Wednesday, 3 July 2024
รัฐบุรุษ

ตัวเลขสากลพิสูจน์ชัด ถอดรหัสเศรษฐกิจสยามยุค 'พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์' รัฐบุรุษผู้นำไทยไทยสู่ความโชติช่วงชัชวาล

เฟซบุ๊ก 'LVanicha Liz' โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับ 'ป๋าเปรม' ระบุว่า...

ตัวเลขสากลพิสูจน์ชัด #ฝีมือรัฐบุรุษผู้นำไทยไปสู่ความโชติช่วงชัชวาล

วันที่ 26 พ.ค. 2562 เป็นวันถึงแก่อสัญกรรมของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ thansettakij.com นำเสนอบทความเรื่อง พล.อ.เปรม นายทหาร ผู้พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย “โชติช่วงชัชวาล” มีบทนำว่า: พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นอกจากจะได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในทางทหารโดยเป็นผู้บัญชาการทหารบก ที่มีผลงานโดดเด่นในการสู้รบ และปกป้องประเทศชาติจากภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศแล้ว ในช่วง 8 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ยังเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายจากวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และนำพาเศรษฐกิจของไทยไปสู่ยุค “โชติช่วงชัชวาล”

https://www.thansettakij.com/politics/401938

BOT Magazine ลงเนื้อหากล่าวถึงเศรษฐกิจโชติช่วงชัชวาล ว่าเป็นเพราะ พล.อ.เปรม เปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคเอกชนเป็นอย่างมาก มีเนื้อหาดังนี้: สมัยนั้น เศรษฐกิจโชติช่วงชัชวาล เพราะป๋าเปิดโอกาสให้คณะนักธุรกิจร่วมเดินทางไปเจรจาการค้าด้วย รอบละกว่า 50 คน (อ้างอิงภาพประกอบ)

https://www.bot.or.th/Thai/BOTMagazine/Pages/256203SpecialScoop.aspx

ในเรื่องนี้ผู้เขียนยืนยันด้วยอีกเสียงหนึ่ง เพราะในช่วงนั้นที่ประชุมบริษัทหารือกันว่ากิจการเอกชนได้รับโอกาสเข้าร่วมไปเจรจาการค้า จะไปกันหรือไม่  

ความ “โชติช่วงชัชวาล” นั้น จึงสรุปได้ว่า ส่วนหนึ่งเกิดจากการกระจายโอกาสความร่ำรวยไปทั่วๆ จากหัวใจอันทรงคุณธรรมของ พล.อ.เปรม

ส่วนนายกฯ ประเภทกอบโกยผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง จะสงวนโอกาสไว้ให้เฉพาะกลุ่มของตน มันจึงเป็นที่มาของความ “รวยกระจุก จนกระจาย” ที่พวกเขาพร่ำกล่าวโทษใส่ร้ายนายกฯฝ่ายตรงข้าม

ย้อนกลับมาที่ #ฝีมือรัฐบุรุษผู้นำไทยไปสู่ความโชติช่วงชัชวาล

ผู้เขียนพบว่าตัวเลขสากลพิสูจน์ชัดอย่างยิ่งจากการตรวจดัชนีเศรษฐกิจย้อนหลัง กล่าวคือ GDP ที่ครอบคลุมช่วงเวลาการบริหารของ พล.อ.เปรม ระหว่างปี 1980-1988 (อ้างอิงภาพประกอบ)

'ดร.นิว' แนะ 'บิ๊กตู่' ใช้ช่วงหยุดหน้าที่นายกฯ พักผ่อน หากหวนคืนตำแหน่ง ขอให้มุ่งสู่เส้นทาง 'รัฐบุรุษ'

(25 ส.ค. 2565) ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์เฟซบุ๊กมีเนื้อหาดังนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก ๕ ต่อ ๔ ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ก็ขอให้ท่าน ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha พักผ่อนจากภาระอันหนักอึ้ง

หากท่านมีโอกาสได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ก็ขอให้ท่านเลือกเส้นทางของ 'รัฐบุรุษ' นำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตยตามแนวทางราชประชาสมาสัยอย่างสันติให้เป็นผลสำเร็จ ถ่ายโอนอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนชาวไทยอย่างแท้จริง สถาปนาระบอบประชาธิปไตยที่ถูกต้องและมีความเป็นธรรม ตลอดจนมีรัฐธรรมนูญที่เป็นผลสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตยในที่สุด

ดร.ศุภณัฐ
๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

#ประชาธิปไตยTheseries by ดร.ศุภณัฐ

พลเอกประยุทธ์จะเป็น "โมฆบุรุษ" หรือ "รัฐบุรุษ" ? การเป็น "โมฆบุรุษ" หรือ "รัฐบุรุษ" ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดำรงตำแหน่งครบแปดปีเมื่อไหร่ หรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร หากแต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการกระทำของพลเอกประยุทธ์เอง

จริงๆ พลเอกประยุทธ์น่าจะเป็นรัฐบุรุษไปแล้วเสียด้วยซ้ำ หากยึดอำนาจแล้วนำมาสร้างประชาธิปไตย ทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ได้นำพา วกกลับมาสู่ระบอบเผด็จการลัทธรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการรัฐประหารทุกครั้ง

การไม่สร้างประชาธิปไตยของพลเอกประยุทธ์จึงทำให้อำนาจอธิปไตยยังคงเป็นของคนส่วนน้อยเหมือนเดิม ทำให้การเคลื่อนไหวที่ผิดหลักวิชาภายใต้ระบอบเผด็จการยังคงอยู่ ไม่ได้ยุติความขัดแย้งและความเห็นผิดทางการเมืองให้หมดสิ้นไปแต่อย่างใด

ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่สร้างประชาธิปไตย ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้ระบอบเผด็จการต่อไป คอยรับใช้อำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย เอื้อผลประโยชน์แก่นายทุนนักธุรกิจหลังม่านการเมือง แล้วปล่อยให้ระบอบปรสิตของนักการเมืองทำนาบนหลังคนร่ำไป

ในที่สุดพลเอกประยุทธ์ก็จะพังไปเองโดยไม่ต้องมีใครมาขับไล่ นำไปสู่จุดจบทางการเมืองแล้วกลายเป็น "โมฆบุรุษ" เฉกเช่นนายกรัฐมนตรีคนอื่น ๆ ในระบอบเผด็จการแห่งนี้ ที่เข้ามาแสวงอำนาจและผลประโยชน์โดยไม่สร้างประชาธิปไตยให้กับประชาชน

ถ้าพลเอกประยุทธ์สร้างประชาธิปไตย โค่นระบอบเผด็จการของคณะราษฎรเสียให้สิ้น บดขยี้การเคลื่อนไหวแนวทางผิดทั้งหมด ด้วยการเมืองกระแสสูงที่นำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตย แล้วทำอำนาจอธิปไตยให้เป็นของปวงชนได้เป็นผลสำเร็จ

พลเอกประยุทธ์ก็จะได้รับการยกย่องสรรเสริญ และถูกจารึกชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะ "รัฐบุรุษ" แถมยังเป็น "วีรบุรุษประชาธิปไตย" ของปวงชนอีกด้วย เพราะเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านระบอบเผด็จการไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง

ถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ ผมจะขอโทษประชาชนที่ไม่ได้ทำตามสัญญา ไม่ได้สร้างประชาธิปไตยที่ถูกต้องสมบูรณ์ตั้งแต่ตอนเข้าสู่อำนาจ แต่นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะนำพาประชาชนไปสร้างประชาธิปไตยอย่างสันติ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย

ผู้กำเนิดชาติจีน คือ ‘เหมา เจ๋อตง’ แต่ผู้สร้างชาติจีน คือ ‘เติ้ง เสี่ยวผิง’ ผู้กำเนิดชาติอินเดีย คือ ‘มหาตมา คานธี’ แต่ผู้สร้างชาติอินเดีย คือ ‘ชวาหะร์ลาล เนห์รู’

(8 พ.ค. 67) ผู้ใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก ‘Thapanasak Thongsuwan’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

“ผู้กำเนิดชาติจีน คือ ‘เหมา เจ๋อตง’ แต่ผู้สร้างชาติจีน คือ ‘เติ้ง เสี่ยวผิง’ ผู้กำเนิดชาติอินเดีย คือ ‘มหาตมา คานธี’ แต่ผู้สร้างชาติอินเดีย คือ ‘ชวาหะร์ลาล เนห์รู’

คนศึกษาประวัติศาสตร์รู้ดีถึงบทบาท ที่แตกต่างของรัฐบุรุษในแต่ละชาติ แต่เห็นไหม ‘เติ้ง’ หรือ ‘เนห์รู’ ไม่เคยกล่าวร้ายแก่รัฐบุรุษคนแรกเลย 

แม้แต่ ‘สี จิ้นผิง’ หรือ ‘นเรนทรา โมดี’ ก็ไม่เคยเอาตัวไปเปรียบเทียบกับรัฐบุรุษทั้งสอง วิธีตะวันออกเป็นแบบนี้”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top