Wednesday, 23 April 2025
รักสุขภาพ

SEKKOKU ยาสมุนไพรสายฟื้นฟู เจาะกลุ่มวัย 25-60 'แก้หลับยาก-ปวดหัวบ่อย' ลดภาวะเส้นเลือด 'ตีบ-ตัน-แตก'

ในยุคที่คนสนใจหันมาสนใจดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้นแบบนี้ แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลสุขภาพก็มีมากล้นจนเกลื่อนตลาด เดินไปทางไหนก็เจอสินค้าบำรุงร่างกายทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น บำรุงสายตา บำรุงสมอง บำรุงกล้ามเนื้อ และอีกสารพัดผลิตภัณฑ์บำรุง ซึ่งแต่ละแบรนด์สินค้าก็ตั้งราคาแตกต่างกันมีทั้งถูกไปจนถึงแพงระยับ

แต่หนึ่งในสินค้าที่ลงสนามและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรักสุขภาพก็คือ ‘เซคโคคุ’ ตราคินโก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชนิดแคปซูลที่มีส่วนผสมของสุดยอดสมุนไพรถึง 5 ชนิด

ซึ่ง ‘เซคโคคุ’ ตราคินโก ถูกพัฒนาโดยแพทย์แผนจีน ธีรพงศ์ ตั้งอร่ามวงศ์ ซึ่งนายแพทย์ธีรพงษ์ได้คลุกคลีอยู่กับผู้ป่วยที่มีอาการปวดศรีษะ แน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับมาเป็นเวลากว่า 10 ปี พบเจอเคสผู้ป่วยมากกว่า 10,000 เคส บวกกับประสบการณ์ทางด้านแพทย์แผนจีน จึงได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายเหมาะกับรูปแบบชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งมีประสิทธิภาพที่ดี เห็นผลไว ที่สำคัญประกอบไปด้วยสุดยอดสมุนไพรถึง 5 ชนิด ได้แก่

รู้จัก 'พี่อ้อย-จงรักษ์ อมรเพชรสถาพร' สาวพันปีแห่งปากน้ำโพ สลัดบ่วงแห่งความยึดติด แล้วใช้สิทธิเสิร์ฟ 'สุข' ภาพให้ตัวเอง

จากรายการ BABY BOOM พาไปรู้จักกับ 'พี่อ้อย-จงรักษ์ อมรเพชรสถาพร' เซเลปสาวสายสุขภาพแห่งปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ บุคคลที่ชาวบ้านย่านปากน้ำโพ มักจะรู้จักเธอเป็นอย่างดี ในฐานะสาวเอวคอดสุดสมาร์ตที่ออกกำลังกายหนักได้หลากหลายรูปแบบ ยิ้มแย้ม และให้มุมมองความคิดดี ๆ แก่คนรอบข้างที่มีโอกาสได้พบเจอกับเธอยังสถานที่เสริมสุขภาพทั้งหลาย

แน่นอนว่า ด้วยวัยที่เรียกว่าใกล้จะได้เบี้ยสูงอายุในอีกไม่นาน (อุ๊บ!!) ทาง THE STATES TIMES เลยขอล้วงความลับและแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพกาย รวมถึงสภาพจิต พร้อมทั้งมุมมองการใช้ชีวิตกับคนต่างวัยในยุคต่างความคิด ที่ทำให้เธอดูดีแบบทุกวันนี้กัน...

>>แรงบันดาลใจสู่การลุกขึ้นมา ‘ดูแลตัวเอง’ ปล่อยวางจากลูก พร้อมหากิจกรรมเพื่อสุขภาพ

พี่อ้อย จงรักษ์ กล่าวว่า พี่ก็โตมาในยุคที่น้ำไม่ไหล ไฟฟ้าไม่มี เรียนหนังสือปกติ โตมาก็ทำงาน แต่งงานเป็นแม่บ้าน และก็เลี้ยงลูก ชีวิตก็มีแต่ลูก เพราะไม่ได้ทำงาน เลี้ยงลูกอย่างเดียว ไม่มีสังคมอื่นใดเลย จนกระทั่งลูกเรียนจบ เลยทำให้พี่รู้สึกเวิ้งว้าง เพราะสิ่งที่ทำมาตลอดมันสิ้นสุดแล้ว และก็ไม่รู้จะไปทำอะไรต่อ เมื่อตอนที่ลูกสาวคนเล็กเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็บอกกับพี่ว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งพี่ก็ยินดี ลูกก็จัดแจงเรื่องต่าง ๆ และก็ไปเที่ยวฝรั่งเศสกัน พอไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นคือพี่โดนล้วงกระเป๋า ตอนนั้นพี่สติแตกมาก ๆ แต่กลับกัน ลูกสาวพี่จัดการทุกอย่างเลย แจ้งตำรวจ อายัดบัตร ดำเนินการทุกอย่าง พอกลับมาไทยพี่ก็รู้สึกเลยว่าลูกเราโตแล้ว เขาใช้ชีวิตเองได้แล้ว พี่ก็เริ่มปล่อยวางกับลูกและหันมาดูแลตัวเอง เข้ายิม เข้าฟิตเนส

>>ทัศนคติในการออกกำลังกายแบบฉบับ ‘พี่อ้อย จงรักษ์’

พี่อ้อย จงรักษ์ กล่าวว่า พี่ออกกำลังกายจนกลายเป็นเรื่องในชีวิตประจำวันไปแล้ว ไม่ว่าพี่ไปที่ไหน อยู่ที่ไหน พี่ก็จะมองหาทางที่จะไปออกกำลังกาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคืออย่าไปอิงคนอื่น ลองหากิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ อีกอย่างคือพี่ไม่ควบคุมอาหารนะ อาจจะเพราะร่างกายเผาผลาญได้ดีด้วย เลยทำให้หุ่นออกมาเป็นแบบนี้ แต่กินมื้อหนัก ๆ ได้แค่มื้อเดียวนะ

>>ช่องว่างระหว่างวัย ‘คนรุ่นใหม่-เก่า’ ในมุมของ ‘พี่อ้อย จงรักษ์’

พี่อ้อย จงรักษ์ กล่าวว่า พี่ว่ามีความต่างนะ และต่างกันเยอะมาก แต่ว่าสิ่งที่ต้องยอมรับเลยคือเด็กรุ่นใหม่ ฉลาด กล้าคิด กล้าเอ๊ะ (สงสัย) คือคนรุ่นพี่เขาไม่กล้าเอ๊ะนะ จะโตมาในกรอบของสังคมเลย ถ้าผู้ใหญ่บอกว่าดี เราก็จะเชื่อว่ามันดี จะไม่มีคำถามเลย แต่สำหรับเด็กรุ่นใหม่จะมีคำถามเยอะมาก แต่ก่อนพี่ก็รู้สึกนะว่าทำไมลูกไม่ฟัง ทำไมไม่เคารพผู้ใหญ่ แต่พอพี่เปิดใจในมองมุมที่เขาคิด เขาพูด เราก็จะเข้าใจ แต่ถ้าเราไม่เปิดใจฟัง ก็จะทำให้เราห่างเหินกับลูก

>>‘เวลา’ เป็นของคนรุ่นใหม่ 
พี่อ้อย จงรักษ์ กล่าวว่า นี่เป็นยุคของเขา เราก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เวลาเป็นของพวกเขา พี่ยกตัวอย่างนะ บางครอบครัวจะมีปัญหาความเห็นต่างทางการเมือง ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ออกไปเลือกตั้ง เพราะเขามองว่าถ้าไปเลือกแล้วจะเกิดความขัดแย้งในบ้านของเขา พี่ก็จะแนะนำว่า อย่าไปคิดแบบนั้น ให้ออกไปใช้สิทธิ์เลย ชอบใครก็เลือกคนนั้น แต่…หากไม่รู้จะเลือกใคร ลองดูลูกเรา และเลือกตามลูก เลือกให้ลูก เพราะนั่นคืออนาคตเขา

>>จุดกึ่งกลางที่คนรุ่นใหม่-เก่า ต้อง ‘ปรับเข้าหากัน’
พี่อ้อย จงรักษ์ กล่าวว่า บางครั้งสิ่งที่เรา ‘ต้องการให้เขาทำ’ จริง ๆ แล้วมันทำให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องประนีประนอมกัน ปรับเข้าหากัน หลักการมีได้ แต่ในทางปฏิบัติมันก็ต้องมีการพลิกแพลงบ้าง ก็ต้องฟังกัน ไม่ใช่ว่าพอใครไม่เห็นด้วยก็ใช้วิธีต่อว่าด้วยคำรุนแรง พี่เชื่อว่าถ้าคนเราฟังกัน ยังไงก็คุยกันได้

‘พี่หมอกลาง’ ไขข้อสงสัย!! “ทำไมคนเราถึงอ้วนได้?” เพราะร่างกายสร้าง ‘ไขมัน’ ได้แบบไร้ขีดจำกัดไงล่ะ!!

(5 พ.ย.66) ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ @d_klang ที่รู้จักในนาม ‘พี่กลาง หอสมุดแห่งชาติ’ หรือหลาย ๆ คนเรียกติดปากว่า ‘พี่หมอกลาง’ ได้โพสต์คลิปแชร์ความรู้จากการทำคลิปตอบคำถามทางการแพทย์ให้แก่คนที่สนใจและคอมเมนต์ถามเข้ามา ซึ่งคลิปนี้ ‘พี่หมอกลาง’ ได้ตอบคำถาม “ทำไมเราถึงอ้วน?” ว่า…

“ทุกคนคงคิดว่าพี่หมอจะตอบกลับว่าก็เพราะปากเราไง…แต่ไม่ใช่…เวลาที่เราตั้งคำถามว่าทำไมร่างกายของเรามันถึงเป็นอย่างงั้นอย่างงี้ ซึ่งต้องขอย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคหิน เพราะว่ายีนของพวกเราตอนนี้ หากเทียบกับยุคหิน มันเปลี่ยนไปนิดเดียว มนุษย์พยายามเอาชนะธรรมชาติมาตลอด มันก็เลยวิวัฒน์ไปน้อยมาก เอาเป็นว่าร่างกายของพวกเราเป็นร่างกายของมนุษย์ยุคหิน…

ซึ่งยุคหินนั้นจะอยู่กันเป็น ‘แคมป์’ และอาหารในยุคนั้นก็ไม่อร่อย และก็หายากกว่ายุคนี้ ซึ่งสิ่งที่หาง่ายหน่อยก็คือผลหมากรากไม้ที่อยู่รอบ ๆ แคมป์ ซึ่งมันไม่ได้หวานฉ่ำ เพราะยุคนั้นไม่มีปุ๋ย ดังนั้นมันก็ขึ้นในป่าแบบตามมีตามเกิด รสชาติจะเปรี้ยว ๆ ฝาด ๆ อีกทั้งพลังงานยังต่ำ ดังนั้น อาหารที่ให้แคลอรี่เยอะกว่าคืออะไรรู้ไหม… คือ ‘เนื้อสัตว์’ เพราะมีทั้งโปรตีนและไขมัน แต่มันไม่ได้มีมาให้กินบ่อย ๆ เพราะผู้ชายในแคมป์ต้องออกไปล่าหามา 2 สัปดาห์ถึงจะมีมาให้กินซักที และความที่นาน ๆ จะได้อาหารพลังงานสูงเข้าสู่ร่างกายนี่แหละ ร่างกายมันก็เลยพยายามเก็บพลังงานสุดฤทธิ์ ทีนี้มันมีโมเลกุลในธรรมชาติรูปแบบหนึ่ง ซึ่งเวลาเก็บจะเก็บง่ายมาก เพียงแค่เอาพลังงานมาเปลี่ยนเป็นคาร์บอนแล้วก็ต่อ ๆ กัน แต่เวลาจะสลายออกมาใช้จะยากมาก ดังนั้นร่างกายจึงคิดว่าดีเลย…งั้นเก็บเป็นอันนี้แหละไม่รั่วไหลดี ซึ่งก็คือ ‘ไขมัน’ ร่างกายรักไขมันมากดั่งทองคำ…

แต่ทุกคนรู้ไหมทุกปฏิกิริยาในร่างกายเรามันจะมีสิ่งที่เรียก ‘Negatice Feedback’ คือถ้าสร้างออกมาเยอะเกินไป มันจะหยุดสร้าง แต่ไขมันเป็นสารชนิดเดียวที่ไม่มี Negatice Feedback จึงแปลว่าร่างกายสามารถสร้างไขมันได้แบบ ‘อันลิมิต’ เลย… ซึ่งตรงข้ามกับกล้ามเนื้อเพราะเวลาสร้างจะยากมาก เพราะโครงสร้างของกล้ามเนื้อมันซับซ้อน นอกจากนี้ เวลาที่เราพยายามจะสร้างกล้ามเนื้อ มันจะต้องเอาพลังงานยัดลงไปอีกถึงจะสร้างได้ แล้วพอมีกล้ามเนื้อเกิดขึ้น กล้ามเนื้อก็จะสูบพลังงานไปใช้เรื่อย ๆ ซึ่งร่างกายของเราจะเกลียดกล้ามเนื้อมาก เพราะมันผลาญพลังงาน  เพราะฉะนั้นร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อแค่จำเป็น แล้วก็ใส่ลิมิตในการสร้างไว้…

ดังนั้น ถ้าเรากินอะไรเข้าไปร่างกายจะเลือกเก็บเป็นไขมันก่อน แต่ถ้าต้องใช้จะใช้ไขมันเป็นอันดับสุดท้าย ทีนี้เวลาผ่านไปหลายล้านปี สังคมมนุษย์เปลี่ยนไปเยอะมาก อาหารการกินค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ อยากกินอะไรก็ต้องได้กิน เนื้อสัตว์ที่นาน ๆ จะได้กินสักที ปัจจุบันนี้ได้กินกันเกือบทุกมื้อ หรือผักผลไม้ฝาด ๆ เปรี้ยว ๆ เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีแล้ว รสชาติจะหวานฉ่ำหมด ซึ่งทุกอย่างแคลอรี่สูงขึ้นหมดเลย อีกทั้ง มนุษย์เรายังขยับตัวน้อยลงมาก เพราะไม่ต้องออกไปล่าสัตว์แล้ว โดยพลังงานที่ได้จากการกินเข้าไป มันก็มีแนวโน้มที่มันจะเหลือ แล้วพอพลังงานเหลือร่างกายก็จะทำแบบยุคหินคือเก็บเป็นไขมันแบบที่เคยทำ ซึ่งก็คือแบบอันลิมิต

ด้วยปัจจัยเหล่านี้บางคนถึงอ้วนเป็นร้อยโลได้ ดังนั้น ไขมันที่สะสมเยอะ ๆ มันมีพิษภัยมากมาย…”

'alt.Eatery' เอาใจสายรักสุขภาพ จัดงาน 'Eat Play Live' ชูแนวคิด 'ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน' ตอกย้ำ!! ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต

(24 พ.ย. 66) อินโนบิก-แสนสิริ-NRF ชวนคนรุ่นใหม่รักสุขภาพ-รักษ์โลก ช้อปชิมในงาน ‘Eat Play Live’ ระหว่าง วันที่ 22 - 24 พ.ย. 66 ณ alt.Eatery คอมมูนิตี้อาหารแพลนท์เบสใจกลางเมืองย่านทองหล่อ พบกับร้านค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าแพลนท์เบสกว่า 1,000 รายการ และร่วมสนุกกับกิจกรรมเวิร์กช็อปภายในงานมากมาย

เอ็นอาร์พีที (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (อินโนบิก) และบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด หรือ NR Instant Produce Public Company Limited (NRF) และแสนสิริ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับแถวหน้าของประเทศ จัดงาน ‘Eat Play Live’ ณ ร้าน alt.Eatery สุขุมวิท 51 ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2566 ภายใต้แนวคิดการส่งเสริมวิถีชีวิตที่ยั่งยืนของทุกคน ‘Sustainable Living for Everyone’ โดยให้ความสำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ ความยั่งยืนด้านสุขภาพ (Sustainable Health) ความยั่งยืนด้านอาหาร (Sustainable Food) และความยั่งยืนด้านการอยู่อาศัย (Sustainable Living) 

โดยภายในงานพบกับกิจกรรมร่วมสนุกมากมาย อาทิ การแบ่งปันความรู้ด้านอาหารแพลนท์เบสโดยอินฟลูเอนเซอร์สายรักษ์โลกชื่อดังอย่าง Root The Future กิจกรรมเวิร์กช็อปการทำอาหาร พร้อมเพลิดเพลินกับสินค้าและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากผู้ประกอบการไทยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า จากการเข้าสู่สังคมสูงวัย และเทรนด์การใส่ใจด้านสุขภาพของคนไทย NRPT บริษัทในกลุ่มอินโนบิก มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร เพื่อเป็นอาหารแห่งความยั่งยืนของโลก สนับสนุนวิถีการมีสุขภาพดีแบบคนยุคใหม่ ส่งเสริมการใช้วัตถุดิบทางการเกษตรภายในประเทศปัจจุบัน 

ร้าน alt.Eatery เป็นแบรนด์หนึ่งภายใต้บริษัท NRPT โดยเป็นคอมมูนิตี้อาหารและผลิตภัณฑ์แพลนท์เบสใจกลางกรุงเทพฯ แห่งแรกบนพื้นที่ของแสนสิริ ให้บริการผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสำหรับทุกคน ทุกวัย ทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ เน้นย้ำเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ของอินโนบิก ด้วยการประยุกต์การวิจัยและเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต เพิ่มโอกาสและช่องทางการจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพที่มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นในอนาคต 

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจัยของสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ไม่เพียงเริ่มจากการทานอาหารและความเป็นอยู่ที่ดี แต่จะต้องดีอย่างยั่งยืน ซึ่ง NRF เป็นอุตสาหกรรมผู้ผลิตอาหารที่เล็งเห็นความสำคัญในการผลิตและดำเนินงานอย่างยั่งยืน แม้อุตสาหกรรมอาหารจะเป็น 1 ใน 3 อุตสาหกรรมใหญ่ที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณสูง ซึ่งนับเป็นจุดสำคัญอย่างยิ่งที่เราคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย นี่จึงเป็นที่มาในการพัฒนาธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลดการปล่อยก๊าซในกระบวนการผลิต การหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในภาคต้นน้ำ หรือการพัฒนาธุรกิจที่นำมาสู่ ‘อาหารโปรตีนทางเลือก’ เพราะเราเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคในปัจจุบันต่างหันมาให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ตระหนักรู้ต่อปัญหาโลกร้อนมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการเลือกทานอาหารที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการช่วยโลก เพราะอาหารโปรตีนทางเลือกปล่อยคาร์บอนเพียง 10% เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ 

ในส่วนร้าน alt.Eatery นับเป็นร้านอาหารที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมสร้างและพัฒนาอย่างต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตรที่ต่างก็มีเป้าหมายเดียวกัน โดยร้าน alt.Eatery เป็นร้าน แพลนท์เบสที่ตั้งอยู่บนพื้นที่แสนสิริ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น มอบประสบการณ์การทานอาหารที่ยั่งยืน สนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่นที่ดีและมีคุณภาพ รังสรรค์เมนูอาหารที่น่ารับประทานรองรับผู้บริโภคทุกกลุ่มวัย ด้วยฝีมือเชฟชื่อดัง นอกจากนี้นับเป็นแลนด์มาร์กที่เพียบพร้อมทั้งอาหารจานหลัก ขนม เครื่องดื่ม และโซนจำหน่ายสินค้าแพลนท์เบสอีกด้วย

นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แสนสิริเป็นบริษัทอสังหาฯ รายแรกในไทยที่มุ่งมั่นสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนภายใต้พันธกิจ Sansiri Sustainability รวมถึงรายแรกที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็น ‘ศูนย์’ (Net-Zero) ภายในปี 2050 วางเป้าหมายพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลก คำนึงถึงลูกค้า และสังคมเป็นสำคัญ โดยทำให้ความยั่งยืนนั้นเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ของทุกคน 

จากเทรนด์ของความยั่งยืนด้านการอยู่อาศัย แสนสิริเล็งเห็นถึงความสำคัญของการออกแบบ และนำมาปรับใช้กับการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน โดยล่าสุดได้พัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน ผ่านแนวคิด Green Living Designed Home ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืน และตอบโจทย์เทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และ Well-Being มากขึ้น และที่ alt.Eatery แสนสิริ ได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ความยั่งยืน โดยผลักดันให้เป็นคอมมูนิตี้สีเขียวอย่างครบวงจร ทั้งการส่งเสริมแยกขยะต้นทางให้เกิดประโยชน์กับโครงการ Waste to WORTH: แยกไม่ยาก รวมถึงชวนพันธมิตรพลังงานสะอาดร่วมติดตั้งสถานีชาร์จรถ และติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อทดแทนการใช้ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน ซึ่งเราหวังว่า alt.Eatery จะเป็นคอมมูนิตี้ต้นแบบที่เป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ร่วมกันขับเคลื่อนในการพัฒนาต่อไป”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top