลอดจนคณะผู้บริหาร ข้าราชการและเจ้า
หน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วม พร้อมทั้งร่วมกันถ่ายภาพหมู่เพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านการทุจริต จากนั้นได้จัดการอภิปรายในหัวข้อ "ปัญหาการทุจริตและแนวทางการป้องกันการทุจริต
ในระบบราชการไทย" โดยได้รับเกียรติจาก นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. และ ดร.มานะ นิมิตรมงคลเลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) เป็นวิทยากรผู้ทรง
คุณวุฒิร่วมบรรยายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวนโยบายต่อต้านการทุจริตตอนหนึ่งว่า "กระทรวงยุติธรรมจะขับเคลื่อนค่านิยมร่วมและวัฒนธรรมองค์กรของกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะ "สุจริต จิตบริการ ยึดมั่น ความยุติธรรม" ที่เจ้าหน้าที่กระทรวง ยุติธรรมทุกคนมีความสำนึกว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมาย และเพื่อให้ความยุติธรรม
เข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง"

โอกาสนี้ พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล  รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยนางนลินนาถ ไกรนรา รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมบุคลากรกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย 

***********
กฤษฎา สมมาตร
รายงานข่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบนโยบายให้กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขับเคลื่อนการปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน ต่อการคืนเยาวชนหลักการ "การสร้างคน ให้คนกลับมาสร้างชาติ"

วันที่ 16 มกราคม 2567 ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดี-รังสิต เขตหลักสี่ กทม. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้เกียรติร่วมโครงการและ "มอบนโยบายการบริหารและขับเคลื่อน กระทรวงยุติธรรมเข้าสู่ยุค "ความ ยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความ ยุติธรรมนำประเทศ" ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ "การมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 " โดยมี พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจฯ พร้อม ด้วยรองอธิบดีฯ และผู้เข้าร่วม โครงการฯ จำนวน 144 คน ให้การต้อนรับและร่วมรับฟังนโยบายฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อโครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบนโยบาย และแนวทางในการปฏิบัติราชการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 

สามารถนำไปถ่ายทอดให้กับผู้ปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของกรมไปในทิศทางเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า "กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นกรมที่สร้างอนาคตให้กับประเทศไทย 

ท่านทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่ก้าวปกครองของเด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาด ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างย่อมดีกว่าการซ่อม แต่ถ้าท่านสามารถซ่อมแซมเด็กและเยาวชนคนหนึ่งได้ก็เท่ากับท่านได้สร้างคนที่มีคุณภาพกลับคืนสู่ประเทศชาติเพื่อกลับมาพัฒนาบ้านเมืองของเรา ขอฝากสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนว่าในพลวัตที่บ้านเมืองของเรามีความเปลี่ยนแปลงไป เราจะทำอย่างไรให้สถานพินิจฯ ที่เราอยู่นี้ให้เป็นสถานที่ที่มีคุณค่า เปลี่ยนมนุษย์จากที่ไม่รู้...ให้รู้ เปรียบเหมือนกับการช่วยเหลือคนจน หรือคนเจ็บป่วย หรือคนที่ตกทุกข์ได้ยากก่อนและอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือท่านต้องยึด โยงกับชุมชนให้ได้ เพราะ  อบต.ทุกแห่งก็มีการเชื่อมโยงกับระบบการศึกษา ฉะนั้นเราเป็นเหมือนพ่อแม่ที่ไม่ใช่แค่สอนเรื่องการศึกษาแต่เราต้องสอนให้เขาได้เรียนรู้ชีวิตด้วย 

ขอให้ท่านรักและศรัทธาในงานของท่าน เพราะสิ่งที่ยากคือการบูรณะกล่อมเกลาเขาให้ไม่กลับมากระทำผิดซ้ำ ฉะนั้นงานของท่านจึงเป็นงานที่มีคุณค่ามาก เราต้องให้คนกลุ่มนี้กลับมาพัฒนาสังคม และกระทรวงยุติธรรมยังมีอีกหน้าที่หนึ่งคือ "การสร้างคน...เพื่อให้คนกลับมาสร้างชาติ" และขอฝากทุกท่านในเรื่องของการสื่อสารและสร้างความเข้าใจให้กับสังคมในภารกิจงานของกรมพินิจฯ และกระทรวงยุติธรรมและช่วยกันนำความยุติธรรมไปสู่ทุกชุมชนต่อไป"

นราธิวาส-พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดี พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 

(20 มกราคม 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงแรมอิมพีเรียล จังหวัดนราธิวาส ว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมากล่าวเปิดงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จัดโดย กรมบังคับคดี โดยมี นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี ให้การต้อนรับ

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า “สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ประเทศไทยเผชิญภาวะหนี้สินครัวเรือนสูงกว่า ร้อยละ 90.70 รัฐบาลจึงได้ประกาศนโยบายเร่งด่วนประการแรกคือ การแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ ลดปัญหาอาชญากรรม สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว และเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงความเป็นธรรมในสังคม”

“ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญของกระทรวงยุติธรรม ในการยกระดับหลักนิติธรรมทั้งการออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมาย การแก้ไขหนี้สินครัวเรือน หนี้ กยศ. เป็นหนึ่งโครงการสำคัญ (Quick Win) ของกระทรวงยุติธรรม” พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้กล่าวขอบคุณ กรมบังคับคดี กองทุนเงินให้ยืมเพื่อการศึกษา และหน่วยงานเครือข่ายสถาบันการเงินต่างๆ ที่ให้ความร่วมมือจัดงานโครงการส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความยุติธรรมด้านการบังคับคดีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จัดงานขึ้นในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจในการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่มาร่วมงานจะได้รับความช่วยเหลือให้มีการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ ให้ลูกหนี้ เจ้าหนี้ เจรจายุติข้อพิพาทด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย โดยเสร็จสิ้นภารกิจในเวลา 13.00 น. 

ข่าว.แวดาโอ๊ะ​ จ.นราธิวาส
นราธิวาส​

“เชียงราย”วันนี้ที่รอคอย”คนไทยไม่ไร้สิทธิ์! ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติปลื้ม 

(1 ธ.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก ที่ว่าการอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบบัตรประจำตัวให้แก่กลุ่มเด็กนักเรียนที่มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยอักษร G และบุคคลที่ได้รับการเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนราษฎร หรือคนไทยตกหล่น ตามโครงการนำความยุติธรรมเข้าหาประชาชน แก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติ โดยมีผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และมี คณะผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประกอบด้วย 1.) คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่  ผู้ประสานสหประชาชาติประจำประเทศไทย (Ms. Michaela Friberg-Storey, UN Resident Coordinator, Thailand), 2.) คุณแทมมี ชาร์ป ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (Ms. Tammi Sharpe, Representative of UN High Commissioner for Refugees (UNHCR), Thailand), 3.) คุณคยองซอน  คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย (Ms.Kyungsun Kim, Representataive of United Nations Children’s Fund (UNICEF), Thailand), 4.) คุณเจอรัลดีน อองซาร์ค หัวหน้าสำนักงานองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ประจำประเทศไทย (Ms. Géraldine Ansart, Chief of Mission for the International Organization for Migration (IOM) Thailand) เดินทางมาร่วมในพิธีด้วย โดยมี นายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำกล่าวต้อนรับ และส่วนราชการ องค์กรปกครองท้อนถิ่นในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ

การมอบบัตรประจำตัวดังกล่าวเกิดจาก กระทรวงยุติธรรม โดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน สำนักงานยุติธรรมจังหวัดเชียงราย บูรณาการกับสำนักทะเบียนอำเภอแม่สรวย และ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย แห่งสหประชาชาติ (UNHCR) โดยกลุ่มบุคคลที่ได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้ประกอบด้วยกลุ่มเด็กนักเรียนที่มีเลขประจำตัวขึ้นต้นด้วยอักษร G จำนวน 3,149 ราย ได้รับการกำหนดเลข 13 หลัก จำนวน 1,020 ราย เหลือจำนวนที่ต้องดำเนินการคัดกรอง จัดทำทะเบียนประวัติ จำนวน 1,665 ราย 

นอกจากนี้ ภายในกิจกรรมยังมีการเปิดรับลงทะเบียนบุคคลที่ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือในการตรวจสารพันธุกรรม (DNA) จากกระทรวงยุติธรรมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเปิดรับลงทะเบียนกลุ่มบุคคลที่จะขอรับความช่วยเหลือในการพัฒนาสถานะทางทะเบียน ซึ่งทั้งสองกลุ่ม กระทรวงยุติธรรมจะบูรณาการร่วมกับสำนักทะเบียนอำเภอแม่สรวย และหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ โดยภายหลังกิจกรรมมอบบัตรประจำตัว จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สรวย เพื่อกำหนดแผนงานในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลดังกล่าวเพิ่มเติม

พันตำรวจเอก ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติเป็นอย่างมาก โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อ วันที่ 29 ตุลาคม 2567 อนุมัติ หลักเกณฑ์เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามา ในอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และกลุ่มบุตรที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักร ซึ่งรวม แล้วมีจำนวนประมาณ 480,000 คน เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถใช้สิทธิที่ตนพึงมีตาม กฎหมายในด้านต่างๆ อันเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนสากล และกฎหมายระหว่างประเทศ จากนโยบายของรัฐบาลดังกล่าว กระทรวงยุติธรรมได้ร่วมขับเคลื่อนการแก้ไข
ปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติมาอย่างต่อเนื่องผ่านนโยบาย “การนำความยุติธรรมเข้าหา ประชาชนอย่างทั่วถึงและถ้วนหน้า” โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรมจะร่วมบูรณาการกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กร ระหว่างประเทศ ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานกับสำนักทะเบียนอำเภอ เพื่อแบ่งเบา ภาระหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้อย่าง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  

พันตำรวจเอก ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่ได้รับฟังรายงานของนายอำเภอแม่สรวย และผู้อำนวยการกองกิจการ อำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเห็นได้ว่า มีการประสานงานและ บูรณาการการทำงานระหว่างกระทรวงยุติธรรม จังหวัดเชียงราย และอำเภอแม่สรวย อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการอำนวยความยุติธรรมด้านสิทธิมนุษยชน ในพื้นที่อำเภอแม่สรวยให้เกิดเป็นรูปธรรม ผมขอแสดงความยินดีกับน้องนักเรียนผู้ได้รับบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะ ทางทะเบียนทุกคนในวันนี้ นอกจากสิทธิทางการศึกษาแล้ว ยังมีสิทธิด้านอื่นที่น้องๆ พึงได้รับ เช่น สิทธิการรักษาพยาบาล ซึ่งจะได้มีการลงทะเบียนเข้ารับสิทธิการ รักษาพยาบาลของกองทุนประกันสุขภาพบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ ให้เกิดผล อย่างเป็นรูปธรรมในวันนี้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในความ ร่วมมือและสนับสนุนภารกิจกันระหว่างหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัด เชียงราย อำเภอแม่สรวย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองทุกท่าน ในฐานะผู้มีอำนาจ หน้าที่ตามกฎหมาย ที่ได้ร่วมกันบูรณาการทำงานร่วมกับคณะทำงานของกระทรวง ยุติธรรม ในการผลักดันให้เกิดการพิจารณาสถานะทางทะเบียนตามกระบวนการของ กฎหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีความก้าวหน้าในการ ดำเนินการร่วมกันในระยะต่อไป  

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐบาลไทย ที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติ และได้จัดงานในวันนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นห้วงเวลาประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญและมีความหมายกับเด็กทุกคน รวมถึงสะท้อนความยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนตามมาตรฐานสากลของไทย และความมุ่งมั่นตั้งใจจริงของรัฐบาลไทยในการยุติปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติ และขอแสดงความยินดี กับน้อง ๆ เยาวชน ที่ได้บัตรประจำตัวประชาชนทุกคนด้วย ทั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มีบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติและผู้มีปัญหาสถานะทางทะเบียน ฯลฯ ซึ่งกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันให้ความช่วยเหลือกลุ่มบุคคลดังกล่าวกับอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย อย่างต่อเนื่อง

พันตำรวจเอก ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้ร่วมพูดคุยและแสดงความยินดีกับผู้ปกครองของเยาวชนที่ได้รับบัตรในวันนี้ โดยตัวแทนผู้ปกครองได้มอบผ้าพื้นเมืองให้ไว้เป็นที่ระลึก เป็นการขอบคุณที่เดินทางมาตรวจเยี่ยม และลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่สรวยในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งมีตัวแทนเยาวชนนำกล่าวขอบคุณท่านรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน

พันตำรวจเอก ทวี​ สอดส่อง​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีกำหนดการเดินทางทัวร์นกขมิ้นวันนี้เป็นวันที่สามต่อเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย ตามลำดับ หลังปฏิบัติภารกิจร่วมประชุม ครม.สัญจร กับคณะรัฐมนตรี ที่มี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่วานนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ เพิ่งกลับจากการเดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่าย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีกำหนดการเดินทางไปที่ บ้านรวมมิตร รับฟังรายงานสรุปการดำเนินงานศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมของเรือนจำกลางเชียงราย และเรือนจำและทัณฑสถานเขต 5 กรมราชทัณฑ์
กระทรวงยุติธรรม และมีพิธีมอบบ้านน๊อคดาวน์ เฟส 2 ให้กับประชาชนด้วย ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงค่ำ

สันติ วงศ์สุนันท์/หัวหน้าศูนย์ข่าวอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย/รายงาน

นราธิวาส-พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส

(26 ม.ค. 68) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะ พล.ต.ท. พัฒนวุธ อังคะนาวิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นราธิวาส เขต 5 พรรคประชาชาติ ได้เดินทางมาเรือนจำ จ.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการเยี่ยมญาติใกล้ชิด ผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคงให้โอวาทและสื่อสาร ความรักความห่วงใย ในโอกาส เทศกาลปีใหม่ประจำปี พ.ศ. 2568 แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคงและครอบครัว ขอบคุณบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ศอ.บต. ประจำหมู่บ้าน ร่วมกิจกรรมไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ให้แก่ผู้ต้องขังจำนวน 14 ราย  และหน่วยสนับสนุน สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม สำนักงานเลขานุการ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่าวันนี้ก็ต้องขอบคุณเรือนจำนราธิวาสที่ได้จัดให้มีการเยี่ยมญาติใกล้ชิดของผู้ต้องราชทัณฑ์ซึ่งเรือนจำนราธิวาสมีผู้ต้องราชทัณฑ์จำนานมากประมาณ 3,000 คน ดังนั้นจึงมีการหลายวันแต่วันนี้วันที่ 25 และวัดไปอีก 26 วัน และ 27- 31 ก็จะเปิดโอกาสให้ญาติ หรือบุคคลที่มีญาติมาเยี่ยมได้เยี่ยมใกล้ชิดจำนวน 1-5 คนขึ้นไป ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เราจัด และที่เราจัดไม่พร้อมกันเนื่องจากว่าผู้ต้องราชทัณฑ์ใน 3  จังหวัด มาอยู่นราธิวาสแต่ครอบครัวอยู่ปัตตานี บางคนอยู่ปัตตานีครอบครัวอยู่นราธิวาส เราเลยได้มีการจัดแบบสลับวัน เราเห็นว่าอยากจะให้ครอบครัวได้อยู่ใกล้ชิดกันก็ว่าได้เพราะเรือนจำมีไว้ออกไม่ได้มีไว้ให้เข้า ถ้าได้ออกไปเราอยากจะเป็นสถานที่ฟื้นฟูเพื่อให้มีคนใหม่เพื่อให้มีชีวิตใหม่ดีขึ้น ซึ่งบุคคลที่เข้ามาอยู่จะได้มีโอกาสต่างๆนาๆในการพัฒนาศักยภาพ และที่สำคัญก็คือ ได้รู้ความถนัดและความสามารถของตนเอง บางคนไม่รู้ว่าตนเองมีความถนัดอย่างศิลปะ เช่น ร้องเพลงเพราะเข้ามาอยู่ในนี้ก็ได้แสดงออก วันนี้ก็เป็นวันที่เรามีความเจตนาที่อยากจะคืนความสุขเพราะเราพูดเสมอว่า วาระของครอบครัว คือ วาระของรัฐบาล ไม่ว่าพรรคประชาชาติที่ตั้งอยู่ได้คือวาระของมะห์ ครอบครัวถ้าเราครอบครัวอบอุ่นครอบจะต้องเป็นผู้สร้างชีวิตใหม่และความสุขของคนก็อยู่ที่ครอบครัว

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top